เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 1103 จับกุมนาง!
บทที่ 1103 จับกุมนาง!
……….
บทที่ 1103 จับกุมนาง!
ทันใดนั้น ซูอันเห็นรูปร่างโปร่งใสของระฆังขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นครอบตัวเจียซืออี๋ไว้ มันเหมือนกับกระดิ่งรอบข้อเท้าของนางขยายใหญ่ขึ้น คลื่นเสียงที่มองไม่เห็นของนกกระจิบร้อยเสียงกระแทกเข้ากับระฆัง เกิดเสียงที่ไพเราะก้องกังวานออกมา
เจียซืออี๋เตะพื้นส่งร่างลอยไปข้างหลัง เห็นได้ชัดว่าในฐานะคนที่มีความเชี่ยวชาญในธาตุวิญญาณ เมื่อมีโอกาสเตรียมพร้อม การโจมตีของนกกระจิบร้อยเสียงย่อมไม่สามารถทำร้ายนางได้อีกต่อไป
ขาที่ขาวเนียนของเจียซืออี๋สามารถมองเห็นได้ลาง ๆ ภายในเสื้อคลุม ในขณะที่กระดิ่งที่ผูกติดกับข้อเท้าของนางดังขึ้น แม้ว่าพวกเขาจะต่อสู้กันจนตัวตาย ซูอันก็ต้องยอมรับว่ามันเป็นฉากที่สวยงาม อย่างไรก็ตาม เขาไม่ใช่คนประเภทที่จะแสดงความเมตตาเพราะคู่ต่อสู้เป็นสาวงาม กระบี่ของเขาฟันเข้าที่ส่วนสำคัญของนางอย่างโหดเหี้ยม
“น้องชายตัวน้อย เจ้าช่างชั่วร้ายจริง ๆ! การโจมตีทุกครั้งมุ่งเป้ามาที่จุดอันตรายเช่นนี้” ร่างของเจียซืออี๋พุ่งไปทางซ้ายและขวา หายไปและปรากฏขึ้นอีกครั้งในที่ต่าง ๆ
“ก้าวในพริบตา?” ในที่สุดซูอันก็ประสบกับความคับข้องใจที่คนอื่นมีเมื่อต่อสู้กับเขา แน่นอนว่าความสามารถในการก้าวในพริบตานี้แตกต่างจากของเขาอย่างสิ้นเชิง จ้าววายุของเขาเป็นเส้นตรงและพาเขาไปได้ไกลกว่ามาก ในขณะที่การก้าวในพริบตานี้สามารถเคลื่อนที่ได้ในระยะสั้น ๆ เท่านั้น มันคล้ายกับวิชาร่างก้าวทานตะวันของเขาในระดับหนึ่ง
ผู้คุมวิญญาณเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมจริง ๆ!
ซูอันคิดกับตัวเองว่าถ้าเปรียบทุกสิ่งเป็นเกมเขาก็เลือกอาชีพผิดจริง ๆ ดูสิว่าทักษะของนักเวทย์เหล่านี้เจ๋งแค่ไหน! ในขณะเดียวกันอาชีพที่เขาเลือกคือนักรบโล่เนื้อโง่ ๆ รู้สึกง่อยเปลี้ยขึ้นมา หึ อย่างน้อยข้าก็ไม่ได้ใช้หอก ไม่เคยมีอะไรดีเกิดขึ้นกับผู้ใช้หอกในประวัติศาสตร์ หึ… เดี๋ยวก่อน ถ้าข้าบอกว่าข้าไม่ใช้หอก อวิ้นอวี้ชิงอาจจะเป็นคนแรกที่ไม่เห็นด้วย หอกของข้ายาวซะด้วย
ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกถึงความกลัวที่อธิบายไม่ได้ นกกระจิบร้อยเสียงเปิดใช้งานโดยไม่รู้ตัว ทำให้เขาฟื้นตัวได้ในวินาทีต่อมา มันเป็นทักษะข่มขู่หรือไม่? เขาเคยเล่นเกมมามากมายในอดีต ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยที่มีทักษะประเภทติดสถานะเช่นนี้อยู่
เขาไม่สามารถปล่อยให้นางเริ่มทำอะไรแปลก ๆ ได้อีก ด้วยเหตุนี้ เขาจึงเปิดฉากโต้กลับทันที “แกมองอะไร?”
