เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1963 เป็นเกียรติยิ่ง / ตอนที่ 1964 เจ้าของตึกผู้ลึกลับ
ตอนที่ 1963 เป็นเกียรติยิ่ง
เด็กหนุ่มตรงหน้ากลับถามเพียงประโยคเดียว จากนั้นก็มองข้ามเขาไปเลย รองหัวหน้าเพลิงโทสะสุมในอก ทั้งรู้สึกเดือดดาล และรู้สึกเสียหน้า
เขาเป็นถึงรองหัวหน้าสมาคมนักเล่นแร่แปรธาตุ ไม่นึกเลยว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะกล้าเมินเขา ช่างเหิมเกริมไม่รู้จักมารยามเอาเสียเลย!
“เจ้า…”
ขณะกำลังจะอ้าปากตำหนิ กลับเหลือบเห็นสายตาของหัวหน้ามองมาที่เขา จึงได้แต่กล้ำกลืนความโกรธเอาไว้
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นของขวัญนี่ข้าก็จะเก็บไว้” เขาโบกมือ สั่งให้นักเล่นแร่แปรธาตุคนนั้นเก็บของขวัญแล้วถอยออกไป ก่อนจะหันมาถามเหลิ่งหวา “เพียงแต่ไม่รู้ว่า จะรบกวนผู้ดูแลเหลิ่งคอยชี้แนะไปด้วยกันได้หรือไม่?”
“เป็นเกียรติอยู่แล้ว” เหลิ่งหวาทำท่าผายมือ ก่อนจะเดินเข้าไปข้างในพร้อมกับเขา
กลุ่มคนที่กำลังมุงดูอยู่ต่างแยกย้ายกันไป แม้จะไม่ได้มุงดูพวกเขาแล้ว แต่กลับแอบสังเกตอยู่เงียบๆ
ครั้นเดินเข้ามาข้างใน เหลิ่งหวาอธิบายด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลอยู่ข้างๆ “ยาที่จัดวางไว้ในชั้นหนึ่งนี้ล้วนเป็นยาที่ถูกนายท่านของข้าจัดเป็นยาทั่วไป นอกจากยาเม็ด ยังมียาน้ำที่ใช้กันทั่วไปหรือของจำพวกรักษาแผลมีดบาดเป็นต้น”
พวกเขาเดินชมไปพลาง ฟังคำอธิบายจากเหลิ่งหวาไปพลาง ครั้นเห็นว่าในชั้นวางมีเพียงขวดยาเปล่าๆ กลับไม่มียาอยู่ข้างใน คิ้วก็ขมวดเล็กน้อย
ไม่เห็นยา แต่กลับมีเพียงขวดยาและคำอธิบายเกี่ยวกับระดับของยารวมถึงราคา เดินเข้าไปข้างในอีกเล็กน้อย ก็เห็นยาที่ถูกจัดวางไว้ในชั้นวางตัวหนึ่ง ยามเห็นยาตัวนั้น นักเล่นแร่แปรธาตุหลายคนที่เดินตามหลังหัวหน้านัยน์ตาหดเล็ก รีบสาวเท้าเข้าไปดู
“นี่เป็นยาระดับสี่? ยาระดับสี่ยังเป็นเพียงยาทั่วไป? พวกเจ้าดูสีและลายของยาเม็ดนี้งดงามขนาดไหน นี่เป็นยาระดับสี่คุณภาพเยี่ยมเชียวนะ! ยาอย่างนี้กลับถูกจัดเป็นยาทั่วไป? เสียของเกินไปแล้ว!”
นักเล่นแร่แปรธาตุคนหนึ่งพูดด้วยอารมณ์อันพลุ่งพล่าน สีหน้าไม่พอใจ คล้ายรู้สึกว่ายาล้ำค่าเช่นนี้ถูกจัดเป็นยาทั่วไปเป็นเรื่องที่ไม่สมควร
ได้ยินคำพูดของนักเล่นแร่แปรธาตุคนนั้น คนรอบข้างต่างพากันหัวเราะเบาๆ “ใช้คำว่าเสียของกับที่นี่เหมาะสมหรือ? นักเล่นแร่แปรธาตุคนนี้ตื่นตูมเกินเหตุไปแล้วกระมัง?”
“อะแฮ่ม!”
