เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 2374 การกาเนิดใหม่ที่แท้จริง
หลี่หงอี้ถึงกับตั้งตัวไม่ถูกไปชั่วขณะ
คลื่นใต้น้าเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว ซ้ายังเป็ นลูกใหญ่มากด้วย!
นับตั้งแต่ที่มีการก่อตั้งอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมา นี่เป็ นครั้งที่ สองที่นครศักดิ์สิทธิ์ถูกโจมตี
ความคิดมากมายผุดขึ้นมาในสมองของหลี่หงอี้
เขาหันไปมองหลินถิงซานด้วยความตกตะลึง
หญิงสาวยืนอยู่ที่หน้าต่างกระจกบานใหญ่ สีหน้าไม่ได้สงบสุขุม อีกต่อไป แต่เป็ นสีหน้าที่แสดงออกถึงความเคารพเลื่อมใสและ เกือบจะดีใจด้วยซ้า
หลี่หงอี้เข้าใจบางอย่างขึ้นมาในทันที
คลื่นแรงระเบิดกวาดผ่านไปทุกหนทุกแห่ง
แล้วทันใดนั้น…
ครืน!
สานักงานใหญ่ของกรมสืบสวนสั่นสะเทือน ประตูมิติยักษ์ปรากฏ ขึ้นบนท้องฟ้ า ลักษณะของประตูมิติมีความคล้ายคลึงกับผิวน้าทะเลที่ กาลังปั่นป่วน
แล้วเรือเหาะลาใหญ่ก็แล่นออกมาจากประตูมิติบานนั้น
“นั่นมัน…”
หลี่หงอี้เบิกตาโตด้วยความไม่อยากเชื่อ
บนเรือเหาะลานั้นมีตราสัญลักษณ์ที่เขาคุ้นเคย
เป็ นสัญลักษณ์ของกองทัพเป่ยเฉิน
กองทัพเป่ยเฉินบุกโจมตีแล้ว!
นี่เป็ นไปได้อย่างไร?
อาณาจักรเทียนอวี่ซึ่งเป็ นศูนย์บัญชาการของกองทัพเป่ยเฉินอ ยู่ห่างจากอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ในชนิดที่ต้องเดินทางผ่านจุดทิ้งสมอ เป็ นจานวนมาก เพราะฉะนั้น กว่าจะเดินทางมาถึงจาต้องใช ้เวลาไม่ ต่ากว่าสามเดือน…
ทว่า ตอนนี้จุดทิ้งสมอทั้งหมดได้ถูกอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ควบคุม ไว้หมดแล้ว
แล้วกองทัพเป่ยเฉินมาปรากฏตัวขึ้นที่นี่ได้อย่างไร?
ความคิดแรกที่ปรากฏขึ้นมาในสมองของหลี่หงอี้ คือการออกไป ป้ องกันผู้บุกรุกทันที
ถึงแม้ว่าเขาเองจะไม่ชอบเผ่ามนุษย์ทะเลทราย แต่ในฐานะที่ ท างานอยู่ในกรมสืบสวนซึ่งขึ้นตรงต่อองค์จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ หลี่หง อี้ก็ไม่เคยคิดที่จะตั้งตนเป็ นศัตรูกับอาณาจักรของตนเอง เขาไม่มี ความคิดที่จะปล่อยให้นครหลวงแห่งอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ต้องถูก ท าลายลงไปต่อหน้าต่อตา
หลี่หงอี้กาลังจะออกคาสั่ง
แรงกดดันพลันสะกดร่างของเขาไว้ ท าให้ชายวัยกลางคนไม่ สามารถเปล่งเสียงพูดออกมาได้แม้แต่ค าเดียว
หลินถิงซานค่อย ๆ หันกลับมามองหน้าเขาและกล่าวว่า “การ เปลี่ยนแปลงเป็ นสิ่งที่ดี”
สวีอวิ๋นกับหลี่หงอี้เข้าใจทุกอย่างในทันที
ทั้งสองคนจ้องมองหลินถิงซานด้วยความไม่อยากเชื่อ
นางกลับมาก็เพราะเหตุนี้เอง!
