เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 80 เช่นเดียวกับชื่อของเขา (ปลาย)
บทที่ 80 เช่นเดียวกับชื่อของเขา (ปลาย)
“ระดับอี้ สูง!”
(เทียบเท่า B+)
ผู้คนที่อยู่โดยรอบอุทานขึ้นด้วยสีหน้าตกตะลึง แม้แต่อาจารย์ของสำนักก็เริ่มกระซิบกันเอง ต้องรู้ว่ามีผู้บ่มเพาะไม่มากในอาณาจักรที่มีพรสวรรค์
ถึงระดับอี้ อย่างน้อย ๆ ภายในขอบเขตมณฑลผู้บ่มเพาะระดับอี้ นั้นจัดได้ว่าเป็นผู้ที่เป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริง!
ทางด้านของ หม่าจู้ เข้าใจถึงความสำคัญของพรสวรรค์ระดับอี้ ที่เขามีเช่นกัน หลังจากโค้งคำนับบรรดาอาจารย์ผู้คุมการทดสอบของสำนัก จากนั้น
ก็เดินกลับมาเหมือนนกยูงที่หยิ่งผยอง รู้สึกลำพองใจกับสายตาที่เต็มไปด้วยความอิจฉาริษยาจากคนอื่น ๆ ที่มองมาที่เขา
หงซิงอิง แส้งสีหน้าเย้ยหยันกับท่าทีหยิ่งผยองของ หม่าจู้
ก็แค่พรสวรรค์ระดับอี้ กล้าทำตัวราวกับว่าเป็นเจ้าของโลกทั้งใบ
น่าไม่อายจริง ๆ !
หงซิงอิง รอวันนี้มานานแล้ว เขามั่นใจว่าพรสวรรค์ของเขานั้นอยู่ในอันดับต้น ๆ แน่นอน เขาไม่มีทางด้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับคนเหล่านี้
เหตุผลเดียวที่ ฉู่ชูเหยียน โดดเด่นมากกว่าเขาเนื่องจากทรัพยากรที่นางได้รับมันมากกว่าเขา ลูกชายของพ่อบ้านอย่างเขาไม่สามารถหวังที่จะแข่งขันกับนางในเรื่องนั้นได้
เขารู้สึกต่ำต้อยและไม่คู่ควรกับคุณหนูใหญ่เนื่องจากภูมิหลังที่ต่างกัน ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะอุทิศตนเพื่อปกป้องนางอย่างเงียบ ๆ เขาหวังแค่นางจะหาผู้ชายที่มีความสามารถและภูมิหลังที่โดดเด่นซึ่งคู่ควรกับนาง แค่นี้เขา
ก็พอใจแล้ว
แต่แล้วต่อมาเมื่อตระกูลฉู่ ประกาศหาคู่ครองให้กับคุณหนูใหญ่แต่มีข้อแม้ว่าชายผู้นั้นจะต้องแต่งงานเข้าตระกูลฉู่เท่านั้น เขาก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก เพราะพวกลูกหลายของชนชั้นระดับสูงไม่มีใครยอมลดตัวลงมาแต่งงานเข้าตระกูลอื่นแน่นอน ดังนั้นผลลัพธ์มันจึงกลายเป็นว่าผู้ที่เข้าร่วมการคัดเลือก
จึงมีแต่พวกลูกหลานของขุนนางและพลเรือนระดับต่ำกว่า หงซิงอิง จึงคิดว่านี้เป็นโอกาสดีของเขา ถึงตัวเขาไม่สามารถแข่งขันกับพวกลูกหลานของตระกูลใหญ่ ๆ ที่มีชื่อเสียงได้ แต่ถ้าเขาต้องแข่งข้นกับพวกคนทั่วไปแล้วล่ะก็เขามั่นใจว่าเขาเอาชนะคนพวกนั้นได้ไม่ยาก ด้วยความสามารถของเขานั้น
หงซิงอิงมั่ นใจมากว่ามันจะต้องเข้าตาคุณหนูใหญ่ที่เขาใฝ่ฝันแน่นอน
อันที่จริง มีข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วว่านายหญิงได้ตัดสินใจอย่างลับ ๆ
ว่าในให้เขาเป็นลูกเขยของนาง ซึ่งทุกคนรอบตัวเขาก็ต่างแสดงความยินดีกับเขาราวกับว่าตำแหน่งนี้มันได้ถูกตัดสินไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งตัวเขาเองในตอนนั้นก็ยังคงทำตัววางเฉยไม่ให้คนอื่นรู้ว่าแท้จริงแล้ว ในใจของเขามันก็กำลังตื่นเต้นจนแทบระเบิด ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคุณหนูใหญ่ถึงมักจะส่งยิ้มจาง ๆ ให้เขาเป็นครั้งคราว นางคงสนใจในตัวเขาอยู่สินะ!
