เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 1071 ป้ายทองเว้นโทษตาย
บทที่ 1071 ป้ายทองเว้นโทษตาย
………………….
บทที่ 1071 ป้ายทองเว้นโทษตาย
ภายใต้แววตาที่สิ้นหวังของเหล่าทูตยุทธ์เสื้อแพรคนอื่น ๆ ซูอันกล่าวอย่างเฉยเมยว่า “ไม่ต้องหาหรอก คนที่ตีเขาคือข้าเอง”
“ท่านสิบเอ็ด!” ทูตยุทธ์เสื้อแพรเงินและทองแดงทั้งหมดทั้งโล่งใจและตกใจในขณะเดียวกัน
แน่นอนว่าความโกรธของซือเหมี่ยวปะทุขึ้น “เจ้ารนหาที่ตาย!”
—
ท่านยั่วยุซือเหมี่ยวสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +444 +444 +444…
—
เมื่อพูดจบ เขาพุ่งตรงมาที่ซูอันราวกับกระสุนปืนใหญ่ ลมแรงทำให้โต๊ะหลายตัวระเบิดทันทีราวกับพายุทอร์นาโดพัดผ่านห้องไป
‘ท่านสิบเอ็ดแย่แน่ ๆ!’ แม้ทูตยุทธ์เสื้อแพรจะเก่งในการประสานต่อสู้ซึ่งทำให้สามารถล้มผู้ที่มีระดับสูงกว่าได้ แต่ในตำหนักถักแพรทั้งหมด นอกจากท่านจูเซี่ยฉือซินแล้ว ไม่มีสมาชิกคนใดเคยสู้กับผู้บ่มเพาะระดับปรมาจารย์
แต่โดยที่ไม่มีใครคาดคิด ซูอันกลับจะยกมือขึ้นแลกฝ่ามือกับอีกฝ่ายโดยตรง!
คลื่นกระแทกจากแรงกระแทกทำให้ฝุ่นตกลงมาจากคานผนัง ทูตยุทธ์เสื้อแพรบางคนโซซัดโซเซไปมาอย่างไม่มั่นคง ในขณะที่ผู้ที่มีระดับการบ่มเพาะต่ำกว่าเริ่มมีเลือดออกจากจมูก
อย่างไรก็ตาม ซูอันซึ่งอยู่ตรงกลางของการระเบิด กลับดูผ่อนคลายราวกับไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ ในขณะเดียวกัน ซือเหมี่ยวกระเด็นออกไปเกือบหนึ่งจั้ง!
ผู้เห็นเหตุการณ์ตกใจจนอ้าปากค้าง
ไม่เพียงแต่ท่านสิบเอ็ดจะไม่ได้รับบาดเจ็บหลังจากถูกโจมตีโดยผู้บ่มเพาะระดับปรมาจารย์ที่โกรธจัดเท่านั้น เขายังซัดคู่ต่อสู้กระเด็นกลับไปหนึ่งจั้งด้วย! การบ่มเพาะของบุคคลนี้น่ากลัวเพียงใด?
ซือเหมี่ยวเองสับสนเช่นกัน คิดว่าการโจมตีของตัวเองเพียงพอที่จะทำร้ายคู่ต่อสู้อย่างสาหัส เขาไม่เพียงแต่ล้มเหลว แต่กลับกลายเป็นฝ่ายที่ต้องอับอายเสียเอง
ฝ่ามือของชายคนนี้แปลก เขาจำได้ว่าตอนที่กำลังจะสัมผัสกัน มือของอีกฝ่ายดูเหมือนจะปล่อยแรงมหาศาลที่ดูดกลืนพละกำลังส่วนใหญ่ของเขาออกไป นี่คือเหตุผลที่การแลกเปลี่ยนกระบวนท่าของพวกเขาดูเหมือนจะเท่าเทียมกัน
ทูตยุทธ์เสื้อแพรจากที่อื่น ๆ แห่เข้ามาเมื่อได้ยินเสียงสู้รบ ซือเหมี่ยวถูกล้อมกรอบจนไม่อาจโจมตีอีกครั้งได้
หลังจากที่ฝ่ามือของซือเหมี่ยวถูกจัดการได้อย่างง่ายดาย เขาตกตะลึงอย่างมาก จะยังกล้าโจมตีอีกครั้งได้อย่างไร?
ซูอันพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “ช่างกล้าจริง ๆ เจ้ารู้หรือไม่ว่าการเข้ามาในตำหนักถักแพรโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นความผิดแค่ไหน!”
“บรรดาผู้ที่ก้าวล่วงโดยไม่ได้รับอนุญาตจะต้องตาย!” ทูตยุทธ์เสื้อแพรตีวงล้อมกรอบเข้ามาแคบลงเรื่อย ๆ มีคนจำนวนมากที่ถูกลูกหลงจากการโจมตีของซือเหมี่ยว ทุกคนโกรธจัด นับตั้งแต่การก่อตั้งทูตยุทธ์เสื้อแพร ไม่เคยมีครั้งไหนที่พวกเขาถูกล้วงคอเสือถึงในถิ่นเช่นนี้
แล้วถ้าคนผู้นั้นเป็นเสนาบดีสงครามล่ะ? ทูตยุทธ์เสื้อแพรมีอำนาจเป็นเอกเทศ พวกเขาไม่ต้องก้มหัวให้ใคร!
ซูอันรู้สึกขบขัน ก่อนหน้านี้เขาทำอะไรกับตระกูลซือได้ไม่มาก แต่ชายคนนี้กลับรนหาที่ตายด้วยตัวเอง เขาจะปล่อยโอกาสอันยิ่งใหญ่นี้ไปได้อย่างไร? ดังนั้นเขาจึงออกคำสั่งอย่างเด็ดขาดว่า “ทุกคน ฆ่าผู้บุกรุกคนนี้ทันที!”
แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นปรมาจารย์ แต่ก็มีทูตยุทธ์เสื้อแพรเข้ามาเพิ่มเติมหลายคน นอกจากนี้พวกเขายังเก่งในการประสานโจมตี จึงไม่ยากที่จะกักขังซือเหมี่ยวเลย
ซือจวิ้นรู้สึกมึนงง ไอ้คนนี้กล้าฆ่าพ่อข้าด้วยเหรอ? มีอะไรผิดปกติกับโลกในวันนี้? เมื่อเห็นทูตยุทธ์เสื้อแพรจำนวนมากกำลังล้อมโจมตีพ่อของเขา เขารู้สึกถึงความเย็นยะเยือกไหลผ่านกระดูก ถ้าพ่อของเขาถูกฆ่าตายที่นี่จริง ๆ เขาจะเป็นอย่างไร? ซือจวิ้นรีบตะโกนทันที “ท่านพ่อ ป้ายทองเว้นโทษตาย! ใช้ป้ายทองเว้นโทษตายของท่าน!”
ถ้ากำจัดทูตยุทธ์เสื้อแพรทองคนนี้ได้ ซือเหมี่ยวคงจะมั่นใจว่าตัวเองสามารถควบคุมสถานที่นี้ได้ทั้งหมดเพราะจูเซี่ยฉือซินไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วย อย่างไรก็ตาม เขาไม่คิดมาก่อนว่าทูตยุทธ์เสื้อแพรทองคนนี้จะสามารถต่อสู้กับเขาได้อย่างทัดเทียมกัน ซึ่งช่วยเพิ่มขวัญกำลังใจของทูตยุทธ์เสื้อแพรคนอื่น ๆ ได้อย่างมาก หากต่อสู้กันจริง ๆ เขาอาจจะมีโอกาสแพ้ด้วยซ้ำ
ทันใดนั้น ซือเหมี่ยวก็นึกขึ้นได้เมื่อได้ยินเสียงของลูกชาย เขารีบนำป้ายทองเว้นโทษตายออกมาอย่างรวดเร็วและยกขึ้นเหนือศีรษะ “นี่คือป้ายทองเว้นโทษตาย! ใครกล้าฆ่าข้า?”
