เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2149 ไป๋ชิงเฉิง / ตอนที่ 2150 หารือ
ตอนที่ 2149 ไป๋ชิงเฉิง
เมื่อเห็นท่าทางของเธอ ซ่งหมิงมุมปากกระตุก นี่นางเกิดความคิดพิสดารอะไรขึ้นมากัน? เป็นหญิงสาวกลับยังเกี้ยวพาราศีหญิงสาวด้วยกัน?
“ไปเถิด! ข้าพาเจ้าไปพักผ่อน” เขาปิดแกนเคลื่อนย้ายในมือ จากนั้นก็ดึงมือเฟิ่งจิ่วทำท่าจะกลับ ทว่าหญิงสาวนางนั้นกลับขานเรียกทั้งสองไว้ก่อน
“ศิษย์พี่ซ่ง ไม่แนะนำหน่อยหรือ?” หญิงสาวเบี่ยงตัวเล็กน้อย มองพวกเขาสองคนที่กำลังเดินผ่านนางไป
“พบกันเพียงครั้งเดียว จำเป็นต้องแนะนำด้วยหรือ?” ซ่งหมิงเอ่ย ไม่คิดจะแนะนำเฟิ่งจิ่วให้นาง และไม่คิดจะแนะนำนางให้เฟิ่งจิ่วด้วย
เห็นอย่างนี้เฟิ่งจิ่วก็ยักคิ้ว มองหญิงสาวด้วยนัยน์ตาแฝงรอยยิ้ม “คนงามชื่ออะไรหรือ?”
“ไป๋ชิงเฉิง” นางตอบ
“อ้อ? ไป๋ชิงเฉิง?” เฟิ่งจิ่วพึมพำชื่อของนาง สายตาจ้องพินิจนาง ยิ้มชมว่า “งดงามสมชื่อจริงๆ”
ไป๋ชิงเฉิงยิ้มอ่อน ดวงหน้างดงามมีแววถือตัวและเย่อหยิ่งอย่างชัดเจน นางยืนอยู่ตรงนั้น ดวงหน้าประดับรอยยิ้มจางๆ สองมือประสานกันวางไว้ตรงหน้าท้อง
สำหรับคำชมเช่นนี้ นางได้ยินบ่อยจนไม่รู้สึกอะไรแล้ว ด้วยเหตุนี้นางจึงเพียงยิ้มอ่อนๆ ตอบรับคำชมของเด็กหนุ่ม ไม่ได้ถามชื่อของอีกฝ่าย เพียงหันไปมองสมบัติชิ้นนั้นที่อยู่ในมือซ่งหมิง ประกายระริกพาดผ่านดวงตา
สมบัติที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ในพริบตา นี่เป็นสมบัติชั้นยอดทีเดียว เหตุใดมาอยู่กับเด็กหน่มเช่นนี้ได้? หากมีสมบัติอย่างนี้ หากพบเจออันตรายอะไรยามอยู่ข้างนอกก็สามารถรักษาชีวิตได้ เพียงแต่สมบัติล้ำค่าเช่นนี้ แม้แต่ตระกูลของนางก็ยังไม่เคยมีเลย
เห็นไปชิงเฉิงมองแกนเคลื่อนย้ายจี๋กวงในมือเขา ซ่งหมิงขมวดคิ้วเล็กน้อย คืนแกนเคลื่อนย้ายจี๋กวงที่พับเก็บแล้วให้เฟิ่งจิ่ว “เก็บเสีย”
ได้ยินอย่างนั้น รอยยิ้มพาดผ่านดวงตาไปอย่างรวดเร็ว เธอเอื้อมมือไปรับ ทว่าในตอนนี้เอง ไป๋ชิงเฉิงผู้นั้นก้าวเข้ามา
“คุณชาย แกนเคลื่อนย้ายในมือให้ข้ายืมดูสักหน่อยได้หรือไม่?” นางเอ่ยถามตรงๆ
เฟิ่งจิ่วที่กำลังจะเก็บแกนเคลื่อนย้ายจี๋กวงชะงักมือเพราะนางก้าวเข้ามา ได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายแล้วเธอยิ่งยิ้มกว้าง เงยหน้ามองหญิงงามตรงหน้า เห็นนางจ้องมองด้วยแววตาคาดหวัง จึงมองนางด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“ไม่ได้”
เธอปฏิเสธตรงๆ ไม่สนใจว่าดวงหน้าของคนงามตรงหน้าจะแข็งกระด้างอย่างไร เพียงเก็บแกนเคลื่อนย้ายจี๋กวงใส่ห้วงมิติต่อ สมบัติของเธอ ทำไมต้องให้นางดูด้วย?
