เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 121 ข้าอิจฉา(ต้น)
ซูอัน โบกมือและบอกกับฝูงชนรอบ ๆ ด้วยสีหน้าที่แสร้งทำเป็นหดหู่ว่า “พวกเจ้าทุกคนก็เห็นกับตาตัวเองใช่ไหมว่าเขาท้าข้าประลองตัวต่อตัวก่อน ทั้ง ๆ ที่ข้าเองก็ไม่อยากจะทำอะไรเขาเหมือนกัน แต่เขาก็คะยั้นคะยอจะเอาให้ได้ ดังนั้นข้าก็เลยต้องจำใจตอบรับแต่สุดท้ายใครจะไปรู้ว่า ชายผู้นี้จะดีแต่ปากโดนข้าถีบหน้าไปทีเดียวก็หมดสติไปซะแล้วแบบนี้”
นักพนันที่อยู่ล้อมรอบมองมาที่ ซูอัน ด้วยสีหน้าที่ขัดแย้ง
ไอ้คนผู้นี้มันมีฝีปากที่แข็งแกร่งขนาดนี้ได้ยังไง? หากเป็นเรื่องการโต้เถียงแล้วข้าไม่เคยเห็นใครที่พลิกลิ้นพูดกลับขาวให้เป็นดำได้เก่งเท่ากับไอ้ชายผู้นี้มาก่อนเลย!
พวกเขาไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าคนแบบนี้สามารถเอาชนะใจคุณหนูใหญ่ตระกูลฉู่ได้อย่างไร ไม่ว่าพวกเขาจะมองอย่างไร ซูอัน ก็ไม่มีค่าพอแม้กระทั่งจะได้เป็นคนขัดรองเท้าให้กับคุณหนูใหญ่ ตระกูลฉู่ หรือจะให้พูดตามตรง พวกเขารู้สึกว่าตัวของพวกเขาเองนั้นยังดีซะกว่าไอ้ผู้ชายไร้ยางอายคนนี้ด้วยซ้ำ
ในที่สุดพวกเขาก็นึกขึ้นได้อย่างหนึ่งที่ ซูอัน เหนือกว่าพวกเขา และมันก็คือความหนาของหน้ายังไงล่ะ!
เมื่อเห็นสีหน้าของผู้คนรอบ ๆ ที่กำลังหมั่นไส้เขาอยู่ ซูอัน ก็สงสัยว่าเขาควรจะพูดอีกสักสองสามคำเพื่อปลุกระดมผู้คนเหล่านี้ต่อไปอีกดีไหมเพื่อรีดคะแนนความโกรธให้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม เมื่อมองจากมุมมองอื่น เขาก็รู้สึกว่าการค่อยๆรีดคะแนนความโกรธมาเรื่อย ๆ มันจะเป็นผลดีต่ออนาคตของเขามากกว่าที่จะะบีบคนเหล่านี้ให้แห้งทันที
เมื่อคิดได้เช่นนี้ ซูอัน จึงพูดขึ้นว่า “ข้ามีความรู้สึกว่าโชคของข้าวันนี้น่าจะดี เอาล่ะพวกเรามาเริ่มเล่นกันเลยดีกว่า!”
“แน่นอน! นายน้อยซู เชิญทางนี้!” หัวใจของดอกบ๊วยเจ็ดเบ่งบานด้วยความสุข
ฟู่…ตอนแรกข้านึกว่า น้องสิบสามจะทำเสียเรื่องซะแล้ว ไม่นึกเลยว่าไอ้โง่นี่จะยังยืนกราน ที่จะเดินเข้ามาในนรกอีกรอบ? ฮึฮึฮึ ในเมื่อเจ้ายื่นคอมาให้ข้าบั่นถึงขนาดนี้แล้ว ข้ารับรองว่าข้าจะไม่ทำให้เจ้าผิดหวังอย่างแน่นอน วันนี้ข้าจะรีดเงินจากเจ้าให้ถึงหลักแสนให้ได้!
