เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 1110 ทะลวงระดับ
บทที่ 1110 ทะลวงระดับ
……….
บทที่ 1110 ทะลวงระดับ
“เจ้าไม่ควรดีใจเร็วเกินไป” สีหน้าของหมี่ลี่เปลี่ยนไปในขณะที่พูด “เจ้าไม่สามารถใช้ข้ออ้างว่าได้รับผลกระทบจากยาปลุกกำหนัดเพื่อล่วงละเมิดผู้หญิงคนอื่นได้อีก”
ซูอันพูดอย่างตรงไปตรงมาทันทีว่า “ข้าเป็นคนประเภทนั้นเหรอ? ข้าใช้ชีวิตอย่างเที่ยงตรงและแสวงหาความรักด้วยเสน่ห์ของตัวเองมาตลอด…”
หมี่บลี่ตัดบททันที “ฮะ!” สายตาของนางมองไปทางอวิ๋นอวี้ชิงซึ่งอยู่ข้าง ๆ “จิ๊ ๆ นี่คือฮูหยินอู๋ที่เจ้าพูดถึงใช่ไหม? นางเป็นสาวงาม ข้ารู้สึกสงสารจริง ๆ…”
ทันใดนั้นนางก็มองซูอันด้วยความโกรธ “เจ้าเป็นตัวอะไรกันแน่! ทำไมถึงได้ครอบครองสาวงามมากมาย?”
—
ท่านยั่วยุหมี่ลี่
สำเร็จได้รับคะแนนความโกรธแค้น +33 +33 +33…
—
ซูอันเชิดคางขึ้นอย่างภาคภูมิใจและพูดว่า “เห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะเสน่ห์ที่หาที่เปรียบมิได้ของข้า”
เปลือกตาของหมี่ลี่กระตุก “อย่าให้ข้าต้องทุบตีเจ้า”
อวิ๋นอวี้ชิงพูดด้วยความประหลาดใจ “อาการบาดเจ็บของเจ้าฟื้นตัวเร็วมาก บาดแผลภายในประสานกันหมดแล้ว!” นางช่วยเหลือเขามาตลอด ดังนั้นจึงสัมผัสได้ว่าร่างกายของซูอันกำลังฟื้นตัว
“ฮ่า ๆ เจ้าก็รู้ว่าร่างกายของข้าแข็งแกร่งแค่ไหน?” ซูอันตอบทันที จากนั้นจึงมองหมี่ลี่ด้วยความรู้สึกผิด
หมี่ลี่ไม่พอใจ “มองข้าเพื่ออะไร? นางอยู่กับเจ้าในบ่อน้ำพุร้อนนี้แล้ว ถ้ายังไม่ทำอะไรจะเรียกว่าผู้ชายได้อีกไหม?” นางมีธรรมชาติที่แข็งกร้าวมาโดยตลอด เมื่อเห็นรูปลักษณ์ที่อ่อนโยนของอวิ๋นอวี้ชิงจึงเกิดแรงกระตุ้นอย่างมากที่จะกลั่นแกล้งหญิงสาวคนนี้
น่าเสียดายที่หมี่ลี่ไม่สามารถทำอะไรได้มากนักในสภาพจิตวิญญาณแบบนี้ ดังนั้นนางจึงทำได้เพียงยืมมือของซูอันกลั่นแกล้งอวิ๋นอวี้ชิง
ซูอันไม่รู้ว่าหมี่ลี่กำลังคิดอะไรอยู่ เขาพูดอย่างเขินอาย “แต่มันน่าอายนิดหน่อยที่ท่านคอยดูอยู่…”
หมี่ลี่ไม่พอใจ “ใครจะอยากดูเจ้าทำเรื่องสกปรกแบบนี้” ร่างของนางแดงวาบทันทีที่พูดจบ และนางก็หายไป
ซูอันถอนหายใจด้วยความโล่งอก แรงกดดันที่มี่ลี่มอบให้เขานั้นมากเกินไป นอกจากนี้ การกระซิบคำหวานกับผู้หญิงต่อหน้าผู้หญิงอีกคนหนึ่งทำให้รู้สึกเหมือนกำลังรนหาที่ตาย
ข้างเขา อวิ๋นอวี้ชิงพูดอย่างสนุกสนานว่า “เจ้านี่แย่จริง ๆ…”
ซูอันไม่สามารถห้ามใจตัวเองได้ และจับเอวของอวิ๋นอวี้ชิงอย่างเบามือเมื่อได้ยินสิ่งที่นางพูด ผิวของนางเรียบลื่นในบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้
อวิ๋นอวี้ชิงไม่ปฏิเสธ โน้มตัวเข้าสู่อ้อมกอดของเขาอย่างอ่อนโยน ร่างกายหนุ่มสาวทั้งสองร้อนขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อพวกเขาเบียดชิดเข้าหากัน นางพูดว่า “อาซู…”
“หืม…?” ซูอันได้ตอบกลับ
อวิ๋นอวี้ชิงไม่ได้พูดอะไรอีก แต่กลับเขย่งปลายเท้าจูบซูอัน นางรู้สึกประทับใจอย่างยิ่งเมื่อได้ยินว่าซูอันเต็มใจที่จะเสียสละโลกทั้งใบเพื่อนาง
