เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1953 เป็นห่วง / ตอนที่ 1954 เสแสร้งแกล้งทำ
ตอนที่ 1953 เป็นห่วง
“คุณชายโม่เฉิน” เหลิ่งซวงพยักหน้าเล็กน้อย “นายท่านกับเจ้าตำหนักอยู่เรือนหลัง ต้องการให้ข้านำทางพวกท่านหรือไม่?”
“ไม่ต้อง เจ้าไปทำธุระของเจ้าเถิด! พวกข้าไปเองได้” โม่เฉินยิ้มๆ โบกมือปฏิเสธ
ได้ยินอย่างนั้น เหลิ่งซวงเบี่ยงตัวเล็กน้อย เพื่อให้พวกเขาไปก่อน แต่พอโม่เฉินเดินผ่านนางไป กลับเห็นคุณชายเด็กหนุ่มที่เดินตามเขาหันมามองนางด้วยสายตาแฝงรอยยิ้ม คนที่เดิมทีควรเดินผ่านหน้านางไป กลับหยุดยืนอยู่ตรงหน้านาง
“แม่นางเหลิ่งซวง ข้าชื่อน่าหลันจื่อเยี่ยน เขาเป็นพี่ชายของข้า” เขาพยักพเยิดไปทางโม่เฉิน ไม่รอให้เหลิ่งซวงพูดอะไร ก็รีบสาวเท้าจากไป
เหลิ่งซวงมองใบหน้าที่ยิ้มแย้มของคุณชายชุดไหม รวมถึงพฤติกรรมแปลกๆ นั่น ได้แต่จ้องแผ่นหลังที่ห่างออกไปของเขาอย่างสงสัย ก่อนจะละสายตากลับมาแล้วหันตัวเดินจากไป
โม่เฉินชะลอฝีเท้า ชำเลืองมองน้องชายคนเล็กแวบหนึ่ง “นี่เจ้ากำลังทำอะไร?”
“ข้าไม่ได้ทำอะไรเลยนะ! ข้าเพียงทักทายแม่นางเหลิ่งซวงเท่านั้น” น่าหลันจื่อเยี่ยนเอ่ยด้วยอารมณ์อันเบิกบาน
ได้ยินอย่างนั้น โม่เฉินมองเขาแวบหนึ่ง ก่อนเดินเข้าไปข้างในโดยไม่พูดอะไรอีก ไม่นาน ก็มาถึงลานสวนด้านใน ยังไม่ทันเข้าไป ก็ได้ยินเสียงพูดคุยกันของเฟิ่งจิ่วกับเซวียนหยวนโม่เจ๋อดังขึ้น
“ไม่ต้องให้ข้ามากขนาดนี้ ข้าไม่ต้องใช้” เซวียนหยวนโม่เจ๋อเอ่ย
“ทำไมจะไม่ได้ใช้? ท่านพกติดตัวเกิดได้ใช้ขึ้นมาเล่า?” เฟิ่งจิ่วจัดพวกยาเม็ดและยาน้ำเข้าพวกอย่างเป็นระเบียบ กล่าวว่า “ข้างบนนี้เขียนไว้หมดแล้วว่ายาอะไรใช้สำหรับอะไรบ้าง
“อีกสองสามวันข้าค่อยเตรียมของอย่างอื่นให้ท่านอีก” เธอเอ่ย ก่อนบอกให้เขาเก็บของบนโต๊ะ
เซวียนหยวนโม่เจ๋อส่ายหน้าด้วยความจนใจ ทำได้เพียงเก็บของเหล่านั้นใส่ห้วงมิติ เวลานี้เอง เขาเงยหน้ามองไปนอกลานสวน เห็นโม่เฉินกับน่าหลันจื่อเยี่ยนกำลังเดินมาทางนี้
“อาจิ่ว เจ้ากำลังเตรียมของอะไรให้เขาหรือ? มีส่วนของข้าหรือไม่?” โม่เฉินยิ้มๆ เดินเข้ามานั่งลงข้างโต๊ะ ส่วนน่าหลันจื่อเยี่ยนกลับไม่กล้านั่ง ทำได้เพียงยืนอยู่ข้างหลังเขา
เฟิ่งจิ่วมองพวกเขาสองคนแวบหนึ่ง ยิ้มๆ ก่อนหันไปพูดกับน่าหลันจื่อเยี่ยน “คุณชายรอง นั่งเถิด!”
