เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ - บทที่ 797 ถังเป่าเป็นเด็กดีของท่านลุง
- Home
- เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ
- บทที่ 797 ถังเป่าเป็นเด็กดีของท่านลุง
บทที่ 797 ถังเป่าเป็นเด็กดีของท่านลุง
เสิ่นเว่ยเฟิงสีหน้าเรียบเฉย หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่งเขาจึงได้เดินไปที่ประตู
ในเวลาเดียวกันหลังจากตู้ชิงหยูเดินออกจากเรือนรับรอง เมื่อเงยหน้าขึ้น นางจึงได้เห็นเงาร่างที่คุ้นเคย
ชายหนุ่มรูปร่างสูงเพรียวยืนอยู่ใต้ต้นหลิว เขาใส่ชุดสีขาว เส้นผมและเสื้อคลุมของเขาพลิ้วไหวไปยามสายลมพัดผ่าน ผู้คนที่ผ่านไปมาต่างพากันมองอย่างชื่นชม
เมื่อเห็นตู้ชิงหยูเดินออกมา สายตาของเขาจับจ้องมองนางอย่างไม่ละสายตา หัวใจของตู้ชิงหยูอ่อนยวบ นางเดินไปหาเขาด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าอย่างไม่รู้ตัว
“กู้หวนอวี้ ท่านรอข้าอยู่หรือ?”
เขาพยักหน้า
“ถ้าหากข้าสนทนากับศิษย์พี่นานเกินไป ท่านก็จะยังรอข้าหรือ? โง่จริง!” ตู้ชิงหยูเอ็ดเขาพลางหัวเราะออกมา
“ไม่โง่ …” น้ำเสียงเขาเบาทว่าหนักแน่น จริงจัง
“ไม่ว่าจะนานเพียงใด ข้าย่อมยินดีและเต็มใจที่จะรอเจ้า” ตู้ชิงหยูหัวใจเต้นแรงเมื่อได้ฟัง กู้หวนอวี้เริ่มพูดคำหวานได้อย่างเป็นธรรมชาติ บางครั้งคำพูดของเขาทำให้นางถึงกับอึ้งพูดไม่ออกเลยก็มี จู่ๆเขาก็ยื่นมือมาสัมผัสที่ใบหน้าของนาง ไม่ใช่แค่พูดคำหวานได้ แต่ยังกล้าแตะต้องนางอีกด้วย! ตู้ชิงหยูถอยหลัง
“ท่านจะทำอะไร?”
“ผมของเจ้ายุ่งมาก”
ผมของตู้ชิงหยูยุ่งเหยิงจริงดังที่เขาว่า เมื่อกู้หวนอวี้ยื่นมือออกมาอีกครั้ง นางจึงได้ปล่อยให้เขาจัดทรงผมให้ตนเอง
ยามที่นางมองกู้หวนอวี้ หญิงสาวไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าแววตาของนางเป็นประกายแวววาวสดใสมากเพียงใด ทั้งคู่เดินเคียงข้างกันไป
ตู้ชิงหยูไม่ได้สังเกตว่าข้างเรือนรับรองมีร่างเงาของใครบางคนกำลังจ้องมองอย่างใกล้ชิด
เสิ่นเว่ยเฟิงยืนอยู่ตรงนั้น ในใจของเขาขื่นขมอย่างบอกไม่ถูก
เขารู้ว่าศิษย์น้องเป็นสาวงาม แต่นางไม่เคยให้ความสนใจหรือสนิทสนมกับใครมาก่อนทั้งหญิงและชาย แต่เมื่อครู่เขาได้เห็นความเก้อเขินกระดากอายและหลงใหลของนาง สายตาที่มองชายคนนั้นสว่างสดใส
นางชอบเขา!
การตระหนักรู้ทำให้เขาเกิดอาการไม่สบายใจเป็นอย่างมาก ในที่สุดศิษย์น้องก็มีคนที่นางชอบแล้ว แต่เป็นเพราะเหตุใดเขาถึงไม่ดีใจแต่กลับเจ็บปวดแทน?
……
ท่านผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เรียกอัครเสนาบดีแห่งแคว้นฉู่เข้าเฝ้าอีกครั้ง โดยมีเสนาบดีเจ้ากระทรวงพิธีการและกระทรวงโยธาธิการเข้าร่วมด้วย
เสิ่นเว่ยเฟิงใช้ความสามารถของตนโน้มน้าวเสนาบดีทั้งสองคนจนทำให้เขาพูดไม่ออก สุดท้ายกลายเป็นเว่ยฉิงที่ผลักข้อเสนอกลับ ทั้งสองฝ่ายจึงไม่อาจบรรลุข้อตกลงกันได้
ในที่สุดเสิ่นเว่ยเฟิงจึงได้เสนอขอเจรจากับท่านผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เพียงตามลำพัง
ทั้งสองใช้เวลาปรึกษาหารือกันนานร่วมครึ่งชั่วยาม ผู้คนต่างอยากรู้เนื้อหาของการเจรจา แต่ไม่มีใครกล้าบังอาจถามท่านผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์
เมื่อเว่ยฉิงกลับไปที่จวน เขาตามหาภรรยาเพื่อเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้นางฟัง
“ฮูหยิน ข้าว่าเสิ่นเว่ยเฟิงชอบตู้ชิงหยูมาก” เว่ยฉิงพูดอย่างจริงจัง
ถังหลี่ตื่นเต้นมาก ดวงตาของนางเป็นประกาย
“ท่านคิดว่าอย่างไรหรือ?”
