เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2053 อาจารย์น้อย / ตอนที่ 2054 เขายังไม่แต่งงาน
ตอนที่ 2053 อาจารย์น้อย
ครั้นหันกลับไปมอง ก็อดมุมปากกระตุกไม่ได้ ห่างออกไปประมาณสามสิบจั้ง ตาเฒ่าชุดเทากำลังขี่สัตว์กลายพันธ์รูปร่างหน้าตาประหลาดไล่ตามมาข้างหลัง ด้านข้างมีจัวจวินเยวี่ยตามอยู่ด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ เห็นทั้งสองไล่ตามมาอย่างเงียบเชียบ เธออดยกมือตบหน้าผากไม่ได้
ด้านหลัง ครั้นเห็นเฟิ่งจิ่วสังเกตเห็นพวกเขา ตาเฒ่ายิ้มกว้าง ไม่ได้สำนึกตนเลยว่ากำลังสะกดรอยตามผู้อื่น ซ้ำยังโบกมือให้เฟิ่งจิ่วอย่างตื่นเต้น “ฮ่า เจ้าเด็กเมื่อวาน…” ตะโกนออกไปได้ครึ่งหนึ่ง เขาก็เปลี่ยนคำเรียกขาน จากเจ้าเด็กเมื่อวานซืน กลายเป็น “ท่านอาจารย์น้อย”
เหอะๆ หากเทียบกันเรื่องหนังหน้า หากตาเฒ่าอย่างเขากล้านับตนเองเป็นลำดับที่สอง ก็ไม่มีใครกล้านับเป็นที่หนึ่ง แม้จะเสียเปรียบหน่อย แต่หากสามารถเรียนมวยไทเก๊กได้ แค่คิดก็ตื่นเต้นมากแล้ว
ฉะนั้น ไม่ว่านางจะยอมรับหรือไม่! ก็เรียกท่านอาจารย์น้อยไปก่อน กอปรกับตามตื๊อนางไปเรื่อยๆ เขาไม่เชื่อว่านางจะไม่ยอมสอน
“ท่านไม่ตามพวกเขาไป มาตามข้าทำไม?” เธอถามด้วยความจนใจ ตาเฒ่านี่ประหลาดเกินไปแล้ว ไม่ห่วงความเป็นความตายของคนพวกนั้นที่อยู่ในป่านี้เลยหรือ? อย่างน้อยก็รู้จักกันมาตลอดการเดินทางนี้ เหตุใดจึงไม่สนใจความเป็นความตายของพวกเขาเลยเล่า?
“ข้าให้พวกเขากลับไปก่อนแล้ว ยังต้องให้ข้าคอยปกป้องเสียที่ไหน?” ตาเฒ่าตอบ สั่งให้สัตว์พาหนะวิ่งเข้ามาหยุดอยู่ข้างกายเฟิ่งจิ่ว “อีกอย่าง ข้าจะเรียนมวยไทเก๊กกับเจ้า! ท่านอาจารย์น้อยข้าก็เรียกแล้ว เจ้าจะตุกติกไม่ได้เชียวนะ”
“ข้าไม่ได้บังคับให้ท่านเรียกเสียหน่อย” เฟิ่งจิ่วชำเลืองมองเขาแวบหนึ่ง “อีกอย่าง ข้าก็ไม่ได้บอกว่าจะสอนเสียหน่อย!”
“เจ้าๆๆ เจ้าจะทำอย่างนี้ไม่ได้นะ” ตาเฒ่าเอ่ยอย่างอัดอั้นตันใจ แต่กลับทำอะไรไม่ได้
เห็นอย่างนั้น เฟิ่งจิ่วมองเขา ครุ่นคิด เอ่ยว่า “ข้าเสร็จธุระแล้วต้องกลับไป จะไม่รั้งอยู่ข้างนอกนานนัก ท่านก็รู้ว่าข้ามีแกนเคลื่อนย้ายจี๋กวงติดตัวอยู่ เมื่อถึงตอนข้ากลับ ข้ากลับเร็วกว่าท่านหลายเท่า”
“พูดให้เข้าใจหน่อย” ตาเฒ่าถลึงตาจ้องเธอแวบหนึ่ง จะพูดอะไรก็ไม่พูดตรงๆ
“ข้าหมายความว่า เจ้าตามข้าไปก็ไม่มีประโยชน์ ไม่แน่ว่าจู่ๆ ข้าอาจหายไปเลย ในเมื่อท่านอยากเรียน ข้ากลับชี้แนะเส้นทางให้ท่านได้” เฟิ่งจิ่วบอกเขา
“เส้นทางใด? ข้าจะบอกให้ ข้าจะเรียนกับเจ้าคนเดียว อย่าได้คิดจะผลักข้าให้ใครที่ไหนเด็ดขาดเล่า” เขาแค่นเสียง หน้าตาเย่อหยิ่ง “ไม่ใช่ว่าใครที่ไหนก็ทำให้ข้าเรียกว่าท่านอาจารย์น้อยได้นะ”
“ไม่ต้องให้ท่านเรียกท่านอาจารย์น้อยอะไรทั้งนั้น ไปหาคนชื่อเหลิ่งหวาที่หอยาสวรรค์ในเมืองร้อยนที วิชามวยไทเก๊กของเขาข้าเป็นคนสอน ท่านไปเรียนกับเขาก็พอ” เฟิ่งจิ่วยิ้มตาหยีบอกเขา
“ได้อย่างไรกัน! คนที่เจ้าสอนนั่นใครจะรู้ว่าเขาเรียนไปได้กี่ส่วนแล้ว? เรียนยังไม่ถึงไหนแล้วมาสอนข้า ข้าไม่กล้าให้เขาสอนหรอกนะ” เขากลอกตาไปมา ก่อนจ้องเฟิ่งจิ่ว ถามว่า “เจ้าเข้าไปทำอะไรในส่วนลึกของป่าแห่งนี้?”