อาจเพราะคาดไม่ถึงว่าเด็กหนุ่มตรงหน้าจะปฏิเสธคำขอร้องนางตรงๆ นางจ้องเฟิ่งจิ่วด้วยสายตาลึกซึ้ง ถามว่า “คุณชายชื่ออะไรหรือ?”
ซ่งหมิงที่อยู่ด้านหนึ่ง ไม่ได้เอ่ยปากอะไร เพียงยืนดูอยู่เงียบๆ ด้วยสีหน้าเหมือนกำลังดูฉากสนุกอยู่
เฟิ่งจิ่วที่ได้ยินคำถาม เพียงยิ้มตอบว่า “แค่พบกันเพียงครั้งเดียว จะบอกชื่อแซ่ส่งเดชกันได้อย่างไร? ผู้ใหญ่ในบ้านข้ากำชับมา เพราะข้าหน้าตาหล่อเหลาโดดเด่น ต้องป้องกันไม่ให้มีหญิงสาวมาติด ฉะนั้นข้าต้องรักษาระยะห่างจากหญิงสาวไว้สามก้าว”
พูดมาถึงตรงนี้ เธอเห็นคนงามตรงหน้าเริ่มมีสีหน้าแย่ลง จึงเอ่ยว่า “คนงาม เจ้าอยู่ใกล้ข้าเกินไปแล้ว นี่จะทำให้ข้าเข้าใจผิดได้ว่าเจ้าหวังอะไรจากตัวข้า”
ซ่งหมิงที่ได้ยินอย่างนั้น ดวงตาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เขาเอามือไพล่หลัง เอ่ยกับเฟิ่งจิ่วว่า “ไปเถิด! ไปดื่มสุราสักสองสามถ้วยที่จวนถ้ำของข้า”
ครั้นเห็นอย่างนั้น ไป๋ชิงเฉิงเม้มปาก นัยน์ตางามแฝงไอเย็นจ้องมองทั้งสองคน เนิ่นนาน จึงค่อยหันตัวเดินกลับไปยังทิศที่นางมา
………………………………….
ตอนที่ 2150 หารือ
ในจวนถ้ำของซ่งหมิง
“ผู้หญิงที่ชื่อไป๋ชิงเฉิงนั่น ก็คือคนที่ถูกลือว่าเป็นเฟิ่งซิง และได้รับการคุ้มกันจากสำนักเซียนตะวันฉายของพวกเจ้าหรือ?” เฟิ่งจิ่วหยักยิ้มมุมปาก นัยน์ตาไหวระริกแปลกๆ
“อืม นางนั่นแหละ” ซ่งหมิงเอ่ย มองเธอแล้วว่า “แต่ข้ารู้ว่านางไม่ใช่ เจ้าต่างหากที่ใช่”
เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ ไม่พูดอะไร
“ข้าเองก็เคยบอกใบ้อาจารย์ข้าอ้อมๆ แล้ว เพียงแต่เหมือนเขาจะมั่นใจมากว่านางคือเฟิ่งซิง ฉะนั้นไม่เพียงคุ้มกัน แม้แต่อภิสิทธิ์ต่างๆ ในการฝึกวรยุทธ์ที่มอบให้นางล้วนเป็นชั้นยอด แม้พวกเขาจะบอกว่าปิดข่าวไม่ให้แพร่งพรายออกไปแล้ว แต่ว่า”
เขายิ้มๆ เอ่ยต่อว่า “ข้างนอกนั่น คนที่ควรรู้ก็รู้หมดแล้ว ต่างก็คิดว่าหญิงนางนั้นคือเฟิ่งซิง พวกข้าคิดว่าในเมื่อแต่ละสำนักล้วนเข้าใจผิดกันไปหมดแล้ว อย่างนั้นก็ปล่อยให้พวกเขาเข้าใจผิดไปเสีย เมื่อเป็นอย่างนี้ เจ้ากลับจะได้เคลื่อนไหวอย่างอิสระกว่า”
พูดมาถึงตรงนี้ เขาชะงักเล็กน้อย ก่อนเอ่ยว่า “กลับเป็นสำนักบุปผาเซียนที่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นตัวปลอม”
ได้ยินอย่างนั้น เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ “ตอนข้าเพิ่งมาถึงที่นี่ ข้าไปที่สำนักบุปผาเซียนเพื่อช่วยคนของพวกเขาคนหนึ่ง”
“ที่แท้ก็อย่างนี้เอง” เขาพยักหน้า เอ่ยอีกว่า “ใช่แล้ว เมื่อครู่เจ้าบอกว่าพรุ่งนี้จะกลับแล้ว? อย่างนั้นอีกเดี๋ยวข้าพาเจ้าไปที่ยอดเขาโอสถก็แล้วกัน! จัดการธุระให้เสร็จเสียก่อน”
