เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2107 พบฮูหยินผู้อาวุโส / ตอนที่ 2108 ผู้นำตระกูลจัว
ตอนที่ 2107 พบฮูหยินผู้อาวุโส
ท่านอาจารย์เองก็คงต้องการอย่างนี้กระมัง! เพียงแต่ ตอนนี้เธอแค่ไม่ได้พูดให้กระจ่างเท่านั้น ทว่า หากพวกเขาอยากสร้างจวนของตนเอง อยากสร้างจวนเป็นของตระกูลจัวเองในเมืองแห่งนี้หรือที่ไหนสักที่ เธอก็จะช่วยอย่างสุดความสามารถ
อีกอย่าง ลูกชายคนรองของเขาลุกเดินไม่ได้ หากรักษาได้ เธอย่อมต้องช่วยรักษาเขาอยู่แล้ว ถึงอย่างไรเขาก็เป็นลูกหลานของท่านอาจารย์ ขอเพียงไม่ใช่คนเลวทรามต่ำช้า ขอเพียงไม่ใช่คนชั่วช้าสามานย์ เรื่องใดช่วยได้เธอก็จะช่วย
“อีกอย่าง” เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ มองเขาที่กำลังตะลึง “ข้าคิดว่าฮูหยินใหญ่ยังคงคิดถึงท่านอาจารย์ของข้าอยู่ ไม่อย่างนั้น ชื่อของท่านคงไม่ถูกตั้งว่าฉู่ฮุย”
ครั้นพูดประโยคนี้ออกไป ห้องรับแขกพลันเงียบงัน จัวฉู่ฮุยก้มหน้าอย่างเหม่อลอย ส่วนจัวจวินเยวี่ยก็ได้แต่ยืนเงียบ ไม่รู้กำลังคิดสิ่งใดอยู่ ครั้นเห็นอย่างนั้น ตาเฒ่าที่อยู่ด้านหนึ่งจึงกระแอมขึ้น
“พวกเจ้าพาเขาไปพบฮูหยินผู้เฒ่าก่อนเถิด! อีกเดี๋ยวค่อยไปหาน้องชายของจวินเยวี่ย วิชาแพทย์ของเขายอดเยี่ยมจริงๆ ไม่แน่อาจมีหวังก็ได้”
ตาเฒ่าเอ่ย มองพวกเขาสองพ่อลูก เอ่ยอีกว่า “แม้คนจะไม่อยู่แล้ว แต่เขากำชับศิษย์เขาไว้ขนาดนี้แล้ว เช่นนั้นก็แสดงว่าในใจเขานึกถึงลูกหลานอย่างพวกเจ้าอยู่เสมอ บางครั้ง เรื่องราวมากมายไม่อาจคาดเดา บางทีตัวเขาเองก็อาจนึกไม่ถึงว่าปีนั้นจะเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นขึ้นก็ได้ สำหรับพวกเจ้า นั่นเป็นเพียงเรื่องเล่าที่รู้จากปากของคนอื่น แต่สำหรับเขา เขากลับผ่านเรื่องราวพวกนั้นมาด้วยตนเอง”
ไม่ว่าใครหากต้องเผชิญหน้ากับเรื่องเลวร้ายอย่างการถูกฆ่าล้างตระกูล ย่อมไม่มีทางรู้สึกดีอยู่แล้ว ในเมื่อเวลาผ่านพ้นไปหลายปี ลูกหลานรุ่นหลังของเขาล้วนแต่งงานมีลูก เรื่องราวเหล่านั้นผ่านไปราวกับพลิกหน้าหนังสือ ไม่มาตัดสินว่าใครผิดหรือถูกอีกต่อไป
เงียบอยู่นาน ในที่สุดจัวฉู่ฮูยก็เอ่ยกับเฟิ่งจิ่ว “เจ้าตามข้ามาเถิด! ข้าจะพาเจ้าไปพบท่านแม่”
“ท่านพ่อ พาเขาไปอย่างนี้ ท่านลุงรองจะต้องสงสัยแน่ อาจทำให้ท่านปู่รู้เรื่องไปด้วยก็ได้” ท่านปู่ที่เขาพูดถึงตอนนี้ แน่นอนว่าเป็นนายท่านใหญ่แห่งตระกูลจัว
แม้จะมีข่าวคราวของท่านปู่ของเขา และตามหาลูกศิษย์ของเขาเจอแล้ว แต่หากพาคนไปเจอท่านย่าของเขาอย่างโจ่งแจ้ง อาจไม่ค่อยดีนัก
ได้ยินอย่างนั้นจัวฉู่ฮุยครุ่นคิด ก่อนจะพยักหน้า “ใช่ ท่านแม่เก็บตัวเงียบมานานหลายปี จู่ๆ พาคนไปเจออย่างนี้ต้องทำให้คนในจวนแตกตื่นแน่ ถึงตอนนั้นหากถามขึ้นมา…”
“ข้าจะไปเยี่ยมฮูหยินผู้เฒ่าหน่อยก็แล้วกัน! พาพวกเขาไปด้วยให้หมดก็พอ อย่างไรข้ากับฮูหยินผู้เฒ่าก็มีวาสนาเคยพบหน้ากันหลายครั้ง หากข้าไปก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไร
