เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 598 ยึดครองร่าง
บทที่ 598 ยึดครองร่าง
บทที่ 598 ยึดครองร่าง
“ยึดครอง?” ซูอันตกใจ เขาเข้าใจทุกอย่างขึ้นมาทันที ชายชราคนนี้มีแผนอย่างนี้นี่เอง ไม่แปลกใจเลยที่เขารู้สึกเหมือนถูกมองว่าเป็นเหยื่ออยู่เสมอ!
ชายชราผู้นี้ถ่ายทอดทักษะต่าง ๆ ให้กับเขา จนบางครั้งเขาก็รู้สึกผิดเล็กน้อยที่คิดไม่ไว้ใจอีกฝ่าย
แต่ตอนนี้ ชายหนุ่มรู้วัตถุประสงค์ที่แท้จริงของชายชราแล้ว และเขารู้ว่าทั้งหมดนี้มีไว้เพื่อปกป้องภาชนะรองรับวิญญาณที่สมบูรณ์แบบ!
ผู้เฒ่ามี่ยิ้มเมื่อเขาเห็นท่าทางมึนงงของซูอัน “เจ้าควรจะรู้สึกยินดีมากกว่า ตั้งแต่แรกเจ้าเป็นเพียงลูกเขยที่ไร้ค่าจนไม่มีใครเห็นความสำคัญของเจ้า สติปัญญาของเจ้าก็ไม่ได้เลิศล้ำเท่าข้า เจ้าเป็นคนที่ไม่มีอะไรเลยมาตั้งแต่แรก แต่ข้านั้นแตกต่าง! ด้วยความรู้และประสบการณ์ของข้า ในเวลาไม่นาน ตระกูลฉู่จะตกอยู่ภายใต้การควบคุมของข้า สาวงามทั้งหมดของตระกูลฉู่จะเป็นของข้า และหลังจากนั้นไม่กี่ปี ข้าจะทำให้ชื่อเสียงของเจ้าขจรขจายออกไปทั้งสิบทิศ รุ่งโรจน์เหนือผู้คนนับหมื่นนับแสน!”
“เจ้าจะกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในสายตาผู้คนทั่วหล้า ชื่อของเจ้าจะก้องกังวานนับพันปีและจะถูกจารึกไว้ในบันทึกของประวัติศาสตร์! ดังนั้นสู้มอบร่างของเจ้าให้ข้า ย่อมเป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับเจ้าไม่ใช่หรืออย่างไร?”
ซูอันนิ่งงัน…
“ตาแก่ นี่เจ้าพูดจริงจังงั้นเหรอ?” ซูอันเริ่มเปลี่ยนคำพูดในการเรียกผู้เฒ่ามี่
ผู้เฒ่ามี่ขมวดคิ้ว “ข้ายังพูดชัดเจนไม่พอเหรอ?”
“บัดซบ เจ้าขันทีโรคจิต! เจ้าคลั่งไคล้ภรรยาของข้าและผู้หญิงคนอื่น ๆ รอบตัวข้า! ข้าคงบ้าแน่ ๆ หากยอมรับเรื่องแบบนี้…” ซูอันอดกลั้นตัวเองไม่ไหวแล้วเริ่มก่นด่าผู้เฒ่ามี่
ใบหน้าของผู้เฒ่ามี่กระตุก เขาโกรธมาก
“ไอ้เจ้าเด็กเนรคุณ!”
เขารู้สึกไม่อยากจะพูดอะไรกับซูอันอีกแล้ว และพุ่งตรงเข้าหาซูอันอย่างดุดันแทน
ซูอันใช้วิชาร่างก้าวทานตะวันที่ดัดแปลงแล้วในทันที เขาแยกเป็นร่างสองร่างและวิ่งไปในสองทิศทางที่ต่างกัน
เขาตัดสินใจแล้ว เขาจะวิ่งไปหาอาจารย์ใหญ่คนสวยเพื่อขอความช่วยเหลือ ในเวลาเดียวกัน เขาจะเรียกจี้เติ้งถูและคนอื่น ๆ ด้วย เขาจะติดต่อผู้ตรวจการซ่างหงและเจ้าเมืองเซี่ยอี้ ตาเฒ่าผู้นี้กล้าผายลมใส่จักรพรรดิ ดังนั้นจึงไม่มีทางที่ขุนนางเหล่านี้จะเมินเฉย
ไม่ว่าผู้เฒ่ามี่จะแข็งแกร่งเพียงใด ก็ไม่มีทางที่เขาจะเป็นคู่มือของผู้บ่มเพาะทั้งหมดเหล่านั้น!
