เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 2042 ราชากิ้งก่าสยองขวัญ
ผู้ที่ก้าวเดินออกมาจากประตูมิติเป็ นสัตว์ประหลาดที่มีร่างกาย เป็ นกิ้งก่า แต่มีหัวเป็ นมนุษย์ผู้หนึ่ง
มันมีร่างกายสูงใหญ่เท่ากับตึกสามชั้น มีลาตัวเหยียดตรงแบบ กิ้งก่า มีหางยาวประดับเกล็ดเลื่อมพรายแวววาว อุ้งเท้ามีกรงเล็บ แหลมคม ดูน่าเกลียดน่ากลัวไม่ต่างจากอสูรร ้ายที่ปีนขึ้นมาจากขุม นรก
นี่คือราชากิ้งก่าสยองขวัญซือเหยียน
หนึ่งในยี่สิบเอ็ดยอดฝีมือระดับราชาของเผ่ามนุษย์ทะเลทราย
มนุษย์กิ้งก่าคือสายพันธุ์หายากในเผ่ามนุษย์ทะเลทราย
ในอดีตอันยาวนาน เผ่ามนุษย์ทะเลทรายเลี้ยงดูอสูรเป็ นจานวน มาก ไม่ว่าอสูรตัวนั้นจะเป็ นอสูรดีหรืออสูรเลว ขอเพียงมีฝี มือ แข็งแกร่งก็จะได้รับการเลี้ยงดูจากเผ่ามนุษย์ทะเลทรายเป็ นอย่างดี
มิหนาซ้า อสูรเหล่านั้นยังได้รับผลประโยชน์อย่างมหาศาล ไม่ว่า จะเป็ นคัมภีร ์ฝึกวิชา ต าแหน่งลาภยศ สมุนไพรวิเศษ สาวงาม ของ บางอย่างแม้แต่เผ่าพันธุ์มนุษย์ทะเลทรายด้วยกันเองก็ยังไม่เคยได้ สัมผัสด้วยซ้า
“ข้าได้กลิ่นของต่วนซิง”
ราชากิ้งก่าสยองขวัญทาจมูกฟุดฟิ ด ก่อนจะสะบัดศีรษะไปมา “เหล่าจิว ไม่ทราบว่าเกิดอันใดขึ้น? ต่วนซิงไม่ได้เป็ นราชบุตรเขย ของท่านหรือ?”
“ไม่ได้เป็ นอีกแล้ว”
องค์จักรพรรดิหลิงจิวรีบตะโกนตอบกลับไป “ท่านช่วยหยุดยั้ง ต่วนซิงทีเถอะ ส่วนที่เหลือเดี๋ยวข้าจัดการเอง… แล้วก็จับตาดูเจ้าหนุ่ม
ผมขาวผู้นั้นเอาไว้ด้วย มันเป็ นผู้ที่มีสายเลือดศักดิ์สิทธิ์ แต่กลับ สามารถฝึกวรยุทธ ์ได้สูงล้า ซึ่งเหมาะกับการเป็ นหนูทดลองอย่างยิ่ง”
“ความดีความชอบเป็ นของข้า ส่วนวิหารหลังนี้เป็ นของท่าน”
ราชากิ้งก่าสยองขวัญร ้องตะโกนพร ้อมกับพุ่งเข้าไปหาต่วนซิง “เสี่ยวต่วน คู่ต่อสู้ของเจ้าคือข้าเอง”
“ข้านับถือบิดามารดาของเจ้าจริง ๆ ต้องท าอย่างไรนะถึงมีลูก ออกมาเป็ นมนุษย์กิ้งก่าได้เนี่ย”
อสูรผลาญดาราต่วนซิงระเบิดเสียงค ารามด้วยความร ้อนรน ก่อนจะกางกรงเล็บออกกว้าง “จงตายซะเถอะ”
แล้วอสูรทั้งสองตัวก็ต่อสู้กันอย่างดุเดือด
องค์จักรพรรดิหลิงจิวรู ้สึกได้อย่างชัดเจนว่าการดูดซับพลังเบา บางลงแล้ว ดังนั้นเขาจึงสามารถหันมาต่อสู้กับหลิงเฉินได้อย่างสูสี มากขึ้น
“นี่ เจ้าน่ะ…”
ยอดฝี มือจากเผ่ามนุษย์ทะเลทรายทั้งสี่คนใช ้โอกาสนี้เข้ามา ประชิดตัวหลินเป่ยเฉินอีกครั้ง พวกเขาหัวเราะเยาะพร ้อมกับกล่าวว่า “ไม่ทราบว่าเจ้ายังสามารถเรียกหาอสูรผลาญดาราออกมาอีกตัวได้ หรือไม่? จงยอมให้พวกเราจับตัวแต่โดยดีเถอะ มิฉะนั้นพวกเราคง ต้องน าตัวเจ้ากลับไปในสภาพที่เป็ นศพแล้ว”
“พวกเจ้าคิดว่าจะสามารถฆ่าข้าได้อย่างนั้นหรือ?”
