เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 825 หล่อนมาเพื่อแก้แค้น
“……”
เย่จงซือพูดคำพูดนี้จบ บรรยากาศในห้องตึงเครียดลงทันที
ดวงตาของเย่หรูอี้หนาวเยือก จ้องเขม็งที่เย่จงซือ
สีหน้าเย่เทียนหลงเปลี่ยนไปอย่างรุนแรง สายตาที่มองเขานำส่งไปด้วยใจฆ่า
เศษเดนชั้นสอง
สี่คำนี้มันหมายถึงอะไร?
ไอ้เศษเดนชั้นที่สอง!
มันเท่ากับจับเย่หรูอี้กับเย่เทียนหลงมาด่ารวมกันเลย
เย่หรูอี้เป็นลูกของหญิงรับใช้คนหนึ่งที่เกิดจากพ่อของเย่จงซือ ในสายตาของพี่น้องคนในตระกูลเย่ ก็คือเชื้อสายเศษเดน
หลังจากถูบีบบังคับต้องระเห็จหนีออกไป แม่หล่อนได้พาเขาไปถึงที่หมิงจู พบกับจ้าวลิ่ว โชคร้ายซ้ำเติม คลอดเอาเย่เทียนหลงออกมา
นี้เป็นเศษเดนที่เลวร้ายกว่าเศษเดนขั้นพื้นฐานอีก
เย่หรูอี้เองอย่างน้อยยังมีสายเลือดของตระกูลหลวงตระกูลเย่อยู่ครึ่งหนึ่ง เย่เทียนหลงนั้นเป็นสายเลือดหญิงรับใช้กับกุ๊ยข้างถนน—ตระกูลเย่จะยอมรับคนระดับชั้นต่ำนี้ได้ยังไง?
กับเย่หรูอี้ เย่จงซือยังมีความกริ่งเกรงอยู่บ้างสักสามส่วน แต่กับเย่เทียนหลง เย่จงซือไม่เห็นต้องมีการไว้หน้าด่าแดกดันใส่เต็ม ๆ
แต่ทว่า สิ่งที่ทำให้เขาต้องตกตะลึงอย่างหนักคือ เย่หรูอี้กลับมีความสะเทือนใจหนักไปยิ่งกว่าเย่เทียนหลง
ดวงตาทั้งคู่กร้าวเหี้ยม แววแห่งการฆ่าเต็มความรู้สึกบนใบหน้า กำหมัดเกร็งแน่น
“แกพูดอีกครั้งซิ!”
หล่อนจ้องหน้าเย่จงซือ พูดเสียงเยือก
นัยน์ตาเย่จงซือเต็มด้วยความตื่นฉงน แล้วเมื่อได้คิดถึงปูมหลังของหล่อน ก็ได้เพิ่มยิ้มกระหยิ่มขึ้นมาบนใบหน้า “หรือว่าข้าพูดผิดไป แม่ของเธอ ก็แค่เป็นสาวใช้ธรรมดา ๆ ในบ้านตระกูลเย่ แต่ดันไปมีลูกกับพ่อของข้าแล้วคลอดเธอออกมา ออกไปจากบ้านตระกูลของข้าแล้ว ก็ไปถูกกุ๊ยข้างถนนเล่นซะ มันช่างเป็นเรื่องขายหน้าของตระกูลเย่ของพวกข้าโดยแท้!”
“หุบปาก!”
พูดมาถึงนี่ เย่หรูอี้แผดเสียงร้องออกมา จิตอารมณ์ระเบิดสุด ความแค้นที่หาใดเปรียบไม่ได้เต็มในดวงตา
หมิ่นประมาทตัวหล่อนเองพอว่า แต่อย่าไปว่าดูหมิ่นถึงแม่
ตอนสมัยเย่เทียนหลงยังเด็ก ไม่เคยรู้ว่าวันเวลาจะผ่านไปได้อย่างไร
เพื่อดูแลพวกเขา คุณแม่ไม่เคยมีว่างพักตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง จนมาภายหลัง ต้องขโมย ต้องไปแย่งชิง
ในเวลานั้น เย่หรูอี้มองเห็นกับตาที่คุณแม่วิ่งเข้าไปในร้านขนมเค้ก แย่งชิงเอาขนมเค้กออกมากล่องหนึ่ง เพียงเพราะตัวหล่อนเองเดินผ่านแล้วมองจ้องหลายครั้งไปหน่อย
หลังจากนั้น คุณแม่ถูกระดมตีจนบาดเจ็บทั้งตัว โดยที่ขนมเค้กนั้นก็ตกลงไปในคูน้ำเสียที่เหม็นเน่า
หล่อนจะไม่ยอมเด็ดขาด………ถ้าใครมาด่าว่าแม่ของหล่อน!
