เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 2050 บุคคลปริศนา
หลินเป่ ยเฉินเก็บกล่องของขวัญทั้งหมดนั้นอย่างช ้า ๆ เขาไม่ ทราบเลยว่าตนเองสมควรกล่าวอย่างไรดี
นับว่าหลิงเฉินได้เตรียมการทุกอย่างเอาไว้เรียบร ้อยแล้วจริง ๆ
และนี่ยังเป็ นการบอกให้หลินเป่ ยเฉินได้รู ้ว่านางรู ้เรื่องราว มากมายเหลือเกิน
ชายหนุ่มถอนหายใจ
แล้วว่าที่องค์จักรพรรดิหลินก็เดินออกมาจากห้องบรรทม
เขานาของขวัญไปส่งมอบให้แก่หญิงสาวเหล่านั้นทีละคน
เพราะหลินเป่ยเฉินรู ้ดีว่าพวกนางคงอยากได้รับของขวัญก่อนที่ การแต่งงานของเขาจะมาถึง
ก่อนหน้านี้ที่หลินเป่ยเฉินไปหาพวกนางก็เพราะเหตุผลนี้เช่นกัน
แล้วอากวง ฉู่เหินและคนอื่น ๆ ก็ได้รับของขวัญกันอย่าง ครบถ้วน
ทุกคนมีความสุข
“แล้วข้าน้อยล่ะขอรับ? ของขวัญของข้าน้อยอยู่ที่ใด?”
ต่วนซิงรอคอยด้วยความกระตือรือร ้นมานานสองนาน แต่เมื่อ เห็นว่าตนเองไม่ได้รับของขวัญใด ๆ เลย มันก็ส่งเสียงท้วงติงขึ้นมา ด้วยความผิดหวัง “เหตุใดข้าน้อยจึงไม่ได้รับของขวัญ? นายท่านจะ เลือกที่รักมักที่ชังไม่ได้นะขอรับ”
นับตั้งแต่ที่มันรู ้ตัวตนที่แท้จริงของหวังจงและสาบานเป็ นพี่น้อง กับอากวง ต่วนซิงก็ไม่ใช่อสูรร ้ายที่น่ากลัวอีกต่อไป แต่มันกลับแสดง กิริยาที่ไม่ต่างจากสุนัขผู้โง่เขลาออกมาจนเป็ นเรื่องปกติ
“ข้าน้อยก็มีความซื่อสัตย์ต่อนายท่านไม่แพ้ผู้ใดเช่นกัน…” ต่วน ซิงยังคงตัดพ้อต่อไปด้วยความน้อยใจ “ข้าน้อยอยากได้ของขวัญ… นายท่านต้องมอบของขวัญให้แก่ข้าน้อยด้วย”
จนสุดท้าย หลินเป่ ยเฉินก็ต้องโยนอมยิ้มอันหนึ่งที่ซื้อมาจาก อินเทอร ์เน็ตให้ไปเพื่อตัดความราคาญ
“อื้อหือ อร่อยมากเลยขอรับ ในโลกนี้มีสิ่งที่อร่อยเช่นนี้อยู่ด้วย หรือ?”
ต่วนซิงเลียอมยิ้มอย่างมีความสุข ไม่ต่างจากแมวน้อยตัวหนึ่ง
“นายน้อย แล้วบ่าวล่ะขอรับ?”
หวังจงถามด้วยความร้อนรน
เชี่ย! ดูเหมือนท่านลุงหวังของเขาก็ไม่ได้รับของขวัญเหมือนกัน นี่นะ?
