เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 921 ขวางทาง
พอพระอริยมารดรที่สามได้ยินเสียงของเย่หรูอี้ ก็หันไปมองด้วยสีหน้าอารมณ์ที่ไม่เข้าใจ
วันนี้มีเรื่องที่ทำให้พระอริยมารดรที่สามยากที่เชื่อเกิดขึ้นมาถึงสองครั้งสองครา
อันดับแรกคือเจียงสือเหนียนปฏิเสธตนเองครั้งแล้วครั้งเล่า ต่อมาก็ไม่คิดว่าจะมีคนมาขัดขวางตนเองบนถนนอีก แถมยังมีท่าทีที่อันตรายดุร้ายด้วย
เย่หรูอี้ค่อยๆเดินลงมาจากรถ ถอดแว่นตาออก
หน้าของพระอริยมารดรที่สามบิดเบี้ยวทันที มองพวกลูกน้องที่อยู่ข้างๆ
“ขออภัยครับพระอริยมารดรที่สาม ที่ผมจัดการไม่ดี เดี๋ยวผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้แหละครับ”
จากนั้น ก็มีลูกน้องหนึ่งคนรีบพุ่งเข้ามาอยู่ข้างๆเย่หรูอี้ทันที
“ใครกัน ถึงได้กล้ามาขวางทางพระอริยมารดรที่สามของพวกเรา หรือว่าไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วอย่างนั้นเหรอ ตอนนี้พระอริยมารดรที่สามของพวกเรามีเรื่องด่วน พวกเราก็ขี้เกียจที่จะมาทะเลาะวิวาทอะไรกับแกเหมือนกัน รีบขับรถออกไปซะ ไม่อย่างนั้นจะฆ่าแกให้ตายไม่เหลือซากเลย”
แม้ว่าน้ำเสียงของชายกำยำคนนี้จะดุร้ายอันตราย แต่พอเห็นเย่หรูอี้ที่อยู่ตรงหน้า จริงๆแล้วก็มีความอะลุ่มอล่วยอยู่ไม่มากก็น้อยเหมือนกัน ถ้าเกิดเป็นปกติทั่วไป ตนเองก็แทบอยากจะเข้าไปชวนคุยตีสนิทกับเย่หรูอี้ทันที
แต่ตอนนี้กำลังทำหน้าที่อยู่ คนคนนี้ไม่กล้าพูดอะไรมากมาย
แต่เย่หรูอี้ไม่ได้สนใจ ไม่คิดว่าจะเดินตรงไปยังพระอริยมารดรที่สามตรงๆ ลูกน้องตกใจทำอะไรไม่ถูกกับการกระทำนี้ รีบสับเท้าวิ่งพุ่งไปตรงหน้าของเย่หรูอี้อย่างรวดเร็ว
“ช่างไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยจริงๆ ดูท่าพูดดีๆไม่ฟังคงต้องใช้กำลังบังคับแล้วสินะ!”
เย่หรูอี้สายตาดุร้าย จ้องผู้ชายตรงหน้าตาเขม็ง
“ฉันว่าแกอย่ามาแตะต้องฉันจะดีกว่า ไม่อย่างนั้นแกจะต้องรับผิดชอบผลที่ตามมาแน่นอน”
แม้ว่าตนเองจะมีพระอริยมารดรที่สามคอยหนุนหลังอยู่ แต่ความกล้าหาญอันแรงกล้านี้มันกำราบชายกำยำคนนี้ในทันที
เย่หรูอี้เดินมาใกล้ๆพระอริยมารดรที่สาม
พระอริยมารดรที่สามมองผู้หญิงตรงหน้านี้อย่างหมดความอดทน ไม่คิดว่าจะมีความรู้สึกแบบเดียวกันอยู่ไม่น้อย
ถึงยังไงลักษณะท่าทางที่ทรงพลังของทั้งสองคนก็คล้ายกันมาก แต่ให้ความรู้สึกแบบเดียวกันแบบนี้กลับทำให้ไฟสงครามของทั้งสองยิ่งดุเดือดขึ้นไปอีก
“อย่าทำตัวไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย รีบไสหัวออกไปจากสายตาของฉันซะ ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่าแกซะตอนนี้เลย”
ในเวลานี้เองเจียงสือเหนียนที่อยู่ในรถก็มองออกว่าคนที่อยู่ตรงหน้าก็คือเย่หรูอี้นั่นเอง ส่งสายตาให้กับเย่หรูอี้
แน่นอนว่าเย่หรูอี้ก็มาเพื่อช่วยชีวิตของเจียงสือเหนียน จึงเข้าใจความหมายของเจียงสือเหนียนขึ้นมาทันที
“พวกแกอย่าคิดว่าจะพาคนคนนี้ไปได้ เขาเป็นเพื่อนของฉัน”
พระอริยมารดรที่สามขมวดคิ้ว ยิ้มด้วยรอยยิ้มที่ไม่พอใจออกมาเล็กน้อย
“วันนี้มันเกิดอะไรขึ้นกัน คนรนหาที่ตายเยอะขนาดนี้เชียว!”
