เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2191 ข้ารู้ว่าอยู่ไหน / ตอนที่ 2192 แฝงตัวเข้าไปกลางดึก
ตอนที่ 2191 ข้ารู้ว่าอยู่ไหน
เสียงของเขาเงียบไปครู่หนึ่ง ชำเลืองมองเธอเล็กน้อย ก่อนเอ่ยด้วยเสียงนุ่มนวลว่า “คนที่ตายเป็นบุตรสายตรงของตระกูลอิน ช่วงนี้เจ้าระวังตัวไว้หน่อย ข้าเดาว่าพักนี้เจ้าต้องมีปัญหาเข้ามาไม่ขาดสายแน่นอน”
ได้ยินแล้ว เฟิ่งจิ่วถอนหายใจเบาๆ มือหนึ่งชันคาง “พักนี้ข้าก็ไม่ได้ไปหาเรื่องใครนา? แต่เหตุใดปัญหาจึงเข้ามาไม่ขาดสาย?”
เธอมองเขาพลางถามว่า “ท่านบอกว่าท่านติดตามข้าสามารถช่วยได้ไม่มากก็น้อยไม่ใช่หรือ? เรื่องพวกนี้ท่านจัดการได้หรือไม่?”
โม่เฉินหัวเราะเบาๆ “คนที่เจ้าไปมีเรื่องด้วยใช่ตระกูลทั่วไปเสียที่ไหน? ตอนแรกก็วิหารราตรี ตอนหลังก็สำนักปัญจพิษ มาตอนนี้ก็ตระกูลอินที่เลี้ยงศพอีก อย่างอื่นไม่ว่า แต่แค่สามกลุ่มอำนาจนี้ก็ไม่ใช่ว่าใครที่ไหนจะรับมือได้”
“วิหารราตรีพักนี้กลับไม่มาหาเรื่องข้า เดาว่าที่นั่นถูกข้าทำลายจึงเร่งสร้างใหม่อยู่กระมัง! ส่วนสำนักปัญจพิษข้าได้ยินมาว่าวิชาพิษของเจ้าสำนักน่ากลัวอยู่บ้าง เพียงแต่ยังไม่เคยสู้กับเขา จึงไม่รู้ตื้นลึกหนาบางของอีกฝ่าย จะป้องกันก็ป้องกันไม่ได้ ส่วนตระกูลอิน…”
เธอเงียบไปครู่หนึ่ง ยิ้มเอ่ยว่า “หากจะมาหาเรื่องข้าเพราะเหตุผลนี้จริงๆ อย่างนั้นข้าย่อมไม่ยอมปล่อยให้พวกเขามีชีวิตที่สงบสุขอยู่แล้ว” เธอยิ้ม ก่อนเอ่ยต่อว่า “ตอนนี้พิษในร่างของนายแห่งตลาดมืดก็รักษาได้แล้ว เรื่องสำนักปัญจพิษหากปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกเขาไปสะสางกันเองย่อมดีที่สุดแล้ว เมื่อเป็นอย่างนี้ ข้าก็เบาแรงไปได้บ้าง หนำซ้ำ ข้ายังตั้งใจว่าอีกไม่กี่วันจะกลับแผ่นดินใหญ่แถบใต้แม่น้ำกับพี่ชายข้า”
“ยาแก้พิษระดับเจ็ดเจ้ากลั่นสำเร็จแล้วหรือ?” โม่เฉินแววตาไหวระริกเล็กน้อย นึกไม่ถึงว่าเฟิ่งจิ่วจะกลั่นยาแก้พิษระดับเจ็ดได้สำเร็จแล้ว
“อืม พวกเขากินยาแก้พิษระดับเจ็ดเข้าไป พิษในร่างถูกขับออกมาหมดแล้ว เหลือแต่ต้องพักฟื้นอาการบาดเจ็บภายใน” เธอขมวดคิ้ว เอ่ยว่า “ไม่รู้ว่าคนของสำนักปัญจพิษจะมาอีกเมื่อไร? ข้าส่งคนออกไปสืบหานานแล้วก็ยังไม่เจอแหล่งที่อยู่ของพวกเขา อยากจะแฝงตัวเข้าไปสืบดูว่าพลังของพวกเขาแข็งแกร่งเพียงไหนก็ไร้หนทาง”
ครั้นได้ยินอย่างนั้น โม่เฉินมีสีหน้าหวั่นไหว ถามว่า “เจ้าคิดจะแฝงตัวเข้าไปในสำนักปัญจพิษ?”
