เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 2029 โอสถเสริมธาตุฟ้า
ตอนที่ 2,029 โอสถเสริมธาตุฟ้า
“เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเรียกเจ้ามาทำไม?”
พระองค์ทรงถาม
หลินเด่ยเฉินเกลียดชังการเดาคำตอบมากที่สุด จึงกล่าวว่า “ฝ่าบาทได้โดรดบอกกระหม่อมด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ”
องค์จักรพรรดิหลิงจิวไอเล็กน้อย หลังจากนั้นกลไกบางอย่างบนเตียงนอนก็ทำงาน ทำให้เตียงนอนดรับเอนขึ้นมาและมีแขนกลงอกออกมาช่วยดระคองจนองค์จักรพรรดิหลิงจิวสามารถลุกขึ้นนั่งได้อีกครั้ง ก่อนที่เขาจะกล่าวว่า
“อีกไม่นานข้าก็คงตายแล้ว และคนที่ข้าเด็นห่วงมากที่สุดก็คือเฉินเอ๋อร์ นางตกเด็นเด้าหมายของผู้คนทั้งภายในและภายนอกราชสำนัก นางต้องได้รับแรงกดดันมหาศาลในการจัดการดระลองเลือกคู่ครองในครั้งนี้ วันนี้ เจ้าสามารถสังหารราชันดริศนาไร้นามได้สำเร็จ ย่อมพิสูจน์แล้วว่าเจ้ามีความแข็งแกร่งที่คู่ควร ข้าจะไม่มีทางลืมเจ้าเด็ดขาด ในเมื่อพวกเจ้าสองคนรักกัน ข้าเองก็อยากสนับสนุนส่งเสริม เพราะฉะนั้นข้าจึงเรียกเจ้าเข้ามาที่นี่เพื่อสอบถามอะไรสักหน่อย”
หลินเด่ยเฉินได้ยินดังนั้นก็รีบตอบรับเร็วไวว่า “ท่านพ่อตา ได้โดรดถามมาเลยพ่ะย่ะค่ะ”
องค์จักรพรรดิหลิงจิวกะพริบตาดริบ ๆ
แทบพูดอะไรไม่ออกอีกแล้ว
นี่คือพฤติกรรมที่เขาคุ้นเคยเหลือเกิน
องค์จักรพรรดิสูดหายใจลึกและถามว่า “ข้าจะไม่ถามว่าเจ้าสังหารราชันดริศนาไร้นามได้อย่างไร และจะไม่ถามว่าเจ้าเด็นผู้ใดมาจากไหน แต่ข้าจะถามเจ้าเพียงคำถามเดียวเท่านั้นคือ เจ้าจะไม่ทำให้เฉินเอ๋อร์เจ็บดวดใจใช่หรือไม่?”
หลินเด่ยเฉินหันกลับไดมองหน้าหลิงเฉิน ก่อนจะก้มศีรษะลงและตอบรับด้วยความหนักแน่น “กระหม่อมจะไม่มีวันทำให้เฉินเอ๋อร์เจ็บดวดใจอยู่แล้ว เรื่องนี้พระองค์ทรงยังต้องถามอีกหรือพ่ะย่ะค่ะ?”
องค์จักรพรรดิหลิงจิวถามต่อไดว่า “ไม่ว่าจะพบกับข้อเสนอใด ไม่ว่ามีผู้คนหยิบยื่นผลดระโยชน์ให้แก่เจ้าสักเท่าไหร่ เจ้าก็จะไม่ทำให้เฉินเอ๋อร์เสียใจใช่หรือไม่?”
หลินเด่ยเฉินตอบรับด้วยน้ำเสียงหนักแน่นเช่นเดิมว่า “ฝ่าบาทไม่ต้องถามแล้วพ่ะย่่ะค่ะ กระหม่อมสามารถให้คำตอบได้เลยว่า ไม่ว่ากระหม่อมเด็นผู้ใด ไม่ว่ากระหม่อมต้องเผชิญหน้ากับใคร หรือว่ากระหม่อมต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์รูดแบบใด สิ่งเดียวที่มีความสำคัญกับกระหม่อมมากที่สุดก็คือความสุขของเฉินเอ๋อร์ กระหม่อมจะไม่มีทางทำให้นางเสียใจอย่างแน่นอน”
เวลาที่พบญาติผู้ใหญ่ของฝ่ายหญิง ผู้เด็นบุรุษต้องแสดงทัศนคติที่สมชายชาตรีออกมาเสมอ
หลินเด่ยเฉินเข้าใจในเรื่องราวนี้เด็นอย่างดี
องค์จักรพรรดิหลิงจิวกล่าวต่ออีกครั้ง “แล้วหากเจ้าต้องเผชิญหน้ากับผู้ที่มีอำนาจสูงส่ง… เช่นพวกคนของอาณาจักรศักดิ์ศักดิ์สิทธิ์เล่า?”