น่าหลันจื่อเยี่ยนได้ยินก็เผยยิ้ม ขณะกำลังจะรับคำแล้วนั่งลง ก็เห็นชายหน้าตาเย็นชาสวมชุดคลุมสีดำตรงหน้า ก็อดกระแอมเบาๆ ไม่ได้ ก่อนกล่าวว่า “ไม่ล่ะ ข้ายืนก็ดีแล้ว ข้ามาเป็นเพื่อนพี่ชายข้า พวกท่านคุยกันไปเถิด ไม่ต้องสนใจข้า”
ได้ยินอย่างนั้นเฟิ่งจิ่วชะงักเล็กน้อย มองเขาอย่างละเอียดแวบหนึ่ง พบว่าน้องชายของโม่เฉินคนนี้รูปร่างหน้าตาโดดเด่นมาก แต่แตกต่างจากโม่เฉินที่มีบุคลิกดุจเซียน น่าหลันจื่อเยี่ยนคนนี้มีบุคลิกเหมือนคุณชายตระกูลผู้ดี แต่งกายด้วยชุดผ้าไหม มีราศีสูงศักดิ์อย่างปิดไม่มิด
“ข่าวที่ลือกันในเมืองช่วงนี้พวกเจ้าคงได้ยินมาแล้วกระมัง?” โม่เฉินหันไปถามพวกเขาสองคน
เซวียนหยวนโม่เจ๋อไม่พูดอะไร เพียงรินชาดื่มเงียบๆ ส่วนเฟิ่งจิ่วกลับยิ้มๆ “ได้ยินมาบ้าง แต่ไม่เป็นไร ยิ่งคึกคักก็ยิ่งดี ไม่ใช่หรือ?”
ในเมื่อต่างพากันจับตามองหอยาสวรรค์ เช่นนั้นเมื่อถึงเวลาเธอก็จะทำให้พวกเขาประหลาดใจ
“ดูเหมือนเจ้าจะมีความมั่นใจ เช่นนั้นข้าก็วางใจแล้ว” เขาพยักหน้าเอ่ย เห็นเพียงเซวียนหยวนโม่เจ๋อที่ดื่มชาอยู่ด้านหนึ่งเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง น้ำเสียงทุ้มต่ำมีเสน่ห์เอ่ยออกมาอย่างไม่สะทกสะท้าน
“อย่างเจ้าเขาเรียกว่ากังวลไปทั่วทั้งที่ไม่เข้าใจสถานการณ์อะไรเลย”
โม่เฉินยิ้มอย่างอ่อนโยน มองเขาแวบหนึ่ง ก่อนเอ่ยเสียงนุ่มนวล “ข้าก็แค่เป็นห่วงอาจิ่ว หากเป็นเรื่องของคนอื่น ข้าย่อมไม่ต้องใส่ใจถึงเพียงนี้”
………………………………….
ตอนที่ 1954 เสแสร้งแกล้งทำ
น่าหลันจื่อเยี่ยนที่ได้ยินคำพูดของพี่ชายก็อดประหลาดใจไม่ได้ นึกไม่ถึงว่าพี่ชายของเขาที่บุคลิกดุจเซียนจะมีด้านนี้ด้วย นี่เขาตั้งใจจะยั่วโทสะชายชุดดำคนนั้นหรือ?
มองดูท่าทางเหมือนเซียนที่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับกิเลสในโลกมนุษย์ของเขา เซวียนหยวนโม่เจ๋อกระตุกมุมปาก “จะว่าไป อาจิ่ว เจ้ายังไม่รู้กระมัง!”
จู่ๆ ก็ได้ยินเซวียนหยวนโม่เจ๋อพูดขึ้นอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยเช่นนี้ เฟิ่งจิ่วชะงักเล็กน้อย ก่อนถามด้วยความสงสัยว่า “ไม่รู้อะไรหรือ?”
น่าหลันจื่อเยี่ยนได้ยินอย่างนั้น กอปรกับสังเกตเห็นสีหน้าที่แข็งค้างของพี่ชายคนเอง ก็อดประหลาดใจไม่ได้ เขาหันไปมองชายชุดดำ ลอบครุ่นคิด ทำไมฟังดูเหมือนคำพูดนี้มีความนัยแฝงแปลกๆ?