ทูตยุทธ์เสื้อแพรมองหน้ากันด้วยความตกใจ พวกเขาเป็นหน่วยลับของจักรพรรดิ ย่อมไม่กลัวเกรงอำนาจอื่นใด แต่พวกเขาไม่สามารถเพิกเฉยต่อป้ายทองเว้นโทษตายของจักรพรรดิได้
ซูอันพบว่าสถานการณ์นี้กลายเป็นยุ่งยาก เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าชายคนนี้จะมีป้ายทองเว้นโทษตาย
แน่นอน จักรพรรดิมีอำนาจตัดสินใจว่าจะให้อภัยซือเหมี่ยวหรือไม่ อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่สามารถก้าวล่วงพระราชอำนาจของจักรพรรดิได้
ซูอันทำได้เพียงชี้ไปที่ซือจวิ้นและพูดว่า “มีป้ายทองเว้นโทษตายเพียงอันเดียวเท่านั้น ในเมื่อเขาไม่มีก็ตีเขาต่อไป”
ซือจวิ้นตกตะลึง ไม่คิดว่าตัวเองจะกลายเป็นตัวตลกตัวจริง เขารีบเอื้อมมือไปหาซือเหมี่ยว “ท่านพ่อ! เร็วเข้า เอาป้ายทองเว้นโทษตายมาให้ข้า!”
ซูอันยิ้ม ช่างเป็นครอบครัวที่น่ารัก!
“หุบปาก!” สีหน้าของซือเหมี่ยวมืดลง เกิดอะไรขึ้นกับลูกชายของเขาในวันนี้? ทำไมจู่ ๆ ก็กลายเป็นคนโง่? “ป้ายทองนี้ไม่ได้ปกป้องข้าคนเดียว! ย้อนกลับไปในสมัยก่อน จักรพรรดิตรัสว่า ตราบใดที่ตระกูลซือไม่สมคบคิดเป็นกบฏก็เพียงพอแล้วที่จะปกป้องทั้งตระกูลซือของเรา!”
ในที่สุด ซือจวิ้นก็ตั้งสติได้ เขากลัวทูตยุทธ์เสื้อแพรเหล่านี้จนเกินไปจริง ๆ เขามองซูอันด้วยความไม่พอใจ ที่เขาต้องอับอายทั้งหมดเป็นเพราะผู้ชายคนนี้!
—
ท่านยั่วยุซือจวิ้นสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +233 +233 +233…
—
ในท้ายที่สุดซือเหมี่ยวก็พาซือจวิ้นออกไปจากตำหนักถักแพรพร้อมกับป้ายทองเว้นโทษตาย ทูตยุทธ์เสื้อแพรไม่กล้าละเมิดป้ายทอง นอกจากนี้ พวกเขาไม่ได้ทำตามขั้นตอนที่เหมาะสมในการกักตัวซือจวิ้น ดังนั้นจึงทำได้เพียงปล่อยตัวอีกฝ่ายไป
ทูตยุทธ์เสื้อแพรทั้งหมดไปร้องทุกข์ต่อองค์จักรพรรดิด้วยความขุ่นเคือง ซูอันรู้ว่าจักรพรรดิจะไม่สนใจเรื่องนี้ เนื่องจากตระกูลซือไม่ใช่ตระกูลขุนนางทั่วไป นอกจากนี้ ‘อุบัติเหตุ’ นั้นเกิดขึ้นในวังตะวันออก ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงเกินไปได้
แน่นอนว่าจักรพรรดิได้ตำหนิซือเหมี่ยวเพียงเล็กน้อยและลงโทษด้วยการหักเงินเดือนอย่างไม่มีนัยสำคัญ จากนั้นเรื่องก็เงียบลง ในส่วนของซือจวิ้นก็ไม่สามารถนำตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมได้เช่นกัน
ในขณะที่ซูอันกำลังปวดหัวกับเรื่องนี้ วังไร้พิพาทได้ส่งขันทีมาแจ้งว่าจักรพรรดินีได้เชิญให้เขาเข้าเฝ้า
“จักรพรรดินี?” ซูอันพึมพำอย่างประหลาดใจ เขามีบางอย่างที่ต้องการจะคุยกับจักรพรรดินีเกี่ยวกับตัวเองเช่นกัน เขาตรงไปที่วังไร้พิพาทและได้พบกับขันทีลู่ด้านนอก
ขันทีลู่มองเขาแล้วเผยรอยยิ้มที่ดูขมขื่นยิ่งกว่าการร้องไห้ “ท่านควรเข้าไปข้างใน จักรพรรดินีกำลังรออยู่”
ซูอันรู้สึกเย็นวาบที่หลัง ทำไมผู้ชายคนนี้มองข้าแปลก ๆ? สัญชาตญาณบอกว่าเขาไม่ชอบข้า… ขณะที่เข้าไปข้างใน ท่ามกลางกลิ่นหอมอบอวลรอบตัวอันเป็นเอกลักษณ์ทำให้อารมณ์ของเขาสงบลง
………………….