เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 2059 พิธีอภิเษกสมรส
ให้ตายเถอะ ยังคงมีบุคคลที่มีชื่อเสียงอีกจานวนมากไม่ได้เข้า ร่วมงานในครั้งนี้
แล้วบุคคลชั้นต่าอย่างพ่อบ้านชราผู้นั้นกล้าดีอย่างไรถึงมานั่ง เสนอหน้าอยู่ที่นี่
องค์ชายหลิงปี๋หัวเราะเยาะ
ข้างกายเขามีองค์ชายอีกสองคนนั่งขนาบคือ องค์ชายหลิงสวี และองค์ชายหลิงอวี้ รวมไปถึงอัครเสนาบดีจากสภาขุนนางเหยียน เฉินอี้ นอกจากนี้ยังมีเสนาบดีคนสาคัญและนายทหารระดับสูงจาก กองทัพอีกหลายสิบคนนั่งอยู่ในบริเวณเดียวกันอีกด้วย
พวกเขาล้วนเป็ นกลุ่มคนที่มีอานาจทั้งสิ้น
และทันใดนั้น องค์ชายหลิงหวงฉีก็ปรากฏตัวขึ้นเช่นกัน
เขากลายเป็ นญาติผู้ใหญ่ของฝ่ายเจ้าสาว ทันทีที่ปรากฏตัว องค์ ชายหลิงหวงฉีก็เดินไปยืนรวมกลุ่มกับ ‘ญาติ’ ของหลินเป่ยเฉินโดยที่ ใบหน้ามีรอยยิ้มประดับอยู่ตลอดเวลา และระหว่างทางเขาก็หยุด ทักทายแขกเหรื่อด้วยความกระตือรือร ้นเป็ นอย่างยิ่ง
สาหรับองค์ชายหลิงหวงฉี นี่เป็ นวันที่เขามีความสุขมากกว่า ผู้อื่นสองเท่า
นั่นเป็ นเพราะว่าเขามีความสนิทสนมกับหลิงเฉิน ซึ่งจะได้รับการ แต่งตั้งให้เป็ นบรรพบุรุษแห่งผู้แปรธาตุคนใหม่ และในอดีตที่ผ่านมา องค์ชายหลิงหวงฉีก็คอยช่วยเหลือหลินเป่ยเฉินอยู่เสมอ และเมื่อเด็ก หนุ่มที่เขาเคยช่วยเหลือได้กลายมาเป็ นชายหนุ่มที่กาลังจะขึ้นครอง บัลลังก ์ เป็ นจักรพรรดิองค์ใหม่ของอาณาจักรเกิงจิน
นี่คือเรื่องแรกที่ทาให้องค์ชายหลิงหวงฉีมีความสุข
ส่วนอีกเรื่องหนึ่งคือ หลังจากใช ้เวลาเก็บตัวอยู่สามวัน ในที่สุด องค์ชายหลิงหวงฉีก็สามารถทาลายคอขวดและเลื่อนขั้นพลังได้ สาเร็จ บัดนี้ เขามีพลังอยู่ในขั้นจอมเทพอนันต์ หลังจากใช ้ความ พยายามยาวนานหลายปี องค์ชายหลิงหวงฉีก็สามารถเลื่อนขั้นพลัง ได้สาเร็จตามที่หวัง
หลังจากใช ้ชีวิตอย่างสงบเสงี่ยมเจียมตนมาช ้านาน ในที่สุดเขา ก็จะได้กลายเป็ นผู้ยิ่งใหญ่
และองค์ชายหลิงหวงฉีก็ยังได้กลายเป็ นคนส าคัญในพิธีอภิเษก สมรสครั้งนี้อีกด้วย
อีกไม่กี่อึดใจก็จะถึงกาหนดการเริ่มต้นพิธี
เสียงดนตรีบรรเลงประกอบพิธีดังกังวาน
หลิงเฉินผู้สวมใส่ชุดกระโปรงสีขาวก็เดินจับมือหลินเป่ยเฉินขึ้นสู่ แท่นประกอบพิธี ท่ามกลางการจ้องมองของผู้คนจ านวนมหาศาล
เจ้าสาวงดงาม เจ้าบ่าวหล่อเหลา
ทั้งสองคนกลายเป็ นศูนย์รวมความสนใจของทุกสายตา
หลิงหวงฉีเองก็สวมใส่ชุดเครื่องแบบอย่างเป็ นทางการเดินขึ้นไป บนแท่นประกอบพิธีแล้วเช่นกัน
เขาเข้าร่วมพิธีในฐานะตัวแทนบิดาที่แท้จริงของหลิงเฉิน เรียก ได้ว่าองค์ชายหลิงหวงฉีอยู่ที่นี่ในสถานะบิดาบุญธรรมก็คงไม่ผิด
ชินหลันซู หลิงจุนเซวียน หลิงไท่ซวี หลิงฉือ หลิงอู๋และคนอื่น ๆ ล้วนปรากฏกายอยู่บนแท่นที่นั่งของแขกระดับสูงอย่างพร ้อมหน้า พร ้อมตา
