เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 1102 ผู้คุมวิญญาณ
บทที่ 1102 ผู้คุมวิญญาณ
……….
บทที่ 1102 ผู้คุมวิญญาณ
การเคลื่อนไหวอย่างฉับพลันของจ้าววายุร่วมกับเพลงกระบี่ปราบมารที่ฝึกฝนจนสมบูรณ์แบบตั้งแต่อยู่ในมืองจันทร์กระจ่างทำให้กระบี่ของเขารวดเร็วและแม่นยำ แทบไม่ปล่อยให้คู่ต่อสู้ได้สูดลมหายใจ
แม้ว่าเขาจะมองไม่เห็นสีหน้าของเจียซืออี๋ แต่รอยยิ้มที่ริมฝีปากของนางได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย มันง่ายที่จะจินตนาการว่านางตื่นตระหนกแค่ไหนในตอนนี้ นางขยับถอยหลังเพื่อหลบเลี่ยงตามสัญชาตญาณ แต่นางจะหลบการโจมตีทางจิตวิญญาณของนกกระจิบร้อยเสียงได้อย่างไร?
และในขณะนั้นเองธงวิญญาณได้ขวางเข้ามาในเส้นทางของกระบี่ ปิดกั้นการโจมตีของซูอัน เจียซืออี๋ถูกดึงกลับไปหลายจั้ง
ขั้นสูงสุดของระดับแปด… ซูอันไม่ได้โจมตีต่อไป แรงสะท้อนจากการโต้ตอบชั่วขณะนั้นบอกได้ว่าชายหยินหยางคนนี้ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่ง่ายดายอย่างแน่นอน ในขณะเดียวกัน ถ้าเจียซืออี๋เป็นคู่หูของเขา สองคนนี้ก็น่าจะอยู่ในระดับเดียวกัน ยิ่งไปกว่านั้น เห็นได้ชัดจากชุดที่เป็นเอกลักษณ์ว่าพวกเขาบ่มเพาะในเส้นทางที่ไม่ธรรมดา เป็นการดีที่สุดที่จะรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมไปก่อน
“ขอบคุณ พี่ใหญ่ซู่ซู่ห่าว!” เจียซืออี๋ตบหน้าอกปุ ๆ ด้วยความตื่นตระหนกหลังจากรอดชีวิตโดยเฉียดฉิว บอกขอบคุณสหายของนาง
ชายหยินหยางคนนั้นชื่อซู่ซู่ห่าว ทำไมถึงมีชื่อแปลก ๆ เช่นนี้? ซูอันคิดอย่างเย้ยหยัน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากพวกทั้งสองมาจากชายแดนใต้ เขาจึงไม่สงสัยอะไรมากนัก
ซู่ซู่ห่าวโวยวายและพูดว่า “หยุดอวดดีและทำตัวงี่เง่าได้แล้ว เจ้าเกือบถูกไอ้สารเลวนั่นฆ่า ไม่คิดว่ามันหน้าอายบ้างเหรอ?”
“โอ้ พี่ซู่ อย่าโกรธเลย! มันต้องแบบนี้สิถึงจะสนุก” เจียซืออี๋ยิ้มอย่างน่ารักขณะมองซูอัน “น้องชายตัวน้อย ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะใช้ธาตุวิญญาณได้ เราไม่เคยได้รับข้อมูลเรื่องนี้มาก่อนเลย!”