หลินเป่ยเฉินยกมือกอดอก ขณะยิ้มที่มุมปากและกล่าวว่า “เดี๋ยว พวกเจ้าก็จะได้รู ้ว่าสายเลือดพันธุ์ผสมนั้นเป็ นอย่างไร… จงออกมา เดี๋ยวนี้ ตาเฒ่าหวัง รีบจัดการสุนัขข้างถนนทั้งสี่ตัวนี้ทิ้งไปซะ”
แสงสว่างเป็ นประกายระยิบระยับ
หวังจงปรากฏตัวขึ้นข้างกายหลินเป่ยเฉิน
ยอดฝีมือทั้งสี่คนตกตะลึงในตอนแรก แต่ก็รู ้สึกเบาใจขึ้นมาเมื่อ ลองสังเกตดี ๆ
เพราะชายชราที่ปรากฏตัวออกมานั้นไม่ได้แตกต่างจากคน ธรรมดาเลย
พลังปราณช่างต่าต้อย
แล้วพวกเขายังจะต้องกลัวอะไรอีก?”
“นายน้อยอยากให้จับเป็ นหรือจับตายขอรับ?”
หวังจงยิ้มและถามด้วยความกระตือรือร ้น
“หืม? สามารถจับเป็ นได้ด้วยหรือ?”
หลินเป่ยเฉินถามกลับมาด้วยความดีใจ
หวังจงตอบว่า “เป็ นเพียงสุนัขข้างถนนสี่ตัวเช่นนี้ บ่าวย่อม สามารถจับเป็ นได้ขอรับ”
“งั้นก็จับเป็ นดีกว่า พวกเราควรจะจับเป็ นพวกมัน… ข้าจะให้พวก มันได้ดื่มสุราผสมยาพิษ” หลินเป่ยเฉินตื่นเต้นขึ้นมาในทันใด
นี่นับเป็ นเรื่องดีไม่ใช่หรือ?
เมื่อยอดฝีมือทั้งสี่ได้ยินเช่นนั้นก็รู ้สึกเดือดดาลใจขึ้นมาทันที
ระหว่างที่หลินเป่ ยเฉินพูดคุยกับชายชราร่างอ้วนนั้น เห็นได้ชัด ว่าพวกเขาทั้งสองคนไม่สนใจการดารงอยู่ของผู้อื่นเลย
หลินเป่ ยเฉินกับชายชราร่างอ้วนไม่เห็นยอดฝี มือทั้งสี่อยู่ใน สายตาด้วยซ้า
“ตายซะเถอะ!”
“โอหังยิ่งนัก!”
ยอดฝีมือทั้งสี่คนร ้องตะโกนออกมาอย่างพร ้อมเพรียงกัน
แม้ว่าจอมเทพอนันต์จะสู้จอมเทพอสงไขยไม่ได้ แต่พวกเขาก็ถูก ยกย่องให้เป็ นชนชั้นยอดฝี มือมาโดยตลอด เมื่อยอดฝี มือทั้งสี่คน ผนึกกาลังร่วมมือกัน ม่านพลังที่คุ้มกันวิหารแห่งผู้แปรธาตุก็เกิดการ สั่นไหวอย่างรุนแรง และมวลพลังท าลายล้างก็พุ่งตรงเข้ามาหาพวก ของหลินเป่ยเฉินด้วยความหนักหน่วง
หวังจงก้าวออกไปข้างหน้า
ก้มศีรษะและคุกเข่าลงค านับ
พรึ่บ!
