เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2117 ไม่ต้องให้ท่านห่วง / ตอนที่ 2118 ฝังเข็ม
ตอนที่ 2117 ไม่ต้องให้ท่านห่วง
“ผู้น้อยไม่รู้ว่านายท่านมาถึงแล้ว มิได้ออกไปต้อนรับ โปรดอภัยด้วย อภัยด้วย” หลังจากเข้าไปข้างในเถ้าแก่ก็รีบคารวะ สีหน้าของเขาแตกตื่น ดวงตามีประกายแห่งความตื่นเต้นโลดแล่นอยู่
เป็นภูตหมอเฟิ่งจิ่ว นายท่านของพวกเขา! นึกไม่ถึงเลย เขาที่เป็นเพียงเถ้าแก่ผู้ดูแลร้านยาเล็กๆ ทางนี้กลับมีโอกาสได้พบนายท่านด้วย น่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว
“ลุกขึ้นเถิด!” เฟิ่งจิ่วเก็บป้ายคำสั่ง ก่อนหาที่นั่งในห้องด้านในและนั่งลง “ข้ามาเพื่อจะให้เจ้าส่งข่าวกลับไปที่หอยาสวรรค์ นำพู่กันกับหมึกมาให้ข้าที”
“ขอรับๆ” เถ้าแก่รีบรับคำ ยกพู่กันกับหมึกมาวางไว้ข้างๆ อย่างนอบน้อม จากนั้นก็ลอบมองพิจารณานายท่านเป็นระยะ
เขารู้ว่านายท่านอยู่ที่หอยาสวรรค์ในเมืองร้อยนที กลับนึกไม่ถึงว่านายท่านออกมาข้างนอก และมาถึงที่นี่อย่างนี้ สำหรับนายท่านที่เขาเพียงแค่ได้ยินเรื่องราว แต่กลับไม่เคยพบหน้า เขารู้สึกฉงนฉงาย ตื้นตัน และนับถือ ได้พบนายท่านครั้งแรกในระยะใกล้เช่นนี้ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าตื่นเต้นขนาดไหน
เฟิ่งจิ่วเขียนจดหมายเสร็จก็ประทับตราน้ำ ก่อนจะยื่นให้เขา “รีบส่งกลับไปให้เร็วที่สุด อีกสองวันข้าจะมาใหม่”
“ขอรับๆ” เขารับตำ เห็นนายท่านจะกลับแล้ว จึงถาม “นายท่านอยู่ทางนี้มีที่พักหรือยังขอรับ? ผู้น้อยมีเรือนอยู่ด้านหลังให้นายท่านไว้พักผ่อนได้”
“ไม่ต้องแล้ว” เธอโบกมือ ฝีเท้าที่กำลังเดินออกไปข้างนอกชะงักหยุด หันกลับมามองเขาแวบหนึ่ง “พักนี้ข้าจะอยู่ที่ตระกูลจัว หากมีเรื่องด่วนอะไรก็ไปหาจัวจวินเยวี่ยได้ที่เรือนฝั่งตะวันตก”
“ขอรับ ผู้น้อยจะจำไว้” เขารับคำอย่างนอบน้อม พลางออกไปส่งเธอ ครั้นเห็นนายท่านจากไปแล้ว เถ้าแก่จึงรีบสั่งให้คนนำจดหมายไปส่งที่หอยาสวรรค์ในเมืองร้อยนที…
ในเมืองแห่งนี้ก็มีตลาดมืดเหมือนกัน เพียงแต่เฟิ่งจิ่วไม่ได้ไปเยือนเท่านั้น ยามนี้เธอลงหลักปักฐานในเมืองร้อยนที คนในตลาดมืดย่อมรู้ข่าวอยู่แล้ว หากนายแห่งตลาดมืดอาการไม่สู้ดี จะต้องส่งข่าวที่ไปหอยาสวรรค์แน่นอน
กลับเป็นตระกูลจัวทางนี้ ร่างกายของอาจารย์แม่ของเธอยังต้องการการรักษาฟื้นฟู ขาของจัวจวินหยางก็ต้องรักษาด้วยเช่นกัน เดาว่ายังต้องอยู่ที่นี่ไปอีกสักระยะหนึ่ง แต่นายแห่งตลาดมืดและเธอก็ถือว่ามีบุญคุณต่อกัน หากเกิดเรื่องขึ้นจริงๆ อย่างไรเธอก็ต้องไปเยี่ยมเขาสักครั้ง
เพราะได้ยินข่าวของตลาดมืด เฟิ่งจิ่วเลยไม่มีอารมณ์เดินเที่ยวอีก เธอเดินวนรอบหนึ่งแล้วกลับไปที่จวนตระกูลจัว ครั้นเข้าไปข้างใน ก็เห็นตาเฒ่าเดินมาหาทันที
“เจ้าไปไหนมา? ข้านึกว่าเจ้าแอบหนีไปเสียแล้ว” ฮุ่นหยวนจื่อเห็นเธอกลับมา ก็อดถอนหายใจโล่งอกไม่ได้
“ก็แค่ออกไปเดินเที่ยวสักหน่อย ทำไม? มีเรื่องอะไรงั้นหรือ?” เฟิ่งจิ่วตอบ ก่อนนั่งลงข้างโต๊ะในลานสวน
“เจ้าคิดจะสอนวิชามวยไทเก๊กให้ข้าเมื่อใด?” เขานั่งลงข้างๆ ก่อนถาม
เฟิ่งจิ่วชำเลืองมองเขา ไม่พูดอะไร
เห็นอย่างนั้น ตาเฒ่าถลึงตา “เจ้าคงไม่ได้คิดจะผิดคำพูดหรอกนะ? เจ้าผิดคำพูดไม่ได้เด็ดขาด! ไม่อย่างนั้น ไม่อย่างนั้นข้าจะ…”
“ไม่อย่างนั้นจะทำไม?” เธอยักคิ้วถาม
“ไม่อย่างนั้นข้าจะตามเจ้าไปตลอด ตามเจ้าไม่ให้ห่างแม้แต่ครึ่งก้าว!”