เจียซืออี๋กำลังจะหลบ แต่เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น การเคลื่อนไหวของนางหยุดชั่วขณะ อ้าปากตอบโดยไม่ตั้งใจว่า “ข้ากำลังมองแกไงไอ้โง่!”
ซูอันกำลังรอโอกาสนี้อยู่ กระบี่ไท่เอ๋อร์ของเขาพุ่งออกไปราวกับดาวตกและเสียบเข้าที่คอของนาง
“เจ้า…” เจียซืออี๋ใช้มือข้างหนึ่งจับคอของตัวเอง ในขณะที่มืออีกข้างชี้มาที่เขาอย่างไม่อยากเชื่อ ดูเหมือนว่านางต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง อย่างไรก็ตามในท้ายที่สุดนางก็ล้มลงโดยไม่สามารถพูดอะไรได้
ซู่ซู่ห่าวเห็นสถานการณ์จากฝั่งตรงข้ามทันที “ซืออี๋!” เขาคำรามอย่างโกรธจัด
ตอนนี้ซูอันเพิ่งรู้ว่าคนที่ตายไปก่อนหน้านี้ ชายที่สวมกำไล ผู้ใช้หอกประดับพู่แดง และผู้ใช้ค้อน รวมถึงนักฆ่าเดนตายผู้ใช้ดาบทั้งหกคน ล้วนได้รับการ ‘คืนชีพ’ ไม่สิ พวกมันไม่ได้ฟื้นขึ้นมาแต่กลายเป็นผีดิบแทน
อวิ้นอวี้ชิงได้กล่าวว่าชายคนนี้สามารถควบคุมศพได้ ดังนั้นคนเหล่านี้น่าจะเป็นซากศพที่ถูกควบคุม
ซากศพที่เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดพุ่งเข้ามาด้วยท่าทางที่น่ากลัว ซูอันค้นพบด้วยความหงุดหงิดว่าแม้ว่าศพเหล่านี้จะดูเหมือนผีดิบ แต่จริง ๆ แล้วพวกมันยังคงรักษาการบ่มเพาะและทักษะดั้งเดิมยามเมื่อมีชีวิตไว้ได้เป็นส่วนใหญ่! บัดซบ? มันยุติธรรมตรงไหน!? ผู้ชายคนนี้จะต้องไร้เทียมทานถ้าอยู่ในสนามรบ
ในขณะที่ซูอันกำลังปวดหัวกับการสงสัยว่าจะจัดการกับปีศาจซากศพเหล่านี้อย่างไร จู่ ๆ ก็มีเสียงกีบเท้าม้าที่เป็นระเบียบดังไปทั่วบริเวณ จากนั้นทูตยุทธ์เสื้อแพรจำนวนนับไม่ถ้วนได้กระโดดข้ามกำแพงลานบ้านเข้ามา แม้ว่าปีศาจซากศพจะดูน่าหวาดกลัว แต่พวกมันก็เสียเปรียบในแง่ของจำนวนและถูกควบคุมตัวอย่างรวดเร็ว
ซู่ซู่ห่าวเห็นว่าสถานการณ์เริ่มไม่ดี เขาหนีไปทันที ยอมทิ้งศพของเจียซืออี๋เอาไว้ อย่างไรก็ตามไม่มีใครคาดคิดได้ว่าจู่ ๆ ก็มีมือหนึ่งยื่นออกมากลางอากาศ บีบคอของเขาที่กำลังหนีไว้ได้อย่างถนัดถนี่
“แค่ก แค่ก…” ซู่ซู่ห่าวพยายามดิ้นรนอย่างสุดแรง ขาทั้งสองเหวี่ยงไปมา พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อแงะมือนั้นออก แต่มันก็แน่นจนเหมือนที่หนีบโลหะ ใบหน้าสีขาวดำของเขาเปลี่ยนเป็นสีม่วง
มือใหญ่กระชับแน่นยิ่งขึ้น การต่อต้านที่รุนแรงของซู่ซู่ห่าวหยุดลงทันที
จูเซี่ยฉือซิน! ซูอันจำร่างนั้นได้ทันที การมีองค์กรคอยสนับสนุนนั้นดีที่สุดแล้ว! เขาไม่ต้องลงแรงหนักเกินไปเพื่อเอาชนะคนเหล่านี้ด้วยตัวเอง
“ผู้บัญชาการจูเซี่ย!” ซูอันทักทายในขณะที่เดินเข้าไปหาด้วยรอยยิ้ม
อย่างไรก็ตาม ใบหน้าของจูเซี่ยฉือซินยังคงเรียบเฉย เขาชี้ไปที่อวิ้นอวี้ชิงและพูดว่า “จับกุมสัตว์ประหลาดเผ่าปีศาจตัวนี้!”