ถังเฉาที่อยู่ในสายอีกทางด้านหนึ่งในตอนนี้ว่ากันตามตรงก็กำลังปาดเหงื่ออยู่เหมือนกัน
ถ้าตนเองอยู่ข้างๆด้วยก็แล้วไป แต่ตอนนี้ถังเฉาไม่ได้อยู่ข้างกายของเย่หรูอี้แล้วก็เจียงสือเหนียนด้วย ไปเยาะเย้ยพระอริยมารดรที่สามแบบนี้ พูดกันตามตรง ถังเฉาก็ไม่สามารถรับประกันความปลอดภัยของพวกเธอได้ร้อยเปอร์เซ็นต์เหมือนกัน
ขณะที่พระอริยมารดรที่สามกำลังเตรียมที่จะทำอะไรบางอย่างจากภายในรถของตัวเองอยู่นั้น จู่ๆเย่จงซือที่อยู่อีกทางด้านหนึ่งก็มีท่าทีผิดปกติไม่น้อย ตาเต็มไปด้วยเส้นเลือด ราวกับว่าเลือดสดๆกำลังจะพุ่งทะลักออกมา!
“แม่ คนนี้ก็คือหนึ่งในคนที่มาโจมตีผม!”
คำพูดประโยคเดียว ทำลายความเงียบสงบตรงนั้น
พอถังเฉาได้ยินแล้ว แววตาก็สั่นกระตุก สัมผัสได้ถึงอันตรายทันที
หลังจากที่พระอริยมารดรที่สามได้ฟังแล้ว ก็ราวกับว่าหัวใจถูกกระตุ้น เลือดสูบฉีดขึ้นมาทันที
“ว่าไงนะ!ช่างกล้าบ้าคลั่งมาทำร้ายลูกชายของฉัน แถมยังกล้ามาขวางรถของฉันอีก ดูท่าช่วงนี้ฉันคงจะจัดการเรื่องต่างๆน้อยเกินไป ถึงทำให้พวกชั้นต่ำแบบพวกแกบ้าคลั่งเหิมเกริมขนาดนี้”
“มานี่ จัดการจับตัวของพวกมันเดี๋ยวนี้!”
เย่หรูอี้ยังไม่ทันได้ตอบสนองกลับมา ถึงยังไงกลางวันแสกๆ ก็ไม่น่าจะมีใครกล้ามาลักพาตัวคนถึงสองคนแบบนี้หรอก แน่นอนว่า ละเว้นไว้แค่หนึ่งคน คนคนนั้นก็คือ พระอริยมารดรที่สาม
เย่หรูอี้ถูกใช้กำลังบังคับให้ขึ้นรถไป มองเจียงสือเหนียนที่อยู่ข้างๆอย่างหมดหนทาง
เจียงสือเหนียนก็ทำได้แค่ถอนหายใจออกมา แสดงออกมาว่าตัวเองก็ไร้ความสามารถ ทำอะไรไม่ได้เช่นกัน
แต่ว่า อาศัยจังหวะตอนที่พวกบอดี้การ์ดไม่ทันได้ระมัดระวัง เจียงสือเหนียนแอบทำให้โทรศัพท์ของตัวเองโผล่ออกมาเล็กน้อย
ให้เย่หรูอี้ได้เห็น
ในเมื่อสามารถทำให้เจียงสือเหนียนยอมเสี่ยงอันตรายโทรศัพท์ออกไปขนาดนี้ได้ แน่นอนว่าคนที่รับสายต้องไม่ธรรมดาแน่นอน พอมองดูชื่อในสายดีๆ เย่หรูอี้ก็รู้ว่าคนในสายก็คือถังเฉานั่นเอง ในใจรู้สึกสงบมั่นคงขึ้นมาไม่น้อยอย่างช่วยไม่ได้
“หยุดเล่นใหญ่ได้แล้ว พระอริยมารดรที่สาม ฉันบอกแล้วว่าฉันจะต้องไปช่วยรักษาผู้ป่วยคนนั้นของฉันให้ได้ ฉันไม่สนว่าแกมีสถานะอะไร ให้เงินฉันเท่าไร มันล้วนแต่ไม่สำคัญทั้งสิ้น”
จนถึงตอนนี้ จุดยืนของเจียงสือเหนียนยังคงชัดเจน เพราะว่าเขามั่นใจ ว่าถ้าตนเองช่วยชีวิตของเย่จงซือแล้ว ตนเอง แล้วก็เย่หรูอี้ที่อยู่ข้างๆก็จะต้องตายโดยไร้ที่ฝังศพอยู่ดี วิธีการที่ดีที่สุดก็คือยื้อต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าถังเฉาจะมาช่วยนั่นเอง
หลังจากที่ถังเฉาเข้าใจความหมายแล้ว ก็วางสายทันที
