เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 5 สายฟ้าที่ปรากฏขึ้นอย่างกะทันหัน (ต้น)
บทที่ 5 สายฟ้าที่ปรากฏขึ้นอย่างกะทันหัน (ต้น)
ก่อนที่เสวี่ยเอ๋อร์กำลังจะพูด ซูอันก็รีบพูดแทรกออกมาอย่างรวดเร็ว “เมื่อครู่ข้าลื่นล้มตกลงไปในสระ แต่เสวี่ยเอ๋อร์บังเอิญมาเห็นเข้าพอดีนางก็เลยพยายามช่วยข้า โชคไม่ดีที่นางเองก็ลื่นตกลงมาเช่นกัน ต้องขอบคุณข้ายังพอว่ายน้ำเป็นอยู่บ้าง ข้าก็เลยสามารถช่วยนางเอาไว้ได้”
เขายังไม่รู้ว่าใครกันที่ต้องการจะฆ่าเขา ดังนั้นเขาจึงควรทำตัวนิ่งเฉยไปก่อน จนกว่าจะรู้ว่ามันเกิดบ้าอะไรขึ้นกันแน่
ใบหน้าของเสวี่ยเอ๋อร์เปลี่ยนไปทันที แต่นางก็ไม่สามารถพูดแย้งอะไรออกไปได้
“เป็นแบบนั้นจริงเหรอ?” ฉู่ชูเหยียนหันไปถามคนของตน
“ช่างเถอะเอาไว้ข้าค่อยถามทีหลังก็แล้วกันตอนนี้เสื้อผ้าของเจ้าเปียกหมดแล้ว รีบกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ จากนั้นตามไปกินมือค่ำกับข้า”
หลังจากพูดจบ นางก็เดินจากไปอย่างสง่างามเช่นเดิม ซูอันต้องพยายามห้ามปากตัวเองอย่างสุดฤทธิ์ไม่ให้ล้อเลียนท่าทางการเดินของนางในแบบที่เท้าของแทบไม่ได้สัมผัสพื้น จนคล้ายกับว่านางเป็นวิญญาณลอยไปลอยมา!
แต่เมื่อมองมาที่ร่างกายที่เปียกโชกของ เสวี่ยเอ๋อร์ คู่ปรับของเขา ซูอันก็อดไม่ได้ที่จะแกล้งแหย่นาง “เสวี่ยเอ๋อร์ เราจะไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากันได้ที่ไหน? ข้าเปลี่ยนเสื้อผ้าห้องเดียวกับเจ้าได้หรือไม่?”
“ไปไกล ๆ เลยเจ้าคนสารเลว!!” เสวี่ยเอ๋อร์ตะคอกเสียงดัง ถ้าไม่ใช่เพราะว่าตอนนี้นางแต่งตัวไม่เหมาะสมละก็ นางสาบานเลยว่าจะจัดการไอ้โง่นี่ เอาให้แม่ของอีกฝ่ายจำหน้าลูกตัวเองไม่ได้เลย หญิงสาวก้มลงมองกองขนมที่หกกระจัดกระจายอยู่บนพื้น แววตาโศกเศร้าฉายชัดออกมาครู่หนึ่ง จากนั้นก็กระทืบเท้าและวิ่งจากไป
โชคดีที่หลังจากนั้นไม่นาน ฉู่ชูเหยียน ส่งคนรับใช้มาช่วยพา ซูอัน ไปที่ห้องของเขาเพื่ออาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้า
ในที่สุดก็สะอาดแล้ว! ซูอันมองภาพของตัวเองที่สะท้อนอยู่ในกระจก ร่างนี้ดูคล้ายกับร่างเดิมของเขาราว ๆ 80% เห็นจะได้ ความแตกต่างที่เด่นชัดที่สุดก็คือเขาผอมกว่าเดิมมาก แต่โดยรวมแล้วก็ยังถือว่าน่าพึงพอใจอยู่ดี “หล่อเนี๊ยบเหมือนเดิม อาจจะไม่ได้หล่อเท่าพานอัน แต่อย่างน้อยเราก็ยังหล่อว่าซีเหมินชิ่ง ล่ะว้า!”