หัวหน้าที่อยู่ข้างหน้ากระแอมเบาๆ เหลือบมองนักเล่นแร่แปรธาตุที่ตื่นตูมเกินเหตุแวบหนึ่ง “เบาเสียงหน่อย ข้างในนี้ห้ามส่งเสียงดังโหวกเหวก” ขณะเอ่ย เขายกมือชี้ไปยังตัวหนังสือที่เขียนบอกไว้ว่าห้ามส่งเสียงดังซึ่งติดอยู่บนผนัง
นักเล่นแร่แปรธาตุเห็นผู้คนจ้องมองมา ก็อดหน้าแดงก่ำไม่ได้ เขารับคำก่อนจะก้มหน้าก้มตา เพียงแต่ สายตาของเขายังคงจับจ้องไปที่ยาระดับสี่คุณภาพเยี่ยมบนชั้นวางเป็นระยะ อดรู้สึกทึ่งไม่ได้
หากยาเช่นนี้ยังถูกจัดว่าเป็นเพียงยาธรรมดา เช่นนั้นยาที่ถูกจัดประเภทเป็นยาล้ำค่า จะเป็นอย่างไรกัน? นึกมาถึงตรงนี้ ใจของเขาก็พลันตื่นเต้น รู้สึกคาดหวังกับหอยาสวรรค์แห่งนี้ขึ้นมา เขาในเวลานี้ ไม่เหลือความเดือดดาลและดูแคลนในตอนแรกแล้ว เพียงยาระดับสี่เม็ดเดียว ก็ทำให้รู้แล้วว่าที่นี่จะต้องมีนักเล่นแร่แปรธาตุระดับสูงประจำการอยู่แน่นอน
เหลิ่งหวารักษารอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้าไว้เสมอ เขามองพวกเขา ก่อนทำท่าผายมืออีกครั้ง “ยาที่ถูกจัดวางไว้ตรงกลางก็คือยาหอมพิศวง เป็นยาที่นายท่านของข้าหลอมขึ้นมาใหม่ และกลิ่นหอมที่กระจายไปทั่วเมือง ก็คือกลิ่นหอมจากยาหอมพิศวงนี้เอง”
ครั้นทุกคนได้ยิน ก็อดหันไปมองยาที่มีขนาดเท่ากำปั้นไม่ได้ หัวหน้าเพ่งมอง เต็มไปด้วยความประหลาดใจ “ยาเม็ดใหญ่ขนาดนี้เชียวหรือ? หรือว่าต้องแบ่งเป็นเม็ดเล็กๆ อีก?”
………………………………….
ตอนที่ 1964 เจ้าของตึกผู้ลึกลับ
“ถูกต้องแล้วขอรับ” เหลิ่งหวาตอบ เขาไม่พูดอะไรอีก เพียงปล่อยให้พวกเขายืนดูด้วยตนเอง
หัวหน้าสมาคมนักเล่นแร่แปรธาตุสูดดมกลิ่นหอมกลิ่นนั้น มองดูยาขนาดเท่ากำปั้น ใบหน้าเต็มไปด้วยความตกตะลึง “นี่คงจะเป็นยาที่หลอมขึ้นจากยาทิพย์ล้ำค่านับร้อยกว่าชนิด ดูจากสีและกลิ่นหอมของยาก็บอกได้แล้วว่านี่เป็นยาล้ำค่า!”
เหลิ่งหวายืนอยู่ตรงนั้นไม่พูดอะไร ยาเป็นอย่างไร คนเหล่านี้เป็นคนของสมาคมนักเล่นแร่แปรธาตุย่อมดูออกอยู่แล้ว
“คือว่า ผู้ดูแลเหลิ่ง ข้าจะเอายาทะลวงขั้นที่อยู่ตรงนี้” นักเล่นแร่แปรธาตุคนหนึ่งชี้ไปยังยาที่อยู่ตรงมุมร้าน
เหลิ่งหวามองยาเม็ดนั้นแวบหนึ่ง ยิ้มๆ ตอบว่า “ยาทะลวงขั้นนี้ขายหมดแล้วขอรับ” ไม่เพียงเม็ดนี้ เชื่อว่ายาส่วนใหญ่ในชั้นหนึ่งนี้ล้วนถูกคนจองไปหมดแล้ว
“ทุกท่านขึ้นไปดูที่ชั้นสองได้ ยาที่ชั้นสองมีไม่มาก ทว่าแต่ละชนิดล้วนเป็นสุดยอดของล้ำค่าแน่นอน” เหลิ่งหวาผายมือเชิญพวกเขาขึ้นไปที่ชั้นสอง
เห็นอย่างนั้น หัวหน้าพยักหน้า ยิ้มบอกว่า “ก็ดีเหมือนกัน พวกข้าขึ้นไปดูยาชั้นยอดของหอยาสวรรค์กันหน่อยเถิด” ขณะกล่าวก็เดินไปข้างหน้า กลับเห็นกลุ่มคนที่ไม่นับว่าแปลกหน้ายืนอยู่หน้าบันไดชั้นสอง
“ท่านผู้นำตระกูลทั้งหลายก็มาแล้วหรือ?” เขายิ้มทักทาย
“ฮะๆ หัวหน้าฝาน ไม่เจอกันนาน” ผู้นำตระกูลหลายคนที่ยืนอยู่หน้าบันไดก็ยิ้มและประสานมือคารวะตอบ พลางเชื้อเชิญ “พวกข้ากำลังจะขึ้นไปดูข้างบน ในเมื่อหัวหน้าก็มาแล้ว เช่นนั้นก็ขึ้นไปพร้อมกันเถิด!”
