เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ - ตอนที่ 559 ทำไมคุณต่ำทรามได้ขนาดนี้
บทที่ 559 ทำไมคุณต่ำทรามได้ขนาดนี้
ใบหน้าของหานมู่จื่อร้อนผ่าว เธอหลับตาลงก่อนจะขบริมฝีปากตัวเองเบาๆ ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง “ใครจะไปรู้นิสัยอะไรของคุณกัน?”
เมื่อได้ฟังอย่างนั้น ดวงตาของเย่โม่เซินก็โค้งขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะก้าวไปข้างหน้า เอื้อมมือไปจับคางของเธอเอาไว้ ทำให้หานมู่จื่อผงะจนเผลอถอยหลังออกไปสองสามก้าว
“คุณจะทำอะไร?”
“ไม่รู้เหรอ?” เย่โม่เซินยกยิ้ม “ช่วยคุณรื้อฟื้นความจำไง”
“ไม่จำเป็น!” หานมู่จื่อจ้องมองที่เขาอย่างเดือดดาล หลังจากนั้นจึงชี้ไปที่น้ำเย็นบนโต๊ะ “ดื่มมันแล้วก็รีบไปซะ”
เย่โม่เซินเหลือบสายตาไปมองน้ำเย็นบนโต๊ะ ขบคิดไปมาเขาก็เดินลงไปนั่งบนโซฟา พลางแสร้งยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่มสองอึก
ความจริงแล้วเขาไม่ได้กระหายน้ำ แต่เขากำลังหิวต่างหาก
ตั้งแต่เลิกงานจนถึงตอนนี้เขายังไม่ได้กินอะไรเลย
เมื่อเห็นว่าเขานั่งลง ภายในใจของหานมู่จื่อก็รู้สึกสงบลง หลังจากความเงียบผ่านมาสักพักเธอก็นึกกับตัวเองขึ้นมาได้ว่าเธอเรียกเขาเข้ามาทำอะไร
“วันนี้ที่คุณปรากฏตัวที่นี่คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอกมั้ง” เสียงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา
เย่โม่เซินวางแก้วน้ำเย็นในมือลง มองสบสายตาเธอโดยไม่ได้ตอบอะไร
“ไม่ตอบ งั้นฉันจะถือว่าคุณยอมรับ”
ในเมื่อเขาไม่ได้พูดอะไร หานมู่จื่อจึงรู้ได้ว่าเขายอมรับมัน ก่อนจะพูดต่ออีกว่า “คุณคงคาดเดาไว้ก่อนหน้าแล้วใช่ไหมเรื่องที่มีคนตามฉัน? ดังนั้นก็เลยมาที่นี่?”
เย่โม่เซินเอามือทั้งสองข้างประสานกันไว้ที่ท้ายทอย ก่อนจะปรับตัวเองให้อยู่ในท่วงท่าที่สบาย แล้วเอนตัวนอนลงบนโซฟาของเธอ
ในขณะเดียวกันหลังจากที่เสี่ยวเหยียนขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าชั้นบน เธอก็ซ่อนตัวอยู่บันไดชั้นบนสุด แอบมองลงมาดูทั้งคู่อย่างลับๆ ทำไมหานมู่จื่อถึงได้พาผู้ชายทรราชอย่างเย่โม่เซินกลับมาด้วยกัน?
นี้ยิ่งทำให้เธอรู้สึกตกใจกลัวจริงๆ
เกิดอะไรขึ้นกันแน่? อะไรที่ทำให้มู่จื่อพาเย่โม่เซินกลับมาบ้านกัน?
เมื่อนึกไปถึงอะไรบางสิ่ง เสี่ยวเหยียนก็รู้สึกว่าตัวเองโชคดี โชคดีจริงๆ ที่เมื่อตอนกลางวันเธอส่งเสี่ยวหมี่โต้วกลับบ้านไปแล้ว
เมื่อดูแล้ว มู่จื่อช่างเป็นคนมองการณ์ไกลได้ดีจริงๆ
ถ้าขืนตอนนี้เสี่ยวหมี่โต้วยังอยู่ที่นี่ ในตอนที่เย่โม่เซินทั้งคู่จะไม่เผชิญหน้ากันเหรอ?
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เสี่ยวเหยียนก็อดที่จะรู้สึกผวาไม่ได้
ด้านล่าง
บทสนทนายังคงดำเนินต่อไป เมื่อหานมู่จื่อเห็นเย่โม่เซินนิ่งเงียบไป เธอก็รู้สึกว่าสิ่งที่ตัวเองคิดนั้นถูกแล้ว
“คุณคาดเดาไว้ก่อนหน้าแล้วว่ามีคนกำลังตามฉัน งั้นเรื่องก่อนหน้านั้นคุณก็รู้อย่างนั้นเหรอ?” เมื่อถามประโยคนี้เสร็จ จู่ๆ หานมู่จื่อก็นึกไปถึงอะไรบางอย่าง สีหน้าของเธอก็ดูเปลี่ยนไปในทันที จ้องมองไปที่เย่โม่เซิน “งั้นเรื่องก่อนหน้าหรือว่าคุณจะเป็นคนทำ?”