“อืม” เธอพยักหน้า “แม้ข้าจะอยากทิ้งเรื่องนี้ให้ทางตลาดมืดเป็นฝ่ายจัดการเอง แต่ท่านลุงเฮยแม้จะแก้พิษในร่างได้แล้ว ทว่าร่างกายยังต้องใช้เวลาหนึ่งเดือนในการพักฟื้น เดาว่าหากสู้กันอีกครั้ง ต้องมีปัญหาแน่ ฉะนั้นข้าจึงคิดว่าหากแฝงตัวเข้าไปสืบได้ก็จะดีต่อการวางแผน”
“ข้าไปด้วย”
“อะไรนะ?” เธอชะงักงัน มองหน้าเขา
เขามองเธอ เอ่ยว่า “ข้ารู้ว่าอยู่ไหน ข้าไปกับเจ้าด้วย”
“ไปไหน? ข้าไปด้วย”
เสียงหนึ่งดังมา ทั้งสองมองตามเสียงไป เห็นเพียงกวนสีหลิ่นสาวเท้ายาวๆ เดินเข้ามานั่งลงข้างพวกเขาสองคน รินน้ำชาด้วยตนเอง ถามว่า “พวกเจ้าว่าจะไปไหนกัน? นับข้าด้วย ข้าก็จะไปด้วย”
ได้ยินเช่นนั้น เฟิ่งจิ่วกับโม่เฉินมองหน้ากันยิ้มๆ เธอมองโม่เฉิน เอ่ยว่า “ในเมื่อเป็นอย่างนี้ ไม่สู้ไปเสียตอนนี้เลย?”
“ได้” โม่เฉินพยักหน้า
“พวกเจ้ายังไม่ได้บอกข้าว่าจะไปไหน?” กวนสีหลิ่นที่อยู่ข้างๆ ถาม มองรอยยิ้มบนใบหน้าพวกเขาสองคน รู้สึกประหลาดใจ สองคนนี้พูดอะไรอยู่กันแน่? เหตุใดเขาไม่เข้าใจเลยสักนิด?
“ไปที่แหล่งกบดานแห่งหนึ่งของสำนักปัญจพิษ” โม่เฉินยิ้มตอบ “แต่ไม่รู้ว่าเจ้าสำนักปัญจพิษจะอยู่ที่นั่นหรือไม่”
เฟิ่งจิ่วลุกขึ้น เอ่ยว่า “ไปดูก็รู้เอง หากอยู่ก็ยิ่งดี ถึงไม่อยู่ พวกเราก็ถือโอกาสทำลายที่นั่นเสียเลย”
………………………………….
ตอนที่ 2192 แฝงตัวเข้าไปกลางดึก
คนของสำนักปัญจพิษทำคนในหอยาสวรรค์ของเธอบาดเจ็บมากมายขนาดนั้น แม้จะทำลายแหล่งกบดานเล็กๆ แห่งหนึ่งของพวกนั้น ก็ยังไม่อาจชดใช้ชีวิตขององครักษ์เฟิ่งที่ตายเพราะการต่อสู้ครั้งนั้นได้
“ได้ จะไปก็ไปกันเถิด!” โม่เฉินลุกขึ้น สะบัดชายเสื้อ ถามว่า “เจ้าต้องจัดการอะไรที่นี่ก่อนหรือไม่? ไปครานี้อาจต้องใช้เวลาสองสามวัน”
“เหล่าสัตว์คู่พันธสัญญาอยู่ที่นี่ ข้าไปสั่งงานเหลิ่งหวากับตู้ฝานเล็กน้อยก็พอแล้ว” เฟิ่งจิ่วเดินออกไปข้างนอก สองคนข้างหลังมองหน้ากันแวบหนึ่ง ก่อนจะเดินตามออกไป
หลังจากกำชับสิ่งต่างๆ กับพวกเหลิ่งหวาเสร็จ พวกเฟิ่งจิ่วก็ออกเดินทางอย่างเงียบๆ พวกเขาขี่กระบี่ตามโม่เฉินไป กระทั่งถึงเวลาพลบค่ำ พวกเขามาถึงหุบเขาแห่งหนึ่ง
“ที่นี่คือ…” เฟิ่งจิ่วมองหุบเขาลูกนี้ด้วยความแปลกใจ หุบที่ทั้งสูงชันและห่างไกลเช่นนี้ หากไม่ใช่โม่เฉินนำทาง เธอคงหาไม่เจอ
“สำนักปัญจพิษเป็นกลุ่มอำนาจที่เร้นกายจากโลกภายนอก ที่อยู่จริงๆ ของพวกเขาอยู่ที่ไหนข้าเองก็ไม่รู้ แต่ที่นี่เป็นแหล่งที่อยู่ของพวกเขายามเคลื่อนไหวอยู่ข้างนอก ข้าเองก็บังเอิญรู้มาอีกที ที่นี่แม้ไม่เห็นเงาร่างของเจ้าสำนักปัญจพิษ แต่อย่างไรก็ต้องเห็นเงาร่างของผู้ใช้พิษทั้งสิบสองภายใต้อาณัติของเขาแน่นอน เพียงแต่ พวกเขาล้วนเชี่ยวชาญการใช้พิษ พวกเจ้าจำต้องระวังตัวด้วย”
