เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 951 ลงมือก่อนชิงความได้เปรียบ
บทที่ 951 ลงมือก่อนชิงความได้เปรียบ
ซูอันรีบกลับไปที่เรือนพักของตัวเองอย่างรวดเร็ว อวิ้นเจียนเยว่กำลังนอนอยู่บนริบบิ้นผ้าไหม ร่างของนางแกว่งไปมาราวกับว่านางรู้สึกชอบที่จะนอนอยู่บนนั้น
นางอาจจะตกลงมาถ้านางหลับไป แต่การเอนกายพักผ่อนระหว่างวันไม่ใช่ปัญหา
อืม…แบบนี้มันรู้สึกสบายดีเหมือนกัน เมื่อข้ากลับไปที่สำนักข้าก็จะนอนแบบนี้ต่อ…
“พี่สาวเจ้าสำนัก ท่านยังคงงดงามสูงส่งได้ตลอดเวลาจริง ๆ! เมื่อกี้ข้ากลัวจนเกือบตายแน่ะ!”
ซูอันนั่งลง ยิ้มกว้าง เขาเทชาใส่ถ้วยให้ตัวเอง การวิ่งไปวิ่งมาตลอดวันทำให้เขาค่อนข้างเหนื่อย
ถ้าข้าสามารถสร้างร่างโคลนของตัวเองได้เหมือนซุนหงอคงล่ะก็…
ขณะที่เขาจิบชาและชื่นชมความงามอันน่าอัศจรรย์ตรงหน้า เขาก็ค่อย ๆ ผ่อนคลาย
อวิ้นเจียนเยว่พ่นลม “ความสัมพันธ์ของเจ้ากับองค์หญิงรัชทายาทดูดีนี่? มีนางคอยปกป้องเจ้าแบบนั้นย่อมไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเจ้าง่าย ๆ แน่”
เมื่อครู่นี้นางเสนอความช่วยเหลือให้เขาแท้ ๆ แต่เขากลับปฏิเสธนางโดยไม่ลังเลเพียงเพื่อหวังพึ่งผู้หญิงคนอื่น! ฮึ่ม! เจ้าคิดว่าข้าไม่มีศักดิ์ศรีเลยหรือไง?
“นั่นเป็นเพราะข้าเคยช่วยชีวิตนางมาก่อน” ซูอันอธิบาย “นางแค่ตอบแทนข้า ระหว่างเราไม่มีอะไรอื่น”
เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้หญิงอีกคน มันจะดีกว่าเสมอที่จะไม่ลงรายละเอียดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของตัวเองกับผู้หญิงคนอื่น ชายเจ้าสำราญทุกคนจดจำหลักคำสอนนี้ขึ้นใจ
แต่หารู้ไม่ คำตอบนี้ของเขาทำให้อวิ้นเจียนเยว่โกรธ นางลุกขึ้นนั่ง ทันทีแต่ความบางของริบบิ้นไหมที่บีบรัดสะโพกของนางทำให้ดูเย้ายวนยิ่งขึ้น
“แค่คิดก็โกรธแล้ว! ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้า เราคงฆ่ารัชทายาทและองค์หญิงนั่นไปแล้วและใส่ร้ายราชันลมปราณได้สำเร็จ! และข้าจะไม่ต้องเผชิญหน้ากับจักรพรรดิเช่นกัน! ซึ่งข้าจะไม่ได้รับบาดเจ็บ…” การพูดจาเริ่มรุนแรงขึ้นด้วยความโกรธขณะที่นางด่าทอต่อไป
—
ท่านยั่วยุอวิ้นเจียนเยว่สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +555…555…555…
—
ซูอันรู้สึกราวกับเพิ่งแหย่รังแตน “ข้าไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าท่านพยายามจะทำอะไร” เขาพูดอย่างรวดเร็ว “ตอนนี้การต่อสู้ระหว่างราชันลมปราณและรัชทายาทอยู่ในจุดตึงเครียด จะกำจัดรัชทายาทเพื่อใส่ร้ายราชันลมปราณ? ไม่ว่าจักรพรรดิจะโกรธเคืองเพียงใด พระองค์ก็ไม่สามารถกำจัดราชันลมปราณได้ทันที และเมื่อทุกอย่างสงบลง พระองค์จะตระหนักว่าเรื่องราวทั้งหมดมีลับลมคมใน”
หากราชันลมปราณครองบัลลังก์ เขาจะมีพลังมากกว่ารัชทายาทที่โง่เง่าและสำนักมารจะพบว่าการเอาชีวิตรอดนั้นยากกว่ามาก
อวิ้นเจียนเยว่พ่นลม “เจ้าไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้น เรามีความคิดของเราเองอยู่แล้ว”
ซูอันขมวดคิ้ว “แต่จักรพรรดิรู้ตัวตนของท่านแล้ว ความพยายามของท่านที่จะใส่ร้ายราชันลมปราณล้มเหลวไปแล้ว!”
