เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 928 เผชิญหน้ากับศัตรู
ทันใดนั้น คนที่เป็นหัวหน้าก็รับโทรศัพท์
“ท่านหงเหลียน เหยหู่เองครับ ได้โปรดลั่นวาจาเลยครับ”
พวกคนสองสามคนที่กำลังพูดคุยเจ๊าะแจ๊ะกันเมื่อตะกี้ก็เงียบลงทันที จ้องมองคนที่เป็นหัวหน้าคนนั้นคุยโทรศัพท์ ดูเหมือนว่าสีหน้าตื่นตระหนกไม่น้อย
เพิ่งจะพูดจบ ก็มีเสียงที่แข็งแกร่งทรงพลังมากๆดังเข้ามาในสาย
“พวกแกไปจัดการเอาเขตภูเขานั้นมาให้ฉันซะ ไม่อย่างนั้นล่ะก็ พวกแกก็ไม่ต้องกลับมา!”
หูของเหยหู่แทบจะสะเทือนจนแตกกระจาย รีบดึงโทรศัพท์ออกห่างจากหูทันที
จากนั้นก็มีเสียง‘ตู๊ด’ดังขึ้นมาหนึ่งที ทางฝั่งนั้นไม่มีเสียงแล้ว
“พวกนายก็ได้ยินแล้วใช่ไหม เห้อ พวกเราไปทำงานให้เสร็จเถอะ”
มีชายตัวผอมคนหนึ่งลุกขึ้นยืน
“คนอื่นไม่ได้มีเรื่องเยอะแยะมากมายขนาดนั้น มีแต่ท่านหงเหลียนนี่แหละเรื่องเยอะสุดแล้ว ก็แค่จัดการกับภูเขาลูกหนึ่งไม่ใช่หรือไง จะใช้เวลาเท่าไรกันเชียว ยังโทรศัพท์มาด่าพวกเราอีก หมดคำพูดจริงๆ”
“นั่นน่ะสิ เขตภูเขาที่กันดารห่างไกล คิดว่าพวกเราจะจัดการไม่ได้หรือไง?”
จริงๆแล้ว ที่แห่งนี้เป็นที่ซ่อนเร้นแล้วก็ล้าหลังสุดๆ แต่อยู่ใกล้กับเขตตัวเมืองของเยี่ยนตูมากๆ
เพราะว่าไวโอเล็ตกลับไปหาหว่างเหลี่ยง เป็นไปตามที่องค์กรคาดเอาไว้ คาดการณ์ไม่ถึงเลยว่า สุดท้ายจะให้ไวโอเล็ตเป็นผู้บริหารสูงสุดห้าดาว อย่างที่มันควรจะเป็น ส่วนตำแหน่งที่หงเหลียนมาทดแทน ก็เอาคืนให้กับไวโอเล็ตไป
แต่หงเหลียนไม่มีทางยอมให้จบไปแบบนี้แน่นอน ถึงยังไงพี่สาวของไวโอเล็ต โซเฟียก็เกือบจะฆ่าตนเองตาย บวกเข้ากับหงเหลียนไม่ชอบไวโอเล็ตเป็นทุนเดิมอยู่แล้วด้วย ก็เลยต้องลงมือทำการอะไรบางอย่างสักหน่อย
ก็เหมือนกับในครั้งนี้ พวกกลุ่มที่มีเหยหู่เป็นหัวหน้าก็ถูกส่งตัวมาที่นี่เพราะว่าความทะเยอะทะยานของหงเหลียน คิดที่จะใช้ที่นี่เป็นฐานทัพเล็กๆ เพื่อที่จะได้ออกมา‘ช่วงชิงคน’ในเวลาที่เหมาะสมนั่นเอง
ภายในภูเขาหม่าหลันแห่งนี้ มีพวกชาวบ้านที่ไม่เคยออกไปข้างนอกเลยตลอดทั้งชีวิตนี้อาศัยอยู่มากมาย ดังนั้นหงเหลียนจึงเลือกพวกเขา คิดที่จะให้พวกเขาตายไปอย่างเงียบๆในช่วงกระแสยุคสารสนเทศ
ในขณะเดียวกัน อีกทางด้านหนึ่ง ถังเฉาพาหลินชิงเสว่มาถึงยังเขาลูกนี้เรียบร้อยแล้ว
