เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 1105 จินตภาพสู่ความจริง
บทที่ 1105 จินตภาพสู่ความจริง
……….
บทที่ 1105 จินตภาพสู่ความจริง
จูเซี่ยฉือซินหัวเราะเยาะเมื่อเห็นซูอันพุ่งเข้ามา “เจ้ากำลังรนหาที่ตาย!” เคียวในมือของเขาปิดกั้นเส้นทางของซูอัน มันควงสว่านเหมือนเครื่องบดเนื้อ ซูอันจะกลายเป็นเนื้อสับก่อนที่จะเข้าใกล้เขาได้
ซู่อันยกกระบี่ไท่เอ๋อร์ขึ้น แล้วคำรามออกมา “เขตแดนแห่งอำนาจ!”
ในขณะนั้นเอง แรงกดดันอันทรงพลังแผ่ออกมาจากกระบี่ไท่เอ๋อร์ กระบี่ไท่เอ๋อร์มีเต๋าแห่งอำนาจ และนี่คืออาณาเขตของมัน อย่างไรก็ตาม ทักษะนี้มีระยะเวลาเรียกใช้ใหม่ได้อีกครั้งประมาณหนึ่งเดือน นี่เป็นเหตุผลที่ซูอันจะไม่ใช้มันเว้นแต่ว่าไม่มีทางเลือกจริง ๆ
“นี่คือ…!” จูเซี่ยฉือซินจะปกป้องตัวเองจากพลังกดดันที่น่าสะพรึงกลัวได้อย่างไร? ร่างกายของเขาเริ่มสั่นสะท้าน นี่เป็นพลังที่สั่นคลอนไปถึงจิตวิญญาณ ปลายโซ่เกี่ยววิญญาณตกลงสัมผัสพื้น
ซูอันถือโอกาสนี้หยิบแท่งพิษออกมาและปักเข้าที่คอของจูเซี่ยฉือซิน
“เจ้า…” จูเซี่ยฉือซินเอามือกำรอบคอแน่น น่าเสียดายที่อักขระสีดำกระจายออกจากบาดแผล หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ทรุดลงกับพื้นโดยไม่ได้หายใจอีก
ซูอันถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขาเดินมาด้านข้างของอวิ๋นอวี้ชิงและอุ้มนางขึ้น “เจ้าไม่เป็นไรนะ?”
“ข้าไม่เป็นไร” อวิ๋นอวี้ชิงมองเขาด้วยท่าทางที่อ่อนโยน “อาซู เจ้าดีกับข้าเกินไปแล้ว”
ซูอันยิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า “ไปกันเถอะ ก่อนที่คนอื่นจะแตกตื่นด้วยความวุ่นวายที่เกิดขึ้น”
เขาไม่มีเวลาแม้แต่จะบอกลาฉู่ชูเหยียน สิ่งเดียวที่โชคดีคือเขาไม่มีครอบครัว ตระกูลฉู่ได้ตัดความสัมพันธ์ระหว่างนางกับเขาแล้ว ดังนั้นการกระทำของเขาจะไม่เกี่ยวข้องกับฉู่ชูเหยียนอีกต่อไป
ทันใดนั้น แรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัวก็ถาโถมเข้ามา และสุรเสียงหนึ่งก็ดังก้อง “เจ้าอยากจะออกไปใช่ไหม?”
ดวงตาของซูอันหรี่ลง เขาหันกลับมาทันทีและเห็นร่างในชุดคลุมมังกรยืนอยู่บนหลังคา จะเป็นใครได้อีกนอกจากจักรพรรดิจ้าวฮั่น?