ริมฝีปากอันอ่อนนุ่มของนางเหมือนเสียงแตรเดี่ยวที่เป่าเพื่อเริ่มสงคราม ซูอันจะยังหักห้ามใจไว้ได้อย่างไร? น้ำเริ่มกระเซ็นไปทุกที่ ผิวน้ำกระเพื่อมรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ราวกับเป็นตัวแทนของจิตวิญญาณของอวิ๋นอวี้ชิง…
…
เวลาผ่านไปเนิ่นนาน ร่างกายทั้งหมดของอวิ๋นอวี้ชิงนั้นนุ่มราวกับผ้าฝ้ายขณะที่นางอยู่ในอ้อมกอดของซูอัน ผิวที่ขาวราวหิมะของนางถูกแต่งแต้มด้วยสีชมพูสวยงาม ทำให้นางดูน่ารักขึ้นเรื่อย ๆ รูปร่างของนางสลัวรางอยู่ท่ามกลางกลุ่มไอน้ำราวกับว่าเป็นเทพธิดาจากสวรรค์
“อาซู!” อวิ๋นอวี้ชิงกดแก้มแน่นกับหน้าอกของซูอัน นัยน์ตาที่เอ่อล้นไปด้วยน้ำมองชายผู้ซึ่งปราบนางลงอย่างสิ้นเชิงทั้งทางร่างกายและจิตใจ
ซูอันโอบกอดร่างอันอ่อนนุ่มของนาง รู้สึกสดชื่นอย่างเต็มที่ ทุกสิ่งทั้งหมดเต็มไปด้วยความสุข นอกจากนี้เขาค้นพบว่าการสู้รบที่เข้มข้นได้นำพาเขาผ่านคอขวดมาได้ ไม่เพียงแต่เขาจะเลื่อนระดับชั้นในวิชาปฐมบทแรกเริ่มเท่านั้น การบ่มเพาะของเขายังทะลุไปถึงระดับแปดแล้ว
ก่อนหน้านี้ที่เขาอยู่ที่ขั้นสูงสุดของระดับเจ็ด หลังจากที่ศรจากหน้าไม้มหาศาลทะลุเข้ามาในร่างกาย อาการบาดเจ็บที่จะพรากผู้บ่มเพาะระดับเดียวกันให้จากไปในทันทีนั้นเป็นสิ่งที่เขาจำเป็นต้องพึ่งพาวิชาปฐมบทแรกเริ่มเพื่อความอยู่รอด
อาการบาดเจ็บที่ร้ายแรงนี้เพียงพอที่จะผลักดันให้ซูอันผ่านเข้าสู่ระดับแปด ซึ่งสำหรับผู้บ่มเพาะธรรมดา ระหว่างระดับเจ็ดและแปดคล้ายกับมีหลุมขนาดใหญ่อยู่ พวกเขาจำเป็นต้องแสวงหาเต๋าของตนเองเพื่อที่จะเข้าสู่ระดับที่แปด
ความยากคือไม่สามารถเลือกเต๋าแบบมั่วซั่วได้ เต๋านี้ต้องสอดคล้องกับต้นกำเนิดของโลกและต้องสอดคล้องกับธรรมชาติของตัวเองด้วย หากพวกเขาเลือกผิด โอกาสในอนาคตอาจพังทลาย นี่เป็นสาเหตุที่ผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนติดอยู่ที่ขั้นสูงสุดของระดับเจ็ดเป็นเวลานาน บางคนที่เคยเป็นอัจฉริยะในวัยเยาว์ถูกกักขังอยู่ที่นั่นตลอดกาล
แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องยากสำหรับซูอันในการก้าวไปสู่ระดับแปดเหมือนกับคนอื่น ๆ เพราะเขาบ่มเพาะวิชาวัฏจักรหงส์อมตะ แต่เขาก็ยังต้องแสวงหาเต๋า ซึ่งง่ายกว่าสำหรับเขาเพราะไม่ต้องดำเนินการกระบวนการที่ไม่รู้จบเพื่อกลั่นพลังชี่ที่แท้จริง
แม้ว่าซูอันจะมีความทะเยอทะยานมาก่อน แต่ก็ไม่เคยมีความชัดเจน แต่ในช่วงเวลานั้น เมื่อเขาได้สัมผัสเรือนร่างที่นุ่มนวลและอ่อนโยนของฮูหยินอู๋และนึกถึงจักรพรรดินีที่เคยร่วมเตียงในวังไร้พิพาทเมื่อไม่กี่วันก่อน เขาได้นึกถึงความรู้สึกที่มีอำนาจเหนือกว่า ซึ่งครอบครองชีวิตของผู้อื่นอยู่ในกำมือ ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักว่าผู้ชายคนหนึ่งต้องฝึกม้าของเขาด้วยแส้อย่างเต็มกำลัง และต้องการบารมีเฉกเช่นเสือเจ้าป่า เขาต้องการเป็นคนที่มีอำนาจมากที่สุดในโลก!
