เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 159 เจ้าโกงข้า!
นักศึกษาคนหนึ่งอุทานขึ้นด้วยสีหน้าประหลาดใจ “ครอบครัวนี้ไม่ตระหนี่เกินไปหน่อยหรือ? แขกสองคนต้องแบ่งข้าวกินกันจาก 1 ชาม? คนบ้านไหนกันที่ต้อนรับแขกแบบนี้?”
สีหน้าของ หยางเว่ย มืดลง “เจ้ามาจับผิดโจทย์ของข้าทำบ้าอะไร? โจทย์ของข้าเป็นโจทย์คณิตให้คิดแค่เรื่องของตัวเลขเท่านั้น เจ้าไม่จำเป็นต้องใส่ใจว่าไอ้ครอบครัวในโจทย์มันจะตระหนี่ แค่ไหน นั่นไม่ใช่เรื่องที่เจ้าต้องคิด!”
ซูอัน หัวเราะเบา ๆ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมหยางเว่ยถึงคิดว่าคำถามง่าย ๆ เช่นนี้เป็นเรื่องยาก หรืออาจเป็นเพราะคนในโลกนี้ไม่เข้าใจแนวคิดของพีชคณิต?
ชายหนุ่มทำการคำนวณคร่าว ๆ ก่อนเขียน ’60’ เป็นคำตอบ
เอื้อก~
หยางเว่ย กลืนน้ำลายด้วยความตกใจ เป็นไปได้อย่างไร? ไอ้เด็กเวรคนนี้เคยเห็นคำตอบของคำถามมาก่อนแล้วหรือไง? ไม่ นั่นเป็นไปไม่ได้ คำถามนี้ข้าเพิ่งคิดขึ้นมาเมื่อกี้นี้เอง! คำถามเหล่านี้มันง่ายอย่างที่ไอ้เด็กนี่บอกจริง ๆ งั้นหรือ?
เขาเริ่มสงสัยในสติปัญญาของตัวเองมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่เมื่อเขาเห็นสีหน้าอันงงงวยของนักศึกษาทั้งหลาย เขาก็ตระหนักว่าปัญหามันไม่ได้อยู่ที่สติปัญญาของเขาแน่นอน! ไอ้เด็กคนนี้ มันคงน่าจะเดาคำตอบได้ถูกอีกแล้วแน่นอน! ใช่ มันต้องเป็นอย่างนั้นอย่างแน่ ๆ
ซูอัน ย้ายไปที่คำถามที่สาม
‘ในตลาดเมืองจันทร์กระจ่าง ไก่ตัวผู้มีค่า 5 เหรียญทองแดง ไก่ตัวเมียมีค่า 3 เหรียญทองแดง และลูกไก่ 3 ตัวมีค่า 1 เหรียญทองแดง ชาวนาใช้เงินทั้งหมด 100 เหรียญทองแดงเพื่อซื้อสัตว์ 100 ตัว ชาวนาซื้อไก่ตัวผู้ ไก่ตัวเมีย และลูกไก่ทั้งหมดกี่ตัว?’
หืม? คำถามนี้ดูน่าสนใจทีเดียว มีตัวแปรที่ไม่รู้จักสามตัว แต่เราสามารถสร้างสมการได้เพียงสองสมการที่นี่ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากจำนวนนั้นค่อนข้างน้อย เราจึงสามารถตั้งสมมุติฐานและตรวจสอบได้โดยการใช้เคล็ดลับแทนจำนวนไก่ตัวผู้ ไก่ตัวเมีย และลูกไก่เป็น x, y และ z ตามลำดับ และเพื่อลดความซับซ้อนของสมการจึงต้องเขียนให้เป็น y = (100 -7x)/4
เนื่องจากจำนวนไก่ตัวผู้ ไก่ตัวเมีย และลูกไก่ต้องเป็นจำนวนเต็ม สมการ (100 – 7x) ต้องเป็นตัวเลขที่หารด้วย 4 ลงตัว ซึ่งหมายความว่า x ต้องเป็นจำนวนคู่
จากนี้ไป เราสามารถสรุปได้อย่างรวดเร็วว่ามีไก่ตัวผู้ 4 ตัว ไก่ตัวเมีย 18 ตัว และลูกไก่ 78 ตัว!
เมื่อ หยางเว่ย เห็น ซูอัน เขียนคำตอบ เขารู้สึกว่าจิตใจของเขาว่างเปล่าในทันที สามคำถาม! เขาสามารถตอบคำถามสามข้อได้อย่างถูกต้อง 3 คำถามแล้ว!