เฟิ่งจิ่วกลอกตา เอ่ยว่า “รอวันไหนข้าอารมณ์ดีค่อยว่ากันก็แล้วกัน!” เธอลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้อง เอ่ยกับฮุ่นหยวนจื่อที่กำลังจะเดินตามมาว่า “ข้าจะพักผ่อน ไม่ต้องตามมา”
ตาเฒ่าชะงัก ถลึงตา “ไหนเจ้าว่าจะฟื้นฟูสุขภาพอาจารย์แม่ของเจ้าอย่างไรเล่า? เจ้าจะเอาแต่กินๆ นอนๆ อย่างนี้ทั้งวันหรือ? นี่ไม่เท่ากับเสียเวลาเปล่าหรือ?”
“เรื่องนี้ไม่ต้องให้ท่านมาห่วงหรอก” เฟิ่งจิ่วตอบโดยไม่หันกลับมามอง หลังจากเข้าไปในห้องก็ปิดประตู
………………………………….
ตอนที่ 2118 ฝังเข็ม
ตาเฒ่าเห็นอย่างนั้นก็รู้สึกหมดสนุก ทำได้เพียงหันตัวเดินกลับไปที่ห้องของตนเอง
ทว่ากลางดึกสงัด เฟิ่งจิ่วกลับแอบออกจากห้องไปเงียบๆ มุ่งหน้าไปยังเรือนที่พักของฮูหยินผู้เฒ่า เรื่องนี้เธอเคยบอกไว้ตั้งแต่ตอนกลางวันแล้ว ว่าจะมารักษาให้นางตอนกลางคืน ขอเพียงฝังเข็มสามวันและกินยาอีกไม่กี่วัน อาการป่วยของนางก็จะหายไปเอง
ตอนเฟิ่งจิ่วออกมาจากห้อง ตาเฒ่าก็รู้แล้ว ยามเขาออกมาดู เห็นเฟิ่งจิ่วเดินไปทางเรือนฝั่งตะวันตก จึงพึมพำเล็กน้อย ก่อนจะกลับไปนอนต่อ
ทางเรือนฝั่งตะวันออก ฮูหยินผู้เฒ่าเหลือคนสนิทไว้เฝ้าเรือนเพียงคนเดียว ตอนที่เธอเข้าไปในลานบ้าน คนสนิทของฮูหยินผู้เฒ่าก็ถอยออกไปเฝ้าอยู่นอกลานบ้าน
เข้ามาในเรือน เห็นนางหรี่ตาเอนตัวอยู่บนตั่ง ร่างกายห่มไว้เพียงผ้าห่มผืนเดียว จึงขานเรียก “อาจารย์แม่ ยังไม่นอนหรือเจ้าคะ?” เธอนึกว่านางจะหลับสักตื่นแล้วค่อยลุก แต่ดูแล้วเหมือนจะรออยู่ตลอด?
“นอนไม่หลับ จึงรอเจ้าอยู่ที่นี่” ฮูหยินผู้เฒ่าตอบ พยักหน้าให้เธอนั่งลง ก่อนถามว่า “ค่ำนี้ได้กินข้าวหรือยัง?”
เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ “กินแล้วเจ้าค่ะ ข้าออกไปเดินเที่ยวข้างนอก จึงถือโอกาสกินข้างนอกมาแล้ว”
ได้ยินอย่างนั้น ฮูหยินผู้เฒ่าพยักหน้า “เจ้าเป็นลูกศิษย์ของเขา แต่ข้ากลับละเลยเจ้าเช่นนี้ คืนนี้ที่จริงควรเชิญเจ้ามากินข้าวด้วยกันแท้ๆ”
“ข้าไม่เป็นไรเจ้าค่ะ” เธอเป็นคนไม่ถือสาเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว
“ขาของจวินหยางรักษาหายได้จริงหรือ?” ฮูหยินผู้เฒ่าถาม สายตาจับจ้องมาที่เฟิ่งจิ่ว
“รักษาได้เจ้าค่ะ เพียงแต่หากยังหายาไม่ครบก็ยังรักษาไม่ได้ เดาว่าต้องใช้เวลาสักหน่อย!” เฟิ่งจิ่วหยิบเข็มเงินออกมา พลางเอ่ยว่า “ขาของเขาไม่ได้ใช้การมานาน แม้จะหายแล้ว ก็ต้องฝึกฝนจึงจะเดินได้ ในเวลาสั้นๆ เกรงว่าจะยังเดินไม่ได้”
ได้ยินอย่างนั้น ฮูหยินผู้เฒ่าพยักหน้า ถามว่า “เขาไม่รู้วิชาแพทย์ วิชาแพทย์ของเจ้าไม่ใช่เขาสอนมาหรอกกระมัง?”
“ไม่ใช่เจ้าค่ะ” เฟิ่งจิ่วเงยหน้า มองนางด้วยนัยน์ตาแฝงรอยยิ้ม “ที่จริงจะว่าไปแล้ว ท่านอาจารย์ก็ไม่ได้สอนอะไรข้า เพราะเขาเหลือทิ้งไว้เพียงวิญญาณต้นดวงเดียว จึงสอนอะไรข้าไม่ได้ แต่เขาช่วยข้าเปิดเส้นชีพจรในร่าง และมอบกระบี่คมพยับให้ข้า แล้วยังทิ้งตำราลับไว้ให้ข้ามากมาย”
หลายปีมานี้ นอกจากความรู้ที่เธอเรียนมาในชาติก่อน อย่างอื่นล้วนศึกษาจากตำราลับเหล่านั้นด้วยตนเองทั้งสิ้น
ครั้นได้ยิน ฮูหยินผู้เฒ่าตะลึง แม้จะคาดเดาได้แต่แรกแล้ว แต่ตอนนี้นางถึงกับพูดออกว่าตอนนั้นฉู่ป้าเทียนเหลือไว้เพียงวิญญาณต้นดวงเดียว ย่อมสอนอะไรนางไม่ได้ ทว่าเพียงเพราะคำว่าอาจารย์ นางจึงช่วยเหลือพวกเขาอย่างนี้ น้ำใจนี้ทำให้นางอดซาบซึ้งไม่ได้
วันนี้ระหว่างพูดคุยกันนางบอกทางอ้อม หากครอบครัวของเจ้าใหญ่จะออกไปสร้างจวนของตนเองข้างนอกนางจะช่วยเหลือ แต่นางก็ยังคงตัดความเป็นไปได้นี้ จะว่าไปแล้ว นับเป็นความเห็นแก่ตัวของนาง
“ต่อไปเจ้าเรียกข้าว่าฮูหยินผู้เฒ่าเถิด! ไม่ต้องเรียกข้าว่าอาจารย์แม่แล้ว” นางเอ่ย
เฟิ่งจิ่วแปลกใจ มองหน้านางก่อนถามว่า “เพราะเหตุใด?”
“ยามนี้ข้าเป็นมารดาของผู้นำตระกูลจัว เจ้าว่า หากเจ้าเรียกข้าว่าอาจารย์แม่จะไม่วุ่นวายกันไปใหญ่หรือ” นางยิ้มๆ เอ่ยว่า “เรียกข้าว่าฮูหยินผู้เฒ่าเถิด!”
ได้ยินอย่างนั้น เฟิ่งจิ่วพยักหน้า “ก็ดีเหมือนกันเจ้าค่ะ อย่างนั้นข้าจะฝังเข็มให้ท่านก็แล้วกัน!”
“อืม”
นางรับคำ เอนกายพิงหมอนต่ำเงียบๆ ปล่อยให้อีกฝ่ายฝังเข็ม มองดูเฟิ่งจิ่วที่แต่งกายเป็นเด็กหนุ่มฝังเข็มให้นางด้วยสีหน้าจริงจัง นางเหม่อลอยและคิดไปเรื่อยเปื่อย…
เพียงพริบตาเดียวก็ผ่านไปหลายปีขนาดนี้แล้ว เดิมนึกว่าจะไม่มีข่าวคราวของเขาให้ได้ยินอีกแล้ว นึกไม่ถึงว่าลูกศิษย์ของเขาจะกลับมาหาพวกเขาถึงที่อย่างนี้…
………………………………….