ซูอันตั้งหน้าตั้งตารอการทานอาหารกับภรรยาคนนี้ของเขาพอสมควร แต่สุดท้ายอีกฝ่ายก็ไม่แม้แต่ปรากฏตัวออกมาเลยสักนิด เพียงแค่ให้คนรับใช้นำอาหารมาส่งให้เขาเท่านั้น
“นี่มันอะไรกันวะเนี่ย? สรุปนี่เจ้าเห็นข้าเป็นนักโทษรึไง!?” วินาทีนั้นชายหนุ่มก็เข้าใจทันทีว่าตำแหน่งลูกเขยของเขานั้นอยู่ต่ำกว่าที่ตัวเองคิดเอาไว้เสียอีก ดูจากสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น เขาไม่คู่ควรพอที่จะร่วมโต๊ะอาหารกับคนตระกูลฉู่ด้วยซ้ำ!
“ข้าผู้นี้จะไม่ยอมกินอาหารคนเดียวแบบขอทานแบบนี้หรอก!” ซูอัน ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเจ้าของร่างคนก่อนถึงยอมทนการดูถูกพวกนี้ เขาดันสำรับอาหารออกไปด้วยความโมโห
…แต่ไม่นานหลังจากนั้นท้องของเขาก็เริ่มส่งเสียงร้องออกมา ในเวลาเดียวกับที่อาหารในสำรับส่งกลิ่นหอมฉุย
ซูอันย่นคิ้วเข้าหากันแต่แล้วสุดท้ายเขาก็ตัดสินใจว่าลูกผู้ชายที่แท้จริงควรรู้ว่าเวลาไหนที่ควรตึงเวลาไหนควรหย่อน ชายหนุ่มดึงจานอาหารกลับมา จากนั้นจึงรีบกวาดอาหารทั้งหมดเข้าปากอย่างรวดเร็วราวกับพายุคลั่ง
บ้าเอ๊ย ! ต้องขอยอมรับเลยจริง ๆ ว่าอาหารพวกนี้มันอร่อยชะมัด!
หลังจากทานเสร็จซูอันก็รู้สึกสบายตัวขึ้นกว่าเดิมมาก เขาเริ่มครุ่นคิดถึงวิธีที่ตัวเองจะใช้ชีวิตอยู่ในโลกนี้
ซูอันค้นห้องเพื่อหากระดาษสักแผ่นและเขียนด้านบนของมันว่า ‘เคล็ดลับในการเอาตัวรอดในต่างมิติ’
หัวของเขาเริ่มเต็มไปด้วยข้อมูลมากมายที่เขาเคยอ่านในนิยายออนไลน์ที่เคยอ่านในอดีต…แต่แล้วสมองของเขาก็เริ่มหวนนึกถึงคอมพิวเตอร์ในห้องเก่า
…ตอนนี้มันคงจะดีถ้าเขามีมือถือสักเครื่องให้ได้เล่นเกมส์…และไหนจะความสนุกของการยั่วโมโหผู้คนในเว็บบอร์ดอีก…
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว กว่าเขาจะรู้ตัว ท้องฟ้าก็มืดเสียแล้ว เดี๋ยวก่อนนะ เมื่อครู่นี้เราวางแผนอะไรอยู่? ชายหนุ่มก้มหน้าลงมองหน้ากระดาษที่ยังคงว่างเปล่า หางตากระตุกเล็กน้อย จากนั้นจึงขยำมันจนเป็นลูกบอลและโยนทิ้งไป
ออกไปเดินเล่นข้างนอกหาข้อมูลเกี่ยวกับโลกนี้ดีกว่า!