ได้ยินอย่างนั้น เฟิ่งจิ่วหันไปมองส่วนลึกของป่า ตอบว่า “ในเมื่อมาถึงป่าภูเขาไฟแล้ว ย่อมต้องเอาศิลาเพลิงกลับไปด้วย ดูว่าเป็นสมบัติล้ำค่าที่ใช้ประโยชน์ได้จริงๆ หรือไม่”
“ในเมื่อเป็นอย่างนี้ ให้พวกข้าตามเจ้าไปด้วยไม่ยิ่งดีกว่าหรือ? ระหว่างทางหากมีอะไรก็จะได้ช่วยดูแลกันได้ด้วย! อีกอย่าง ตอนนี้ข้าบาดเจ็บอยู่ หากมีคนจ้องจะเอาชีวิตข้า ข้าก็ต้องตายน่ะสิ? หนำซ้ำ ที่นี่ข้าเคยมา ข้ารู้จักเส้นทางดีเชียวล่ะ” เขาโอ้อวด หน้าตาเหมือนจะบอกว่าข้ารู้ว่าศิลาเพลิงอยู่ที่ใด
เห็นอย่างนั้น เฟิ่งจิ่วมองเขาแวบหนึ่ง จากนั้นก็เลื่อนสายตาผ่านจัวจวินเยวี่ย ก่อนจะพยักหน้า “ก็ได้”
………………………………….
ตอนที่ 2054 เขายังไม่แต่งงาน
ฮุ่นหยวนจื่อจ้องเฟิ่งจิ่ว จากนั้นก็หันไปมองจัวจวินเยวี่ยที่อยู่ข้างๆ สายตาดูประหลาดขึ้นมา แม่หนูนี่เอาแต่จ้องเจ้าขอนไม้ท่อนนี้ เขามั่นใจว่าแม้จะยอมให้เขาร่วมเดินทางด้วย ก็ต้องเป็นเพราะท่อนไม้ที่อยู่ข้างๆ ท่อนนี้แน่นอน นางคงไม่ได้ถูกใจเขาเข้าแล้วกระมัง?
นึกมาถึงตรงนี้ เขาลูบหนวด ดวงตาเฉียบแหลมกลอกหมุนไปมา
ด้วยเหตุนี้ การเดินทางที่ตอนแรกมีเพียงคนเดียว กลายเป็นสามคน เฟิ่งจิ่วกับฮุ่นหยวนจื่อนั่งสัตว์พาหนะ มุ่งหน้าเข้าไปในป่าอย่างเชื่องช้า ส่วนจัวจวินเยวี่ยเดินตามข้างๆ ทั้งสอง ตลอดเส้นทาง พวกเขาพูดคุยสัพเพเหระ
“แม่หนู เจ้า…”
“ตอนนี้ข้าแต่งกายเป็นชาย อย่าเรียกข้าว่าแม่หนู เรียกข้าเสี่ยวจิ่วเถิด!” เฟิ่งจิ่วขัดขึ้น สายตาจ้องมองไปข้างหน้า
“ก็ได้ ข้าถามเจ้า วิชามวยไทเก๊กเจ้าไปเรียนมาจากใคร? อาจารย์ของเจ้าหรือ?” สายตาของตาเฒ่ามองเธอด้วยความตื่นเต้น วิชาหมัดเช่นนั้น
ได้ยินอย่างนั้น เฟิ่งจิ่วมองเขาแวบหนึ่ง สีหน้าดูแปลกประหลาด “ท่านกินไข่ยังต้องถามว่าออกมาจากไก่ตัวใดอีกหรือ?”