สิ่งเดียวที่เขาต้องกังวลในตอนนี้คือการแทรกแซงของ คุณหนูใหญ่ตระกูลฉู่ ต้องหาโอกาสหลอกล่อนางออกไป ไม่เช่นนั้นนางจะต้องหยุด ซูอัน ไม่ให้เป็นหนี้แน่นอน
ฝูงชนเฝ้าดูอย่างตั้งใจขณะที่ดอกบ๊วยเจ็ดเดินนำ ซูอัน ไปที่โต๊ะพนัน หลังจากเหตุการณ์ที่อึกทึกเมื่อครู่ นักพนันคนอื่น ๆ ต่างก็อยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป พวกเขาจึงรวมตัวกันรอบ ๆ บริเวณเพื่อชมเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น
ซูอัน มองไปที่โต๊ะพนันตรงหน้าเขาอย่างสนใจ เขาเคยเห็นแต่บ่อนการพนันในละครและภาพยนตร์ในชีวิตก่อนหน้านี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้มาเห็นกับตาของเขาเอง ซึ่งมันแตกต่างจากที่เขาจินตนาการเอาไว้มาก บนโต๊ะมีเส้นตารางตีเป็นกรอบอยู่มากมายให้เขาเลือกทายว่าเต๋าจะออกมาเป็นรูปแบบไหนนอกจากจากช่องใหญ่สุดซึ่งเขียนว่า ‘สูง’ และ ‘ต่ำ’
แม้ว่า ซูอัน จะไม่เคยเล่นมาก่อน แต่อักษรที่เขียนในตารางแต่ละช่องบนโต๊ะก็ค่อนข้างอธิบายตนเองได้อย่างชัดเจนว่ามันมีอะไรบ้าง ซึ่งเขาใช้เวลาไม่นานก็เข้าใจวิธีการเล่นแทบทั้งหมด
ลูกเต๋าที่วางอยู่บนโต๊ะมีทั้งหมด3ลูก หากผลลัพธ์ที่ออกมาเป็นแต้มระหว่างอยู่ระหว่าง 4 ถึง 10 จะถือว่า ‘ต่ำ’ หากผลลัพธ์อยู่ระหว่าง 11 ถึง 17 จะถือว่า ‘สูง’ ซึ่งอัตราต่อรองที่เขาจะได้รับเงินจากการทายถูกนั้นเท่ากับ 1:1 นอกจากนั้นมันยังมีช่องที่ให้เดิมพันว่าลูกเต๋าทั้งสามลูกจะออกหน้าเดียวกันหมดและอัตราการจ่ายคือ 1:24
ต่อมามีตารางให้วางเดิมพันสำหรับผู้เล่นที่ชอบความเสี่ยงสูง มันคือช่องลงเดิมพันสำหรับทายว่าลูกเต๋าทั้งสามจะออกแบบเดียวกัน ยกตัวอย่างลูกเต๋าทั้งสามออกเป็นตัวเลข 1 หรือไม่ก็ 2ทั้งหมดทั้งสามลูก ซึ่งอัตราการจ่ายเดิมพันสำหรับช่องนี้จะอยู่ที่ 1: 150!
อีกทางหนึ่งคือสามารถเดิมพันผลรวมของตัวเลขลูกเต๋าสามลูกที่กำลังจะออกได้ ซึ่งถ้าหากเลือก 4 หรือ 17 อัตราการจ่ายเงินจะเป็น 1:50 หากเลือก 5 หรือ 16 อัตราการจ่ายเงินจะเป็น 1:18 โดยพื้นฐานแล้ว ยิ่งตัวเลขที่ทายมีโอกาสปรากฏง่ายขึ้นเท่าใด ค่าตอบแทนก็จะยิ่งต่ำลงเท่านั้น
“นายน้อยซู ท่านต้องการวางเดิมพัน ต่ำหรือสูง?” ดอกบ๊วยเจ็ดถามด้วยรอยยิ้มสดใส ในความคิดของเขากำลังสร้างสถานการณ์ที่สมบูรณ์แบบเพื่อให้แน่ใจว่า ซูอัน เดินออกจากบ่อนด้วยหนี้สินจำนวนมาก
ซูอัน ชำเลืองมองที่ ดอกบ๊วยเจ็ด และถามว่า “เจ้าวางแผนที่จะปล่อยให้ข้าชนะก่อน สักสองสามรอบเพื่อที่ข้าจะได้ไม่กลัวใช่ไหม?”
ไอ้เวรนี่รู้ได้อย่างไร?
ดอกบ๊วยเจ็ดตะลึง อย่างไรก็ตาม ความประหลาดใจในดวงตาของเขาหายไปอย่างรวดเร็วจนใคร ๆ ก็ไม่อาจมองได้ทัน จากนั้นเขาก็รีบหัวเราะกลบเกลื่อน “นายน้อยซู ท่านอย่าล้อเล่นข้า แบบนี้สิ ข้าจะไปมีปัญญากำหนดผลลัพธ์การเดิมพันของเราได้ยังไง สิ่งเดียวที่มีอิทธิพลต่อผลลัพธ์บนโต๊ะพนันนี้คือโชคเท่านั้น!”