แม้ว่าแผนของชายหนุ่มจะยอดเยี่ยม แต่ความเป็นจริงก็โหดร้าย จู่ ๆ เขาก็รู้สึกว่าไหล่ของตัวเองถูกแรงกดทับบางอย่างปกคลุม
ผู้เฒ่ามี่ตามมาทันแล้ว!
“ได้ยังไง!?” ตอนนี้ถึงตาของซูอันที่ต้องตกใจ
ชายชราคนนี้รู้ได้อย่างไรว่าเขาอยู่ที่ไหน โชคของเขาแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ?
ผู้เฒ่ามี่พึมพำ “เจ้าแยกออกเป็นสองร่างที่เหมือนกัน ทำไมข้าต้องเดาว่าคนไหนเป็นตัวจริง ข้าก็จับมันทั้งคู่นี่แหละ!”
ความแตกต่างในระดับการบ่มเพาะระหว่างเขาทั้งสองนั้นมากเกินไป เมื่อผู้เฒ่ามี่รู้ว่าหนึ่งในนั้นเป็นร่างปลอมเขาก็ตัดปัญหาโดยการโจมตีทั้งคู่พร้อม ๆ กัน ซึ่งไม่ยากเกินไปด้วยความเร็วของเขา
แต่แล้วในขณะที่เขากำลังจะผนึกเส้นลมปราณของซูอันด้วยพลังชี่ของเขาเอง แต่ทันใดนั้นไหล่ของซูอันกลับบิดเป็นมุมแปลก ๆ จนหลุดจากการคร่ากุมไปราวกับปลาไหล
“หืม? วิชาพลิ้วไหวไหลพัวพันของตระกูลเพ่ย?” ผู้เฒ่ามี่ประหลาดใจ เขาอาศัยอยู่ในเมืองหลวงมานาน ดังนั้นเขาจึงคุ้นเคยกับทักษะของตระกูลใหญ่ ๆ และจดจำได้ทันที
ซูอันหอบหายใจ เมื่อครู่ถ้าเขาช้าไปแม้แต่วินาทีเดียว ก็คงโดนจับแล้วแน่ ๆ คราวนี้ไม่มีเว่ยต้านคอยก่อกวนผู้เฒ่ามี่อีกแล้ว ดังนั้นมันจึงยากกว่าเดิมมากที่จะหนีรอดไปได้
“ดูเหมือนว่าเด็กสาวของตระกูลเพ่ยจะดีกับเจ้ามาก” ผู้เฒ่ามี่ยิ้มเยาะ “เจ้าหนู เจ้าก็ดูเป็นคนธรรมดา แต่เหตุไฉนกลับมีทักษะในการครองใจหญิงสาวได้เพียงนี้? แต่ไม่ต้องห่วง ผู้เฒ่าคนนี้จะดูแลผู้หญิงพวกนั้นแทนเจ้าเอง หญิงสาวตระกูลเพ่ยนางนั้นรู้จักวิชาพลิ้วไหวไหลพัวพันนี้ …ร่างกายของนางคงจะอ่อนนุ่มและยืดหยุ่นเป็นเลิศทีเดียว!”
ใบหน้าของซูอันมืดลง “เจ้าเป็นขันทีที่น่ารังเกียจสุด ๆ!”
“ฮ่า ๆ เจ้าไม่มีทางนึกออกหรอกว่าข้าตื่นเต้นแค่ไหนเมื่อรู้ว่าข้าใกล้จะกลับไปเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์อีกครั้ง!” ผู้เฒ่ามี่หัวเราะ เขาไม่ได้รู้สึกกระอักกระอ่วนแต่อย่างใด ซูอันนั้นเป็นเหมือนคนที่ตายไปแล้วในสายตาของเขา
ซูอันเคลื่อนไหวด้วยความเร็วเต็มที่และพยายามหาทางเอาตัวรอดอย่างสิ้นหวัง ระดับการบ่มเพาะของเขาห่างไกลกับผู้เฒ่ามี่มากนัก แถมตอนนี้ ผู้เฒ่ามี่ได้รับอิทธิพลจากวิชาวัฏจักรหงส์อมตะเข้าไปอีก
เขามองไม่เห็นโอกาสในการอยู่รอดของตัวเองเลย!