หลินถิงซานมีเป้ าหมายที่น่ากลัวยิ่งนัก
“ท่าน…หากท่านเสนาบดีหลี่เฉาเฟยรู ้เรื่องนี้เข้า เขาคงต้องเดือด ดาลมากแน่ ๆ…”
สวีอวิ๋นพยายามเกลี้ยกล่อม
หลินถิงซานกลับระเบิดเสียงหัวเราะด้วยความขบขัน
“แล้วถ้าข้าบอกว่า…เขานั่นแหละที่วางแผนนี้เล่า?”
หลินถิงซานมองคนทั้งสองพร ้อมกับยิ้มหยัน
หลี่หงอี้กับสวีอวิ๋นยิ่งเบิกตากว้างยิ่ง
ครืน!
ประตูมิติเกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง แล้วเตาหลอมศักดิ์สิทธิ์ ก็เคลื่อนผ่านออกมาจากประตูมิติอย่างเชื่องช ้า
“ในที่สุดก็มาแล้ว”
หลินถิงซานยกมือขึ้น
เตาหลอมศักดิ์สิทธิ์ลอยมาหยุดอยู่เบื้องหน้านาง
หญิงสาวลูบไล้ด้านข้างของเตาหลอมอย่างแผ่วเบา ไม่ต่างจาก นิ้วมือของนักดนตรีที่กรีดลงบนพิณโบราณ
หลังจากนั้นไม่นาน เตาหลอมก็เกิดการเปลี่ยนแปลง
มันปลดปล่อยรัศมีสีขาวด า อันเป็ นตัวแทนการหลอมรวมของ กลางวันและกลางคืน
“ไป!”
หลินถิงซานกระแทกฝ่ามือลงไปบนเตาหลอม
เตาหลอมพุ่งทะยานออกไปบนฟากฟ้ า แล้วมันก็ลอยตัวอยู่เหนือ นครหลวง เปลวไฟอมตะแผดเผาไปทั่วทุกสารทิศ
ยามนี้ นครศักดิ์สิทธิ์ปกคลุมไปด้วยคลื่นพลังแปลกประหลาด ทุกสิ่งทุกอย่างถูกปกคลุมอยู่ในสีขาวดา คล้ายกับกาลังเกิดการ เปลี่ยนผ่านระหว่างกลางวันและกลางคืนอย่างรวดเร็วซ้าแล้วซ้าเล่า
คลื่นพลังที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าถูกดูดมาจากรอบทิศทางตรง เข้าไปสู่เตาหลอมวิเศษนั้น
รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยคาดหวังปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหลินถิง ซาน
“นี่สิถึงจะเรียกว่า…การกาเนิดใหม่ที่แท้จริง”
นางถอนหายใจ
ลาแสงสีขาวดาปกคลุมทุกสิ่งทุกอย่าง วิญญาณจานวนมากถูก ดูดเข้ามาสู่เตาหลอมศักดิ์สิทธิ์
บนท้องฟ้ าเกิดเป็ นการรวมตัวของคลื่นพลังขนาดใหญ่
สิ่งที่เตาหลอมศักดิ์สิทธิ์กาลังทาอยู่ในเวลานี้ก็คือ การรวบรวม พลังมวลปราณผสาน
แม้ว่าหลี่หงอี้และคนอื่น ๆ จะไม่รู ้ว่าสิ่งนี้คืออะไร แต่พวกเขาก็ สัมผัสได้อย่างชัดเจนว่า นี่คือมวลพลังที่แตกต่างไปจากพลังปราณ ทั่วไป
และในเวลาเดียวกันนี้ การต่อสู้ก็ได้เปิดฉากขึ้น!
กองทัพเป่ ยเฉินที่ยกขบวนมาบุกโจมตีในครั้งนี้มีฝีมือสู้รบร ้าย กาจยิ่ง เรือเหาะจานวนมากแล่นออกมาจากประตูมิติ ก่อนจะกระจาย กาลังกันไปทั่วนครศักดิ์สิทธิ์อย่างรวดเร็ว
หนึ่งในกองทัพที่ต่อสู้อย่างดุเดือดมากที่สุดน าทัพโดยแม่ทัพผู้ สวมใส่ชุดเกราะสีเงิน ในมือถือค้อนด้ามใหญ่ นางน าก าลังพลของ ตนเองมาปิดล้อมกรมสืบสวนได้อย่างรวดเร็ว
สมาชิกของกรมสืบสวนรีบออกไปตั้งรับ การต่อสู้จึงอุบัติขึ้น
เสียงร ้องตะโกน เสียงกรีดร ้อง เสียงร ้องโหยหวนดังมาตามสาย ลม
“สงครามได้มาถึงแล้ว!”