เขาไม่สามารถเล่นลิ้นได้เลยว่าคำตอบของ ซูอัน นั้นผิดเพราะตอนนี้มีฝูงชนจำนวนมากเฝ้าดูอยู่ ถึงแม้ว่านักศึกษาเหล่านี้อาจไม่สามารถแก้โจทย์นี้ได้อย่างถูกต้องก็จริง แต่มันก็ยังง่ายพอสำหรับนักศึกษาพวกนี้ที่จะเอาโจทย์เหล่านี้ไปให้อาจารย์คนอื่น ๆ แก้ภายหลัง ไม่ต้องพูดถึง ซางหลิวอวี้ ก็เฝ้าดูเขาเช่นกัน!
ไอ้เด็กเวรผู้นี้มันแก้โจทย์ของข้าได้ง่าย ๆ แบบนี้ได้ยังไง? มันควรจะเป็นแค่ คนไร้ความสามารถที่สุดในเมืองไม่ใช่หรือ? ยิ่งไปกว่านั้น ความเร็วที่มันแก้โจทย์เหล่านี้ก็เร็วอย่าง น่าเหลือเชื่อ!
เนื่องจาก ซูอัน ได้ตอบคำถามถูกต้องสามข้อแล้ว เขาจึงแพ้เดิมพันไปแล้ว ตัวเขาไม่สามารถไล่อีกฝ่ายออกจากสถาบันได้อีกต่อไป ตอนนี้มันเหลือแต่เขาต้องอธิษฐานขอให้อีกฝ่ายไม่สามารถแก้โจทย์ทั้งหมดได้ ไม่งั้นมันจะเป็นเขาเองที่ตกอยู่ในที่นั่งลำบากแทน!
อาจารย์วัยกลางคนไม่เคยคิดเลยว่าสถานการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้น ดังนั้นเขาจึงตกลงเดิมพันโดยไม่ลังเลใด ๆ ความเชี่ยวชาญด้านคณิตศาสตร์ของ ซูอัน นั้นเป็นสิ่งที่คาดไม่ถึง และมันทำให้เขาตื่นตระหนกจนแทบจะบ้าตาย
ไม่ ไม่มีอะไรต้องกลัว นับจากนี้คำถามมันจะเริ่มยากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะคำถามสุดท้าย ข้าพบมันในบันทึกโบราณซึ่งแม้แต่เขาเองยังแก้มันไม่ได้ด้วยซ้ำ!
ไม่ว่าความสามารถของไอ้เด็กผู้นี้จะน่าเหลือเชื่อขนาดไหน แต่ความสามารถของมันก็ต้อง มีขีดจำกัด ไม่มีทางที่มันจะสามารถไขคำถามสุดหินที่มีมาตั้งแต่โบราณได้แน่นอน!
ในระหว่างที่ หยางเว่ย กำลังตื่นตระหนกอยู่นั้น ซูอัน ก็ไขคำถามทีละข้ออย่างรวดเร็วจนทำให้เกิดเสียงอุทานตกใจจากนักศึกษาที่อยู่รอบ ๆ ในตอนแรก ทุกคนคิดว่าเขาโชคดีและเดาคำตอบ ที่ถูกต้องได้ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้มันดูเหมือนว่าไม่เป็นแบบนั้น เพราะจากความเร็วในการแก้โจทย์ต่าง ๆ แบบไม่มีสะดุดและสีหน้าที่มั่นใจขนาดนั้น มันพิสูจน์ได้ว่าซูอันคืออัจฉริยะด้านคณิตศาสตร์อย่างแท้จริง
นักศึกษาหลายคนหวังว่าจะเห็น ซูอัน สร้างความอับอายให้กับตัวเองในวันนี้ เพราะไม่ว่า จะยังไง พวกเขาก็ไม่ชอบขี้หน้า ซูอัน สักเท่าไหร่ที่โชคดีได้แต่งงานกับ ฉู่ชูเหยียน ผู้หญิงที่สวยที่สุดในเมืองจันทร์กระจ่างแถมยังมีความสัมพันธ์กับสุดยอดสาวงามอีกหลายคน พวกเขารับไม่ได้กับการที่ซูอันโชคดีในเรื่องผู้หญิงขนาดนี้ทั้ง ๆ ที่พวกเขายังโสดอยู่แท้ ๆ อันที่จริงหากพวกเขาสามารถ ขับไล่ซูอันออกจากสถาบันได้ด้วยตัวเอง พวกเขาจะทำเช่นนั้นทันทีโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย
แต่เมื่อการเดิมพันดำเนินต่อไป ฝูงชนก็เริ่มแปลกใจกับตัวเองที่พวกเขาเริ่มจะรู้สึกตื่นเต้นเมื่อเห็นว่า ซูอัน ตอบคำถามทีละคำถามโดยไม่พลาดเลย ท้ายที่สุดพวกเขาก็นึกคิดได้ว่า อันที่จริง สิ่งที่น่าสนใจมากกว่าการเห็นเพื่อนร่วมชั้นถูกไล่ออกก็คือการเห็นอาจารย์ของตัวเองถูกไล่ออกมากกว่า!