ซูอันรู้สึกหนาวสั่นเมื่อเขาคิดว่าเขากำลังจะถูกยึดครองร่าง!
“พี่หญิงใหญ่ พี่หญิงจักรพรรดินี! โปรดช่วยข้าด้วย! เราทั้งคู่ตายแน่ถ้าท่านไม่ออกมาตอนนี้!” ซูอันกรีดร้องในใจ
น่าเสียดายที่ไม่มีการตอบกลับใด ๆ เลย ราวกับว่าไม่มีใครอยู่ที่นั่น
แน่นอนหมี่ลี่เคยบอกเขาก่อนหน้านี้ว่านางต้องการการจำศีลเป็นเวลานานเพื่อแก้ไขผลกระทบของ ‘น้ำตาสีชาดแห่งมารดรเซียง’ เขาไม่รู้ว่านางกำลังหลับอยู่จริง ๆ หรือว่านางกำลังอยู่ในขั้นตอนสำคัญของการล้างพิษ
เสียงของผู้เฒ่ามี่ดังมาจากข้างหลังเขา “ข้าขอชมเชยในความมุ่งมั่นอย่างยิ่งของเจ้า ถึงป่านนี้เจ้าก็ยังไม่ยอมแพ้”
“ข้าไม่มีทางปล่อยให้หมาแก่โดนตอนแล้วอย่างเจ้าใช้ประโยชน์จากข้า แม้ว่าข้าจะต้องตายก็ตาม!” ซูอันผรุสวาท
“หมาแก่โดนตอนงั้นเหรอ?” ผู้เฒ่ามี่รู้สึกโกรธจนหน้าสั่น คำด่านี้สำหรับเขาถือเป็นเรื่องต้องห้าม! อีกฝ่ายจี้โดนจุดอ่อนของเขาอย่างแม่นยำ
—
ท่านยั่วยุมี่เหลียนอิ๋งสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 999!
—
“ไอ้เด็กเวร เจ้าเบื่อการมีชีวิตนักใช่ไหม?!” ผู้เฒ่ามี่มองเขาอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
ซูอันรั้งตัวเองและพูดว่า “เจ้ากำลังคาดหวังอะไรไอ้เฒ่า? เจ้าจะปล่อยข้าถ้าข้าพูดดี ๆ งั้นเหรอ?! ไอ้แก่ ไอ้ขันทีบ้ากาม ไอ้ตัวไม่มีจู๋อยากได้ของคนอื่น! ถ้าพ่อของเจ้าดึงเจ้าออกจากครรภ์แม่เจ้าแล้วเขวี้ยงใส่กำแพงก่อนที่จะลืมตาดูโลก ข้าจะปรบมือให้พ่อเจ้าเสียงดังไปจนถึงสวรรค์เลย!!”
ทุกคำแทงลึกเข้าไปในจิตวิญญาณของผู้เฒ่ามี่ ความโกรธของผู้เฒ่ามี่ทวีความรุนแรงขึ้นจนควบคุมไม่ได้
“เจ้าตายแน่ไอ้เด็กหลายพ่อ!” เขารับไม่ได้อีกแล้วและเกิดความคิดอยากจะฆ่าซูอันขึ้นมา
ซูอันรู้สึกว่ามีลมแรงพัดปกคลุมเขาก่อนที่ผู้เฒ่ามี่จะเข้ามาใกล้เขา ในเวลาเดียวกัน แรงกดดันลึกลับดูเหมือนจะมาจากทุกทิศทุกทาง กดลงมาที่ตัวเขา และปล้นความสามารถในการควบคุมร่างกายของเขาไป
ซูอันตกใจมาก เขาใช้จ้าววายุทันที…
ผู้เฒ่ามี่โจมตีถูกอากาศที่ว่างเปล่า เขาตกใจ “หืม? ทักษะการเคลื่อนไหวนี้คืออะไรกัน?”
เขาไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนและไม่มีทางที่คนในตระกูลฉู่จะสอนทักษะแบบนี้ให้กับซูอันได้ ทักษะนี้ดูลึกซึ้งกว่าทักษะการเคลื่อนไหวของ เว่ยต้านที่เกี่ยวพันกับกฎแห่งมิติซะอีก!