เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 930 แกถูกเล่นงานมาเหรอ?
“ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่ยุงข้างนอกมันเยอะไปหน่อยน่ะ ผมออกมาหาอะไรจัดการฆ่ายุงเท่านั้นเอง”ถังเฉาพูดอย่างยิ้มๆ
พอเห็นรอยยิ้มที่เปิดเผยของถังเฉา หลินชิงเสว่ก็ไม่รู้สึกสงสัยอะไร
หลินชิงเสว่ยิ้มเล็กน้อย ซบในอ้อมกอดของถังเฉา เหมือนกับนกตัวน้อยๆ
“ดึกขนาดนี้แล้ว ไม่ต้องไปสนใจเรื่องพวกนั้นแล้ว ถึงยังไงตอนที่อยู่ข้างในนี้ พวกเราก็ไม่มีทางโดนกัดได้หรอก รีบนอนเถอะ พรุ่งนี้ยังต้องปีนเขาต่อนะ”
ถ้าบอกว่าหลินชิงเสว่มีความสุข ก็คงจะไม่ใช่เรื่องการปีนเขาแน่นอน เพราะว่าการปีนเขามันช่างทรมานจริงๆ
แต่หลินชิงเสว่ก็ยังมีความสุข เพราะว่าการที่ถังเฉาสามารถมาอยู่ด้วยกันกับตนเองได้ สำหรับหลินชิงเสว่แล้ว ก็เป็นเรื่องที่มีความสุขที่สุดแล้ว
ถังเฉามองไปรอบๆอย่างละเอียด พอแน่ใจว่าไม่มีใครมาลอบโจมตีแล้ว ก็เลยหลับตามไป
ระหว่างที่กำลังหลับอยู่นั้น ไม่คาดคิดว่า จะเกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันขึ้นที่หมู่บ้านแล้ว
เหยหู่พาคนมาถึงยังหมู่บ้านภูเขาหม่าหลันในชั่วข้ามคืน
ตอนแรกผู้ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเตรียมที่จะต้อนรับแขกที่มาถึงที่นี่ แต่ตอนที่พวกเขาเห็นเลือดที่มือของเหยหู่ แล้วก็ชาวบ้านที่ถูกเหยหู่แบกมาตลอด ชาวบ้านเหล่านี้ก็รู้สึกว่าท่าจะไม่ดีแล้ว
แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นแบบนี้ พวกเขาก็ยากที่จะหนีจากโชคชะตาที่น่าสลดนี้ไปได้อยู่ดี
ชาวบ้านมากมายถูกฆ่าทิ้งไปในค่ำคืนนี้ ที่เหลือก็ล้วนแต่เป็นพวกวัยรุ่นที่รู้ว่าเกิดเรื่องขึ้นก็เลยไปหลบซ่อนตัวไว้
“ภารกิจของพวกเราในครั้งนี้ถือว่าสำเร็จแล้ว เรื่องแค่นี้ ท่านหงเหลียนยังจริงจังขนาดนี้ มันช่างดูถูกพวกเราเกินไปแล้วจริงๆ”
เหยหู่พูดยิ้มนิ่งๆ
“ช่างเถอะ นี่มันก็สำเร็จแล้วไม่ใช่หรือไง? สำเร็จก็ดีแล้ว พวกเรารีบตั้งค่ายที่นี่เร็วเข้า ถึงยังไงคนที่นี่ก็ไม่ได้มีพวกอุปกรณ์โทรศัพท์ แทบจะติดต่อกับโลกภายนอกไม่ได้เลย เรื่องที่พวกเราฆ่าคนที่นี่ ไม่มีใครรู้ทั้งนั้น”
เหยหู่พูดพลางหัวเราะออกมาเสียงดัง พอคิดว่าตัวเองจะได้เป็นราชาแห่งขุนเขาของที่นี่ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่เลวเลย
แต่ในตอนนี้เอง จู่ๆก็มีเสียงฝีเท้าที่มีความถี่สูงมากดังขึ้นมาจากข้างหลัง
พอฟังแล้วก็รู้เลยว่าเป็นคนที่ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้มา เหยหู่นึกว่าในหมู่บ้านแห่งนี้ยังมีคนที่ฝีมือระดับสูงอะไรอยู่ด้วย ทันใดนั้นก็เพิ่มความระแวดระวังขึ้นมาทันที