แล้วชื่อของเขาลูกนี้ก็มีชื่อว่า ภูเขาหม่าหลัน
“เขาลูกนี้เป็นที่รู้จักไปทั่ว แต่เพราะว่ามันอยู่ไกลและกันดารเกินไป จึงมีคนมาน้อย วันนี้พวกเราก็มาใช้ชีวิตกันแค่เราสองที่นี่ก็แล้วกัน”
ถังเฉามองหลินชิงเสว่ สีหน้าของหลินชิงเสว่ก็แดงผ่าวราวกับแท่งเหล็กที่อุณหภูมิสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
“ได้ แล้วแต่คุณเลย”
ทั้งสองคนเริ่มออกเดินทาง พร้อมกับพกพาพวกอุปกรณ์แล้วก็พวกของใช้ในชีวิตประจำวันไปด้วย
สิ่งที่ทำให้พวกเขาคิดไม่ถึงก็คือ เขาลูกที่ไม่มีใครมาเลยลูกนี้ จะยังมีคนร่วมทางมาด้วย
“เกิดอะไรขึ้นกัน ผมยังนึกว่าเขาลูกนี้จะไม่มีคนมาแล้วเสียอีก”
ถังเฉาก็คิดไม่ถึงว่าจะมีคนมาเหมือนกัน แสดงท่าทีประหลาดใจไม่น้อย
ในฐานะที่เป็นหัวหน้าของกองทัพปราณมังกร ความระแวดระวังจึงสูงกว่าปกติอยู่แล้ว แต่ก็ทำให้หลินชิงเสว่ที่อยู่ข้างๆไม่ได้ระแวดระวังเท่า
“บางทีพวกเขาอาจจะมาปีนเขาเหมือนกับพวกเราก็ได้ นี่มันไม่มีอะไรหรอก ถังเฉา คุณกำลังกังวลอะไรอยู่?”
หลังจากที่ถังเฉาได้ฟังคำพูดของหลินชิงเสว่แล้ว ก็พยักหน้ายิ้มๆ
“นั่นน่ะสิ นี่มันก็คือภูเขานี่นา มีคนมาปีนก็เป็นเรื่องปกติ”
จากนั้น ทั้งสองคนก็ไม่คิดอะไรมากมายอีก
ที่เหยหู่น่าจะรู้สึกโชคดีก็คือถังเฉาไม่ได้เลือกเส้นทางเดียวกับพวกเขา
เพราะว่าถังเฉาอยากที่จะเพลิดเพลินไปตลอดระหว่างทาง ไม่อยากจะให้มันจบเร็วๆ ก็เลยไม่ได้เลือกเดินทางที่ใกล้
แต่กลุ่มอีกทางด้านหนึ่งไม่เหมือนกัน เหยหู่พาพวกลูกน้องมา แทบอยากจะไปถึงที่หมู่บ้านให้เร็วที่สุด จากนั้นก็จัดการพวกคนในหมู่บ้านซะ
“เห็นไอ้หนุ่มสาวเมื่อตะกี้ไหมวะ?”
ชายซูบผอมคนนั้นลุกขึ้นมาอีกครั้ง พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่หยาบคายสุดๆ
หลังจากที่เหยหู่ตอบสนองกลับมา มองเขา
“ไอ้ผอม คิดไม่ถึงว่าออกมาปฏิบัติภารกิจแกก็ยังจะหื่นขนาดนี้อยู่อีกนะ แล้วแต่แกเลย ขอแค่แกไม่สร้างเรื่องก็พอแล้ว จำไว้ว่านี่เป็นภารกิจที่ท่านหงเหลียนกำชับว่าให้พวกเราทำให้สำเร็จ ถ้าไม่สำเร็จ พวกเราจบเห่แน่นอน”
ไอ้ผอมขมวดคิ้ว หนึ่งข้าง อีกข้างยกคิ้ว พูดขึ้นอย่างมั่นอกมั่นใจ
“คุณวางใจเถอะ พี่เหยหู่ ผู้ชายคนนั้น ผมต่อยตายแค่ในหมัดเดียวได้เลย คุณยังจะกลัวอะไรอีก?”