“ทำไมต้องเป็นเขา!” ซูอันพึมพำในขณะที่ยืนแข็งค้าง จบแล้ว มันจบแล้ว! แม้ว่าเขาจะเป็นคนไม่ยอมใครง่าย ๆ แต่ก็ไม่ใช่คนโง่ เขาต้องการเวลาที่จะเติบโต! ตอนนี้มีช่องว่างระหว่างเขากับจักรพรรดิมากเกินไป
จักรพรรดิสำรวจพื้นที่โดยรอบ เขาเห็นทูตยุทธ์เสื้อแพรนอนร้องโอดโอยกระจายกันอยู่ทั่วไป โดยเฉพาะศพของจูเซี่ยฉือซิน เขาคำรามด้วยแรงพิโรธ “เจ้ากล้าหักหลังข้าจักรพรรดิผู้นี้หรือ!? ข้าจะทำให้เจ้าตายอย่างอนาถ!” จักรพรรดิยกมือขึ้นทันทีที่พูดจบ ในชั่วพริบตาภาพฝ่ามือขนาดมหึมาก็ตกลงมาจากท้องฟ้า
ซูอันและอวิ๋นอวี้ชิงรู้สึกหายใจลำบากจากแรงกดดัน พวกเขาต้องการที่จะหลบหนี แต่ร่างกายถูกตรึงอยู่กับที่ พลังที่น่าสะพรึงกลัวที่อยู่ต่อหน้าทำให้ทั้งสองรู้สึกสิ้นหวังอย่างยิ่ง
อวิ๋นอวี้ชิงมองซูอันด้วยความทุกข์ใจและพูดว่า “อาซู พอเถอะ จักรพรรดิเป็นผู้บ่มเพาะที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก! ต่อต้านยังไงก็ไม่มีประโยชน์ สิ่งเดียวที่ข้ารู้สึกขอบคุณคือสามารถตายไปพร้อมกับเจ้า เรามีชีวิตต่างกัน แต่ท้ายสุดสามารถพักผ่อนในบั้นปลายร่วมกันได้ ดังนั้นข้าจึงไม่เสียใจเลย เจ้าต้องจับมือข้าให้แน่นเมื่อเราข้ามน้ำพุเหลืองในยมโลก เราจะได้เป็นสามีภรรยากันอย่างแท้จริงในชาติหน้า…”
ซูอันขมวดคิ้ว รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติตั้งแต่แรก แต่ไม่มีเวลาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ตอนนี้เขาถูกตรึงไว้ด้วยแรงกดดันที่น่าสะพรึงกลัว ในช่วงเวลาสุดท้าย จู่ ๆ ซูอันก็ฟื้นคืนสติปัญญา ทันใดนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นและไม่สนใจฝ่ามือยักษ์ที่กดลงมา เขาชี้หน้าชายในชุดคลุมมังกรบนท้องฟ้าและตะโกนว่า “เจ้าไม่ใช่จักรพรรดิ!”
จากนั้นซูอันก็ซัดฝ่ามือใส่ร่างของอวิ๋นอวี้ชิงซึ่งกำลังเกาะแขนเขาอยู่
“อา!” อวิ๋นอวี้ชิงร้องออกมาด้วยความตื่นตระหนก สายตาของนางเต็มไปด้วยความไม่เชื่อในขณะที่กระอักเลือดออกมา “อาซู เจ้าทำร้ายข้าทำไม?”
ซูอันไม่ตอบนาง แต่จ้องมองไปที่บุคคลที่สวมชุดมังกรแทน
จักรพรรดิคำรามด้วยเสียงหัวเราะ “สามีภรรยาย่อมจะทอดทิ้งกันเมื่อเผชิญหายนะที่แท้จริง น่าเสียดายมันสายไปแล้ว ต่อให้เจ้าจะแสดงความจงรักภักดีต่อข้าด้วยการฆ่านาง เจ้าก็ไม่พ้นโทษตาย!”
ฝ่ามือนั้นอยู่ห่างจากศีรษะของซูอันน้อยกว่าหนึ่งจั้ง แรงกดดันที่ลงมาสร้างรอยฝ่ามือที่บริเวณเขายืนอยู่ อย่างไรก็ตาม ซูอันยังคงยืนหยัดอย่างภาคภูมิ
ซูอันลดศีรษะลงและพึมพำกับตัวเอง “พลังและแรงกดดันแบบนี้ค่อนข้างคล้ายกับของจักรพรรดิ ดูเหมือนว่าพลังของเขาจะทิ้งความประทับใจไว้ในใจข้าจริง ๆ”
“แต่ว่า…” จู่ ๆ เขาก็เงยหน้าขึ้น นัยน์ตาของเขาลุกโชนขณะจ้องมองชายในชุดคลุมมังกรบนหลังคา “หลังจากประสบกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนั้น เจ้าจะเป็นผู้แพ้ในสายตาของข้าตลอดไป”
ซูอันยกมือขึ้นและพูดว่า “พระเจ้าตรัสว่า จงมีแสงสว่าง!”