ไอ้คนผู้นี้มันน่าสังเวชจริง ๆ แต่ไม่เป็นไรข้าคือคนดีที่ชอบช่วยเหลือผู้อื่น ดังนั้นข้าจะช่วยยกระดับชีวิตและสถานะของเจ้าให้เหนือกว่าคนทั้งโลกให้เอง!
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่คุ้นชินกับโลกนี้เลยแม้แต่น้อย แต่ด้วยพรสวรรค์การผูกมิตรของเขามันจึงทำให้เขาได้รู้ข้อมูลว่าเรือนของฉู่ชูเหยียน อยู่ที่ไหนจากเหล่าคนใช้อย่างรวดเร็ว เมื่อมาถึงหน้าประตูเรือน ซูอันก็ได้ยินเสียงของเสวี่ยเอ๋อร์ดังมาจากด้านใน “คุณหนู ท่านอยากจะทานเมล็ดทานตะวันหรือไม่?”
“ไม่ แล้วก่อนหน้านี้เจ้าก็ไม่ควรกินมันมากขนาดนั้นด้วย ข้าได้ยินมาว่าเจ้ากินมันไปตั้งเยอะ มันจะทำให้ฟันของเจ้าแตกหมด”
“ท่านขู่ข้าอีกแล้ว! จะว่าไป…ผู้ชายคนนั้นเริ่มทำตัวแย่ขึ้นเรื่อย ๆ เขาเคยดีกว่านี้ แต่วันนี้เขากลับดู…แปลกไป”
“นั่นสิ ข้าเองก็รู้สึกว่าวันนี้เขาแปลกไปไม่เหมือนคนเดิมเลย” ฉู่ชูเหยียนเอ่ยยืนยัน และขณะที่ซูอันเริ่มกังวลขึ้นเรื่อย ๆ เขาก็ได้ยินเสียงอีกฝ่ายเอ่ยต่อ “บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าเขาถูกฟ้าผ่าก็ได้ สมองของเขาก็เลยกลับตาลปัตรไปหมด”
ซูอันพูดอะไรไม่ออก ในขณะที่เสวี่ยเอ๋อร์ที่ได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะออกมาเสียงดัง หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่นางจึงหยุดหัวเราะและเอ่ยออกมาอย่างไม่ใสใจ “คุณหนู ท่านจะไม่กล่าวโทษเขาสำหรับสิ่งที่เขาได้ทำลงไปเมื่อคืนแต่งงานเลยอย่างนั้นเหรอ?”
ฉู่ชูเหยียน เอ่ยเสียงนิ่ง “เหตุการณ์เมื่อคืนมันค่อนข้างประหลาดเกินไป พรุ่งนี้ข้าจะไปปรึกษากับท่านแม่และท่านพ่อก่อนแล้วค่อยตัดสินใจอีกทีว่าจะเอายังไงกับเขา”
ซูอันค่อนข้างพึงพอใจเมื่อได้ยินแบบนี้ ดูเหมือนว่าภรรยาของเขาคนนี้ค่อนข้างที่จะฉลาดมากที่เดียว!
“ท่านปล่อยเขาง่ายเกินไปแล้ว” เสวี่ยเอ๋อร์พึมพำเสียงเบา “ทำไมสายฟ้าถึงไม่ฆ่าเขาให้ตาย ๆ ไปซะ? แบบนั้นท่านก็จะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปกับเจ้าขยะแบบนี้อีก”
ฉู่ชูเหยียนที่ได้ยินแบบนั้นจึงเอ่ยตำหนิ “ต่อไป…เจ้าห้ามพูดอะไรแบบนี้อีกเด็ดขาด!”
ด้วยเหตุผลบางอย่าง บางทีอาจเป็นเพราะว่าฉู่ชูเหยียนไม่ได้พูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นที่สระ ซูอันจึงเริ่มคิดว่าบางที อีกฝ่ายอาจจะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้นก็ได้ แต่เดี๋ยวก่อนนะ ยิ่งผู้หญิงสวยเท่าไหร่ นางก็จะยิ่งโกหกเก่งมากเท่านั้น เราจะประมาทไม่ได้เด็ดขาด!