ตาเฒ่ายิ้มตาหยีเอ่ย หันไปยักคิ้วหลิ่วตาให้เฟิ่งจิ่ว ทำท่าทางเหมือนจะบอกว่า เห็นไหม ข้าปกป้องดูแลเจ้าดีขนาดไหน
“อย่างนั้นก็รบกวนท่านเซียนแล้ว” จัวฉู่ฮุยเอ่ย พลางหันไปประสานมือคารวะตาเฒ่า
“ไม่รบกวนๆ” เขาโบกมือ ยิ้มตาหยี พลางเอ่ยกับพวกเขาว่า “ไปๆๆ ไปตอนนี้เลย” สิ้นเสียงก็ออกเดินนำหน้าก่อน
เห็นอย่างนั้น พวกเขาสามคนเดินตามหลังเขา มุ่งหน้าไปยังเรือนตะวันออก
ขณะเดียวกัน ในเรือนตะวันออก
“อ้อ? เจ้าบอกว่าท่านเซียนฮุ่นหยวนมางั้นหรือ?” ผู้นำตระกูลจัวในเวลานี้ หรือก็คือท่านลุงรองที่จัวจวินเยวี่ยพูดถึง พอรู้เรื่องก็ประหลาดใจ “แสดงว่าจวินเยวี่ยก็กลับมาด้วย?”
ชายชราเฝ้าประตูตอบด้วยความนอบน้อม “ขอรับท่านผู้นำ คุณชายใหญ่ก็กลับมาแล้วเหมือนกัน เขากับท่านเซียนไปที่เรือนตะวันตกแล้ว น่าจะไปพบนายท่านใหญ่ก่อน”
………………………………….
ตอนที่ 2108 ผู้นำตระกูลจัว
ได้ยินอย่างนั้น เขาพยักหน้า กำชับว่า “อย่างนั้นก็ให้ในจวนเตรียมอาหารหน่อย หัวค่ำเชิญพวกเขามารวมตัวกันที่เรือนตะวันออก จะว่าไปพวกพี่ใหญ่ก็ไม่ได้ออกจากเรือนตะวันตกนานแล้วเหมือนกัน”
พูดมาถึงตรงนี้ เขาถอนหายใจเบาๆ โบกมือสั่งให้ชายชราถอยออกไป
“ขอรับ” ชายชรารับคำ ก่อนจะถอยออกไปอย่างนอบน้อม
ผู้นำตระกูลจัวนั่งครุ่นคิดอยู่บนเก้าอี้เจ้าบ้าน นึกถึงว่าครอบครัวพี่ใหญ่ของเขาหลายปีมานี้ใช้ชีวิตอยู่ในเรือนตะวันตกราวกับตัดขาดจากโลกภายนอก แม้จะอยู่ในจวนตระกูลจัวเหมือนกัน แต่หากพูดกันตามจริง ครอบครัวพี่ใหญ่ของเขากลับให้ความรู้สึกเหมือนมาอาศัยคนอื่นอยู่มากกว่า
ไม่ใช่แค่เขาที่รู้สึกอย่างนี้ เชื่อว่าทุกคนในจวนไม่ว่าเบื้องบนหรือเบื้องล่างต่างก็รู้สึกเหมือนกัน เรื่องราวที่ลือกันในจวนตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาเองก็หลับตาข้างหนึ่งเปิดตาข้างหนึ่ง ไม่เคยไปสนใจเลยแม้แต่น้อย
แม้พี่ใหญ่ของเขาไม่ใช่ลูกชายแท้ๆ ของท่านพ่อ แต่ก็เป็นลูกชายแท้ๆ ของท่านแม่ เป็นพี่น้องต่างพ่อของเขา เพียงแต่ พวกผู้ใหญ่ในจวนกลับไม่ได้คิดเช่นนั้น
พวกเขากลัวว่าพี่ใหญ่จะยื่นมือเข้ามายุ่งเรื่องในตระกูลจัว กลัวว่าตระกูลจัวจะตกอยู่ในกำมือของคนนอก ด้วยเหตุนี้ เรียกได้ว่าเรื่องในตระกูลจัวแทบไม่เคยให้พี่ใหญ่ของเขาเข้ามายุ่งเกี่ยว หนำซ้ำยังแอบกดดันเขาลับๆ ส่วนพี่ใหญ่ของเขาก็สงบเสงี่ยมมาตลอด ดูไม่ออกว่ามีอะไรโดดเด่นเหนือคนอื่น
หลายปีมานี้มีเพียงเรื่องเดียวที่ทำให้เขาประหลาดใจ ไม่รู้ว่าจวินเยวี่ยไปรู้จักท่านเซียนฮุ่นหยวนได้อย่างไร เหมือนว่าครอบครัวของเขาจะมีสัมพันธ์ที่ไม่เลวกับท่านเซียนฮุ่นหยวน นอกเหนือจากนี้ก็ไม่มีเรื่องอื่นแล้ว
ขณะที่เขากำลังครุ่นคิด ก็เห็นพ่อบ้านเดินเข้ามาจากข้างใน
“ท่านผู้นำตระกูล” พ่อบ้านสูงอายุก้าวเข้ามาขานเรียกอย่างนอบน้อม
เขาได้สติกลับคืนมา มองพ่อบ้านสูงอายุแวบหนึ่ง ถามว่า “มีอะไรหรือ?”