ขณะเอ่ย เขาหยิบเสื้อกันลมสีดำผืนหนึ่งจากห้วงมิติมาผูกไว้บนตัว ปิดบังเสื้อผ้าสีขาวที่ดูสะดุดตา ก่อนจะพาพวกเข้าเดินเข้าไปข้างใน
“ที่นี่มีค่ายกล” กวนสีหลิ่นเดินตามหลังเขา สัมผัสได้ว่าที่แห่งนี้มีค่ายกลคุ้มกันอยู่
“ไม่ได้มีเพียงค่ายกล ข้างในยังมีหมอกพิษด้วย” โม่เฉินที่อยู่ข้างหน้าเอ่ยโดยไม่หันหลัง พาพวกเขาเดินออกจากค่ายกล ก่อนจะมองเห็นหมอกพิษอยู่ข้างหน้า
เวลานี้ ท้องฟ้าเริ่มมืดแล้ว รอบด้านมืดมิดยากต่อการมองเห็น ทั้งสามหยุดอยู่ตรงนี้ เฟิ่งจิ่วหยิบยาแก้พิษให้พวกเขากิน ก่อนจะเดินต่อไป
เวลาหนึ่งก้านธูปผ่านไป พวกเขามาถึงขอบหน้าผา ก้มหน้ามองลงไปด้านล่างหน้าผา เห็นเพียงแสงไฟวิบวับจากที่ไกลๆ เฟิ่งจิ่วกับกวนสีหลิ่นอดตะลึงไม่ได้ นึกไม่ถึงว่าข้างในนี้จะมีสถานที่เช่นนี้ซ่อนอยู่ด้วย
“ที่แท้พวกเขาก็ซ่อนตัวอยู่ในก้นหุบเขาแห่งนี้ ไม่น่าเล่า ไม่น่าถึงหาเบาะแสของพวกเขาไม่เจอเลย” เฟิ่งจิ่วเอ่ยเหมือนเข้าใจในที่สุด “ที่นี่โอบล้อมไปด้วยภูเขา ซ้ำยังมีหมอกแน่นหนา เป็นสถานที่ที่เหมาะสมกับการซ่อนตัวมากจริงๆ แต่พวกเราจะลงไปอย่างไร? หากขี่กระบี่ลงไปเดาว่าพวกนั้นต้องรู้ตัวแน่”
“ตรงนั้นมีบันได” โม่เฉินเอ่ยกับทั้งสอง “เก็บซ่อนกลิ่นอายในตัวพวกเจ้า แล้วตามข้ามา”
ทั้งสองพยักหน้า ก่อนเก็บซ่อนพลังในตัว แล้วตามเขาไปอย่างเงียบงัน กระทั่งเดินลงบันไดไปถึงก้นหุบเขา เห็นกลุ่มทหารยามสองกลุ่มกำลังเดินลาดตระเวนยามกลางคืน
“เลี่ยงพวกเขา พวกเราอ้อมไปทางด้านหลังกัน” โม่เฉินกระซิบบอก พาพวกเขาอ้อมไปอีกด้านหนึ่ง
ครั้นมาถึงลานสวนแห่งหนึ่งข้างฝน เห็นชายวัยกลางคนที่แขนขาดข้างหนึ่งกำลังพูดคุยอะไรกับคนกลุ่มหนึ่ง
“ข้าไม่มีวันปล่อยพวกคนของหอยาสวรรค์ไปแน่! เจ้ากวนสีหลิ่นที่ตัดแขนข้า! ข้าจะฉีกร่างมันเป็นหมื่นๆ ชิ้น!” ขณะเอ่ย เขากำหมัดทุบโต๊ะแรงๆ
“ไม่ต้องรีบร้อนไป นายท่านบอกแล้วไม่ใช่หรือ? อีกไม่กี่วัน หัตถ์หมื่นพิษของเขาก็จะฝึกสำเร็จแล้ว ถึงตอนนั้นอย่าว่าแต่กวนสีหลิ่นหรือภูตหมอเฟิ่งจิ่วแห่งหอยาสวรรค์อะไรเลย แม้แต่คนของตลาดมืดก็ต้องถูกนายท่านส่งไปลงนรกแน่นอน” ผู้พูดคือชายวัยกลางคนอีกคน เขารินสุรา พยักหน้าเอ่ยว่า “มาๆๆ ดื่ม! ขอให้พวกเราเอาชนะศัตรูสิบทิศ! ถือโอกาสพาสำนักปัญจพิษให้ผงาดค้ำโลกอีกครั้ง!”
………………………………….