หลินเป่ ยเฉินยกมือท าท่าดันแว่น รีบใช ้ความคิด ก่อนตอบว่า “ท่านลุงหวัง ท่านอย่าได้ถามหาของขวัญอีกเลย ท่านจะได้เข้าร่วม พิธีอภิเษกสมรสในฐานะญาติผู้ใหญ่ของข้า…เพียงเท่านี้ก็ถือว่าเป็ น เกียรติส าหรับท่านมากแล้ว”
…
ข่าวการอภิเษกสมรสขององค์หญิงไข่มุกขาวและยอดฝีมือผู้ชนะ การประลองได้ถูกป่าวประกาศไปทั่วอาณาจักรเกิงจิน
ทุกหนทุกแห่งภายในเมืองเหลียนจินฉู่มีการจัดเตรียมงานเลี้ยง เพื่อเฉลิมฉลองให้แก่การอภิเษกสมรสครั้งนี้อย่างเร่งด่วน
บรรดานักเล่นแร่แปรธาตุต่างก็นาชุดเครื่องแบบสาหรับการ เฉลิมฉลองออกมาสวมใส่เป็ นครั้งแรกในรอบหลายพันปี
หลินเป่ ยเฉินกลับไปยังตาหนักขององค์ชายหลิงหวงฉีเพื่อเข้า พบชินหลันซูและหลิงจุนเซวียน แล้วส่งมอบของขวัญที่เตรียมเอาไว้
พวกเขารับประทานอาหารค่าด้วยกันอย่างมีความสุข
ผู้เป็ นแม่ยายจ้องมองบุตรเขยของตนเองไม่วางตา ยิ่งนางมอง มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งรู ้สึกพึงพอใจมากเท่านั้น
ในอดีต ชินหลันซูเคยต่อต้านความรักระหว่างหลิงเฉินกับหลิน เป่ ยเฉิน แต่บัดนี้ นางแทบรอไม่ไหวแล้วที่จะได้เห็นบุตรสาวแต่งงาน และครองรัก มีลูกมีหลานกับหลินเป่ยเฉินไปชั่วฟ้ าดินสลาย
ทางด้านของหลิงจุนเซวียนซึ่งก่อนหน้านี้เคยพึงพอใจในตัวหลิน เป่ ยเฉินนักหนา มาบัดนี้เขากลับจ้องมองหลินเป่ ยเฉินด้วยความไม่ พอใจ ราวกับว่ากาลังคิดหาวิธีที่จะจัดการหลินเป่ยเฉินให้ได้
แต่โชคดีที่หลินเป่ ยเฉินรับรู ้ถึงสายตาโกรธเคืองของหลิงจุนเซ วียน เพราะฉะนั้น เขาจึงรีบรินไวน์ให้แก่ผู้อาวุโสด้วยความนอบน้อม ยิ่ง
ในที่สุด ‘วิกฤต’ ก็ผ่านพ้นไป
เมื่อเดินกลับออกมาจากต าหนัก หลินเป่ ยเฉินก็นึกอะไร บางอย่างขึ้นมาได้ หัวใจของเขากระตุกวูบ ก่อนจะเดินย้อนกลับไป เพื่อขอเข้าเฝ้ าองค์ชายหลิงหวงฉี
คนผู้นี้ก็เป็ นผู้มีพระคุณของเขาเช่นกัน
หลินเป่ยเฉินเป็ นผู้ที่ไม่เคยลืมบุญคุณผู้ใด
แต่ครั้งนี้ เขาเกือบลืมองค์ชายหลิงหวงฉีไปเสียสนิท
แต่กลับปรากฏว่าชายหนุ่มไม่อาจเข้าเฝ้ าองค์ชายหลิงหวงฉีได้
“กราบเรียนคุณชายหลิน ต้องขออภัยเป็ นอย่างสูง การเปิดวิหาร แห่งผู้แปรธาตุได้สาเร็จเมื่อไม่กี่วันก่อนทาให้เปลวไฟอมตะพุ่งขึ้นสู่ ท้องฟ้ า และคลื่นพลังแห่งเปลวไฟอมตะนั้นก็แผ่กระจายไปทั่วเมือง บิดาของข้าก็ซึมซับพลังปราณจากเปลวไฟอมตะนั้นเช่นกัน ท่าน
ฝึกฝนวิชาหนึ่งมานานหลายปีแล้ว บัดนี้ใกล้จะเลื่อนขั้นได้สาเร็จ จึง ทาการเก็บตัวไม่พบผู้ใดเป็ นการชั่วคราว”
ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาผู้หนึ่งออกมาต้อนรับหลินเป่ ยเฉิน ด้วยความเคารพ
ชายหนุ่มผู้นี้เป็ นบุตรชายขององค์ชายหลิงหวงฉีมีนามว่าหลิงอี๋
หลิงอี๋เคยพบกับหลินเป่ยเฉินมาแล้วหลายครั้ง แม้ว่าเขาจะได้รับ การจัดให้เป็ นยอดฝีมืออัจฉริยะรุ่นใหม่ แต่หลิงอี๋ก็ยังยกย่องให้หลิน เป่ยเฉินเป็ นวีรบุรุษประจ าใจของตนเองเช่นกัน
หลินเป่ ยเฉินได้ยินเช่นนั้นก็รู ้สึกดีใจแทนองค์ชายหลิงหวงฉี เหลือเกิน
การเปิ ดประตูวิหารแห่งผู้แปรธาตุในวันนั้นส่งผลให้มีผู้ได้รับ ประโยชน์มากมายนับไม่ถ้วน หมายความว่าองค์ชายหลิงหวงฉีก็จะมี ความแข็งแกร่งขึ้นแล้วใช่หรือไม่?