แต่พอหันกลับมา ก็พบว่าเป็นไอ้ผอม
พอเห็นท่าทีที่กังวลของไอ้ผอม เหยหู่ก็รู้สึกเหลือชื่อไม่น้อย
ไอ้หมอนี่ไปทำเรื่องชั่วๆมาไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมถึงวิ่งแจ้นกลับมาด้วยท่าทางแบบนี้
ในใจของเหยหู่เกิดคำถามขึ้นมามากมาย จนกระทั่งไอ้ผอมมาอยู่ตรงหน้าของเหยหู่
“นายท่าน เกิดเรื่องขึ้นที่ภูเขาแล้วครับ ผมเจอกับชายหนุ่มที่ยากจะจัดการหนึ่งคน”
เหยหู่ขมวดคิ้ว มองเศษซากใบไม้ตามตัวของไอ้ผอม
รู้ว่าร่างกายของไอ้ผอมไม่ได้แย่เลย คนธรรมดาแทบจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลยด้วยซ้ำ ต่อให้เป็นปรมาจารย์ด้านศิลปะการต่อสู้อะไรเหล่านั้นก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเช่นกัน แต่ตอนนี้เขากลับถูกคนเล่นงานจนสภาพเป็นแบบนี้
เหยหู่เดาว่ากลุ่มคนที่ทำร้ายไอ้ผอมนั่นจะต้องมีคนจำนวนมากแน่ๆ มองไอ้ผอมด้วยความไม่เข้าใจ
“เกิดอะไรขึ้น พวกมันมีกันกี่คน ตอนนี้อยู่ที่ไหน”
เหยหู่ถามขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่กลับเห็นไอ้ผอมยกนิ้วของตัวเองขึ้นมา
หนึ่ง!
เลข‘หนึ่ง’ที่ยกขึ้นมานี้ ทำให้ทุกคนต่างพากันตกใจ
“เป็นไปได้ยังไง!คนเดียว คนเดียวก็เล่นแกซะจนสภาพเป็นแบบนี้เหรอ แกหยุดล้อเล่นได้แล้ว”
ไอ้ผอมพูดความจริง ตัวเองก็ไม่เชื่อเหมือนกันว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น แต่เรื่องที่เกิดขึ้นตรงหน้าของตัวเองในตอนนี้ ก็เป็นความจริง
“ผมจะหลอกพวกคุณไปทำไม คนคนนั้นเหมือนจะมีทักษะความสามารถอยู่ ผมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลย ท่านเหยหู่ คงต้องพึ่งคุณแล้วล่ะครับ ผมคิดว่าพวกมันน่าจะปีนเขาขึ้นมาแล้ว คุณจะต้องจัดการพวกมัน ไม่อย่างนั้นผลที่ตามมาจะต้องคาดไม่ถึงแน่ๆ”
พวกเหยหู่แม้ว่าจะพลังแข็งแกร่งมากก็ตาม แต่จะพูดยังไงก็มีแค่สิบยี่สิบกว่าคน ถ้าเกิดไปสะกิดรบกวนคนนอกเข้าล่ะก็ ประมาณสามวัน เหยหู่ก็จะถูกผู้คนจำนวนมากเล่นงานจนหมดเกลี้ยงแน่ๆ
จะชักช้าไม่ได้ เหยหู่ตัดสินใจ เตรียมที่จะไปเด็ดหัวของถังเฉาตั้งแต่ตอนนี้เลย
“ไป พาฉันไปหามัน ฉันไม่เชื่อว่าไอ้หมอนั่นมันจะบ้าคลั่งเหิมเกริมขนาดนี้”
แม้ว่าเหยหู่จะตกใจ แต่เขาก็มั่นใจว่าตนเองจะเอาชนะถังเฉาได้
คนอื่นอาจจะเพราะว่าทำงานเป็น ก็เลยได้เป็นหัวหน้า แต่เหยหู่พึ่งพาสองหมัดของตัวเองล้วนๆ ในการไต่ขึ้นมาทีละก้าวๆจนมาถึงระดับนี้ได้
ในสถานการณ์ที่ปกติ แทบจะไม่มีใครเอาชนะเหยหู่ได้เลย
อย่างน้อยเหยหู่ก็คิดแบบนี้
ไอ้ผอมพอเห็นท่าทางที่ทรงพลังของเหยหู่ ในใจก็เริ่มสงบลงไปบ้างแล้ว