แล้วพลังการโจมตีของยอดฝีมือทั้งสี่คนนั้นก็สลายไปในอากาศ ไม่ต่างจากฟองสบู่ที่แตกโผละ
กลุ่มยอดฝีมือจากเผ่ามนุษย์ทะเลทรายที่ผนึกกาลังโจมตีด้วย ความหนักหน่วงที่สุดในชีวิตกลับต้องยืนนิ่งด้วยความตกตะลึงไม่ต่าง ไปจากหุ่นกระบอก
พลังกดดันสลายไป
ดวงตาของหลินเป่ยเฉินเป็ นประกายระยิบระยับ
“จัดการเรียบร ้อยแล้วหรือ?”
เขาหันไปมองหน้าหวังจง
พ่อบ้านชรารีบลุกขึ้นยืนก่อนจะตอบว่า “นายน้อยไม่ต้องเป็ น กังวล วิญญาณของพวกมันถูกบ่าวควบคุมเรียบร ้อยแล้ว ใน ระยะเวลาหนึ่งปีครึ่งต่อจากนี้ วิญญาณของพวกมันจะไม่กลับคืนร่าง เด็ดขาด นายน้อยจะทาอะไรกับพวกมันก็ได้ทั้งนั้นขอรับ”
ให้ตายเถอะ
หลินเป่ยเฉินถูมือด้วยความตื่นเต้น
“ลุงหวัง ท่านมีพลังพิเศษรูปแบบใดกันแน่ ท่านสามารถควบคุม วิญญาณผู้คนได้ด้วยหรือ?”
ชายหนุ่มถือโอกาสถาม
หวังจงยิ้มและตอบว่า “บ่าวเกิดมาพร ้อมกับโชคชะตาที่ถูก ก าหนดเอาไว้ขอรับ บ่าวเกิดมาในตระกูลยากจน ภายหลังได้รับการ ฝึ กฝนคัมภีร ์วิเศษจึงมีความช านาญในการควบคุมวิญญาณผู้คน ผู้ใดก็ตามที่บ่าวคานับ มันผู้นั้นก็จะต้องตาย”
หลินเป่ยเฉินรับรู ้ได้โดยทันที เขาเข้าใจแล้ว
ค าตอบของหวังจงไม่ได้มีข้อมูลใหม่ ๆ เลย
นี่แสดงว่าหวังจงยังไม่อยากเปิดเผยความลับ
หลินเป่ยเฉินไม่ได้ซักถามอีกต่อไป
เขารีบเดินไปสารวจดูร่างของยอดฝีมือทั้งสี่คนนั้น
พยายามเก็บร่างของพวกเขาเข้าไปในพื้นที่ฝากไฟล์ของแอปไป่ ตู้ เน็ตดิสก ์ แต่ก็ท าไม่ส าเร็จ
นั่นหมายความว่าทั้งสี่คนนี้ยังไม่ตาย
“เดี๋ยวข้าจะช่วยให้พวกท่านไปสู่สัมปรายภพอย่างไม่ทุกข์ ทรมานเอง ไม่ต้องกลับมาขอบคุณข้าหรอกนะ”
หลินเป่ ยเฉินลากร่างที่แข็งทื่อของยอดฝีมือทั้งสี่คนนั้นไปหลบ อยู่หลังเสาหินใหญ่ต้นหนึ่ง ก่อนจะนาขวดไวน์ผสมสารเมทานอ ลออกมากรอกใส่ปากของทั้งสี่คนนั้นไม่หยุดยั้ง
“ดื่มกันให้พอใจเถอะนะ”
หลินเป่ยเฉินยิ้มอย่างคนวิกลจริต
หวังจงที่ยืนอยู่ด้านข้างมองดูด้วยความหวาดกลัว
นายน้อยช่างอ ามหิตเหลือเกิน
นี่ไม่ใช่วิธีที่ใช ้ทรมานมนุษย์ด้วยกันอีกแล้ว
อ้อ แต่ยอดฝีมือทั้งสี่คนนี้เป็ นพวกคนเลวนี่นา
ถ้าอย่างนั้นก็ไม่เป็ นไรหรอก
เพียงไม่นาน หลินเป่ยเฉินก็กรอกสุราผสมยาพิษใส่ปากคนพวก นั้นจนเสร็จเรียบร ้อย