“ธาตุวิญญาณเป็นพรสวรรค์ที่หายาก ข้าจะโชคดีอย่างนั้นได้อย่างไร? พี่สาวผู้น่ารักต่างหากเป็นผู้บ่มเพาะธาตุวิญญาณที่แท้จริง” ซูอันตอบ อันที่จริงเขาอยากรู้มานานแล้ว ธาตุวิญญาณเป็นธาตุในตำนานที่มีผู้บ่มเพาะได้เพียงหนึ่งในล้าน และวันนี้เขาก็ต้องเผชิญหน้ากับหนึ่งในล้านที่ว่า น่าเสียดายที่นางอยู่ที่นี่เพื่อเอาชีวิตของเขา
“ข้าน่ารักจริงเหรอ?” เจียซืออี๋ตกตะลึงในตอนแรก จากนั้นร่างกายของนางโยกไปมาพร้อมกับเสียงหัวเราะ “ปากหวาน ๆ ของเจ้ารู้วิธีทำให้ข้าพอใจจริง ๆ”
อวิ๋นอวี้ชิงโกรธทันที “อาซูอย่าให้ผู้หญิงคนนั้นหลอกเจ้า นางไม่ใช่ผู้บ่มเพาะธาตุวิญญาณ แต่เป็นผู้คุมวิญญาณจากชายแดนใต้ นางเชี่ยวชาญศิลปะปราบวิญญาณ และวิธีการของนางก็ยากที่จะป้องกันได้ เจ้าต้องระวัง”
“ผู้คุมวิญญาณ?” นี่เป็นครั้งแรกที่ซูอันเคยได้ยินชื่อเรียกนี้
เจียซืออี๋เปล่งเสียงประหลาดใจ นางเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นขณะที่มองอวิ๋นอวี้ชิง แล้วกล่าวว่า “ผู้หญิงคนนี้รู้เรื่องอะไรเยอะดีนี่นา พวกเราเหลือผู้คุมวิญญาณไม่มากนักหรอก”
อวิ๋นอวี้ชิงมองเมินไปทางอื่น เห็นได้ชัดว่านางไม่ต้องการมองดูท่าทางที่ปรุงแต่งมากไปของเจียซืออี๋
“ดูความบริสุทธิ์และไร้เดียงสาของนางคนนี้สิ ข้าจะให้พี่ซู่สอนบทเรียนแก่เจ้า มาดูกันว่าเจ้าจะทำตัวเย่อหยิ่งต่อไปได้หรือไม่?” เจียซืออี๋กล่าวพร้อมกับหัวเราะคิกคัก เสียงของนางมีเสน่ห์และน่ารักน่าเอ็นดู แต่คำพูดนั้นตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง
ซูอันและอวิ๋นอวี้ชิงต่างพูดไม่ออก ผู้ชายคนนี้ชอบศพด้วยเหรอ?
อวิ๋นอวี้ชิงเตือนซูอันผ่านกระแสพลังชี่ “อาซู เจ้าต้องระวัง เขาน่าจะเป็นผู้บ่มเพาะจากเผ่ากู่ทางชายแดนใต้ วิธีการของตระกูลกู่มักเป็นไปไม่ได้ที่จะเตรียมรับมือ”
“ตระกูลกู่?” ซูอันตกตะลึง “พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของเผ่าพันธุ์ปีศาจด้วยเหรอ?”
อวิ๋นอวี้ชิงตอบว่า “เป็นเผ่าพันธุ์ครึ่งมนุษย์ครึ่งปีศาจ พวกเขามีความเชี่ยวชาญในศิลปะที่แปลกประหลาดทุกประเภท พลังที่พวกเขาสามารถแสดงได้นั้นไม่ด้อยกว่าของผู้บ่มเพาะใด ๆ บุคคลนี้ดูเหมือนจะเชี่ยวชาญในการจัดการศพ เจ้าจะไม่สามารถพักผ่อนอย่างสงบได้หากตายภายใต้น้ำมือเขา”
เจียซืออี๋หัวเราะ “นั่นยังง่ายไม่พออีกเหรอ? เราแค่ต้องเปลี่ยนนางให้กลายเป็นศพ”
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ ดวงตาของซู่ซู่ห่าวที่ดูเฉยเมยและไม่แยแสในตอนแรกก็สว่างขึ้น เขาจ้องมองอวิ๋นอวี้ชิง “หืม แม้ว่าจะเห็นใบหน้าของผู้หญิงคนนี้ไม่ชัดเจน แต่ดูจากส่วนโค้งเว้าแล้ว นางจะเป็นงานศิลปะที่ยอดเยี่ยมเมื่อกลายเป็นหุ่นเชิดศพอย่างแน่นอน อา… แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว ถึงตอนนั้นข้าจะหลับนอนกับนางทุกคืนเลย
ซูอันพูดไม่ออก นี่มันบ้าอะไร? ข้าคิดว่าพวกที่เล่นกับศพก็น่าขยะแขยงพออยู่แล้ว แต่ผู้ชายคนนี้แปลกกว่านั้น! เขาไม่สนใจในสาวงามที่มีชีวิตแต่จะมีอารมณ์ทางเพศหลังจากเปลี่ยนพวกนางให้กลายเป็นผีดิบเท่านั้น?
