เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1943 ส่งมอบโฉนดที่ดิน / ตอนที่ 1944 ดึงดูดอย่างไร
ตอนที่ 1943 ส่งมอบโฉนดที่ดิน
เห็นพ่อของนางจ้องเหลิ่งหวาด้วยหน้าตาบึ้งตึง หยางเสี่ยวเอ้อร์จึงดึงเสื้อเขา “ท่านพ่อ พี่ชายเหลิ่งหวามาหาท่านที่บ้านเพราะมีธุระจะคุยกับท่าน”
เหลิ่งหวายิ้มๆ ก้าวไปข้างหน้าคารวะหนึ่งที “คารวะท่านผู้นำตระกูลหยาง วันนี้มาเยือนโดยมิได้บอกล่วงหน้า รบกวนแล้ว”
ผู้นำตระกูลหยางหันตัวเดินไปนั่งบนที่นั่งประธาน ก่อนถามว่า “เช่นนั้นเจ้ามาเยือนจวนหยางของข้าด้วยเรื่องใดกัน?” เขาเหลือบมองเหลิ่งหวาแวบหนึ่ง ยกถ้วยชาขึ้นจิบหนึ่งคำ
หยางเสี่ยวเอ้อร์ทำท่าจะอธิบาย แต่ถูกเหลิ่งหวายกมือห้ามไว้ก่อน ผู้นำตระกูลหยางไม่ได้เชิญให้เขานั่ง เขาจึงไม่นั่ง เพียงยืนอยู่กลางห้องโถง ตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “นายท่านของข้าอยากจะขอซื้ออาคารสามชั้นที่อยู่ในตลาดตะวันตกของท่านผู้นำตระกูลหยาง”
ได้ยินอย่างนั้น ผู้นำตระกูลหยางที่กำลังดื่มชาสำลักชาเล็กน้อย เขาวางถ้วยชาลงแล้วกระแอมสองสามที หลังจากดีขึ้นก็ถามด้วยน้ำเสียงที่สูงขึ้นเล็กน้อย “เจ้าว่าอย่างไรนะ? นายท่านของเจ้าอยากซื้ออาคารในตลาดของข้า?”
“ถูกต้อง” เหลิ่งหวาพยักหน้า
ผู้นำตระกูลหยางตะลึงเล็กน้อย แต่กลับไม่ได้ตอบรับทันทที เพียงครุ่นคิดในใจ จากนั้นก็จ้องพิจารณาเด็กหนุ่มตรงหน้า คนตรงหน้าแม้จะเรียกว่าเป็นเด็กหนุ่ม แต่ก็ถือว่าเป็นชายหนุ่มได้เช่นกัน เพราะเขาดูเหมือนจะอายุสิบเจ็ดสิบแปดปีแล้ว เสื้อผ้าสีขาวทั้งตัวดูเรียบง่าย บุคลิกอ่อนโยน ใบหน้ายิ่งดูงามโดดเด่น
ชายหนุ่มเช่นนี้ กลับเป็นเพียงบ่าวรับใช้? เพราะถึงอย่างไร บุคลิกที่ไม่แข็งกระด้างหรือถ่อมตัวเกินไปอย่างเขา เป็นสิ่งที่แม้แต่คุณชายจากตระกูลผู้ดีหลายคนก็ยังเทียบไม่ติด สามารถอบรมบ่าวรับใช้ให้ออกมาเป็นคนเช่นนี้ได้ นายท่านของเขา ต้องเป็นคนที่ยอดเยี่ยมขนาดไหนกันนะ?
“พวกเจ้าไปดูตลาดตะวันตกมาแล้วหรือ?” เขาถาม
“ดูมาแล้วขอรับ” เหลิ่งหวาตอบอย่างนุ่มนวล
“นายท่านของเจ้าพอใจรึ?” ยามถามประโยคนี้ ผู้นำตระกูลหยางก็รู้สึกว่าตนเองถามคำถามไร้สาระ ไม่พอใจจะมาขอซื้อที่นั่นกับเขาหรือ? ด้วยเหตุนี้จึงกระแอมเบาๆ ก่อนถามอีกว่า “นายท่านของเจ้าตั้งใจจะใช้ที่นั่นทำอะไร?”