เขามองไปยังทิศทางของพระราชวังโดยไม่รู้ตัว แม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะมีความคิดที่จะเหนือกว่าจักรพรรดิ แต่ความน่าเกรงขามและอำนาจของจักรพรรดิทำให้เขาฝังใจลึกไปถึงจิตใต้สำนึก
ต้องขอบคุณภาพลวงตาของเจียซืออี๋ ในที่สุดเขาก็รวบรวมความกล้าที่จะชักกระบี่ออกมาและเอาชนะจักรพรรดิแบบตัวต่อตัวได้ แม้ว่าทั้งหมดนั้นจะเป็นของปลอม ซูอันก็ยังสามารถเอาชนะปีศาจภายในใจตัวเองได้
องค์ประกอบทั้งหมดเหล่านี้รวมกันส่งผลให้การบ่มเพาะของซูอันทะลุมาถึงระดับแปดในที่สุด
…
ขณะเดียวกันในพระราชวังหลวง จักรพรรดิกำลังบ่มเพาะ ทันใดนั้นก็ลืมตาขึ้นและมองไปยังขอบฟ้าด้วยสีหน้าครุ่นคิด จ้าวฮั่นรู้สึกงงงวยเล็กน้อย ทำไมจู่ ๆ เขาถึงรู้สึกตื่นตระหนกแปลก ๆ? นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่สัมผัสถึงความรู้สึกที่น่ารำคาญเช่นนี้?
เขาขมวดคิ้วและเรียกขันทีเหวินจากข้างนอก “เหวินน้อย ช่วยข้าตรวจดูว่าวังตะวันออกมีการเคลื่อนไหวใดหรือไม่”
ขันทีเหวินลังเลเล็กน้อยและถามว่า “ฝ่าบาททรงต้องการจะตรวจสอบไกลแค่ไหน?” วังตะวันออกนั้นกว้างใหญ่เกินไป เป็นไปไม่ได้เลยที่จะตรวจสอบทุกอย่าง
จักรพรรดิมองเขาอย่างเย็นชา เอ่ยย้ำคำว่า “ทุกอย่าง!” อย่างชัดเจน
“เข้าใจแล้ว!” ขันทีเหวินตื่นตระหนก เป็นเวลานานแล้วที่จักรพรรดิจริงจังถึงเพียงนี้ เห็นได้ชัดว่าเขาจะไม่ยอมพลาดเหตุการณ์น้อยใหญ่ใด ๆ ในการสืบสวนทั้งหมด
…
ซูอันซึ่งอยู่ในคฤหาสน์อ๋องอู๋ไม่รู้ว่าเต๋าของเขาส่งผลกระทบต่อจักรพรรดิเช่นเดียวกับชะตากรรมของผู้คนจำนวนมากในวังตะวันออก
“อาซูเจ้าทะลวงระดับงั้นเหรอ!?” อวิ๋นอวี้ชิงถามด้วยความตกใจและดีใจอย่างมาก ทั้งสองอยู่ใกล้ชิดกัน นางจึงไวต่อการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ของร่างกายเขามากที่สุด ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความเคารพ เป็นธรรมชาติของผู้หญิงที่ชอบผู้ชายที่แข็งแกร่ง
“ใช่” ซูอันโอบกอดนางด้วยรอยยิ้ม “ขอบคุณเจ้ามาก”
“ขอบคุณข้าเหรอ” อวิ๋นอวี้ชิงดูงุนงงเล็กน้อย
ซูอันขยับไปที่หูของนางและกระซิบอะไรบางอย่าง อวิ๋นอวี้ชิงหน้าแดงทันทีและพูดว่า “เจ้ามันบ้า…”
……….