“หื้ม?” เย่โม่เซินเห็นสีหน้าของเธอเปลี่ยนไป ก็พูดอะไรไม่ออก
“คุณรู้อยู่ก่อนแล้ว” หานมู่จื่อเม้มริมฝีปากแดงเอาไว้แน่น ราวกับตัดสินใจอะไรบางอย่าง
สายตาของเย่โม่เซินมืดครึ้มลงจนสัมผัสได้ถึงโทสะ เขาหรี่ตาลงก่อนจะพูดขึ้นมาว่า “คุณหมายถึงเรื่องที่คนตายนั่นน่ะเหรอ? คุณคิดว่า…. เป็นฝีมือของผม?”
หานมู่จื่อไม่ได้ตอบรับ แต่ท่าทีของเธอก็ยอมรับมัน
“หึ” เย่โม่เซินหัวเราะกับตัวเอง “หานมู่จื่อ ในใจของคุณ ผมเป็นคนน่ารังเกียจขนาดนั้นเลยเหรอ?”
หานมู่จื่อตกตะลึง เผยริมฝีปากออกมา
“ฉัน…..”
“คุณคิดว่าพอผมรู้เรื่องที่เขาส่งกระต่ายตายมาให้คุณ ดังนั้นผมเลยบังคับให้เขาฆ่าตัวตาย? หึ ปฏิเสธความใกล้ชิดกับผมก็ช่างเถอะ ตอนนี้คุณคิดว่าผมเป็นคนประเภทไหนกัน?”
หานมู่จื่อ “………”
เธออยากจะบอกว่าตัวเองไม่ได้คิดแบบนั้น ทว่าเมื่อเห็นสีหน้าผิดหวังจากเขาเธอก็ไม่รู้ว่าควรจะเริ่มพูดจากตรงไหน ยิ่งพูดเยอะก็ยิ่งเหมือนให้ความหวังเขา
ถ้าเป็นอย่างนั้นสู้เธอไม่อธิบายอะไรเลยดีกว่า
“คุณคิดว่าเป็นยังไงก็เป็นอย่างนั้นแหละ” เธอจึงจงใจพูดออกไปอย่างนั้น
ประโยคนี้ของเธอยิ่งทำให้เย่โม่เซินรู้สึกหงุดหงิด เข้าลุกขึ้นจากโซฟาก่อนจะเดินตรงเข้าหาเธอ “งั้นตอนนี้คุณคิดว่าไงล่ะ? คิดว่าผมเป็นคนสารเลวน่ารังเกียจงั้นสิ แล้วคุณให้ผมเข้ามาทำไมล่ะ?”
มือทั้งสองข้างของเขาวางเอาไว้ที่โซฟาด้านหลังหานมู่จื่อ โดยที่เขาค้อมตัวเธอเอาไว้จากด้านบน ลมหายใจของเขาที่ปะทะเข้ามาก็ทำเอาเธอพูดติดอ่าง
“คะ คุณถอยไปก่อน”
“ตอบผมมาสิ”
หานมู่จื่อกัดฟันแน่น “ก็ฉันบอกแล้วไงว่าคุณคิดยังไงมันก็อย่างนั้นแหละ”
“งั้นคุณให้ผมเข้ามาทำไมล่ะ? ไม่กลัวว่าผมจะบังคับให้คุณฆ่าตัวตายบ้างหรือไง?”
อาจจะเป็นเพราะความหงุดหงิด ดังนั้นจึงทำให้เผลอพูดคำพูดที่ไม่ได้ตั้งใจออกมา
หานมู่จื่อเมื่อยังเห็นว่าเขายังตามติดมาไม่ถอย กลับเอ่ยคำพูดออกมายั่วโมโห ที่ถูกเขาก่อกวนก่อนหน้าก็ไม่นึกโกรธแล้ว เธอเพียงยืดหลังตัวเองให้ตรง
“งั้นคุณก็ฆ่าฉันเลยสิ มาดูกันว่าฉันยังจะกลัวคุณไหม?”
จากความหยิ่งผยองที่มีอยู่ก่อนหน้า หลังจากที่หานมู่จื่อพูดประโยคนี้ออกมาแล้ว เย่โม่เซินก็ตกตะลึงไป
บางทีสิ่งที่พูดออกมาในตอนแรกอาจเป็นเพราะเธอไม่ตั้งใจ ทว่าเมื่อเย่โม่เซินได้ยินเข้าเขากลับตีไปในความหมายอื่น…..