“อย่างนั้นเหรอ? งั้นเอาเป็นว่าให้ข้าเตือนเจ้าล่วงหน้าสักหน่อยก็แล้วกัน ภรรยาของข้าคือ ผู้บ่มเพาะระดับ 5 ซึ่งนางมีประสาทสัมผัสที่ไวเป็นอย่างมาก นางจะรู้ได้ทันทีหากเจ้าเล่นตุกติก ดังนั้นอย่าพยายามเล่นตลกอะไรเด็ดขาดไม่เช่นนั้นหากเจ้ามือขาดขึ้นมาก็อย่าได้มาโทษข้าว่า ไม่เตือนเจ้าก่อน” ซูอัน ยังคงรู้สึกไม่สบายใจเกี่ยวกับเรื่องกลอุบายของบ่อนอยู่บ้างดังนั้น ซูอัน จึงจงใจเอ่ยชื่อ ฉู่ชูเหยียน ให้เข้ามาเกี่ยวข้องเพื่อขู่ ดอกบ๊วยเจ็ด
ฉู่ชูเหยียน จ้องไปที่ ซูอัน ด้วยสีหน้าหงุดหงิด เขาเรียกนางว่าภรรยาอีกแล้วแต่ถึงอย่างนั้นนางไม่อาจเปิดเผยให้ใครรู้ได้ว่าพวกเขาเป็นเพียงคู่สามีภรรยาแค่ ‘ในนาม’ ต่อหน้าผู้คนมากมายเช่นกัน
ในทางกลับกัน รอยยิ้มของ ดอกบ๊วยเจ็ด ก็กลายเป็นนิ่งค้าง เขารีบตอบกลับทันทีด้วยสีหน้าจริงจัง “นายน้อยซู โปรดมั่นใจ ด้วยชื่อเสียงของ บ่อนโกยเงิน ของเรา เราไม่มีทางที่จะใช้กลอุบายใดๆแน่นอน ท่านเห็นอักขระที่สลักบนฝาครอบเครื่องเขย่าลูกเต๋าของเราหรือไม่? สิ่งนี้เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ถูกสร้างขึ้นโดยปรมาจารย์อักขระในเมืองหลวง มันสามารถปิดกั้นพลังชี่ของผู้บ่มเพาะได้ ส่งผลให้ไม่ว่าจะเป็นใครก็ไม่สามารถอ่านผลลัพธ์ภายในได้”
นักพนันคนอื่น ๆ เมื่อได้ยินเช่นนี้ต่างก็พากันแสดงสีหน้าละอายใจไม่มีใครในที่นี้ไม่รู้ว่าบ่อนนั้นมีเล่ห์เหลี่ยมที่แพรวพราวขนาดไหน ถึงแม้ว่าฝาครอบมันจะสามารถป้องกันไม่ให้ผู้บ่มเพาะอ่านหรือรบกวนผลลัพธ์ของลูกเต๋าได้จากพลังชี่ แต่อักขระเหล่านี้ก็ไม่ได้ป้องกันการเปลี่ยนแปลงผลจากทางกายภาพ ซึ่งมันมีแนวโน้มเป็นไปได้สูงว่าที่ใต้โต๊ะมันน่าจะมีกลไกอยู่เพื่อเปลี่ยนตัวเลขในนาทีสุดท้าย
อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้คนแทบทั้งหมดในที่นี่รู้สึกหมั่นไส้ ซูอัน อยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อยากให้เขาเสียจนหมดตัว ดังนั้นพวกเขาทั้งหมดจึงเลือกที่จะดูต่อไปอย่างเงียบ ๆ โดยไม่คิด จะเตือนอะไรทั้งนั้น
อย่างไรก็ตาม ดอกบ๊วยเจ็ดรู้ดีว่าการดูถูกประสาทสัมผัสที่เฉียบแหลมของผู้บ่มเพาะระดับ 5นั้นเป็นเรื่องที่โง่เง่าสิ้นดี แน่นอนทันทีที่เขาใช้กลโกงเขาจะถูกเปิดโปงทันที ซึ่งนี่ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกอึดอัดไม่น้อย นี่เป็นอุปสรรคชิ้นใหญ่แน่นอนในแผนของเขา แต่ถึงยังไงเขาก็ยอมไม่ท้อถอย
อย่างน้อย ๆ ที่สุด ชายหนุ่มเชื่อเป็นอย่างมากว่าเขาจะต้องสามารถทำให้ ซูอัน สูญเสียทรัพย์สมบัติทั้งหมดได้ แม้จะไม่ต้องใช้อุบายก็ตาม
“นายน้อยซู ท่านวางแผนที่จะเดิมพันเท่าไหร่?” ดอกบ๊วยเจ็ด เอ่ยถามขึ้น
ซูอัน แอบหยิบยาโชคลาภออกมาแล้วกลืนมันลงไปก่อนจะพูดว่า “ข้าไม่ชอบอะไรที่มัน ยืดยาว ดังนั้นข้าจะเทหมดหน้าตักไปในทีเดียว!”
“เทหมดหน้าตัก??” ดอกบ๊วยเจ็ด อึ้งไปครู่หนึ่ง
“เจ้าเปิดบ่อนได้ยังไงทั้ง ๆ ไม่รู้ว่าความหมายของคำว่า ‘เทหมดหน้าตัก’ มันคืออะไร?” ซูอัน กลอกตาด้วยสีหน้าดูถูก “เทหมดหน้าตัก หมายถึงว่า ข้าจะลงเดิมพันด้วยเงินทั้งหมดที่ข้ามี!”