แต่เพื่อความมั่นคงของราชบัลลังก ์ ทุกคนจึงยังไม่สามารถ เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงได้ในขณะนี้ ทว่าการได้มาเห็นบุตรสาวและ น้องสาวของตน เข้าพิธีอภิเษกสมรสด้วยตาของตนเองก็เพียงพอ แล้ว พวกเขารู ้สึกตื้นตันใจ น้าตาคลอเต็มสองเบ้าโดยไม่รู ้ตัว…
พิธีอภิเษกสมรสดาเนินไปตามกาหนดการอย่างราบรื่น
หลินเป่ยเฉินกุมมือหลิงเฉินด้วยหัวใจที่รู ้สึกตื้นตันและตื่นเต้นยิ่ง นัก
ในสองชาติภพของเขา นี่คือการแต่งงานครั้งแรก
สาหรับหลินเป่ยเฉิน การแต่งงานถือเป็ นพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์
ในชีวิตของชายหนุ่ม เขาไม่คิดเลยว่าตนเองจะมีวันนี้
ภาพความทรงจามากมายผุดขึ้นมาในห้วงคิด
ไม่ว่าจะเป็ นภาพการพบกันครั้งแรกของตนเองกับหลิงเฉิน ภาพ ความทรงจ าระหว่างเป็ นผู้เข้าแข่งขันบนเวทีเดียวกัน ภาพความทรง จาที่หลิงเฉินยอมเสี่ยงชีวิตของตนเองเพื่อช่วยเหลือเขา ภาพความ ทรงจาที่หลิงเฉินนั่งอยู่บนหน้าต่างและห้อยขาลงมา ภาพความทรง จาตอนที่นางร่าลาเขาเพราะรู ้ตัวว่าจะต้องเดินทางออกจากจักรวรรดิ เป่ยไห่
“ข้าจะรอแต่งงานกับท่าน”
นั่นคือสิ่งที่หลิงเฉินเคยพูดเอาไว้
และนางก็ไม่เคยเปลี่ยนใจ
นับแต่ต้นจนจบ หลิงเฉินเพียงปรารถนาที่จะได้แต่งงานกับเขา เท่านั้น
และดูเหมือนนางจะเป็ นคนแรกด้วยกระมังที่พูดว่าเป็ นคนรักของ หลินเป่ยเฉิน นับตั้งแต่ที่เขาทะลุมิติมาอยู่ในโลกแห่งวรยุทธ ์?
ในตอนนั้น หลินเป่ ยเฉินเป็ นบุคคลที่มีภาพลักษณ์ย่าแย่ เป็ น จอมเสเพลที่ผู้คนได้แต่เบือนหน้าหนี
แต่บัดนี้ ความฝันได้กลายเป็ นความจริง
หลินเป่ ยเฉินชาเลืองมองหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างกาย แล้วแววตา ของเขาก็อ่อนโยนขึ้นมาทันที
หลิงเฉินคือของขวัญที่โชคชะตามอบให้แก่เขา
ดูเหมือนว่าหลิงเฉินจะสัมผัสได้ถึงอารมณ์ความรู ้สึกของหลิน เป่ยเฉินเช่นกัน นางจึงกระชับมือของเขาแนบแน่นโดยไม่ต้องหันมอง แต่มุมปากของนางก็ยกตัวขึ้นเป็ นรอยยิ้มเล็กน้อยในขณะที่พิธีการ อภิเษกสมรสด าเนินต่อไป
ความรู ้สึกอันท่วมท้นเหล่านี้มีแต่เพียงพวกเขาสองคนเท่านั้นจึง รู ้สึกได้
ไม่ใช่สิ
ยังมีบุคคลที่สามอยู่อีกด้วย
บนแท่นที่นั่งระดับล่างที่สามารถรองรับชาวเมืองได้หนึ่งหมื่นคน หญิงสาวสองคนได้นั่งรับชมพิธีอภิเษกสมรสอย่างเงียบงัน พวกนาง มานั่งอยู่ในที่นั่งของผู้คนชนชั้นธรรมดา แต่ตัวตนที่แท้จริงของสตรี ทั้งสองคนนี้กลับไม่ธรรมดาเป็ นอย่างยิ่ง
สตรีคนแรกสวมใส่ชุดกระโปรงยาวสีขาว เรือนร่างสมส่วน สมบูรณ์แบบ ใบหน้างดงามอย่างไร ้ที่ติ กลางหว่างคิ้วปลดปล่อยรัศมี กดดันออกมา หากไม่ใช่เทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิงแล้วยังจะเป็ นผู้ใด ได้อีก?