ตาเฒ่าถูกยอกย้อนเช่นนี้ ถึงกับพูดไม่ออกเลยทีเดียว
เฟิ่งจิ่วเดินผ่านเขาไป สายตาจับจ้องไปที่จัวจวินเยวี่ย ถามว่า “บ้านเจ้ายังมีใครอีก?” การสืบข่าว จะมีวิธีใดที่ดีและเร็วไปกว่าการสืบจากเจ้าตัวตรงๆ?
ได้ยินอย่างนั้น ตาเฒ่าถลึงตา จ้องเฟิ่งจิ่วด้วยสีหน้าแปลกๆ ลอบคิดในใจ แม่หนูนี่เหตุใดสืบประวัติกันอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้? ถึงจะสนใจเจ้าท่อนไม้นี่ก็ไม่ควรแสดงออกตรงเกินไปอย่างนี้นี่นา!
ด้วยเหตุนี้ เขากระแอมเบาๆ เอ่ยว่า “เจ้าอยากรู้อะไรถามข้าก็ได้แล้วไม่ใช่หรือ? เรื่องของเขาข้ารู้ดีที่สุด” เขายืดอกเอ่ย ดวงตาจับจ้องเฟิ่งจิ่ว ท่าทางเหมือนบอกว่ารีบมาถามข้าเร็วสิ
ตาเฒ่าเห็นนางไม่สนใจสักนิด จึงอดเอ่ยไม่ได้ว่า “บ้านเขาทั้งพ่อและแม่ยังอยู่ทั้งคู่ ข้างบนมีท่านย่า ข้างล่างมีน้องชายกับน้องสาวอีกสองคน ปีนี้เขาอายุยี่สิบเจ็ด ที่สำคัญคือเขายังไม่ได้แต่งงาน”
ได้ยินอย่างนั้น เฟิ่งจิ่วนัยน์ตาไหวระริก “อ้อ? ท่านย่าก็อยู่ด้วยหรือ? อย่างนั้นบ้านเขาอยู่ที่ใด?” คราวนี้ เธอหันมามองฮุ่นหยวนจื่อ
“อยู่ที่เมืองหมื่นกุญชร ตระกูลจัวในเมืองหมื่นกุญชร ไปถามดูก็รู้แล้ว อยู่ไม่ไกลจากเมืองร้อยนทีนัก” ตาเฒ่ายิ้มตาหยี
จัวจวินเยวี่ยมองตาเฒ่าแวบหนึ่ง สีหน้าเหมือนหมดคำจะพูด เขารู้ดีว่าตาเฒ่ากำลังคิดอะไรอยู่ เขาไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยกลับพูดจาเหลวไหลอยู่ตรงนี้
เฟิ่งจิ่วพยักหน้า “อืม ข้าเข้าใจแล้ว” เธอหยิบไหสุราออกมาดื่มหนึ่งอึก ที่แท้ก็ตระกูลจัวในเมืองหมื่นกุญชร
“แม่หนูเสี่ยวจิ่ว เจ้าอยากรู้เรื่องของเขาไปทำไมนักหนา? หรือเจ้าถูกใจเขา?” ตาเฒ่ายิ้มตาหยีมองเฟิ่งจิ่ว ครั้นพูดประโยคนี้ออกไป ก็ทำให้เฟิ่งจิ่วที่กำลังดื่มสุราถึงกับสำลัก
“แค่กๆ”
เธอสำลัก ถลึงตาจ้องฮุ่นจื่อหยวน “พูดจาเหลวไหลอะไร? จะเป็นไปได้อย่างไรกัน!”
“เป็นไปไม่ได้?” ตาเฒ่าเหล่มองเธอเหมือนไม่เชื่อ
“เป็นไปไม่ได้ ข้ามีคู่หมั้นแล้ว หนำซ้ำเหลือแค่เข้าพิธีคำนับฟ้าดินเท่านั้น” เฟิ่งจิ่วอธิบายด้วยความเอือมระอา ตาเฒ่าคนนี้ ในหัวคิดอะไรอยู่กันแน่? เธอจะสนใจจัวจวินเยวี่ยได้อย่างไรกัน? ช่างไร้สาระเสียจริง
จัวจวินเยวี่ยเหลือบมองตาเฒ่าแวบหนึ่ง สีหน้าดูไม่ค่อยดีนัก
“เจ้ามีคู่หมั้นแล้ว? อย่างนั้นเจ้าจะสืบประวัติเขาไปทำไม?” ตาเฒ่าถามด้วยความแปลกใจ แม่หนูคนนี้เก่งกาจเพียงนี้ ผู้ชายที่นางหมายตาจะเป็นอย่างไรกันนะ? เขาอดนึกอยากรู้ขึ้นมาไม่ได้
เฟิ่งจิ่วมองจัวจวินเยวี่ยที่อยู่ข้างๆ แวบหนึ่ง จากนั้นตอบว่า “เหตุผลอื่น”
………………………………….