“ทุกท่านเชิญก่อน” หัวหน้าฝานตอบ พลางพยักหน้าให้พวกเขาไปก่อน
พวกเขาเองก็ไม่ปฏิเสธ พากันเดินขึ้นไปบนชั้นสองก่อน จากนั้นเหล่านักเล่นแร่แปรธาตุจึงค่อยเดินขึ้นไป
เห็นพวกเขาขึ้นไปบนชั้นสอง ชายคนหนึ่งก็คิดจะตามขึ้นไปดูด้วย ทว่า ครั้นมาถึงหน้าบันไดกลับถูกขวางทาง “จะขึ้นชั้นสองมีกฎระเบียบอยู่ ลูกค่าท่านนี้โปรดอ่านกฎก่อน”
คนที่ถูกขวางทางหันมองชายที่ขวางทางเขาแวบหนึ่ง ก่อนจะหันไปอ่านป้ายไม้ที่ห้อยอยู่ด้านหนึ่ง ครั้นเห็นอักษรบนนั้นไม่นาน ใบหน้าเขาก็แดงด่ำ ก่อนจะถอยออกไป
มีคนชะโงกหน้าเข้าไปดูด้วยความสงสัย เมื่อเห็นตัวหนังสือบนนั้น คนที่จะขึ้นไปบนชั้นสองนอกจากต้องมีเงินที่มากพอแล้ว ยังต้องเป็นคนที่มีฐานะด้วย หนำซ้ำยังต้องลงทะเบียนข้อมูลส่วนตัวไว้ในบันทึกของหอยาสวรรค์ด้วย
“นี่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกนะ หากไม่มีเงินขึ้นไปดูก็ไม่มีปัญญาซื้ออยู่ดี”
“ก็จริง ยาที่ชั้นหนึ่งก็ไม่ใช่ถูกๆ แล้ว บนชั้นสองยิ่งไม่ต้องพูดถึง”
“แต่ข้าว่าบนชั้นสองต้องมียาที่ช่วยชีวิตได้อยู่ไม่น้อยแน่ ถึงราคาจะแพง แต่อย่างน้อยก็ทำให้รู้สึกลุ้นและมีความหวัง ข้าว่าอย่างนี้ดีมากทีเดียว”
“ถูกต้อง ได้ยินว่าเจ้าของหอยาสวรรค์แห่งนี้มีวิชาแพทย์ที่ชุบชีวิตคนตายได้ด้วยล่ะ!”
“จะว่าไป วันนี้หอยาสวรรค์เปิดกิจการ กลับไม่เห็นเจ้าของหอยาสวรรค์เลยนะ? ไม่รู้ว่าจะเป็นคนอย่างไร?”
“น่าจะเป็นผู้สูงอายุแล้ว ได้ยินมาว่ายาเหล่านี้เจ้าของหอยาสวรรค์เป็นคนหลอมขึ้นเองกับมือ มีความสามารถหลอมยาอย่างนี้ได้จะต้องเป็นผู้สูงอายุที่มากประสบการณ์แน่นอน”
“จะว่าไปก็ถูก ข้าคิดว่าต้องเป็นผู้สูงอายุผู้มากวิชาแน่ๆ”
ผู้คนรอบข้างต่างพากันถกเถียงกันเสียงเบา ทว่าเวลานี้บนชั้นสอง มีคนสิบกว่าถึงยี่สิบคนกำลังเดินชมอยู่ คนข้างบนนี้มีไม่มาก ทว่าแต่ละคนล้วนมีตำแหน่งฐานะ และมีอำนาจ แต่แม้จะเป็นคนพวกนี้ ยามเห็นยาที่ถูกจัดวางไว้ข้างบนนี้ ก็ยังอดสูดปากด้วยความตกตะลึงไม่ได้
………………………………….