เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 993 เยือนหอคณิกาหลวงอีกครั้ง
บทที่ 993 เยือนหอคณิกาหลวงอีกครั้ง
บทที่ 993 เยือนหอคณิกาหลวงอีกครั้ง
“เท่านี้แหละ” องค์หญิงรัชทายาทโบกมือ
ซูอันประสานมือทำความเคารพและจากมา
มันเริ่มมืดแล้ว ดังนั้นชายหนุ่มจึงไปหาเผี่ยวตวนเตียวและเจียวซือกุน “พวกเจ้าเลิกงานกันหรือยัง? ถ้าเสร็จแล้วก็ไปกันเถอะ!”
“ไปไหน? อ…อ๋อออ” ทั้งสองมองอย่างแปลกใจ ก่อนจะเดาได้ว่าซูอันหมายถึงอะไร ความตื่นเต้นได้ทำให้ดวงตาของพวกเขาสว่างขึ้น “ไปกันเถอะ!”
แม้ว่าจะไม่มีใครพูดถึงที่ที่พวกเขากำลังจะไป แต่ผู้ชายคนไหนก็สามารถเดาจุดหมายปลายทางของพวกเขาได้จากความรุ่มร้อนในแววตา
แน่นอนว่าซูอันไม่ได้ตื่นเต้นกับการไปหอคณิกาหลวงเท่าไร สาว ๆ ข้างกายเขาสวยกว่าหญิงคณิกาที่นั่น ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องไปแสวงหาในที่แบบนั้น
วัตถุประสงค์หลักของเขาคืออวิ้นเจียนเยว่และชิวฮัวเล่ย เขาต้องการรู้ว่าพวกนางรอดชีวิตมาได้อย่างปลอดภัยหรือไม่?
นอกจากนี้ชายหนุ่มยังต้องการถามอวิ้นเจียนเยว่เกี่ยวกับบุคคลที่คอยติดตามพวกเขาก่อนหน้านี้
แหล่งกบดานของสำนักมารตั้งอยู่ในหอคณิกาหลวง แม้แต่เรื่องของเฉิงกังและการแทรกแซงของราชสำนักก็ไม่เพียงพอที่จะทำลายหรือเปิดโปงความลับของฐานที่มั่นได้ สำนักมารได้ตระเตรียมทุกอย่างไว้ล่วงหน้าและสละทรัพยากรบางส่วนเพื่อหลอกล่อผู้สืบสวน ทำให้การดำเนินกิจการของหอคณิกาหลวงยังคงเป็นปกติ
เนื่องจากเผี่ยวตวนเตียวและเจียวซือกุนได้ช่วยเขาจากราชันลมปราณโดยการแจ้งข่าวแก่องค์หญิงรัชทายาท เขาสามารถใช้เหตุผลในการตอบแทนบุญคุณเพื่อปกปิดวัตถุประสงค์ที่แท้จริงในการมาเยือนหอคณิกาหลวงได้
หลังจากความตื่นเต้นผ่านไป เผี่ยวตวนเตียวกล่าวว่า “พี่ซู คืนหนึ่งในหอคณิกาหลวงมีค่าเท่ากับเงินเดือนครึ่งเดือน ท่านเพิ่งมาที่เมืองหลวงและอาจยังไม่ได้รับเงินเดือน จะมีปัญหาอะไรหรือไม่?”
เขาถามหยั่งเชิงซูอัน
ซูอันยิ้มตอบ “ไม่ต้องเป็นห่วง พวกเจ้าสามารถใช้ค่ำคืนในหอคณิกาหลวงได้เต็มที่เลย”
ผู้ชายคนนี้เรียกเขาว่าพี่แล้ว! ช่างเอาใจง่ายจริง ๆ
ดวงตาของเผี่ยวตวนเตียวพลันสว่างขึ้นซึ่งตัดกับวงหมองคล้ำรอบ ๆ ทันที “ท่านเป็นคนใจกว้างจริง ๆ พี่ซู! ข้าได้ยินมาว่ามีคณิกาใหม่สองสามคน วันนี้มาลองดูกัน”
เจียวซือกุนเยาะเย้ย “แล้วใครที่บ่นปวดหลังและถามหายาบำรุงกำลังเมื่อวันก่อน? แม้ว่าจะมีหญิงคณิกาอยู่ตรงหน้า ไอ้นั่นของเจ้าจะฟื้นจากความแห้งเหี่ยวหรือไม่?”