ท้องฟ้าดูเหมือนจะตอบสนองต่อคำพูดของเขา ท้องฟ้าที่เดิมมืดครึ้มกลับมีแสงสีทองส่องผ่านหมู่เมฆคลี่คลายความมืดมนให้สว่างไสว
จากนั้นแสงสว่างได้ห่อหุ้มจักรพรรดิ ร่างของจักรพรรดิเริ่มมีควัน จากนั้นเสื้อคลุมมังกรเริ่มไหม้ หลังจากนั้นไม่นานร่างทั้งหมดก็ถูกเปลวไฟแผดเผา เขากรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ฝ่ามือที่น่ากลัวบนท้องฟ้าหายไปเหมือนควันในอากาศ แรงกดดันที่สะพรึงน่ากลัวได้หายไปด้วย
ชายผู้ครองบัลลังก์มังกรลงเอยด้วยการถูกเผาเป็นเถ้าถ่าน
ซูอันยิ้มในขณะที่กล่าวว่า “ในโลกของจิตสำนึกของตัวเอง ข้าเป็นพระเจ้า ใครจะแข็งแกร่งกว่าข้าไปได้?”
ดวงตาของอวิ๋นอวี้ชิงเบิกกว้างด้วยความสยดสยองขณะที่พึมพำ “เป็นไปไม่ได้…”
ขณะที่นางพูด ทิวทัศน์โดยรอบก็บิดเบี้ยว ไม่มีจักรพรรดิอีกต่อไป ไม่มีจูเซี่ยฉือซิน ไม่มีทูตยุทธ์เสื้อแพรทั้งหมด สิ่งที่เหลืออยู่คือร่างของนักฆ่าเดนตายซึ่งกำลังต่อสู้กับอวิ๋นอวี้ชิง
ในขณะเดียวกันร่างของ ‘อวิ๋นอวี้ชิง’ ที่ซูอันเพิ่ง ‘ฆ่า’ ก็บิดเบี้ยวไปเช่นกัน กลายเป็นร่างในเสื้อคลุมลึกลับและผมสีทอง จะเป็นใครได้อีกนอกจากเจียซืออี๋?
ซูอันถอนหายใจ เจียซืออี๋ไม่ได้ตายอย่างที่คาดไว้ ตอนที่กระบี่ไท่เอ๋อร์แทงทะลุคอของนางเป็นเพียงภาพลวงตา เดี๋ยวนะ ข้าไปตกอยู่ในภาพลวงตาของนางตั้งแต่เมื่อไร? ข้าระวังตัวอยู่เสมอ แม้แต่นกกระจิบร้อยเสียงก็ไม่ส่งสัญญาณเตือนใดเลย สายตาของเขาจับไปที่กระดิ่งรอบข้อเท้าของนาง มันส่งเสียงดังตั้งแต่พวกเขาเริ่มต่อสู้ น่าจะเป็นที่มาของภาพลวงตา!
เจียซืออี๋มองซูอันและถามว่า “เจ้ารู้ตัวได้ยังไงว่าโลกนั้นเป็นภาพลวงตา? ข้าไม่คิดว่ามีข้อบกพร่องอะไรเลย!”
ซูอันถอนหายใจในขณะที่ตอบว่า “สิ่งทั้งหมดนั้นแปลกตั้งแต่แรก ข้ารู้สึกว่าจูเซี่ยฉือซินกับทูตยุทธ์เสื้อแพรมาได้จังหวะเกินไป พวกเขามาทันทีที่เราสู้กันเสร็จราวกับว่ารอคอยอยู่ตลอดเวลา แต่ที่นี่คือชานเมือง! แม้ว่าเหตุการณ์วุ่นวายจะทำให้บางคนตื่นตระหนก แต่คนที่ควรมาถึงก่อนคือกองกำลังป้องกันเมือง ไม่ใช่ทูตยุทธ์เสื้อแพร”
ซูอันสืบสวนคดีนี้มาตลอด ควรจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไรมากที่สุด แม้แต่เขายังคาดไม่ถึงมาก่อนว่าคนเหล่านี้จะคอยซุ่มโจมตีอยู่ ดังนั้นจูเซี่ยฉือซินและกลุ่มทูตยุทธ์เสื้อแพรจะตอบสนองทันเวลาได้อย่างไร?
……….