แค่คิดว่าอีกไม่นานนางในฝันผู้สูงส่งกำลังจะกลายมาเป็นภรรยาของเขา ในอีกไม่ช้าเขาจะได้โอบกอดร่างกายที่หอมและเนียนนุ่มของนางทุกคืน มันก็ทำให้เขาอดใจไม่อยู่หัวเราะคิกคักได้แม้กระทั่งในตอนที่เขาหลับอยู่
แต่แล้วในท้ายที่สุดผลลัพธ์ที่ออกมากลับไม่เป็นไปตามที่เขาคิดเอาไว้เลยแม้แต่น้อย คุณหนูใหญ่กลับเลือกไอ้สาระเลวที่มีชื่อเสียงติดลบมากที่สุด
ในเมืองมาเป็นสามีของนางซะอย่างงั้น!
ในตอนที่ได้เขาได้ยินข่าว หงซิงอิงราวกับถูกดึงลงมาจากสวรรค์ชั้นเก้าให้ตกลงมาอยู่ในนรกขุมเสียอย่างนั้น! แถมมันยังทำให้เขากลายเป็นตัวตลกของคนรอบข้างอีกต่างหาก
หลังจากนึกย้อนมาจนถึงตรงนี้ ความโกรธก็เริ่มสุมอยู่ในอกของ
ทำไมกันนะ? ถ้ามันเป็นคนที่โดดเด่นในสักด้านใดด้านหนึ่ง ข้าคงเต็มใจยอมรับความพ่ายแพ้ แต่ คนผู้นี้ เป็นขยะที่ไร้ประโยชน์! มันจะคู่ควรกับ คุณหนูใหญ่ ได้อย่างไร!
หรือเป็นเพราะรูปลักษณ์ของมัน?
เป็นไปไม่ได้! คุณหนูใหญ่ไม่ใช่ผู้หญิงที่ตื้นเขินแบบนั้น!
หลังจากครุ่นคิดถึงเรื่องนี้เป็นเวลานาน ในที่สุดเขาก็ได้ข้อสรุป
เป็นเพราะภูมิหลังที่ต่ำต้อยของเขา เขาเป็นเพียงลูกของพ่อบ้าน เพราะแบบนั้นคุณหนูใหญ่ จึงไม่เคยคิดอะไรเกินเลยกับเขาใช่ไหม?
ดังนั้นเขาจึงขอร้องให้พ่อของเขาใช้เส้นสายเพื่อพาเขาเข้าสู่
สำนักจันทร์กระจ่าง ถ้าเขาทำได้ดีที่นั่น มันมีโอกาสที่เขาจะได้ขึ้นเป็นขุนนางและมีอำนาจของตัวเอง เมื่อถึงตอนนั้น เขาจะสามารถยืนหยัดอย่างเท่าเทียมได้กับคุณหนูใหญ่และทำให้นางมองเห็นหัวของเขาบ้าง
แล้วถ้า คุณหนูใหญ่ แต่งงานแล้วล่ะ? เหอะ สามี ของนางไร้ค่าไม่ต่างอะไรกับขยะ! ข้าสามารถเอาชนะหัวใจนางได้อย่างแน่นอน!
สิ่งเดียวที่เสียใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็คือเทพธิดาที่อยู่ในหัวใจของเขาไม่ใช่หญิงสาวบริสุทธิ์อีกต่อไป อย่างไรเสีย ตราบใดที่เขาสามารถครอบครอง
นางได้ ต่อให้นางจะไม่ยริสุทธิ์ผุดผ่องเขาก็ยอมรับได้ นอกจากนี้ตระกูลฉู่ยังมีคุณหนูรองอยู่อีกคนไม่ใช่รึไง? นางอาจจะเป็นคนเจ้าอารมณ์ แต่นางก็มีความงามที่เหลือจะบรรยายแม้อายุยังน้อย ให้เวลานางอีกสักสองสามปี นางจะต้องกลายเป็นผู้หญิงที่สวยพร้อมไม่แพ้พี่สาวของนางแน่นอน!
ข้ามีเวลาเหลือเฟืออยู่แล้ว! ข้าสามารถรอให้นางเติบโตได้!