เผี่ยวตวนเตียวโกรธจัด เขาพูดอย่างไว้เชิง “ไร้สาระ! ข้าไปพูดแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไร? ข้าแค่มองหายานอนหลับ ไม่ต้องพูดถึงคณิกาอันดับหนึ่งหรอก ข้าแน่ใจว่ามันจะพุ่งชูชันแน่ ๆ แม้ว่าจะเป็นเจ้าที่นอนอยู่บนเตียงก็ตาม”
“จิ๊ ๆ ด้วยไม้จิ้มฟันอันน้อยของเจ้า ข้าคงเผลอหลับไปไม่รู้ตัว” เจียวซือกุนตอบโต้กลับ
“อะไรไม้จิ้มฟันน้อย? ถ้าเจ้ากล้าก็เอามาเทียบกัน!” เผี่ยวตวนเตียวตวาดแว้ดเหมือนแมวถูกเหยียบหาง
“แน่นอน ทำไมจะไม่กล้าล่ะ? ข้ากำลังจะไปฉี่อยู่เนี่ย” เจียวซือกุนกล่าวพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ เขาเดินไปที่ต้นไม้ใหญ่ แล้วผิวปากขณะทำธุระไปด้วย
เมืองต่าง ๆ ในโลกนี้ไม่ได้เป็นมหานครที่สะอาดและเป็นระเบียบเหมือนเมืองในโลกสมัยใหม่ ไม่มีห้องน้ำสาธารณะ และการปลดทุกข์ในที่สาธารณะถือเป็นเรื่องธรรมดา
เผี่ยวตวนเตียวเลิ่กลั่กอยู่ชั่วครู่ ในที่สุดเขาก็กัดฟันเดินไปปัสสาวะ พยายามอย่างเต็มที่ที่จะอยู่ห่างจากเจียวซือกุน
เจียวซือกุนมองดูแล้วก็เกือบจะหัวเราะออกมา “อันเท่านั้นน่ะ?”
เผี่ยวตวนเตียวพ่นลมหายใจ “ของเจ้าก็ไม่ได้ใหญ่นี่!”
เสียงน้ำไหลทำให้ซูอันอยากจะปัสสาวะเช่นกัน
เขาเดินไปตรงกลางระหว่างทั้งสอง เผี่ยวตวนเตียวและเจียวซือกุนเหลือบมองมาอย่างเงียบ ๆ เจียวซือกุนเต็มไปด้วยความมั่นใจในขณะที่เผี่ยวตวนเตียวหวังว่าขนาดของ ‘พี่ซู’ จะใกล้เคียงกัน
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองตัวสั่นเมื่อเหลือบมอง รอยยิ้มของพวกเขาแข็งค้างในทันที
บัดซบ? นั่นเป็นของมนุษย์จริงหรือ?!!!
ทั้งสองก้าวไปด้านข้าง เว้นระยะห่างระหว่างซูอันกับตนเองมากขึ้น
พวกเขาส่ายขาสองสามครั้งก่อนจะดึงกางเกงขึ้นอย่างหดหู่
เผี่ยวตวนเตียวรู้สึกเหมือนทุกอย่างไม่มีความหมาย ในขณะที่เจียวซือกุนกำลังตั้งคำถามกับตัวเอง
ทั้งสองไม่ได้โต้เถียงกันอีกต่อไปและสงบลง
ซูอันยิ้มเยาะและถาม “ทำไมเจ้าทั้งสองไม่พูดอะไรเลย?”
เผี่ยวตวนเตียวและเจียวซือกุนหันกลับมามอง สีหน้าของพวกเขาขัดแย้งกันอย่างไม่น่าเชื่อ
เจียวซือกุนรู้สึกหดหู่ใจ เหนือฟ้าย่อมมีฟ้า… บ้าจริง! ข้าจะไม่อวดเรื่องนี้อีก
ข้าต้องถามท่านซูว่าทำอย่างไรถึงจะใหญ่ได้ขนาดนั้น แม้ว่าข้าจะรู้เคล็ดลับได้เล็กน้อย แต่ก็เพียงพอแล้วที่จะชนะเจียวซือกุน! ไอ้สารเลวนั่นชอบคุยโวต่อหน้าข้าได้ตลอดเวลา นี่คือความกังวลหลักในใจของของเผี่ยวตวนเตียว
ข้าใจร้ายเกินไปหรือเปล่า? เฮ้อ แต่การไม่อวดตัวก็เหมือนกับสวมเสื้อผ้าที่ดีที่สุดในคืนเดือนมืด นี่เป็นโอกาสที่หายากที่จะอวดสักหน่อย ไม่เป็นไรใช่ไหม?