“ท่านผู้นำตระกูล นายท่านใหญ่กับคนอื่นๆ ไปหาฮูหยินผู้เฒ่าที่ลานฝึกวรยุทธ์แล้วขอรับ” พ่อบ้านสูงอายุรายงาน
“พี่ใหญ่ไปหาท่านแม่ก็เป็นเรื่องปกติ มีอะไรให้แปลกใจกัน?” เขาเอ่ยอย่างไม่ยี่หระ ทว่า พอเอ่ยจบก็ชะงักไปเล็กน้อย หันไปถามพ่อบ้านสูงอายุว่า “นอกจากพี่ใหญ่แล้วยังมีใครไปอีก?”
“นายท่านใหญ่กับคุณชายใหญ่ แล้วก็ยังมีท่านเซียนฮุ่นหยวนกับเด็กหนุ่มชุดเขียวคนหนึ่งขอรับ”
ได้ยินอย่างนั้น เขาชะงักงัน “ท่านเซียนฮุ่นหยวนกับเด็กหนุ่มชุดเขียว? ไหนว่าเด็กหนุ่มชุดเขียวแค่ติดตามท่านเซียนฮุ่นหยวนมาไม่ใช่หรือ? เหตุใดจึงไปหาฮูหยินผู้เฒ่าด้วย?”
เขารู้สึกแปลกใจ แต่กลับบอกไม่ถูกว่าแปลกที่ใด
ขณะเดียวกันในอีกด้านหนึ่ง ณ ลานสวนของฮูหยินผู้เฒ่า
“พวกท่านรอเดี๋ยว ข้าเข้าไปบอกท่านแม่ก่อน” จัวฉู่ฮุยเอ่ยกับฮุ่นหยวนจื่อและเฟิ่งจิ่ว ก่อนจะเดินเข้าไป
ตาเฒ่าเดินไปนั่งลงข้างโต๊ะในลานสวนตามอัธยาศัย เฟิ่งจิ่วกลับยืนอยู่ สังเกตการตกแต่งในลานบ้านแห่งนี้เงียบๆ กระทั่งเวลาผ่านไปประมาณหนึ่งก้านธูป จัวฉู่ฮุยเดินออกมาจากข้างใน
“คุณชายเฟิ่ง เจ้าเข้ามาเถิด! ท่านแม่ของข้าอยากเจอเจ้า” เขาเอ่ยกับเฟิ่งจิ่ว
เห็นอย่างนั้น เฟิ่งจิ่วจึงเดินเข้าไป ส่วนฮุ่นหยวนจื่อกับจัวจวินเยวี่ยกลับอยู่ข้างนอก
พอพวกเขาข้าไป ตาเฒ่าดื่มสุรา ถามจัวจวินเยวี่ยที่อยู่ข้างๆ “เจ้าไม่ได้บอกพ่อเจ้าหรือว่าแม่หนูนั่นเป็นผู้หญิง?”
จัวจวินเยวี่ยชะงักเล็กน้อย ตอบว่า “ข้าบอกแค่ว่านางเป็นลูกศิษย์ของท่านปู่ข้า”
“ฮะๆ ไม่น่าเล่า พ่อเจ้ายังเอาแต่เรียกแม่หนูนั่นว่าคุณชายเฟิ่ง” ตาเฒ่าส่ายหน้ายกสุราขึ้นดื่ม หรี่ตาเล็กน้อย หน้าตาดูสบายอกสบายใจ “ครั้งนี้กลับมาจะพักผ่อนดีๆ สักหน่อย จะได้เรียนวิชามวยไทเก๊กจากนางด้วย” พูดถึงวิชามวยไทเก๊ก ตาเฒ่าก็อดตั้งตารอไม่ได้
………………………………….