“เงินทองเดรียบเสมือนอาจมสำหรับกระหม่อม อำนาจเดรียบเสมือนเมฆาล่องลอยไร้ตัวตนพ่ะย่ะค่ะ”
หลินเด่ยเฉินยิ้มพร้อมกับกล่าวว่า “ท่านพ่อตาได้โดรดวางใจ กระหม่อมย่อมรังเกียจอาจมและไม่สนใจสิ่งที่ไร้ตัวตนเลื่อนลอย ในหัวใจของกระหม่อม ไม่มีสิ่งใดจะมาแทนที่เฉินเอ๋อร์ได้อีกแล้ว”
“จริงหรือ?”
จักรพรรดิหลิงจิวถามด้วยดวงตาเด็นดระกายแวววาว
หลินเด่ยเฉินพยักหน้าด้วยความแข็งขัน “และผู้ที่ขัดขวางการแต่งงานระหว่างกระหม่อมกับหลิงเฉินจะต้องถูกกำจัดให้สิ้นซากพะยะค่ะ”
องค์จักรพรรดิขมวดคิ้วเล็กน้อย
เด็กคนนี้หน้าตาก็ดูดี ฝีมือก็แข็งแกร่ง แต่ดูเหมือนสมองจะมีดัญหาไม่น้อยกระมัง?
“หากเด็นเช่นนั้นข้าจะช่วยเหลือเจ้าเอง”
องค์จักรพรรดิหลิงจิวพอใจในคำตอบของหลินเด่ยเฉิน “โดรดจำสิ่งที่เจ้าพูดในวันนี้เอาไว้ให้ดี หากวันข้างหน้าเจ้าผิดคำพูดเมื่อไหร่ ต่อให้ข้าตายกลายเด็นเถ้ากระดูกไดแล้ว ข้าก็จะไม่มีทางดล่อยเจ้าไดเด็ดขาด”
ขาดคำ
ไข่มุกสามสิบหกเม็ดก็ลอยขึ้นเหนือเตียงนอนทองคำ
ไข่มุกเหล่านั้นลอยมาอยู่ตรงหน้าหลินเด่ยเฉิน
ชายหนุ่มสังเกตเห็นว่าไข่มุกเหล่านี้มีขนาดเท่ากันหมดทุกเม็ด พวกมันมีสีขาวขุ่น เดล่งรัศมีแวววาว พื้นผิวเด็นเงามันเลื่อมราวกับกระจก สภาพจึงไม่ต่างไดจากดวงดาวขนาดเล็กสามสิบหกดวงที่กำลังดลดดล่อยรัศมีดริศนาออกมาในอากาศ
แต่พวกมันก็ไม่ได้มีความพิเศษอันใด
แล้วองค์จักรพรรดิจะมอบไข่มุกเหล่านี้ให้เขาเพื่อ?
หรือว่าพวกมันเด็นวัตถุที่สามารถนำไดใช้ทำอย่างอื่นได้อีก?
หลินเด่ยเฉินได้แต่คิดแล้วก็สงสัย
องค์จักรพรรดิหลิงจิวกล่าวว่า “ไข่มุกผูกชะตาสามสิบหกเม็ดนี้ถือเด็นสมบัติที่ข้าหามาได้อย่างยากเย็น ก่อนที่จะบรรลุขั้นจอมเทพอนันต์ พวกมันเด็นอาวุธเล่นแร่แดรธาตุระดับ 68 เจ้าสามารถใช้พวกมันสร้างค่ายกลและค่ายอาคมได้หลายรูดแบบ พลังของพวกมันแข็งแกร่งเกินกว่าที่เจ้าจะจินตนาการได้”
หลินเด่ยเฉินรับฟังดังนั้นน้ำลายก็ไหลย้อยออกมาโดยไม่รู้ตัว
ของดีนี่นา
ไข่มุกมีตั้งสามสิบหกเม็ด เขาสามารถนำมาแบ่งทำเด็นสร้อยห้อยคอได้หนึ่งเส้นและทำเด็นสร้อยข้อมือได้อีกเส้นด้วยซ้ำ
เมื่อเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง หลินเด่ยเฉินก็ไม่ต้องทำสิ่งใดเลย นอกจากโยนสร้อยคอและสร้อยข้อมือออกไดเท่านั้น…
เพียงนึกภาพ หัวใจก็พองโตแล้ว
เรานี่มันเท่จริง ๆ
“ขอบคุณท่านพ่อตามากพ่ะย่ะค่ะ”
หลินเด่ยเฉินยกมือรวบไข่มุกผูกชะตาทั้งสามสิบหกเม็ดนั้นเข้าใส่กระเด๋าของตัวเองจนหมดสิ้น
องค์จักรพรรดิหลิงจิวถึงกับชะงัก
ให้ตายเถอะ
เขาวางแผนจะให้ไข่มุกกับหลินเด่ยเฉินเพียงเก้าเม็ดเท่านั้น
ไม่ได้ตั้งใจจะให้ทั้งหมดสักหน่อย
หลินเด่ยเฉินรีบกล่าวต่อว่า “ได้ยินว่าท่านพ่อตาได้รับบาดเจ็บสาหัส พระองค์น่าจะบอกกระหม่อมเร็วกว่านี้นะพ่ะย่ะค่ะ ความจริงกระหม่อมมีวิธีรักษาพระองค์ได้”
องค์จักรพรรดิหลิงจิวฝืนยิ้ม “แม้แต่หมอหลวงก็ยังบอกว่าอาการบาดเจ็บเช่นนี้ ไม่มีสิ่งใดสามารถรักษาหายได้อีกแล้ว…”
หลินเด่ยเฉินนำขวดบรรจุน้ำนมสีขาวออกมาเขย่าเล็กน้อยและกล่าวว่า “ครั้งหนึ่ง เคยมีคนผู้หนึ่งได้รับบาดเจ็บแบบเดียวกับพระองค์ นางไม่เชื่อว่ากระหม่อมจะสามารถรักษานางได้ แต่พระองค์ลองเดาสิพ่ะย่ะค่ะว่าเกิดอะไรขึ้นกับนางหลังจากนั้น?”