แต่แล้วเมื่อ ซูอัน ได้ยินบทสนทนาต่อ ๆ ไปซึ่งเสวี่ยเอ๋อร์เอาแต่พูดจาดูถูกเขาเรื่อย ๆ เขาก็เริ่มทนไม่ไหว แม่งเอ๊ยพอกันที! ชายหนุ่มถีบประตูให้เปิดออกอย่างแรง
ฉู่ชูเหยียนที่เห็นว่าจู่ ๆ ซูอัน ก็ถีบประตูเข้ามาก็แสดงสีหน้าประหลาดใจเป็นอย่างมากพร้อมกับถามขึ้นว่า “นี่เจ้ามาที่นี่ทำไม?”
“มันมืดแล้วและข้าก็ไม่มีอะไรต้องทำอีก ดังนั้นข้าก็เลยว่าจะนอนหลับน่ะสิ” ซูอัน ใช้สายตามองไปที่เสวี่ยเอ๋อร์ครู่หนึ่งพลางคิดในใจ ต่อไปถ้าข้ามีโอกาสข้าจะหาซื้อยาที่ทำให้เจ้าเป็นใบ้! ข้าอยากจะรู้ว่านักเมื่อถึงตอนนั้นเจ้าจะเอาปัญญาที่ไหนมาว่านินทาข้าอีก!
สีหน้าของ ฉู่ชูเหยียน เริ่มเปลี่ยนเป็นบึ้งตึง “‘ถ้าจะเจ้าจะนอนแล้วเจ้ามาที่นี่ทำไม?”
“ไม่ใช่ว่าสามีกับภรรยาควรจะนอนด้วยกันไม่ใช่รึไง?” ซูอันเอ่ยขึ้นเสียงเรียบพร้อมกับเดินไปที่ห้องนอน
“โอ๊ยยยยย!” เสียงร้องโอดครวญก็ดังขึ้นขณะที่ร่างของซูอันถูกเตะออกไปนอกห้องอย่างไร้ความปราณี
ราวกับพอใจในความโชคร้ายของชายหนุ่ม เสวี่ยเอ๋อร์จึงเอ่ยว่า “เจ้าคนหน้าโง่เอ๊ย อย่างเจ้าควรฉี่ลงพื้นและชะโงกดูสารรูปตัวเองซะบ้าง! จะได้เห็นว่าสารรูปของเจ้ามันไม่คู่ควรแม้แต่กับเล็บเท้าของคุณหนูข้า!”
คำพูดถากถางมากมายของคนตรงหน้าหวังให้ซูอันสำนึกในความต่ำต้อยของตน
แต่มันกลับตรงกันข้ามกับความคาดหวังของนาง รอยยิ้มขบขันปรากฏขึ้นบนใบหน้าของซูอันแทนที่จะเป็นความอับอายหรือความโกรธ
อย่างที่คาด ดูจากปฏิกิริยาก่อนหน้านี้ ซูอันค่อนข้างมั่นใจเลยว่าพวกเขาไม่เคยได้ใช้ชีวิตอย่างคู่แต่งงานปกติเลย และที่เขามาที่นี่ก็เพื่อทดสอบสิ่งที่ตัวเองคิดเพียงเท่านั้น คำยืนยันที่เขาเพิ่งได้รับทำให้ชายหนุ่มดีใจเป็นอย่างมาก เขาไม่โกรธเลยสักนิด เพราะมันหมายความว่าภรรยาผู้งดงามคนนี้ของเขายังคงบริสุทธิ์ผุดผ่องซึ่งก็หมายความว่าเขาจะกลายเป็นคนแรกของนางไม่ใช่ไอ้เจ้าของร่างห่วยแตกคนก่อน!