ส่วนสตรีผู้มีผมยาวสลวยสีฟ้ าอ่อนที่นั่งอยู่ข้างกายนางผู้นั้น ย่อมต้องเป็ นธิดาอู๋ไห่จือตี้
น่าแปลกที่พวกนางงดงามถึงเพียงนี้ แต่กลับไม่มีผู้ใดสนใจพวก นางเลย ราวกับว่าพวกนางเป็ นมนุษย์ล่องหนอย่างไรอย่างนั้น
ธิดาอู๋ไห่จือตี้ลอบมองหน้าเทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิงอยู่หลายครั้ง แววตาของนางแสดงออกถึงความวิตกกังวลเล็กน้อย แต่สีหน้าของเทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิงก็ยังคงเย็นชาสงบสุขุม ตอนที่หลินเป่ ยเฉินกับหลิงเฉินปรากฏตัว นางถึงกับยิ้มออกมา ด้วยซ้า เทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิงไม่พูดอะไรออกมาสักคา นางเงยหน้ามองท้องฟ้ าโดยไม่รู ้ตัว
ดวงตะวันสาดแสงเจิดจ้า ไม่ได้อ่อนโยนนุ่มนวลเหมือนแสงจันทร ์ แสงจันทร ์สว่างไสว แต่น่าเสียดายที่ให้ความอบอุ่นแก่ผู้ใดไม่ได้ ไม่ต่างไปจากตัวของนางเอง เทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิงหันกลับมาจ้องมองไปที่หลินเป่ยเฉินอีก ครั้ง แล้วดวงตาของนางก็หรี่ลงเล็กน้อย
ทันใดนั้น นางก็จาได้แล้วว่าตนเองมาที่นี่เพื่ออะไร หลินเป่ยเฉินเคยกุมมือนางเช่นนี้เหมือนกันบ้างหรือไม่? “เจ้าเป็ นอะไรหรือไม่?”
ธิดาอู๋ไห่จือตี้ถามด้วยน้าเสียงอ่อนโยนและห่วงใย
เทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิงไม่ตอบรับคาใด
ธิดาอู๋ไห่จือตี้ถอนหายใจและกล่าวว่า “หากเจ้าอยากยุติการ อภิเษกสมรสในครั้งนี้ เจ้าแค่ลุกขึ้นยืนและตะโกนว่าขอคัดค้านการ แต่งงานก็จบแล้ว หรือเจ้าจะลองใช ้วิธีอื่นดูก็ได้ เหตุใดจึงไม่พยายาม ดูเล่า?”
เทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิงยังคงไม่ตอบรับคาใด
นางย่อมรู ้เรื่องราวในอดีตระหว่างหลินเป่ยเฉินกับหลิงเฉิน
สุดท้าย หลินเป่ยเฉินก็ต้องเดินกุมมือหญิงสาวที่เขารักมากที่สุด เข้าพิธีวิวาห์อยู่ดี
แต่นั่นไม่สาคัญหรอก
แม้ว่างานวิวาห์ครั้งนี้จะไม่มีผู้ใดเชิญนางมาก็ตาม แต่นั่นก็ไม่ ส าคัญเช่นกัน
สิ่งสาคัญที่สุดก็คือหลินเป่ ยเฉินกาลังจะแต่งงานทั้งที แต่เขาไม่ คิดจะบอกนางเลยแม้แต่ค าเดียว
เทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิงทราบดีว่าตนเองไม่ใช่ผู้ที่จะโกรธแค้น หรือเดือดดาลอันใดง่ายดายนัก
แต่นางกลับพบว่าตนเองไม่สามารถควบคุมความคิดและอารมณ์ ความรู้สึกได้อีกแล้ว
ช่างเป็ นประสบการณ์ที่น่ากลัวเหลือเกิน
ดูเหมือนนางจะเคยผ่านประสบการณ์เช่นนี้มาก่อนใช่หรือไม่?