“รับทราบ!” ทูตยุทธ์เสื้อแพรเปล่งเสียงตอบรับ
ซูอันทั้งตกใจและโกรธ พวกเขารู้ได้อย่างไรว่าอวิ้นอวี้ชิงมาจากเผ่าปีศาจ? ท้ายที่สุดนางไม่ได้ใช้ทักษะเนตรปีศาจเปิดเผยตัวเองสักครั้ง
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ใส่ใจที่จะคิดถึงเรื่องนั้น เพราะอวิ๋นอวี้ชิงกำลังได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้มีทูตยุทธ์เสื้อแพรมากมาย หากทั้งหมดโจมตีพร้อมกัน อวิ๋นอวี้ชิงจะไม่มีโอกาสรอดเลย
เขาจะมองดูสาวงามถูกฆ่าอย่างเสียของแบบนี้ไม่ได้ ซูอันหยุดการโจมตีของทูตยุทธ์เสื้อแพรและพาอวิ๋นอวี้ชิงไปด้านข้าง จากนั้นรีบพูดกับจูเซี่ยฉือซินว่า “ท่านจูเซี่ยไม่มีการเข้าใจผิดกันเหรอ? นางไม่ใช่สัตว์ประหลาดเผ่าปีศาจ แต่เป็นฮูหยินอู๋!”
จูเซี่ยฉือซินไม่พอใจ “จากการสืบสวนของเรา เรารู้แล้วว่านางคือฮูหยินอู๋จริง ๆ และนางก็เป็นสัตว์ประหลาดเผ่าปีศาจด้วย ท่านซูโปรดอย่าปล่อยให้ตัวเองถูกหลอก”
ใบหน้าของซูอันมืดครึ้ม นี่เป็นสถานการณ์กรณีที่เลวร้ายที่สุด
อวิ้นอวี้ชิงผลักเขาออกไปเบา ๆ และพูดว่า “เจ้าไม่จำเป็นต้องเสียสละตัวเองเพื่อข้า” จากนั้นนางก็เดินไปคนเดียวและเผชิญหน้ากับทูตยุทธ์เสื้อแพรที่โหดเหี้ยมตามลำพัง
สีหน้าของซูอันเปลี่ยนไป เขารู้ว่าในสถานการณ์ปัจจุบันการเฝ้าดูสิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่ทำอะไรเลยเป็นทางเลือกที่ฉลาดที่สุด แต่ผู้หญิงคนนี้ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเขาแล้ว นางยังเคยช่วยชีวิตเขาถึงสองครั้ง เขาจะเฝ้าดูโดยไม่ทำอะไรได้อย่างไร?
เขาเดินไปคว้าตัวอวิ๋นอวี้ชิง หายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดกับจูเซี่ยฉือซินว่า “ผู้บัญชาการจูเซี่ย แม้ว่านางจะมาจากเผ่าพันธุ์ปีศาจจริง ๆ แต่นางก็เป็นชายาอ๋องมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา นางไม่เคยทำตัวไม่เหมาะสมและกลับพอใจกับตำแหน่งของตัวเอง เหตุใดจึงต้องถือสาเรื่องนี้ด้วย ต้าโจวได้พิชิตโลก ฝ่าบาทยังทรงพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อผูกมิตรกับเผ่าพันธุ์ต่าง ๆ มีเผ่าปีศาจมากมายแม้แต่ในเมืองหลวง พระกรุณาของฝ่าบาทแผ่ไพศาลให้เผ่าพันธุ์อื่นอยู่ร่วมกับมนุษย์ได้ไม่ใช่เหรอ?”
จูเซี่ยฉือซินกล่าวอย่างเฉยเมยว่า “เผ่าของนางนั้นแตกต่างจากเผ่าพันธุ์ปีศาจอื่น ๆ และการจับกุมฮูหยินอู๋ก็ได้รับคำสั่งจากฝ่าบาทเอง สิ่งที่ท่านซูพูดเมื่อกี้ทำให้ตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด เนื่องจากคำนึงถึงความสัมพันธ์ที่ผ่านมาของเรา ข้าจะไม่ติดตามเรื่องนี้ต่อไปกรุณาหลีกทางด้วย”
……….