‘วันนี้ประวัติศาสตร์ของสำนักจันทร์กระจ่าง ไม่สิคนทั้งอาณาจักรจะต้องจารึกเอาไว้ว่าข้า หงซิงอิง จากผู้ต่ำต้อยจะกลายเป็นมังกรเหนือผู้คนทั่วหล้า! ทุกคนที่นี่จะเป็นแค่เพียนขั้นบันไดให้ข้าเหยียบย่ำและเป็นได้แค่สักขีพยานในจุดเริ่มต้นของความยิ่งใหญ่ของข้า วันนี้มันคือเวลาที่ข้าจะฉายแสง!’
หัวใจของ หงซิงอิง เต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน
“ต่อไป หงซิงอิง!”
เมื่อได้ยินอาจารย์ของสำนักเรียกชื่อ หงซิงอิง เขาก็หันไปหา ซูอัน และพูดว่า “ดูและจำใส่หัวของเจ้าเอาไว้ว่า เจ้ากับข้ามันต่างกันมากแค่ไหน
ไม่มีส่วนใดของเจ้าที่คู่ควรกับ คุณหนูใหญ่ มีเพียงข้าเท่านั้นที่คู่ควรพอจะสร้างความสุขให้กับ คุณหนูใหญ่!”
“อาจารย์ ชายคนนี้กำลังวางแผนอยากแย่งภรรยาของคนอื่น! เขาเอาแต่คิดว่าจะพาภรรยาของข้าไปเป็นของตัวเอง ข้าคิดว่านับจากนี้หากเขาได้เข้า
ไปเรียนในสำนักความปลอดภัยของบรรดาลูกศิษย์ผู้หญิง
และอาจารย์ท่านอื่น ๆ คงจะแย่แน่ ๆ ท่านจะให้คนแบบนี้เข้าไปเรียนจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ?” ซูอัน ยกมือขึ้นและบ่นกับอาจารย์ของสำนักจันทร์กระจ่าง
ท่านยั่วยุ หงซิงอิง สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +156!
หงซิงอิง ไม่นึกเลยว่า ซูอัน จะไร้ยางอายถึงกับตะโกนออกมาแบบนี้! ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน คนที่ขี้ฟ้องแม้แต่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับคนอื่นเช่นนี้มักจะเป็นขยะที่น่ารังเกียจที่สุดในโลก! เขาไม่มีความรู้สึกละอายเลยบ้างรึไง?
ขณะที่ หงซิงอิง กำลังจะโจมตีใส่ ซูอัน อาจารย์ของสำนักก็จ้องเขม็ง
มาที่ หงซิงอิง ด้วยสายตาดูถูกและพูดว่า “ถึงแม้ว่าสถานศึกษาของเราจะให้ความสำคัญกับพรสวรรค์และความสามารถของนักศึกษาเป็นหลัก แต่อีกสิ่งที่เราให้ความสำคัญไม่แพ้กันก็คือลักษณะนิสัยของลูกศิษย์ด้วยเช่นกัน ข้าหวังว่าเจ้าจะสามารถก้าวย่างอย่างชาญฉลาดในอนาคต”
หงซิงอิง รับพยักหน้าทันทีและพูดว่า “รับทราบขอรับ ข้ารับปากว่า
ข้าจะไม่สร้างปัญหาใด ๆแน่นอน” เขารู้ว่าตอนนี้ความประทับใจของอีกฝ่ายที่มีต่อเขาลดลงเหลือน้อยจนถึงขีดสุด แต่มันก็ไม่สำคัญ เขาจะใช้ความสามารถของตัวเองเพื่อเรียกคืนกลับความประทับใจของอีกฝ่ายที่มีต่อเขาให้ได้!
เมื่อเห็น หงซิงอิง ตอบรับคำพูดด้วยท่าทีนอบน้อม อาจารย์พยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะกวักมือเรียก “เข้ามาได้แล้วเพื่อทดสอบพรสวรรค์ของเจ้า”
หงซิงอิง สูดหายใจเข้าลึก จากนั้นเขาเดินหน้าออกไปทันที
เช่นเดียวกับคนก่อนหน้านี้ เขาหยดเลือดหยดหนึ่งลงบนลูกแก้ว
ซึ่งในเวลาเพียงอึดใจเท่านั้น ลูกแก้วก็เปล่งแสงเจิดจ้าออกมา หากแสงของ หม่าจู้ ก่อนหน้านี้ชวนให้นึกถึงหลอดไฟ แสงของ หงซิงอิง คงเทียบเท่ากับแสงของดวงจันทร์!