ซางหลิวอวี้ เผยรอยยิ้มบาง ๆ ขึ้นในระหว่างที่นางมองไปที่ ซูอัน พร้อมกับคิดว่าเขาค่อนข้างมีเสน่ห์เมื่อเขาจดจ่ออยู่กับบางสิ่งบางอย่างแบบตั้งใจ
นางอดไม่ได้ที่จะนึกถึงเหตุการณ์ที่นางกับเขาพบกันครั้งแรกที่ศาลา และสิ่งนี้กระตุ้นให้นางอยากรู้เกี่ยวกับเขามากขึ้น คนผู้นี้ซ่อนความลับไว้กี่ความลับกันแน่?
ตรงกันข้ามกับท่าทางที่ผ่อนคลายของซางหลิวอวี้ หยางเว่ย เริ่มใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดหน้าผากของตัวเองบ่อยขึ้นเพราะเหงื่อที่เย็นเฉียบมันผุดออกมาเรื่อย ๆ เขาสัมผัสได้ถึงสายตาของฝูงชนที่จ้องมาที่เขาอย่างเยาะเย้ย ซึ่งมันทำให้เขารู้สึกทั้งหงุดหงิดและขนลุกอย่างบอกไม่ถูก ใจเย็น ๆ ใจเย็น ๆ… ใช่ ไม่มีอะไรต้องกังวล ไม่มีทางที่ไอ้เด็กนี่จะสามารถแก้คำถามสุดท้ายได้!
ในที่สุด ซูอันก็มาถึงคำถามสุดท้าย
‘ชาวนาผู้หนึ่งมีภรรยาอยู่ 2 คน ภรรยาทั้งสองคนของชาวนานำไข่ไก่ทั้งหมด 100 ฟอง มาขายที่ตลาดเมืองจันทร์กระจ่าง ทั้งสองได้รับเงินจำนวนเท่ากันหลังจากขายไข่ไก่หมด ภรรยา คนแรกบอกภรรยาคนที่สองว่า “ถ้าข้ามีไข่ไก่มากเท่ากับเจ้า ข้าจะสามารถหาเงินได้ 15 เหรียญทองแดง” ภรรยาของชาวนาคนที่สองตอบว่า “ถ้าข้ามีไข่ไก่จำนวนเท่ากับเจ้า ข้าก็จะมีรายได้เพียง 6 กับ 2 ใน 3 เหรียญทองแดงเท่านั้น” คำถาม:พวกนางแบ่งไข่ไก่ไปขายคนละกี่ฟอง?”
นักศึกษาเริ่มถกเถียงคำถามนี้อย่างกระตือรือร้นระหว่างกัน
“นี่เป็นเรื่องแปลก พวกนางขายไข่ไก่ทั้งคู่ใช่ไหม เหตุใดราคาที่พวกนางขายจึงแตกต่างกัน?”
“นี่มันเป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรือไง? เห็นได้ชัดว่าภรรยาคนที่หนึ่งของชาวนาหน้าตาดีกว่าอีกคน ผู้คนจึงแห่ไปซื้อไข่ไก่จากภรรยาคนที่หนึ่งของชาวนาที่หน้าตาดีกว่าแม้ว่าจะมีราคาแพงกว่า ส่วนคนที่สวยน้อยกว่าก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องลดราคาไข่ไก่ของนางเพื่อดึงดูดลูกค้า”
“นี่เจ้าทำไมถึงฉลาดได้ขนาดนี้!”
…
ซูอัน ตกตะลึงเมื่อเห็นคำถามนี้ เขาหันไปหาหยางเว่ยและถามว่า “เจ้าไม่ได้คิดจริง ๆ ใช่ไหมว่าคำถามนี้มันยากมาก?”