เขามองไปที่ใบหน้าสวยรูปไข่ องค์ประกอบของใบหน้าเธอดูเป็นสามมิติมาก ไม่ว่าจะเป็นคิ้วที่ไม่หนาหรือบางไป เป็นคิ้วธรรมชาติที่ดูอ่อนโยนและมีเสน่ห์
ดังนั้นเย่โม่เซินจึงได้คิดหาวิธีอื่นเพื่อจัดการเธอ…..
จัดการเธอซะ…….
ภายในหัวมีภาพทับซ้อนโผล่ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ เพราะรัศมีโดยรอบจากตัวเขาแตกต่างกัน ดังนั้นจึงทำให้บรรยากาศโดยรอบเปลี่ยนไป กลายเป็นบรรยากาศคลุมเครือขึ้น
หานมู่จื่อรับรู้ได้อย่างชัดเจน โทสะของเธอพุ่งทะยานไปจนถึงดวงตาคู่สวย ก่อนที่เท้าของเธอจะเตะเขาออกไปตรงๆ
“ในหัวของคุณนี้มันคิดได้แต่เรื่องน่ารังเกียจหรือไง?”
เมื่อโดนเท้าของเธอเตะมา สำหรับเย่โม่เซินแล้วการเตะหนักเตะเบานั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่ทว่ามันสำคัญตรงที่จุดที่โดนเตะมันคือกล่องดวงใจของเขา นึกยิ่งทำให้แรงปรารถนาของเย่โม่เซินถูกกระตุ้นให้มากขึ้นไปอีก
คอของเขาขยับออกไป ก่อนเอ่ยออกมาเสียงเข้ม
“ไม่ใช่ที่ผมคิด เป็นคุณที่พูดมันออกมาเองเหรอ”
“ฉันพูดอะไร?”
ดวงตาของเขาเข้มขึ้นก่อนที่ตัวเขาจะกดลงไป “คุณให้ผม…. จัดการคุณไง”
หานมู่จื่อ “………..”
เกิดความเงียบอยู่ประมาณสามวินาที ในที่สุดหานมู่จื่อก็เป็นฝ่ายทนไม่ไหวระเบิดอารมณ์ออกมา เธอใช้แรงผลักเย่โม่เซินออก “ทุเรศไร้ยางอาย!”
เย่โม่เซินเซซวนถอยหลังไปสองสามก้าวก่อนที่เขาจะทรงตัวตัวเองเอาไว้ เขามองไปที่ตรงๆ ที่โดยหานมู่จื่อผลักออก ดวงตายังคงหนักอึ้ง หลังจากนั้นเขาก็พาตัวเองกลับไปนั่งตรงตำแหน่งเดิม
“ที่ให้คุณเข้ามาก็เห็นว่าหัวร้อนจนจะต้มน้ำได้อยู่แล้ว ตอนนี้ฉันให้คุณออกไป”
เธอชี้ไปที่ประตู ให้เย่โม่เซินออกไป
ทว่าเย่โม่เซินกลับยังนั่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับ ไม่คิดที่จะออกไปไหน
หานมู่จื่อโมโหเป็นอย่างมาก เธอเดินตรงเข้าไปคว้าคอเสื้อของเขา “ฉันให้คุณออกไป นี้บ้านฉัน ฉันมีสิทธิ์ที่จะไม่ให้คุณอยู่ที่นี่”
“รอเดี๋ยว” เย่โม่เซินจับมือขาวบางของเธอเอาไว้ ก่อนเอ่ยออกมาเสียงต่ำ “ตอนนี้ผมไม่สะดวกที่จะออกไป”
เมื่อได้ฟังอย่างนั้น หานมู่จื่อก็ยิ้มเยาะ “คุณไม่สะดวก? ฉันก็ไม่สะดวก ลุกขึ้น!”
เย่โม่เซินราวกับก้อนหินขนาดใหญ่ ไม่ว่าเธอจะพยายามผลักหรือดึงยังไงเขาก็ไม่ขยับ หานมู่จื่อโมโหเป็นอย่างมาก เธอไม่ยอมแพ้ยังคงพยายามดึงเขาออกต่อไป
อาจจะเป็นเพราะถูกเธอทำให้รำคาญ เย่โม่เซินจึงใช้มือเพียงข้างเดียวดึงหานมู่จื่อเข้ามาในอ้อมกอดของตัวเอง
“อ๊ะ” หานมู่จื่อที่ไม่ทันตั้งตัวเธอจึงเผลอล้มลงในอ้อมกอดของเขา
ในตอนนั้นที่เธออยากจะด่าเขา ทว่าเธอก็รับรู้ถึงความปรารถนาของเขา……