“แต่คุณชายไม่ต้องเป็ นห่วง บิดาของข้าบอกเอาไว้แล้วว่าจะไป ร่วมงานวิวาห์ของท่านทันเวลาแน่นอน”
หลิงอี๋กล่าวเสริม
“ถ้าอย่างนั้นก็ขอบใจมาก”
หลินเป่ยเฉินตบไหล่หลิงอี๋เบา ๆ และกล่าวว่า “ท่านเองก็อย่าลืม มาร่วมงานด้วยล่ะ”
หลิงอี๋เบิกตาโตด้วยความดีใจสุดขีด รีบคุกเข่าข้างเดียวบนพื้น และกล่าวว่า “ขอบพระทัยองค์จักรพรรดิมากพ่ะย่ะค่ะ”
หลินเป่ยเฉินกะพริบตาปริบ ๆ
“ข้ายังไม่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็ นทางการเลย เรียกคุณชาย หลินก่อนดีกว่า”
หลินเป่ ยเฉินรู ้สึกกระดากอายเล็กน้อย เมื่อส่งมอบกล่อง ของขวัญเรียบร ้อย เขาก็หมุนตัวเดินจากมาในที่สุด
…
ณ วังหลวง
ภายในตาหนักใหญ่หลังหนึ่ง
ตามลาดับชั้นหนึ่งในสิบหกองค์ชายแห่งอาณาจักรเกิงจิน องค์ ชายหลิงปี๋มีสถานะสูงส่งมากกว่าองค์ชายหลิงหวงฉีเพราะเขาเป็ น สายเลือดโดยตรงขององค์จักรพรรดิหลิงจิว แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมา องค์ชายหลิงปี๋มักจะทาตัวสงบเสงี่ยมอยู่เสมอ เขาไม่เคยแสดงความ เป็ นปฏิปักษ์กับองค์ชายหลิงหวงฉีแม้แต่ครั้งเดียว จึงกล่าวได้ว่า บุคลิกขององค์ชายหลิงปี๋นั้นเป็ นพวกที่ใช ้ชีวิตด้วยความสงบเรียบ ง่ายและรอคอยวันตายเท่านั้นเอง
ในกลุ่มองค์ชายด้วยกัน องค์ชายหลิงปี๋เป็ นผู้ที่ปรากฏตัวน้อย มาก
ตลอดระยะเวลาหลายร ้อยปีที่ผ่านมา องค์ชายหลิงปี๋มีงานอดิเรก เป็ นการเก็บสะสมสิ่งของที่สวยงามมากมาย ด้วยเหตุนี้เอง ตาหนัก ประจ าต าแหน่งของเขาจึงมีอุปกรณ์เล่นแร่แปรธาตุหน้าตาแปลก ประหลาดประดับอยู่อย่างงดงามละลานตาและถือเป็ นหนึ่งในสิ่งปลูก สร ้างที่สวยงามที่สุดประจาเมืองเหลียนจินฉู่
ดังนั้น ในทุก ๆ วันจึงมีผู้คนนับไม่ถ้วนเดินเข้าออกต าหนักของ องค์ชายหลิงปี๋เป็ นเรื่องปกติ
ส่วนใหญ่พวกเขาก็จะเป็ นแขกเข้ามาเยี่ยมชมอุปกรณ์เล่นแร่ แปรธาตุที่อยู่ในตาหนัก
ในอาณาจักรเกิงจิน โดยเฉพาะภายในราชสานัก ยังคงมีผู้คนที่ เห็นแก่ลาภยศสรรเสริญอยู่ไม่น้อย
และวันนี้ องค์ชายหลิงปี๋ก็ได้ต้อนรับแขกคนพิเศษ
“ผู้ต่าต้อยขอคารวะนายท่าน”
ในห้องลับที่อยู่ลึกที่สุดของตาหนัก องค์ชายหลิงปี๋ประสานมือ แสดงความเคารพ เขาไม่กล้าเจรจาต่อรอง ความเคารพที่องค์ชาย หลิงปี๋ แสดงออกมาในขณะนี้มีมากยิ่งกว่าตอนที่พบกับองค์ จักรพรรดิหลิงจิวในอดีตเสียอีก
“นี่ก็ผ่านมาได้สองพันปีแล้ว เจ้ายังจาคาสาบานของตนเองได้ หรือไม่?”
เสียงของบุคคลปริศนาดังออกมาจากเงามืด ไม่มีผู้ใดสามารถ มองเห็นได้ว่าผู้ที่อยู่ในเงามืดนั้นมีหน้าตาเป็ นอย่างไรและเสียงที่พูด ออกมานั้นก็ผ่านการดัดแปลงมาเป็ นอย่างดี
“ผู้ต่าต้อยย่อมไม่กล้าลืมขอรับ”
สีหน้าขององค์ชายหลิงปี๋แสดงออกถึงความตื่นเต้นสุดขีด