“ทั้งหมดเป็นเพราะเจ้าไม่ใช่เหรอที่ตัวตนของข้าถูกเปิดเผย?” อวิ้นเจียนเยว่กัดฟันด้วยความโกรธ “แล้วถ้าเขารู้ตัวตนของข้าแล้วมันอย่างไร? ใครเป็นคนบอกว่าสำนักศักดิ์สิทธิ์ไม่สามารถลี้ภัยเข้ากับฝ่ายราชันลมปราณได้?”
ซูอันมีสีหน้าแปลก ๆ รู้สึกผิดหวังในคำตอบของนาง เขาจึงเปลี่ยนบทสนทนา “ตอนข้าออกจากวังก่อนหน้านี้ ข้าได้พบกับฮัวเล่ยและบอกเล่าทุกอย่างกับนาง ข้าซื้อเปลผ้านี้มาให้ท่านด้วย”
ความโกรธของอวิ้นเจียนเยว่ลดลงอย่างมากเมื่อนางเห็นว่าเขายังคงทำธุระให้นาง นางยังจำได้ว่าเขาช่วยชีวิตนางไว้ “ฮัวเล่ยสบายดีไหม?”
“สบายดี แต่นางรู้สึกสลดใจที่สหายของนางถูกจับ” ซูอันตอบ
อวิ้นเจียนเยว่ลังเลเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ดูเหมือนว่าเจ้าจะพอมีอำนาจในวังนี้ หากมีโอกาส ช่วยปลดปล่อยเชลยของสำนักศักดิ์สิทธิ์ที หรือถ้าเจ้าช่วยพวกเขาไม่ได้ คงจะดีถ้าเจ้าสามารถยุติความทุกข์ยากของพวกเขาได้อย่างรวดเร็ว”
ซูอันกลอกตา “แม้แต่ตัวข้าเองยังแทบเอาตัวไม่รอด อะไรทำให้ท่านคิดว่าข้าจะสามารถสละเวลาหรือเสี่ยงตัวเองไปช่วยคนอื่นได้อีก?”
“ท่านหมายถึงอะไร ลงมือก่อนเพื่อชิงความได้เปรียบ? ท่านพูดอย่างกับว่ามันง่ายนัก!” ซูอันโต้กลับอย่างอารมณ์เสีย
อวิ้นเจียนเยว่เย้ยหยัน “เจ้านี่มันแสนจะโง่เลย! จักรพรรดิไม่ได้มอบหมายให้เจ้ารับผิดชอบในการค้นหาหรือว่า ใครเป็นคนเปิดเผยข้อมูลที่เขาไม่ได้อยู่ในวัง? เจ้าจะไม่สามารถจัดการกับเฉิงซยงได้อย่างไรทั้ง ๆ ที่มีอำนาจของจักรพรรดิอยู่เบื้องหลัง?”