“เกิดอะไรขึ้น ฉันมองสีหน้าของคุณดูไม่ดีเลย”
ในตอนนี้เองโซเฟียเดินเข้ามาข้างๆของถังเฉาพอดี ถังเฉาบอกเรื่องให้กับโซเฟียที่อยู่ข้างๆรับรู้
หลังจากที่โซเฟียรู้แล้ว แน่นอนว่าก็ตึงเครียดขึ้นมาไม่น้อย
ถ้าเกิดออกมายังโลกในตอนนี้โดยที่ไม่มีผู้บ้าการแพทย์ล่ะก็ ชิปที่อยู่ที่ตัวของแองเจล่าก็อาจจะไม่มีใครสามารถเอาออกมาได้แล้วจริงๆ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเจียงสือเหนียนจริงๆ ไวโอเล็ตจะต้องตายแบบไม่ต้องสงสัยแน่นอน
โซเฟียที่ใจเย็นนิ่งสงบมาโดยตลอด ตอนที่รู้ว่าอาจจะเกิดอะไรขึ้นกับน้องสาวของตัวเองก็เริ่มแสดงความรู้สึกออกมาทางสีหน้าทันที
“ตอนนี้พวกมันอยู่ที่ไหน ฉันจะรีบพาคนไปทำลายที่ซ่อนของพวกมันให้สิ้นซากเดี๋ยวนี้แหละ”
แต่มันง่ายขนาดนั้นที่ไหนกันล่ะ ถ้าเป็นคนที่ตำแหน่งสูงส่ง จะต้องมีคนมากมายคิดที่จะลอบทำร้ายแน่นอน ตำแหน่งของพระอริยมารดรที่สาม แน่นอนว่าก็มีคนจำนวนมากมายคอยปกป้องคุ้มกันอยู่แล้ว ไม่มีทางที่จะถูกหาตัวเจอง่ายๆหรอก
หลังจากที่ถังเฉาแจ้งให้โซเฟียรู้แล้ว หูของโซเฟียก็เหมือนกับถูกลมโถมกระหน่ำพัดผ่านเข้าไป มีเสียง‘หวึ่งๆ’ดังขึ้นมาในหัวเต็มไปหมด
“ถ้าอย่างนั้นทำยังไง ถังเฉา ไม่ว่าคุณจะช่วยน้องสาวของฉันหรือไม่นั้น ฉันรู้ว่าวิธีการของคุณเยอะที่สุดแล้ว คุณไม่ช่วยเธอล่ะก็……”
พอพูดถึงตรงนี้ โซเฟียก็พูดไม่ออกแล้ว อารมณ์ที่หดหู่ทำให้เธออัดอั้นกดดัน
ท่าทางของถังเฉา เหมือนกับไม่ตื่นตกใจเลยสักนิด กลับพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่นิ่งเฉยด้วยซ้ำ
“ไม่ต้องกังวล ผมไม่มีทางให้แองเจล่าได้รับบาดเจ็บแน่นอน ถึงยังไงตัวของเธอก็อยู่ในแผนการของผม”
พูดพลาง ถังเฉาก็หยิบมือถือขึ้นมา โทรออกไป
ในตอนนี้เฟิ่งหวงกำลังออกไปปฏิบัติภารกิจ แต่หลังจากที่ได้เห็นโทรศัพท์จากถังเฉาแล้ว ก็กดรับสายอย่างไม่ลังเลเลยสักนิด
หลังจากที่ได้ทราบข่าวแล้ว เฟิ่งหวงก็รีบตอบรับทันที
เรื่องแบบนี้สำหรับเฟิ่งหวงแล้ว เรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่ง่ายดายมากๆ ถึงยังไงตอนที่อยู่ที่หว่างเหลี่ยง ความสามารถของเฟิ่งหวงไม่ธรรมดาเลย
ไม่นาน ก็ถูกเฟิ่งหวงหาตำแหน่งจนเจอ ส่วนถังเฉาแล้วก็โซเฟียก็ขับรถข้างล่างตึกโรงพยาบาลมุ่งตรงไปยังตำแหน่งของเป้าหมายทันที
ในขณะนี้เอง ทั้งสองคนก็ถูกส่งตัวมาที่เขตคฤหาสน์เรียบร้อยแล้ว ถูกทรมานอย่างไร้มนุษยธรรม
ชื่อของพระอริยมารดรที่สามฟังดูดี แต่พอเห็นแล้วกลับเกิดความรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา
เสียงร้องโอดโอยที่แสนเจ็บปวดทรมานดังออกมา