“ได้” เธอรับคำ ยกถ้วยสุราขึ้นจิบหนึ่งคำ
ในอีกด้านหนึ่ง ณ ยอดเขาลูกหนึ่ง ไป๋ชิงเฉิงกำลังเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ให้อาจารย์ของนางฟัง
“ศิษย์เห็นเด็กหนุ่มผู้นั้นมีสมบัติล้ำค่าที่สามารถช่วยรักษาชีวิตได้ในมือ ฉะนั้นจึงคิดว่าหากมีของเช่นนั้นอยู่ แม้ลงเขาไปก็คงมีหลักประกันที่แน่นอน จึงอยากขอร้องให้ท่านอาจารย์ออกหน้า ศิษย์ยอมใช้สมบัติของศิษย์แลกกับคุณชายท่านนั้น จะไม่ให้คุณชายท่านนั้นเสียเปรียบอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ”
ชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่ข้างบนได้ฟังก็สีหน้าไหวระริก “แกนเคลื่อนย้ายจี๋กวง? ของเช่นนี้เป็นอาวุธเซียนอย่างดี หรือกระทั่งเปรียบได้ว่าเป็นสมบัติชั้นยอดเลยทีเดียว ทำไมเด็กหนุ่มอย่างนั้นถึงมีไว้ในครอบครองได้?”
“ท่านอาจารย์…” นางมองเขา ทำท่าจะพูดแต่ก็หยุด
“ข้ารู้แล้ว เจ้ากลับไปก่อน ข้าจะสั่งให้คนไปสืบประวัติของเด็กหนุ่มคนนั้น แล้วค่อยหารือกับเจ้าสำนักและเหล่าเจ้าเขา แล้วค่อยตัดสินใจอีกที”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น นางลอบดีใจ รีบรับคำ “เจ้าค่ะ ศิษย์ขอตัว”
ขณะมองดูนางเดินออกไป ชายวัยกลางคนขมวดคิ้วครุ่นคิด ผ่านไปครู่หนึ่งจึงค่อยถอนหายใจ ลุกขึ้นเดินออกไปข้างนอก
ณ ยอดเขาที่พำนักของเจ้าสำนัก
“อ้อ? มีเรื่องอย่างนี้ด้วยหรือ?” เจ้าสำนักประหลาดใจ ก่อนเอ่ยอีกว่า “แต่สมบัติล้ำค่าเช่นนี้ เด็กหนุ่มผู้นั้นจะยอมแลกได้อย่างไรกัน? แม้พวกเราอยากคุ้มกันความปลอดภัยของเฟิ่งซิง ทว่าไม่อาจทำเรื่องที่ผิดได้ หากจะแลกเปลี่ยนสิ่งของกับแกนเคลื่อนย้ายจี๋กวงของเด็กหนุ่มผู้นั้น ก็ต้องได้รับความยินยอมจากเด็กหนุ่มก่อน ไม่อย่างนั้นก็ไม่อาจแย่งชิงมา”
“ขอรับ ข้าเองก็คิดเช่นนี้ ฉะนั้นจึงได้มาแจ้งให้เจ้าสำนักและเหล่าเจ้าเขาทั้งหลายทราบ เรื่องนี้จะจัดการอย่างไรดี?”
“ยังต้องให้บอกอีกหรือ? แน่นอนว่าก่อนจะแลกเปลี่ยนกันต้องได้รับความยินยอมจากเด็กหนุ่มก่อนอยู่แล้ว” เจ้าเขาผู้หนึ่งเอ่ยขึ้น ลูบหนวด ขมวดคิ้วเอ่ยว่า “แต่วิธีการปกป้องเฟิ่งซิงของเรา ที่ไม่ว่านางขอสิ่งใดเราก็ต้องให้แบบนี้ เกินไปหรือไม่? ข้ากังวลว่า…”
“สิ่งที่เจ้ากังวลก็คือเรื่องที่กังวลเหมือนกัน” เจ้าเขาอีกผู้หนึ่งเอ่ยขึ้น
เจ้าสำนักได้ยินพวกเขาคุยกัน ก็หันไปเอ่ยกับอาจารย์ของไป๋ชิงเฉิงว่า “นางเป็นศิษย์ของท่าน เรื่องนี้เชิญท่านจัดการก็แล้วกัน! แต่ต้องจำไว้ว่า แม้จะแลกเปลี่ยนสิ่งของ ก็ต้องได้รับความยินยอมจากอีกฝ่ายเสียก่อน”
………………………………….