“วันนี้พวกเราสนทนากันตามลำพัง เขาพยายามทุกวิถีทางเพื่อค้นหาความสัมพันธ์ระหว่างตู้ชิงหยูกับพี่รองของเจ้า”
เว่ยฉิงไม่ชอบเสิ่นเว่ยเฟิงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยิ่งเขาได้เห็นความภาคภูมิใจและคารมคมคายของชายผู้นั้น ยิ่งอยากทำลายจิตวิญญาณของเสิ่นเว่ยเฟิงมากขึ้น
“ข้าเลยจงใจพูดกับเขาว่าตู้ชิงหยูและพี่รองเข้ากันได้ดีมาก ราวกับสวรรค์สรรสร้าง ใบหน้าของเสิ่นเว่ยเฟิงดำทมึนไปทันทีเลยล่ะ”
เมื่อคิดถึงสีหน้าที่ย่ำแย่ของชายผู้นั้นแล้ว เว่ยฉิงให้สาแก่ใจนัก
พี่ชายภรรยาทำสำเร็จตามความคาดหวังของเขาทำให้เสิ่นเว่ยเฟิงโกรธมาก!
“ฮูหยิน เสิ่นเว่ยเฟิงผู้นี้ช่างไร้ความสามารถดังคำกล่าวที่ว่าหอใกล้น้ำได้ยลจันทร์ก่อน เขากับตู้ชิงหยูรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก แต่พวกเขากลับไม่เข้าใจกัน สู้พี่รองของเราไม่ได้สักนิด “ เว่ยฉิงยังเยาะเย้ยต่อ ถังหลี่คิดเช่นนั้นเหมือนกัน
นี่เป็นโชคชะตา ตู้ชิงหยูคือพรหมลิขิตของพี่รอง
พี่รองเป็นคนใจเย็น ใครเลยจะคิดว่ายามที่เขาตกหลุมรักแล้วเขาจะเป็นคนคลั่งรักได้ถึงเพียงนี้
ถังหลี่ได้ยินเรื่องที่สามีซุบซิบให้ฟัง เมื่อยามที่นางได้พบตู้ชิงหยูอีกครั้ง จึงได้ลองทดสอบดูแล้วพบว่าตู้ชิงหยูไม่ได้คิดอะไรกับศิษย์พี่ของนางเลยด้วยซ้ำ นางแค่พร่ำบ่นว่าพวกเขาไม่ได้เจอกันหลายปีแล้ว ย่อมไม่สนิทกันเหมือนเช่นเดิม ศิษย์พี่ไม่ได้มีอารมณ์ชวนให้นางอยากเอาชนะหรืออยากทะเลาะด้วยอีกต่อไป
ดูไปแล้วความรักของเสิ่นเว่ยเฟิงน่าจะไม่สมหวัง
“เสี่ยวหลี่ วันนี้อากาศดี เจ้าอยากออกไปเดินเล่นกับข้าหรือไม่?” ตู้ชิงหยูเอ่ยชวน
หลังจากนางพูดจบมู่เป่ากับถังเป่าก็เดินออกมา พวกเขามีท่าทางกระตือรือร้นอยากไปด้วย ตู้ชิงหยูมองเด็กน้อยน่ารักทั้งสองแล้วไม่อยากปฏิเสธ จึงพาพวกเขาออกไปด้วยกัน
ตู้ชิงหยูอุ้มเด็กน้อยขึ้นมาแล้วบีบแก้มนางเล่น นางชอบถังเป่าเพราะเด็กหญิงคล้ายกับถังหลี่ราวกับย่อส่วน ไม่ว่าจะเป็นดวงตาที่กลมโตสวยงามหรือใบหน้าเล็กๆ ประณีต นางไม่เคยเห็นถังหลี่ยามเป็นเด็กน้อย นางจึงได้แอบกลั่นแกล้งถังเป่าเป็นพิเศษ
ใบหน้าเล็กๆ ของถังเป่าดูสิ้นหวัง นางไร้ทางเลือกจึงต้องยอมอดทนกับผู้ใหญ่ที่ไร้เหตุผลผู้นี้
ตู้ชิงหยูอุ้มถังเป่าส่วนถังหลี่จูงมือมู่เป่า พวกเขาพากันไปยังหอหวางเจียงด้วยกัน เมื่อทั้งสี่คนมาถึงหอหวางเจียงกลับได้พบคนผู้หนึ่งอย่างไม่ได้คาดคิด
เป็นเสิ่นเว่ยเฟิงนั่นเอง
