เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 2041 การต่อสู้ในวิหารแห่งผู้แปรธาตุ
หลินเป่ ยเฉินก าลังจะเรียกตัวอสูรผลาญดาราต่วนซิงออกมาใช ้ งาน… เพราะตั้งแต่เห็นหวังจงสู้กับราชันปริศนาไร ้นาม เขาก็ตัดสินใจ แล้วว่าจะไม่พึ่งพาอีกฝ่ ายหากไม่จาเป็ นจริง ๆ เพราะหวังจงลงมือด้วย ความรุนแรงเกินไปจนไม่สามารถค้นหาสมบัติจากคนตายได้ เพราะฉะนั้น ความช่วยเหลือจากหวังจงจึงสมควรเก็บเอาไว้ใช ้ในยาม คับขันที่สุดเท่านั้น
แต่หลินเป่ ยเฉินไม่ทันได้ตั้งตัวก็มีเงาร่างของคนพุ่งออกมาจาก ประตูมิติของราชามังกรโลหิตอีกครั้ง
คลื่นพลังกดดันไหลเวียนในอากาศ
ปรากฏว่าผู้ที่ออกมาจากประตูมิตินั้นมีหกคน แต่ละคนล้วนมี พลังอยู่ในขั้นจอมเทพอนันต์
ซ้ายังไม่ใช่สายเลือดผู้แปรธาตุอีกด้วย
พวกเขาล้วนเป็ นสมาชิกของเผ่ามนุษย์ทะเลทราย
ยอดฝีมือจากเผ่ามนุษย์ทะเลทรายกลุ่มนี้เป็ นไพ่เด็ดในมือของ ราชามังกรโลหิตมาโดยตลอด ทุกครั้งที่เขาพบกับปัญหา ก็จะ เรียกใช ้บริการยอดฝีมือกลุ่มนี้ในการแก้ไขปัญหาเสมอ
และบัดนี้ ปัญหาที่พวกเขาต้องรับมือก็คือหลินเป่ยเฉิน
“รีบปิดฉากการต่อสู้ให้เร็วที่สุด จงจับเป็ นผู้มีสายเลือดศักดิ์สิทธิ์ ผู้นี้ให้ได้”
องค์จักรพรรดิหลิงจิวร ้องตะโกน
ยอดฝีมือทั้งหกคนไม่กล้ารีรออีก พวกเขาพุ่งตรงเข้ามาโจมตีใส่ หลินเป่ยเฉินโดยทันทีราวกับเป็ นเงาภูตผี
“ท่านควรห่วงตัวเองก่อนเถอะ”
เมื่อเห็นเช่นนั้น หลิงเฉินก็ระเบิดเสียงคารามและพ่นไฟอมตะเพื่อ ขัดขวางองค์จักรพรรดิหลิงจิวอย่างรุนแรงมากยิ่งขึ้น
“ขี้โกงนี่หว่า”
หลินเป่ ยเฉินล่าถอยไปด้วยความเร็วแสง “ข้าเพียงตัวคนเดียว พวกเจ้ามีด้วยกันตั้งหกคน ไม่รู ้จักการต่อสู้ตัวต่อตัวแบบลูกผู้ชาย บ้างหรือไง…”
ชายหนุ่มยกมือและโยนหม้อปรุงยาสามขาขนาดใหญ่ออกไป
“จงออกมาเดี๋ยวนี้ พยัคฆ์ร ้ายแห่งโลกันตร ์”
เมื่อได้ยินเสียงเรียก ฝาหม้อปรุงยาก็เปิดออก แล้วเจ้าแมวเหมียว สีฟ้ าก็โผล่ศีรษะขึ้นมาร ้องว่า “เหมี้ยวววว…”
ก่อนที่แสงสว่างจะเป็ นประกายระยิบระยับ
ร่างของหนึ่งในหกยอดฝีมือที่กาลังจะเข้าประชิดตัวหลินเป่ยเฉิน พลันสลายหายไปกลางอากาศทันที
“อสูรผลาญดารา!”