เหลิ่งหวายิ้มอ่อนโยน “ท่านผู้นำตระกูลหยาง วันนี้ข้ารับคำสั่งจากนายท่านให้มาเจรจาการซื้อขายกับท่าน หากท่านสงสัย หลังจากขายที่นั่นให้พวกข้าแล้ว ใช้เวลาเพียงไม่นานไปเยือนที่นั่นดูสักครั้ง ย่อมรู้เองว่านายท่านของข้าทำธุรกิจอะไร แต่ตอนนี้ ยังไม่สะดวกเปิดเผยจริงๆ”
ผู้นำตระกูลหยางมองเหลิ่งหวาแวบหนึ่ง เขาเงียบไปก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “ที่นั่นไม่ใช่ถูกๆ นะ”
“ท่านผู้นำตระกูลหยางเป็นคนของเมืองร้อยนที ย่อมไม่มีทางโก่งราคาที่เดิน เสนอราคาสูงเกินควรอยู่แล้ว” เหลิ่งหวาตอบด้วยน้ำเสียงสุภาพ คล้ายไม่กังวลแม้แต่น้อยว่าเขาจะเสนอราคาสูง
ได้ยินอย่างนั้นผู้นำตระกูลหยางนัยน์ตาไหวระริก จ้องเหลิ่งหวาด้วยสายตาลึกซึ้ง ก่อนจะตะโกนออกไปข้างนอก “พ่อบ้าน”
“ท่านผู้นำตระกูล” ชายชราคนหนึ่งเดินเข้ามาจากข้างนอก ประสานมือคารวะอย่างนอบน้อม
“ไปเอาโฉนดที่ดินอาคารในตลาดตะวันตกมา” ผู้นำตระกูลหยางกำชับ
ได้ยินอย่างนั้น หยางเสี่ยวเอ้อร์ชอบใจมาก เพียงแต่เห็นเหลิ่งหวายังคงยืนอยู่ ก็อดกระตุกมือท่านพ่อของนางเพื่อส่งสัญญาณไม่ได้ ผู้นำตระกูลหยางเห็นกลับแค่นเสียงขึ้นจมูก ไม่ได้เชิญเขาให้นั่งลง
เหลิ่งหวากลับไม่ถือสา หลังจากสะสางธุระเสร็จ เขายังต้องกลับไปรายงานนายท่านของเขาอีก!
ไม่นาน พ่อบ้านสูงอายุก็นำโฉนดมา ผู้นำตระกูลหยางกับเหลิ่งหวาดำเนินขั้นตอนที่เหลืออยู่ในห้องโถงจนเสร็จ หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อย เหลิ่งหวาก็ประสานมือคารวะ “ข้าขอตัวกลับก่อน ท่านผู้นำตระกูลหยาง”
“ไม่ส่ง” ผู้นำตระกูลหยางเอ่ย นั่งนิ่งอยู่บนที่นั่งประธานไม่ขยับ ไม่รู้เพราะอะไร ยามเห็นหัวใจของลูกสาวตนเองผูกติดอยู่กับเด็กหนุ่มคนนั้น เขาก็อดปั้นหน้าเข้มไม่ได้
………………………………….
ตอนที่ 1944 ดึงดูดอย่างไร
หากนางชอบคุณชายตระกูลผู้ดีคนใดคนหนึ่งก็ยังดี หรือชอบนายท่านของเด็กหนุ่มคนนี้ก็ยังดี แต่นี่กลับชอบบ่าวรับใช้คนหนึ่ง แล้วจะให้เขาเห็นดีเห็นงามด้วยได้อย่างไรกัน!
“พี่ชายเหลิ่งหวา ข้าไปส่งท่านเอง” หยางเสี่ยวเอ้อร์รีบตะโกน พลางเดินตามไปติดๆ
ยามมาถึงนอกจวน หยางเสี่ยวเอ้อร์มองเขาอย่างรู้สึกผิด “พี่ชายเหลิ่งหวา ท่านอย่าโกรธท่านพ่อของข้าเลยนะ ความจริงเขาเป็นคนดีมาก แต่ไม่รู้วันสองวันนี้เป็นอะไร ทำตัวผิดปกติไปจากเดิม”
เหลิ่งหวาได้ยินแล้วก็เผยยิ้ม “ไม่เป็นไร ท่านผู้นำตระกูลหยางยอมขายอาคารหลังนั้นให้พวกเราง่ายๆ เช่นนี้ หนำซ้ำยังเป็นราคาปกติตามท้องตลาด จากจุดนี้ก็บอกได้แล้วว่าเขาเป็นคนที่ซื่อตรงและมีหลักการ”
หยางเสี่ยวเอ้อร์เห็นเขาไม่มีท่าทางไม่พอใจ จึงวางใจ “พี่ชายเหลิ่งหวา ท่านไม่โกรธก็ดีแล้ว เช่นนั้นท่านบอกกับพี่สาวเฟิ่งที พรุ่งนี้ข้าจะไปหานางอีก”