ครั้งนี้ถังหลี่ดูเขาเปลี่ยนไป ตอนที่ได้พบกันครั้งแรก เขาสง่างามสดใสเหมือนผีเสื้อที่โฉบบินไปมา แต่เมื่อได้เจอเขาครั้งนี้นางเห็นความเปลี่ยนแปลงของเขา เขาใส่ชุดสีดำ ท่าทางเย็นชา แม้ใบหน้ายังดูซีดเซียวลง
ตู้ชิงหยูประหลาดใจ เอ่ยปากทักเขา
“ศิษย์พี่ใหญ่” เสิ่นเว่ยเฟิงทักชิงหยู เขาเรียกนาง น้องสาว จากนั้นจึงหันไปมองถังหลี่
“พระชายา ช่างบังเอิญยิ่งนัก เหตุใดพวกเราไม่มานั่งด้วยกันล่ะ” เขากล่าวเชิญ
ตู้ชิงหยูพยักหน้ารับด้วยสีหน้าปกติ ทั้งหมดจึงได้ไปนั่งยังห้องส่วนตัวริมแม่น้ำ
มู่เป่าไม่อาจนั่งนิ่งๆได้ เขาวิ่งไปที่หน้าต่างชะเง้อมองออกไปข้างนอก ดวงตาสีดำแวววาวมองไปยังทิวทัศน์ของแม่น้ำในฤดูร้อน ถังเป่ากลับเงียบกว่า นางนั่งข้างถังหลี่ใช้ดวงตากลมโตจ้องมองเสิ่นเว่ยเฟิงเขม็ง ท่านพ่อสั่งนางไว้ว่า หากเห็นชายผู้นี้อีกต้องระวังอย่าให้เขาได้เข้าใกล้มารดาของนาง
หลังจากที่นางนั่งเงียบ คลายความระมัดระวังลงสักพักก็หันไปสำรวจตู้ชิงหยูและเสิ่นเว่ยเฟิงแทน สีหน้าของนางครุ่นคิด
เสิ่นเว่ยเฟิงลังเลที่จะพูดบางอย่างกับตู้ชิงหยู แต่เดิมเขาตั้งใจไว้ว่าหลังจากการเจรจาสิ้นสุดลงเขาจะกลับไปยังแคว้นฉู่ทันที
แต่ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา เขานอนไม่หลับ ทั้งยังไม่เจริญอาหาร เขาหวนคิดถึงอดีตที่ผ่านมา พวกเขาทั้งสองเข้ากันได้ และการหมั้นหมายที่ไร้สาระนั่น…เขาครุ่นคิดอยู่เกือบสองวันจากได้จึงได้เข้าใจว่า ไม่ใช่เขาไร้ความรู้สึกต่อศิษย์น้องคนนี้หรอก แท้จริงแล้วเขาชอบนางมาก…
เขาเสียใจที่ได้ยกเลิกการหมั้นกับนางไป อีกทั้งยังคิดว่าจะลองยื้อดูอีกสักครั้งเพื่อที่ตนเองจะได้ไม่ต้องเสียใจไปตลอดชีวิต
เขากำมือแล้วคลายอยู่หลายครั้งในที่สุดก็เอ่ยว่า
“ศิษย์น้อง ข้ามีเรื่องจะพูดกับเจ้า ออกไปเดินเล่นกับข้าหน่อยได้หรือไม่?”
แม้จะไม่เข้าใจอารมณ์ของเขาแต่ตู้ชิงหยูยังคงพยักหน้าเดินออกไป
…ถังเป่าเชิดคางขึ้น
“ท่านแม่ ท่านให้ท่านอาฉือซื่อไปเรียกท่านลุงรองมาได้หรือไม่เจ้าคะ?” ถังหลี่อดหัวเราะเด็กน้อยออกมาไม่ได้ นางช่างเป็นหลานสาวที่ดีของลุงรองจริงๆ
ถังหลี่รู้สึกถึงลมที่พัดผ่าน ราวกับมีใครบางคนผ่านหน้านางไป ฉือซื่อไปส่งข้อความโดยที่นางยังไม่ทันอนุญาตหรือ?
ฉือซื่อรักมู่เป่าและถังเป่ามาก ไม่ว่าเด็กน้อยทั้งสองจะต้องการอะไรก็ตามเขาแทบจะถวายหัว ทว่า องครักษ์เงาควรเชื่อฟังแต่เจ้านายของเขาไม่ใช่หรือ?
เจ้าฉือซื่อสอบตก!