ใบหน้าของซูอันสว่างขึ้น “เฉิงซยงให้ข้อมูลเจ้าเหรอ? เดี๋ยวนะ ดูเหมือนจะไม่ถูกต้อง”
เขารีบปฏิเสธความคิดนี้ ถ้าเฉิงซยงเป็นคนวงในของอวิ้นเจียนเยว่ นางคงไม่บอกเขาในลักษณะนี้
อวิ้นเจียนเยว่ยิ้มจาง ๆ นางถามคำถามอื่นเป็นการตอบ “เจ้าคิดว่าจักรพรรดิได้สงสัยใครบางคนก่อนที่เขาจะให้เจ้ารับผิดชอบการสอบสวนนี้หรือเปล่า? และผู้ต้องสงสัยหลักของเขาเป็นใคร?”
สมองของซูอันเริ่มประมวลผลหาผู้ต้องสงสัยที่เป็นไปได้ทีละคน
จูเซี่ยฉือซิน? ไม่ เขาเป็นคนสนิทของจักรพรรดิมาหลายปีแล้ว จักรพรรดิไม่น่าจะสงสัยเขา
ขันทีส่วนพระองค์? ดูเหมือนจะไม่ถูกต้องเช่นกัน ถ้าจักรพรรดิสงสัยจริง ๆ ก็แค่ทรมานพวกเขาให้สารภาพ ไม่จำเป็นต้องให้ทูตยุทธ์เสื้อแพรทองอย่างข้าสืบสวน
นั่นทำให้แม่ทัพกองทหารฝ่ายซ้าย…
ตอนนี้เขาได้เรียนรู้ว่าเฉิงซยงเป็นส่วนหนึ่งของฝ่ายราชันลมปราณ
“เฉิงซยง!” ซูอันโพล่งออกมา
อวิ้นเจียนเยว่พยักหน้าราวกับว่าภูมิใจในตัวเขา “ถูกต้อง ราชันลมปราณมีอิทธิพลอย่างมากต่อกองทัพ เนื่องจากได้รับการสืบทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น อิทธิพลนี้ไม่เพียงแต่แผ่ขยายไปทั่วกองทัพท้องถิ่น แต่รวมถึงภายในพระราชวังด้วย ถ้าเจ้าเป็นจักรพรรดิ เจ้าจะรู้สึกสบายใจไหมที่ปล่อยให้ตำแหน่งสำคัญเช่นแม่ทัพฝ่ายซ้ายไว้กับคนของฝ่ายราชันลมปราณ?”
“ย่อมไม่” ซูอันรู้สึกตื่นเต้นเช่นกัน และคำนวณต่อจากจุดที่นางค้างไว้ “พวกนักฆ่าต่างยืนยันว่ามีความเกี่ยวข้องกับราชันลมปราณ…ไม่สิ ที่จริงแล้ว ต่อให้ความเป็นจริงนักฆ่าจะไม่เกี่ยวข้องกับราชันลมปราณ จักรพรรดิจะไม่มีวันปล่อยให้โอกาสดี ๆ เช่นนี้หลุดมือไป เขาจะใช้มันโยนโทษให้คนของฝ่ายราชันลมปราณและใช้เป็นข้ออ้างในการล้มล้างฝ่ายราชันลมปราณออกจากราชสำนัก”
ไม่น่าแปลกใจเลยที่อวิ้นเจียนเยว่มีความมั่นใจมาก ไม่เป็นไรหากนางถูกเปิดเผย เพราะนางมั่นใจว่าจักรพรรดิจะยังคงทำตามแผนของพวกนาง ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด ปีกของราชันลมปราณก็จะถูกตัดออกอย่างแน่นอน นี่ไม่ใช่แผนที่ต้องเก็บงำเป็นความลับสูงสุด แต่เป็นแผนที่จะใช้ได้ทั้งสองทาง นี่คือเหตุผลที่นางไม่สนใจว่าจะถูกเปิดเผยตัวตนเลย
ซูอันมองอวิ้นเจียนเยว่ด้วยสายตาซับซ้อน “พี่สาวเจ้าสำนัก ท่านเป็นคนเจ้าเล่ห์จริง ๆ”
“ชมเกินไปแล้ว” อวิ้นเจียนเยว่เต็มไปด้วยความสุข “เจ้าเองก็ไม่ได้แย่นะเด็กน้อย”