แม้โม่เฉินยังจะมีสีหน้าเรียบเฉย แต่ครั้นได้ยินเซวียนหยวนโม่เจ๋อเกริ่นขึ้นมาอย่างนี้ก็รู้แล้วว่าเขาจะพูดอะไร สีหน้าและร่างกายของเขาสะดุดไหวเล็กน้อย ไม่เพียงน่าหลันจื่อเยี่ยนเท่านั้นที่สังเกตเห็น เฟิ่งจิ่วที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวก็สังเกตเห็นด้วยเช่นกัน
เซวียนหยวนโม่เจ๋อเหลือบมองโม่เฉินด้วยท่าทางสบายอารมณ์ ยกถ้วยชาขึ้นจิบหนึ่งคำ ก่อนเล่าด้วยน้ำเสียงแช่มช้า “ก่อนหน้านี้ไม่นาน คุณชายโม่เฉินของเราท่านนี้ได้ไปนอนค้างอ้างแรมที่หอนางโลมมาหนึ่งคืน ได้ยินมาว่า ตอนนั้นเขาเรียกหญิงสาวไปปรนนิบัติหลายนางเชียวล่ะ”
เฟิ่งจิ่วที่กำลังยกถ้วยชาขึ้นจิบได้ยินอย่างนั้น ก็อดสำลักน้ำชาไม่ได้ “แค่กๆ!” เธอไอสองสามที วางถ้วยชาลง ก่อนหันไปมองโม่เฉินด้วยสีหน้าตกตะลึง
“นี่เป็นไปไม่ได้กระมัง?” จากที่เธอรู้จักเขา โม่เฉินไม่ใช่คนอย่างนั้น ยิ่งไปกว่านั้น หากเขาอยากได้ผู้หญิง แบบใดบ้างที่ไม่มี? หรือว่า…ความคิดหนึ่งผุดขึ้นมา อดไม่ได้ที่จะมุมปากกระตุก
ไม่น่าเล่า ไม่น่าคำพูดของเจ๋อถึงได้สองแง่สองง่ามอย่างนั้น โม่เฉินเองวันนั้นที่ปีนกำแพงมาที่จวนก็เคยพูดเหมือนกันว่า ถูกใครบางคนเล่นงานลับหลัง ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้เอง…
น่าหลันจื่อเยี่ยนที่ยืนอยู่ข้างหลังโม่เฉินได้ยินก็หนังตากระตุก อดหันไปมองชายชุดดำแวบหนึ่งไม่ได้ เขากับพ่อของเขาเดาอยู่นานก็ยังเดาไม่ออกว่าคนที่เล่นงานพี่ชายของเขาเป็นใคร กลับนึกไม่ถึง ที่แท้ก็เป็นคนตรงหน้านี่เอง
ไม่น่าเล่า ท่าทางเหมือนสองคนนี้ไม่ค่อยถูกกันนัก
โม่เฉินกระแอมเบาๆ เอ่ยว่า “ฉะนั้นหลายวันก่อนข้าถึงได้บอกไม่ใช่หรือ? ว่าไม่ระวังดื่มสุราที่ถูกคนใจดำบางคนวางยาไปสองสามแก้ว”
“อ้อ ที่แท้ก็อย่างนี้เอง” เฟิ่งจิ่วกลั้นหัวเราะ มองเขาอย่างเห็นใจ ไม่ต้องเดาก็รู้ ว่าเหตุการณ์ในตอนนั้นจะต้อง…
น่าหลันจื่อเยี่ยนที่ยืนอยู่ข้างหลังโม่เฉินเห็นเธอมองพี่ชายของเขาด้วยหน้าตาสงสาร จึงเอ่ยออกไปอย่างไม่ทันคิด “ภูตหมอ ที่จริงท่านพี่ของข้ายังไม่ได้โดนทำอะไร ก็แค่ถูกผู้หญิงสองสามคนลูบไล้ไม่กี่ที ต่อมาพอเขากลับบ้านก็อาบน้ำไปตั้งหลายหน! จนเกือบจะถูเอาหนังถลอกออกไปด้วย…”
เขายิ่งพูดก็ยิ่งเสียงเบา เพราะพี่ชายของเขาที่อยู่ข้างหน้าหันขวับมามองเขาด้วยสายตาเย็นชา มองจนเขาไม่กล้าหายใจเสียงดังด้วยซำ ได้แต่แอบเบนสายตาออกไปทางอื่นเงียบๆ แสร้งทำเป็นชมนกชมไม้ แน่นอนว่าคำพูดที่เหลือย่อมพูดไม่ออกแล้ว
“พรืด! ฮ่าๆๆๆๆๆ…”
เฟิ่งจิ่วหัวเราะออกมาอย่างไม่อาจกลั้นอีกต่อไป จากหัวเราะเบาๆ ก็กลายเป็นหัวเราะเสียงดังอย่างอารมณ์ดี หัวเราะจนไม่เหลือภาพพจน์ แต่กลับดูเปิดเผยและเป็นธรรมชาติถึงเพียงนั้น
เห็นเฟิ่งจิ่วหัวเราะเสียงดังอย่างมีความสุข โม่เฉินได้แต่ส่ายหน้าด้วยความเอือมระอา ก่อนหัวเราะอย่างอ่อนโยน “เรื่องน่าอายของข้าแลกกับเสียงหัวเราะอันเบิกบานใจของอาจิ่วได้ ข้าก็พอใจแล้ว”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น เซวียนหยวนโม่เจ๋อที่เดิมทีกระตุกยิ้มมุมปากด้วยความย่ามใจพลันหน้าบึ้ง จ้องโม่เฉินที่ท่าทางเหมือนเซียนด้วยสายตาไม่เป็นมิตร รู้สึกว่าเจ้าหมอนี่เสแสร้งแกล้งทำ พอใจอะไรกัน? เห็นอยู่ว่าทำอะไรไม่ได้ต่างหาก
………………………………….