หยางเว่ย เดือดปุด ๆ จนแทบอยากจะเอาโต๊ะทุ่มใส่ ซูอัน ข้าต้องคิดว่ามันยากแน่นอนสิโว๊ย! ไม่งั้นข้าจะให้มันเป็นโจทย์ข้อสุดท้ายทำบ้าอะไร? อย่างไรก็ตาม ณ จุดนี้เขาไม่กล้าที่จะดูถูก ซูอัน อีกต่อไป ดังนั้นเขาจึงเลือกตอบด้วยคำพูดที่คลุมเครือว่า “บรรดาผู้ที่เข้าใจคณิตศาสตร์อย่างถ่องแท้จะสามารถแก้โจทย์นี้ได้โดยไม่คิดว่ามันยากอะไร”
“นั่นก็ถูกเพราะมันไม่ยากเลย” ซูอัน พยักหน้าหงึก ๆ
นี่เป็นเพียงปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการแก้สมการพร้อมกับตัวแปรสี่ตัว การคำนวณนั้นน่าเบื่อ แต่ก็ไม่ยากเลย
หยางเว่ย รู้สึกเดือดดาลกับคำตอบที่ดูสบาย ๆ ของ ซูอัน ข้าแค่แสดงมารยาทกับเจ้า แต่เจ้ากลับตอบเหมือนกับว่ากำลังดูถูกข้าอย่างนั้นแหละ ทำไมเจ้าไม่ลองแก้และแสดงคำตอบ ที่ถูกต้องให้ข้าดู!
ท่านยั่วยุ หยางเว่ย สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +222!
ซูอัน เหลือบมอง หยางเว่ย อย่างงุนงง เขารีบเขียนชุดสมการลงในกระดาษอีกแผ่นหนึ่งก่อนที่จะเขียนคำตอบลงไปในที่สุด: ภรรยาของชาวนาคนแรกมีไข่ 40 ฟอง และภรรยาของชาวนาคนที่สองมีไข่ 60 ฟองนักศึกษาหลายคนตรวจสอบคำตอบของ ซูอัน อย่างขยันขันแข็งและในไม่ช้า หนึ่งในนั้นก็ร้องอุทานอย่างตื่นเต้นว่า “เขาทำถูกแล้ว! เขาสามารถตอบคำถามทั้งหมด 20 ข้อได้ถูกต้อง!”
ทุกคนต่างประหลาดใจและตื่นเต้นในเวลาเดียวกัน จากนั้นหลายสายตาก็เริ่มจับจ้องไปที่ หยางเว่ย เพราะการเดิมพันที่พวกเขาเดิมพันเอาไว้เมื่อครู่นี้มันคือ ถ้าหาก ซูอัน ตอบคำถาม 20 ข้อได้ถูกต้องทั้งหมด หยางเว่ย จะต้องลาออกจากสถาบันจันทร์กระจ่าง!
ในทางกลับกัน หยางเว่ย ดูเหมือนจะไม่รับรู้อะไรอีกต่อไปแล้ว หัวสมองของเขามันโล่ง ไปหมด เสียงต่าง ๆ มันก้องอยู่ในหูของเขา ทุกอย่างที่เพิ่งเกิดขึ้นมันขัดกับสามัญสำนึกของเขาทั้งหมด เขาคิดว่าเขาเพิ่งได้รับภารกิจอันแสนหวานและง่ายดายในการเหยียบย่ำนักศึกษา ที่ไร้ความสามารถคนหนึ่ง แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าเขาจะจบลงด้วยการที่มันเป็นเขาเองที่ถูกเหยียบย่ำซะเอง
นี่มันไม่ถูกต้อง! ไอ้เด็กคนนี้มันควรจะเป็นคนไร้ความสามารถที่สุดในเมืองนี้ไม่ใช่หรือ? ไหงมันกลับกลายเป็นอัจฉริยะคณิตศาสตร์ได้ขนาดนี้?
ซูอัน หันไปมองซางหลิวอวี้ และถามขึ้นด้วยรอยยิ้มว่า “อาจารย์ซาง ใช่ไหม? เนื่องจากท่านเป็นพยานของเราที่นี่ ข้าอยากให้ท่านประกาศผู้ชนะการเดิมพันนี้สักหน่อย”
“ไม่ต้องบอกก็เห็น ๆ กันอยู่ว่าเจ้าชนะ”ซางหลิวอวี้ พยักหน้าตอบขณะที่นางยิ้มให้เขาอย่างรู้เท่าทัน
เมื่อได้ยินคำตัดสินแล้ว ซูอัน ก็หันไปหา หยางเว่ย และพูดว่า “อาจารย์หยางใช่ไหม? ข้าจำได้ว่าท่านบอกว่าท่านจะลาออกจากสถาบันถ้าข้าสามารถตอบคำถามทั้ง 20 ข้อ ได้อย่างถูกต้อง ข้าขอทราบได้ไหมว่าคำพูดของท่านยังคงเป็นความจริงหรือไม่?”
ใบหน้าของ หยางเว่ย แดงก่ำอย่างรวดเร็ว เขาชี้นิ้วไปที่ ซูอัน ด้วยความเจ็บใจพร้อมกับตะโกนว่า “เจ้าโกง! ใช่แล้ว เจ้าต้องโกงแน่ ๆ !”