“ได้ เช่นนั้นข้าไปก่อนแล้ว ท่านกลับเข้าไปเถิด!” เหลิ่งหวาเอ่ย ก่อนหันตัวเดินจากไป
ในอีกด้าน หลังจากที่เฟิ่งจิ่วกับเซวียนหยวนโม่เจ๋อรวมถึงเหลิ่งซวงเดินตลาดเสร็จ กว่าจะกลับถึงจวนเฟิ่งก็เป็นเวลาพลบค่ำ เหลิ่งหวากลับถึงจวนนานแล้ว
“นายท่าน นี่เป็นโฉนดที่ดินขอรับ” เหลิ่งหวายื่นโฉนดที่เดินให้เฟิ่งจิ่ว
เฟิ่งจิ่วรับไปดูแวบหนึ่ง ก็ส่งคืนให้เขา “เจ้าเก็บไว้ก็ดีแล้ว พรุ่งนี้ข้าจะวาดแบบแปลน พวกเจ้าหาคนมาตกแต่งอาคารให้เร็วที่สุด”
“ขอรับ” เหลิ่งหวารับคำ ก่อนจะเก็บโฉนดที่ดินไป
เซวียนหยวนโม่เจ๋อกลับไปที่จวนหลิงแล้ว คืนนี้ เฟิ่งจิ่ววาดแบบแปลนด้วยตนเอง เช้าวันรุ่งขึ้นก็มอบให้เหลิ่งหวา สั่งให้คนเริ่มลงมือตกแต่ง
ช่วงเวลาหลังจากนั้น เฟิ่งจิ่วสั่งให้เหลิ่งหวาเก็บรวบรวมยาทิพย์ พลางปรุงยาไปด้วย ยุ่งจนไม่เห็นเงาคน ส่วนเซวียนหยวนโม่เจ๋อหลายวันนี้ก็ไม่ได้กลับไปที่จวนหลิงเท่าใดนัก แต่อยู่ที่จวนเฟิ่งตลอด ยามเฟิ่งจิ่วปรุงยาอยู่ในลานบ้าน เขาก็นั่งดูอยู่เงียบๆ ยามเธอจะออกไปข้างนอก เขาก็ไปกับเธอด้วย
เพราะไม่เห็นเซวียนหยวนโม่เจ๋อหลายวันแล้ว เซียนจื๋อสุ่ยรอจนเริ่มร้อนใจ หันไปมองฮุยหลางที่คอยติดตามอยู่ไม่ไกล ถามว่า “นายท่านของเจ้าเหตุใดหลายวันนี้จึงไม่เห็นเงาคนเลน? เขากำลังยุ่งอะไรอยู่?”
“ท่านเซียนโปรดอภัย เรื่องที่นายท่านไม่ได้บอก พวกข้าบ่าวรับใช้ไม่กล้าก้าวก่าย” ฮุยหลางก้มหน้าตอบ ไม่ได้บอกเขา ว่าหลายวันนี้นายท่านของเขายุ่งอยู่กับการตามติดภูตหมออยู่!
เซียนจื๋อสุ่ยมองเขาแวบหนึ่ง ขมวดคิ้ว เอามือไพล่หลังกล่าวว่า “นายท่านของเจ้ากลับมาเมื่อใดบอกข้าด้วย” เอ่ยจบ ก็หมุนตัวเดินเข้าไปในจวน
ในอีกด้านหนึ่ง เฟิ่งจิ่วกำลังเก็บยาที่เพิ่งปรุงเสร็จใส่ในห้วงมิติ จากนั้นก็พ่นลมหายใจเบาๆ “ยุ่งมาหลายวันในที่สุดก็ได้ผลผลิตเสียที ของพวกนี้ก็น่าจะพอแล้ว ไม่รู้ว่าทางนั้นตกแต่งไปถึงไหนแล้ว?”
“หลายคนยังไม่ได้กินข้าวเที่ยงกัน ออกไปกินข้าวข้างนอกแล้วถือโอกาสไปดูสักหน่อย” เซวียนหยวนโม่เจ๋อเสนอ ลุกขึ้นแล้วยื่นมือให้เธอ
“ดีเลย! พวกเราไปกินข้าวข้างนอกกัน” เธอยิ้มรับ ก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับเขา
หลายวันนี้ไม่ได้มีแค่เธอที่งานยุ่ง แม้แต่องครักษ์เฟิ่งทั้งแปดก็กำลังยุ่งอยู่กับการกระจายอำนาจไปยังเมืองต่างๆ ที่อยู่โดยรอบ พวกตู้ฝานกับเหลิ่งหวาจัดการเรื่องตกแต่งร้าน เหลิ่งซวงรับหน้าที่เฝ้าดูแลจวน เวลาหลายวันเรื่องที่ต้องเตรียมพร้อมก็เตรียมพร้อมหมดแล้ว ตอนนี้ ก็เหลือแต่รอให้ตกแต่งร้านเสร็จก็เปิดกิจการได้แล้ว
ทั้งสองเดินออกไปข้างนอก เซวียนหยวนโม่เจ๋อถาม “ที่นั่นค่อนข้างห่างไกลผู้คน พอถึงเวลาเจ้าจะดึงดูดลูกค้าอย่างไร? จะทำให้คนรู้ได้อย่างไรว่าเปิดกิจการวันนั้น?”
………………………………….