หลินถิงซานมีน้าเสียงเคร่งขรึมขึ้นในบัดดล “กรมสืบสวนต้องรีบ ตัดสินใจ…จงถ่ายทอดคาสั่งออกไป!”
หลี่หงอี้กับสวีอวิ๋นต่างก็กาลังตกตะลึง
แล้วพวกเขาก็ได้ยินหลินถิงซานกล่าวต่อไปว่า “พวกเราจะขอ ยอมแพ้”
หลี่หงอี้หมดคาจะพูด เช่นเดียวกับสวีอวิ๋น
นี่มัน…น่าอับอายเหลือเกิน
ถึงแม้ศัตรูจะน่าสะพรึงกลัว แต่นี่ก็ยังเป็ นการยอมแพ้ที่รวดเร็ว มากเกินไปอยู่ดี
หลินถิงซานหันกลับมามองหน้าคนทั้งสองพลางกล่าวว่า “นี่เป็ น คาสั่งของท่านเสนาบดีหลี่เฉาเฟย แล้วก็ยังเป็ นความปรารถนา…ของ องค์จักรพรรดิอีกด้วย”
ความปรารถนาขององค์จักรพรรดิอย่างนั้นหรือ?
ร่างกายของหลี่หงอี้สั่นเทาขึ้นมาเล็กน้อย
เขาจ้องมองหญิงสาวที่ยืนอยู่เบื้องหน้าตนเอง
หลินถิงซานเองก็กาลังจ้องมองมาที่เขาด้วยแววตาสดใส
ทั้งสองคนจ้องมองกันอยู่เนิ่นนาน
หลี่หงอี้กัดฟันกรอด แต่ก็ตัดสินใจได้ในที่สุด เขาตอบรับด้วย น้าเสียงหนักแน่นว่า “ประเสริฐ ต่อให้เจ้าอยากให้ศัตรูครอบครอง อาณาจักรแห่งนี้ ครั้งนี้ ข้าก็จะขอติดตามเจ้าไปจนสุดทาง…”
“ฮ่า ๆ”
หยิงสาวยิ้มแย้มอย่างอารมณ์ดี “สถานการณ์ไม่ได้เลวร ้ายถึง เพียงนั้นหรอกเจ้าค่ะ ความตั้งใจเดิมของข้าไม่เคยเปลี่ยนแปลง”
หลี่หงอี้มีสีหน้าเหมือนนักโทษที่รอการประหาร เขาหมุนตัวและ เดินออกไปถ่ายทอดคาสั่งอย่างรวดเร็ว
หลินถิงซานจ้องมองแผ่นหลังของเขาและสามารถตัดสินใจได้ เช่นกัน
ครั้งนี้ นางจะไม่ยอมแพ้อีกแล้ว
อยู่ด้วยกัน…ก็ต้องตายด้วยกัน!
สวีอวิ๋นยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับเขยื้อน ในแววตาของนางมีแต่ความ สับสน
เจ้าหน้าที่สาวสวยผู้นี้แตกต่างจากหลี่หงอี้ตรงที่นางไม่ได้ใช ้ ความรู ้สึกในการตัดสินใจ แต่นางตัดสินใจด้วยหลักเหตุผล ซึ่งการ กระทาในครั้งนี้ของกรมสืบสวนเทียบเท่ากับเป็ นการทรยศต่อ อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ชัด ๆ
ดังนั้นนางจึงไม่ทราบเลยว่าตนเองสมควรทาอย่างไรดี
โครม!
ทันใดนั้น ประตูห้องสานักงานก็ถูกพังทลาย
กลุ่มคนผู้บุกรุกปรี่เข้ามาอย่างรวดเร็ว