นี่คือความคิดของซูอัน
แต่ละคนหมกมุ่นอยู่กับความคิดของตนเอง ไม่นานพวกเขาก็มาถึงหอคณิกาหลวง
ซูอันติดต่อผู้ดูแลหญิงผ่านสัญญาณลับที่เขาตกลงไว้กับชิวฮัวเล่ย นางรีบกลับมาพร้อมกับกลุ่มหญิงสาว
“นายน้อย พวกนี้เป็นหญิงงามที่โด่งดังที่สุดของเรา เลือกได้ตามใจชอบเลย” ผู้ดูแลหญิงกล่าวด้วยรอยยิ้มกว้าง ขณะที่พูด นางเอนตัวมาทางซูอัน หน้าอกที่กว้างขวางของนางเกือบจะสัมผัสเขา น้ำหอมกลิ่นแรงอบอวลอยู่เต็มจมูก
ซูอันเดินเข้าไปด้านในโดยไม่ได้สบตา เขาไม่ได้รีบมากขนาดต้องเลือกคนดูแลหอคณิกา
ผู้หญิงที่นางพาออกมาก็ไม่ได้แย่ นางทั้งหมดงดงามเมื่อเทียบกับบรรดาดาวคณะในมหาวิทยาลัยโลกก่อนหน้าได้
เฮ้อ เขาเริ่มคิดถึงวันเวลาในอดีตขึ้นมาแล้ว…
ห้ะ! ในโลกก่อนหน้าข้าเป็นหนุ่มสะอาดและรักสุขภาพ! ข้าจะไปเที่ยวซ่องได้อย่างไร?
เขากระแอมและชี้ไปที่เผี่ยวตวนเตียวกับเจียวซือกุน “วันนี้พวกเขาเป็นแขกของข้า ดูแลให้ดี”
ว่าแต่… ข้าไม่ต้องจ่ายอะไรเลยใช่ไหม?
ไม่มีทางที่สำนักมารจะเรียกเก็บเงิน เนื่องจากความสัมพันธ์ของข้ากับสำนักมาร
ซูอันรู้สึกดีขึ้นมากในทันที
ผู้ดูแลหอคณิกายิ้มแย้มแจ่มใส “ไม่มีปัญหา! สาวๆ ดูแลนายท่านทั้งสองดี ๆ นะ”
ด้วยความตื่นตระหนก เผี่ยวตวนเตียวและเจียวซือกุนก็เริ่มกระซิบกัน
“เจ้าตัดสินคนจากรูปลักษณ์ไม่ได้จริง ๆ! พี่ซู เห็นนิ่ง ๆ ซื่อ ๆ แต่กลับดูช่ำชองในสถานที่แบบนี้!” เจียวซือกุนกล่าวพร้อมกับถอนหายใจ ซูอันดูราวกับกำลังรับแขกอยู่ในบ้านของตัวเอง
เผี่ยวตวนเตียวก็มั่นใจเช่นกัน “กับหอคณิกาหลวง ข้าคิดว่าข้าค่อนข้างเชี่ยวชาญแล้วนะ แต่พอมาเทียบกับพี่ซู ข้าไม่จัดว่าเป็นตัวอะไรเลย”
เมื่อไรก็ตามที่พวกเขามาที่นี่ พวกเขาจะเลือกแต่คณิกาธรรมดาเท่านั้น แต่ตอนนี้พวกเขาจะได้อยู่ท่ามกลางสาว ๆ ที่โด่งดังที่สุดที่พวกเขาไม่เคยกล้าฝันถึงมาก่อน!
ผู้หญิงเหล่านี้มีหน้าตาและรูปร่างที่เหนือชั้นกว่ามากเมื่อเทียบกับคณิกาทั่วไป