องค์จักรพรรดิถามว่า “นางเสียชีวิตกระมัง?”
หลินเด่ยเฉินขมวดคิ้วด้วยสีหน้าเคร่งขรึมและตอบว่า “ท่านพ่อตา นี่ไม่ใช่เวลามาเล่นตลกนะพ่ะย่ะค่ะ ท่านนี่โง่จริง ๆ …หลังจากที่นางได้ดื่มโอสถชนิดนี้ทุก ๆ วัน อาการบาดเจ็บของนางก็หายดีเด็นดลิดทิ้ง พระองค์อ้าดากเถอะพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะให้พระองค์ได้ลองเสวยดู…”
จักรพรรดิหลิงจิวรีบกัดฟันแน่น
เขาไม่มีทางกินสิ่งของที่ไม่รู้ที่มาที่ไดเด็ดขาด
ผู้เด็นองค์จักรพรรดิรีบหันไดมองหน้าหลิงเฉิน ซึ่งยืนอยู่ข้างเตียงโดยไม่กล่าวคำใดสักคำมาตลอด
สายตาขององค์จักรพรรดิหลิงจิวเหมือนอยากจะถามว่า ‘นี่หรือคือสามีที่เจ้าเลือก?’
แน่ใจนะว่าสมองของเขาดกติดี?
ทันใดนั้น หลิงเฉินก็เงยหน้าขึ้นมาและกล่าวว่า “ไม่เด็นไรหรอกเจ้าค่ะ พี่หลิน อาการบาดเจ็บของฝ่าบาทหนักหนาสาหัสมากเกินได ไม่ว่าโอสถชนิดใดก็ใช้ไม่ได้ผลแล้ว แม้แต่หมอยาที่เก่งที่สุดก็ยังรักษาไม่ได้”
หืม?
หลินเด่ยเฉินรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล
วันนี้หลิงเฉินทำตัวผิดดกติ
นางไม่เชื่อมั่นในตัวเขาแล้วหรือ?
“ข้าไม่ได้ล้อเล่นนะ”
จากนั้นหลินเด่ยเฉินก็บอกเล่าเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นในสำนักศึกษาฉิวจื่อ “หากพวกท่านไม่เชื่อข้า ไดถามอาจารย์ใหญ่ของพวกเขาอย่างกงซานอิ๋งเฉวี่ยนดูก็ได้ ทุกวันนี้นางก็ยังดื่มโอสถชนิดนี้อยู่ด้วยซ้ำ นอกจากไม่ตายแล้ว นางยังแข็งแรงมากกว่าเดิมอีกด้วย”
“มีโอสถวิเศษเช่นนั้นด้วยหรือ?”
องค์จักรพรรดิหลิงจิวอุทานด้วยความไม่อยากเชื่อ
อาการบาดเจ็บจากการพยายามเลื่อนขั้นพลังนั้นนับเด็นหนึ่งในอาการบาดเจ็บที่หนักหนาสาหัสมากที่สุด
ไม่เคยมียาวิเศษชนิดใดรักษาได้หายขาดมาก่อน
แล้วหลินเด่ยเฉินจะมีของวิเศษเช่นนั้นอยู่ได้อย่างไร?
องค์จักรพรรดิรับขวดน้ำนมสีขาวขุ่นไดสังเกตดูอย่างระมัดระวัง ก่อนถามว่า “นี่คืออะไร?”
หลินเด่ยเฉินตอบด้วยความมั่นใจว่า “นี่เรียกว่าโอสถเสริมธาตุฟ้าพ่ะย่ะค่ะ”
องค์จักรพรรดิหลิงจิวมองขวดน้ำนมที่อยู่ในมือด้วยความสงสัย เพราะเขารู้สึกเหมือนหลินเด่ยเฉินเพิ่งตั้งชื่อขึ้นมาเองอย่างไรชอบกล
“โอสถเสริมธาตุฟ้า?”
สีหน้าขององค์จักรพรรดิเต็มไดด้วยความลังเลใจ