“เจ้ามันรนหาที่ตาย!” อวิ๋นอวี้ชิงตวาด โดยปกตินางจะได้รับการปฏิบัติด้วยความเคารพเสมอ เป็นคนที่มีศักดิ์ศรีมากแม้แต่ในหมู่เผ่าพันธุ์ปีศาจด้วยกัน นางจะทนคำพูดแบบนี้ได้อย่างไร? นางกรีดร้องและแทงมีดสั้นไปที่ชายคนนั้น
ซูอันพูดไม่ออก พี่สาว เจ้าคือปรมาจารย์ด้านอักขระ! ทำไมไม่ต่อสู้กับเขาในระยะไกล ปรมาจารย์ด้านอักขระย่อมไม่เก่งการต่อสู้ระยะประชิดและไม่ใช่นักต่อสู้ที่ดี…
เขากังวลว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับอวิ๋นอวี้ชิงและกำลังไปช่วยนาง อย่างไรก็ตามเจียซืออี๋หยุดเขาไว้และพูดว่า “น้องชายตัวน้อย ทำไมเจ้าไม่อยู่เล่นกับพี่สาวที่น่ารักคนนี้สักพักล่ะ?”
ซูอันมองหน้าอกของนางในขณะที่พูดว่า “พี่สาวที่น่ารัก ถ้าเจ้าจะเรียกข้าว่าน้องชาย ก็เรียกข้าว่าน้องชาย ทำไมต้องเพิ่มคำว่า ‘ตัวน้อย’ เข้าไปด้วย”
เจียซืออี๋หัวเราะเบา ๆ และตอบว่า “ไม่ว่าเจ้าจะตัวน้อยจริง ๆ หรือไม่ก็ตาม พี่สาวคนนี้ไม่รู้ว่าควรลองดูดีไหม?”
ซูอันพูดไม่ออก ปกติเขาเป็นคนชอบแกล้งคนอื่น แต่วันนี้โต๊ะกลับพลิก ผู้หญิงคนนี้เป็นเจ้าแห่งสนามตัวจริง!
เขามองเสื้อคลุมของนางด้วยความประหลาดใจ ถามว่า “ทำไมเจ้าถึงต้องสวมเสื้อคลุมมิดชิดขนาดนี้? ดูจากรูปร่างแล้ว เจ้าน่าจะสวยมาก ๆ ปกปิดตัวเองแบบนี้แล้วความสวยไม่เสียไปเปล่า ๆ เหรอ?”
ร่างกายของเจียซืออี๋กระตุกไปมาจากการหัวเราะแรงเกินไป “น้องชายตัวน้อยนี่ปากหวานจริง ๆ เพื่อเป็นการตอบแทน ข้าสัญญาว่าจะทำให้เจ้าจากโลกนี้ไปได้อย่างไม่ลำบากในภายหลัง”
“ดูเหมือนไม่มีทางเลือกนอกจากต้องสู้…” ซูอันถอนหายใจก่อนจะแทงกระบี่ไปที่เจียซืออี๋ แต่แล้วเขาก็รู้สึกปวดแสบปวดร้อนในหัวอีกครั้ง
ซูอันไม่พอใจ “เอาอีกแล้วเหรอ!” เขาใช้นกกระจิบร้อยเสียงตอบโต้ทันที
เจียซืออี๋ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากการใช้ทักษะนี้ในครั้งก่อน แต่นางก็กล้าที่จะใช้มันอีกครั้ง!
……….