พอได้ฟังแบบนั้น ไอ้ผอมก็อยากที่จะถอนรากถอนโคนให้สิ้นซาก เพื่อตัดปัญหาไปซะ
เหยหู่ขี้เกียจที่จะสนใจเรื่องพวกนี้ การฆ่าคนสำหรับพวกเขาแล้ว ก็ง่ายดายเหมือนกับดื่มน้ำ แถมไม่มีภาระภายในจิตใจใดๆเลยด้วย
“เอาล่ะ นายเองก็ระวังหน่อยก็พอแล้ว ถ้าไม่มีความจำเป็นอะไรก็ไม่ต้องไว้ชีวิตพวกมันทั้งสองคน”
ไอ้ผอมก็ปลีกแยกออกไปจากกลุ่ม
ส่วนเหยหู่ก็พาคนไปยังหมู่บ้าน
ระหว่างทาง ถังเฉากำลังพาหลินชิงเสว่ปีนเขา
หลินชิงเสว่หายใจหอบแฮ่กๆ เหงื่อไหลจากหน้าผากลงมายังคาง หยดจากคางลงบนส่วนที่นูนออกมาของร่างกายตัวเอง พลางหายใจออกมาเป็นลมร้อน
“ไม่ไหวแล้ว ถังเฉา ฉันต้องพักสักหน่อย ไม่อย่างนั้นล่ะก็ฉันจะต้องทรุดลงแน่ๆ”
ถังเฉาหัวเราะออกมาเสียงดัง
ระยะทางแค่นี้ ถังเฉาไม่รู้สึกเหนื่อยเลยแม่แต่นิดเดียว กลับยิ่งรู้สึกเหมือนกำลังได้พักผ่อนด้วยซ้ำ
ตอนที่อยู่ในกองกำลัง ถังเฉาวิ่งอยู่ตลอดเวลา ต่อให้เป็นตอนที่กำลังทำภารกิจอยู่ก็ตาม จำนวนภารกิจที่ต้องปฏิบัติมากมาย มันน่ากลัวยิ่งกว่าการปีนเขาเสียอีก
“ได้ ในเมื่อคุณภรรยาบอกว่าพัก พวกเราก็พักแล้วกัน”
ถังเฉาหยิบน้ำออกมาจากกระเป๋าเป้ข้างหลัง แถมใช้ผ้าขนหนูช่วยเช็ดเหงื่อให้กับหลินชิงเสว่ทีละนิดๆด้วย
ถังเฉาเช็ดเหงื่อที่ไหลออกมาทุกจุดทุกมุม
สิ่งนี้มันยิ่งทำให้ไอ้ผอมที่แอบมองอยู่บนต้นไม้รู้สึกหื่นกามสุดๆ
“ให้ตายสิ เรือนร่างนี้ หน้าตาแบบนี้ ทนไม่ไหวแล้วจริงๆ แต่ที่ชวนขัดใจก็คือถูกไอ้หมอนั่นสัมผัสไปแล้ว”
“ช่างเถอะๆ ถึงยังไงอีกเดี๋ยวก็ตายแล้ว ไม่ยุ่งอะไรมากมายแล้ว”
ไอ้ผอมพูดพึมพำกับตัวเองบนต้นไม้ นึกว่าตัวเองหลบซ่อนอย่างมิดชิดแล้ว แต่ไม่รู้เลยสักนิดว่าถูกถังเฉารู้ทั้งหมดแล้ว
เขาสายตาเยือกเย็น“คิดว่าฉันไม่สังเกตเห็นอย่างนั้นเหรอ? ก็แค่ไม่อยากให้ภรรยาของฉันตกใจก็เท่านั้น”
หลังจากที่ถังเฉาพูดอยู่ในใจ ก็ไม่ได้สนใจไอ้ผอมที่อยู่บนต้นไม้
ในหมู่บ้าน เหยหู่พาคนมาถึงยังสถานีแรกเรียบร้อยแล้ว
จริงๆแล้วในหมู่บ้านก็ไม่ได้มีสถานีอะไร ก็แค่มีคนหกลุ่มหนึ่งที่มาช่วยดูตรวจลาดตระเวนหมู่บ้านเท่านั้น
ตอนที่เห็นเหยหู่ พวกเขาก็ยังรู้สึกตกใจไม่น้อย
“แปลกจริงๆ ไม่คิดว่าจะมีคนมาที่หมู่บ้านภูเขาหม่าหลันของพวกเรา ทุกคนรีบไปรับแขกเร็วเข้า”
เพราะว่าปลีกวิเวกออกจากสังคมมาเป็นเวลานาน ดังนั้นคนที่นี่พอเห็นว่ามีคนนอกมาก็เลยรู้สึกกระตือรือร้นเป็นพิเศษ แม้แต่เหยหู่ที่หน้าตาดุร้าย ในสายตาของพวกเขาแล้ว ก็ยังคงเป็นแขกที่น่าเคารพนับถือ
“ทุกท่าน ยินดีต้อนรับเข้าสู่หมู่บ้านภูเขาหม่าหลันของพวกเราครับ เป็นยังไงบ้าง มากันกี่คนเหรอครับ อยากจะอยู่เที่ยวเล่นนานเท่าไร!”
พอเห็นชาวบ้านคนนี้กระตือรือร้นขนาดนี้ เหยหู่ก็หัวเราะออกมา จากนั้นคนที่อยู่ข้างหลังก็หัวเราะตาม
“ไม่คิดว่าพวกแกจะดีใจกันขนาดนี้”