ใครคนหนึ่งร ้องตะโกนออกมา
แล้วยอดฝีมือที่เหลืออีกห้าคนก็หน้าเปลี่ยนสีโดยสิ้นเชิง พวก เขารีบล่าถอยกลับไปตั้งหลัก พร ้อมกันนั้นก็สร ้างม่านพลังขึ้นมาคุ้ม กันร่างกายอย่างแน่นหนา
ในเวลานี้ ร่างของแมวเหมียวน้อยก็กระโดดออกมาจากหม้อปรุง ยามังกรบรรพกาล
“เจ้ารบกวนการนอนหลับของข้า…”
ต่วนซิงอดบ่นออกมาไม่ได้ “แค่จอมเทพอนันต์ไม่กี่คน เจ้า จัดการด้วยตนเองไม่ได้หรืออย่างไร?”
“เลิกพูดจาเหลวไหลได้แล้ว”
หลินเป่ยเฉินออกคาสั่ง “รีบไปฆ่าพวกมันให้ข้าเดี๋ยวนี้”
ต่วนซิงพ่นลมผ่านทางจมูกและกล่าวว่า “ครั้งนี้ข้าจะไว้หน้าเจ้าก็ แล้วกัน… อีกอย่างพวกจอมเทพอนันต์ก็มีรสชาติอร่อยใช ้ได้”
ขาดค า
ร่างของแมวเหมียวน้อยก็พองโตขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งมัน กลายเป็ นพยัคฆ์ติดปี กตัวใหญ่เคลื่อนไหวด้วยความรวดเร็วเป็ น ล าแสงวูบวาบ
ยอดฝีมือคนที่ห้าไม่ทันได้มีโอกาสประกาศชื่อตนเองก็ต้องพบ กับชะตากรรมอันน่าเศร ้าเมื่อถูกต่วนซิงดูดพลังไปทั้งหมด เพียง พริบตาเดียวเท่านั้น ร่างของยอดฝีมือผู้นั้นก็หายวับไปในอากาศ
“เฮ้อ”
อสูรผลาญดาราต่วนซิงลงมือด้วยความอามหิตยิ่งนัก มันสะบัด หัวระเบิดเสียงคารามว่า “ในเมื่อพวกเจ้าเป็ นพยานรู ้เห็นในเหตุการณ์ ครั้งนี้ ข้าก็มีแต่ต้องฆ่าปิดปากพวกเจ้าทุกคนแล้ว”
นี่คือการลงมือที่รวดเร็วและแม่นยา
ยอดฝีมือจากเผ่ามนุษย์ทะเลทรายที่เหลืออยู่อีกสี่คนถึงกับหน้า เปลี่ยนสีทันที
องค์จักรพรรดิหลิงจิวก็ตกตะลึงไม่แพ้กัน
เขาย่อมคิดไม่ถึงเลยว่าต่วนซิงไม่ได้ตายระหว่างการประลองรอบ ชิงชนะเลิศ แต่อสูรผู้นี้กลับกลายเป็ นทาสรับใช ้ของหลินเป่ยเฉินเสีย แล้ว…
บัดนี้ สถานการณ์พลิกกลับตาลปัตร
ยอดฝี มือทั้งหกคนจากเผ่ามนุษย์ทะเลทรายเป็ นผู้แข็งแกร่งที่ ผ่านสมรภูมิรบมานับครั้งไม่ถ้วน
แต่เมื่อมาเผชิญหน้ากับอสูรผลาญดาราต่วนซิง ทุกคนก็เป็ นได้ เพียงจอมยุทธ ์ฝึกหัดเท่านั้น
แสงและเงาเคลื่อนไหววูบวาบ
หลิงเฉินปลดปล่อยเปลวไฟอมตะห้อมล้อมรอบกายองค์ จักรพรรดิหลิงจิวเพื่อป้ องกันไม่ให้เขาเข้าไปขัดขวางอสูรผลาญ ดาราต่วนซิง แต่เขาก็ยังสามารถส่งหุ่นเชิดสังหารที่สร ้างขึ้นมาจาก โลหะออกไปช่วยเหลือยอดฝีมือทั้งสี่คนนั้นจากการดูดกลืนพลังของ อสูรผลาญดาราต่วนซิงได้ส าเร็จ
“บอกข้ามาเถอะ เจ้าเป็ นผู้ใช ้สายเลือดผู้อัญเชิญ หรือเป็ นผู้ใช ้ สายเลือดอสูรกันแน่?”