เรื่องแบบนี้ ไอ้ผอมไม่อยากให้ใครก็ตามรู้
จากนั้น พวกเขาก็กลับไปยังภูเขา คิดที่จะหาตัวของถังเฉาให้เจอ จากนั้นก็ฆ่าถังเฉาซะ
ยังดีที่ถังเฉายังนอนหลับไม่ลึก บวกเข้ากับคนที่มามีจำนวนมาก ไม่นานก็ทำให้ถังเฉารู้สึกได้ถึงจิตสังหาร
อาศัยจังหวะที่หลินชิงเสว่หลับลึกอยู่นั้น ถังเฉาก็เป็นฝ่ายออกโจมตีเอง
“ดูท่าพวกแกไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาสินะ”
ไม่นาน ถังเฉาก็หาตำแหน่งของพวกเขาเจออย่างแม่นยำ
พวกของเหยหู่กำลังเดินอยู่ จู่ๆก็เห็นคนคนหนึ่งมายืนอยู่ตรงหน้าของตัวเอง คนคนนี้เต็มไปด้วยรังสีอำมหิต ราวกับว่าจะมาฆ่าทุกคนที่อยู่ที่นี่
คนคนนี้ก็คือถังเฉานั่นเอง
มารบกวนการพักผ่อนของถังเฉาครั้งแล้วครั้งเล่า นี่มันไม่ใช่การตัดสินใจที่ฉลาดเลยแม้แต่น้อย หัวของถังเฉาค่อยๆเงยขึ้นมา
ในแววตาราวกับว่าจะยิงลำแสงเลเซอร์ออกมาอย่างไรอย่างนั้น คนที่เห็นตาของเขาก็อดไม่ได้ที่จะหันหน้าของตัวเองไปทางอื่น กลัวว่าจะถูกสายตาคู่นี้‘ฆ่าตาย’
ไอ้ผอมจำได้ว่าเป็นถังเฉา ก็หัวเราะออกมาเสียงดัง
“ไอ้หนู คิดไม่ถึงว่าพวกเรายังไม่ได้ไปหาแก แกก็มาหาที่ตายด้วยตัวเองที่นี่ซะแล้ว ในเมื่อแกอยากตายขนาดนี้ พวกเราก็จะทำให้สมใจแกเอง”
“แกเอาชนะฉันได้ ถือว่าสุดยอดจริงๆ แต่แกนึกว่าเป็นแบบนี้แล้วฉันจะทำอะไรแกไม่ได้อย่างนั้นเหรอ? ฉันบอกแล้ว ว่าคนของหว่างเหลี่ยงของพวกเราฆ่าคนไม่มีลังเลและชัดเจน ครั้งนี้ แกตายแน่”
ถังเฉาสบถหึออกมาอย่างเย้ยหยัน ไม่ได้พูดอะไร รอเหยหู่ลงมืออย่างเงียบๆ
เหยหู่ก็มีความทะเยอทะยานอันแรงกล้า เดินออกมาจากข้างหลังของกลุ่มคน
“มาสิ พวกเรามาตัวต่อตัว อย่าหาว่าฉันรังแกแกเลย ถึงตอนนั้นถ้าพูดออกมาจะฟังดูไม่ดีเอา”
เหยหู่จะคิดแบบนี้ได้ยังไง เขาก็แค่อยากจะเสแสร้งแกล้งทำ ให้ทุกคนรู้ว่าตนเองสามารถสู้ได้เท่านั้น
แต่สิ่งที่ทำให้คนรับไม่ได้ก็คือ เหยหู่เพิ่งจะเดินเข้าก็ไม่รู้ว่าถูกอะไรโจมตีเข้าอย่างจัง จมูกยุบเข้าไปข้างในราวกับขนมสายไหม
อ๊าก!
เสียงร้องคำรามดังกึกก้องไปทั่วหุบเขา
ยังดีที่ไม่ได้ทำให้หลินชิงเสว่ตื่นขึ้นมา ไม่อย่างนั้นทุกคนที่อยู่ตรงนี้อาจจะถูกถังเฉาฆ่าตายภายในชั่วพริบตาไปแล้วแน่ๆ
“ฉันเคยให้โอกาสพวกแกแล้ว ฉันก็ไม่อยากจะฆ่าพวกแกเหมือนกัน พวกแกต้องรีบไสหัวไปซะ ไม่อย่างนั้นล่ะก็ ฉันจะฆ่าพวกแกให้หมดทุกคน”
พอได้ฟังแบบนั้น เหยหู่ก็รู้แล้วว่าเป็นฝีมือของใคร
เมื่อตะกี้ เขาแค่เห็นถังเฉาขยับกระตุกเล็กน้อย จากนั้นจมูกของตัวเองก็กลายเป็นสภาพแบบนี้แล้ว ดังนั้น เหยหู่จึงเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมาไม่น้อยแล้ว