องค์จักรพรรดิหลิงจิวร ้องตะโกนถามหลินเป่ยเฉินในขณะที่มีหุ่น เชิดสังหารอีกกลุ่มใหญ่ปรากฏตัวขึ้นรอบกาย พลังกดดันในอากาศ ก็หนาแน่นขึ้นมาอีกครั้ง สถานการณ์ของเขาจึงดีขึ้นมาเล็กน้อย
“ไม่ใช่ทั้งสองอย่าง”
หลินเป่ยเฉินเชิดหน้าขึ้นตอบด้วยความภาคภูมิใจ “ข้าเป็ นผู้ใช ้ สายเลือดพันธุ์ผสมน่ะ”
องค์จักรพรรดิหลิงจิวได้ยินดังนั้นก็หยุดชะงัก
สายเลือดพันธุ์ผสม!
เป็ นวิถีสายเลือดรูปแบบใด?
ไม่มีบรรจุอยู่ในยี่สิบสี่สายเลือดบรรพบุรุษนี่นา
“เหมียว พวกเจ้าทำข้าเจ็บแล้วนะ”
อสูรผลาญดาราต่วนซิงถูกหุ่นเชิดสังหารขององค์จักรพรรดิหลิง จิวโจมตีใส่อย่างต่อเนื่อง มันจึงขยายร่างกายให้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม หลายเท่า ก่อนจะอ้าปากกว้างและดูดกลืนทุกสิ่งทุกอย่างเข้าไปใน ปากของมันราวกับเป็ นเครื่องสูบน้า
เปรี้ยง!
และกรงเล็บของมันก็ยังตะปบหุ่นเชิดสังหารจนแหลกกระจายไป อีกกลุ่มใหญ่
หลิงเฉินใช ้โอกาสนี้เหวี่ยงค้อนคว่านภาในมือเข้าไปโจมตีใส่ องค์จักรพรรดิหลิงจิว
“ปกป้ องนายท่าน”
เมื่อยอดฝีมือทั้งสี่คนจากเผ่ามนุษย์ทะเลทรายเห็นเช่นนี้ พวก เขาก็พร ้อมใจกันร ้องตะโกนออกมา
“บังอาจนัก”
องค์จักรพรรดิหลิงจิวร ้องตะโกน “เจ้าคิดว่าจะเป็ นคู่มือของข้าได้ จริงหรือ?”
วูบ!
ค้อนคว่านภาฟาดเข้ามาหาแผ่นหลังขององค์จักรพรรดิหลิงจิว
ฟึ่บ!
แต่เขาก็สามารถหมุนตัวหลบได้อย่างหวุดหวิด
บัดนี้ หลิงเฉินเป็ นผู้ควบคุมเปลวไฟอมตะและได้รับมวลพลังจาก วิหารแห่งผู้แปรธาตุ อีกทั้งยังมีผู้ช่วยเป็ นอสูรผลาญดาราต่วนซิงเมื่อ ทั้งสองผนึกกาลังกัน จึงไม่มีศัตรูหน้าไหนสามารถหยุดยั้งพวกเขาได้ อีกแล้ว
“นายท่าน พวกเราจะคุ้มกันนายท่านเอง นายท่านรีบหนีไปเถอะ ขอรับ”
ยอดฝี มือทั้งสี่คนที่กาลังถูกดูดพลังออกไปอย่างรวดเร็วนั้น พยายามขัดขืนอย่างหมดหวัง
องค์จักรพรรดิหลิงจิวร ้องตะโกนว่า “หากวันนี้พวกเราสังหาร พวกมันไม่ได้ หนทางข้างหน้าก็ยากเกินควบคุมแล้ว… ซือเหยียน ไม่ ทราบว่าท่านจะนั่งบนภูดูเสือกัดกันไปอีกนานเพียงใด? ยังไม่รีบ ปรากฏตัวออกมาอีก”
สิ้นเสียงตะโกนขององค์จักรพรรดิหลิงจิว
บริเวณประตูมิติก็เกิดการเคลื่อนไหวอีกครั้ง!