โดยเฉพาะ คู่แค้นของหล่อน
ถังหลินถึงกับสะดุ้ง ยืนทำตัวไม่ถูกอยู่ข้าง ๆ
เย่จงซือถลันเข้ามาถึงข้างหน้าเย่หรูอี้ รอยยิ้มบนใบหน้าค่อย ๆ หายไป ทันใดนั้นเอง ฝ่ามือตบลงบนใบหน้าหล่อนอย่างเหี้ยมโหด
ผัวะ
โดยไม่ทันได้ระวังตัว เย่หรูอี้โดนฝ่ามือตบล้มคว่ำลงบนเตียง เลือดกลบริมมุมปาก
“พี่สาว!”
เย่เทียนหลงสีหน้าเปลี่ยนรุนแรง รีบประคองเย่หรูอี้ขึ้นมา
เย่หรูอี้ปาดคราบเลือดที่มุมปาก ไม่ออกอาการสะทกสะท้าน กลับยังคงจ้องหน้าเย่จงซือด้วยสายตาเคียดแค้นต่อ
ถ้าหากแววตาสามารถเชือดฆ่าคนได้ เย่จงซือคงต้องตายไปแล้วนับร้อยครั้ง
เสียดาย มันเป็นไปไม่ได้
มองสวนสายตาเย่หรูอี้ไป เย่จงซือก็ไม่ออกอาการโกรธ กลับแค่นหัวเราะว่า “รู้ไหม ความอ่อนแอที่สุด ความไร้ความสามารถที่สุด ก็คือการใช้สายตาเหี้ยม ๆ แบบที่เธอจ้องทำกับข้าอยู่นี้—-จะใช้อะไรได้หรือ?”
“เชื้อสายเถื่อนก็คือเชื้อสายเถื่อน ต่อให้จะปั้นแต่งตัวเองให้ดูสง่าสูงค่ายังไง ส่วนลึกเข้าในกระดูกดำก็ยังคงไหลอยู่ด้วยเลือดเถื่อน—-พวกเธอทั้งแม่ลูก มันยังไงก็พวกเศษเดน!”
“แล้วยังคิดจะกลับมายึดอำนาจเป็นใหญ่ในตระกูลเย่ จ้องจะมาแก้แค้นเอากับข้าเรอะ?ขอโทษเถอะ ต่อให้แกไปพยายามอีกสัก 50 ปี ก็ไม่มีทางจะทำได้”
เย่จงซือกวาดตามองเย่หรูอี้แวบหนึ่งด้วยแววสมเพช กลับมามองถังหลิน พูดเสียงไม่มีน้ำว่า “แกวางใจได้ ต่อไปเพียงถ้าข้าอยู่ หล่อนจะไม่กล้ามาขึ้นเสียงกับแก—-ผู้หญิงต้องอยู่ในกรอบสามจรรยาสี่คุณสมบัติ ถ้าหล่อนกล้าฝ่าฝืนแม้ข้อเดียว ก็ให้ใช้วิธีสั่งสอนหมาในบ้านพวกแกจัดการก็พอแล้ว หล่อนจะไม่มีทางกล้าตอบโต้”
“เพราะลึกเข้าไปในกระดูกดำนั้น มันเป็นเลือดสายพันธ์เศษเดนคนนั้น”
คำพูดเหล่านี้ เหมือนเข็มแหลมทิ่มแทงใจเย่หรูอี้
หล่อนในขณะนี้ เหมือนถูกเย่จงซือจับแก้ผ้าออกหมด ยืนโชว์เปลือยอยู่ต่อหน้าเขา
น้ำตาเจ้ากรรมไหลออกมา เย่หรูอี้ขบกัดฟันลุกยืนขึ้น เตรียมพุ่งใส่เย่จงซือ
แต่ถูกเย่เทียนหลงคว้ากอดเอาไว้ เขาก็จ้องเขม็งใส่เย่จงซือ ปากก็ปลอบเตือนว่า “พี่สาว ใจเย็น อย่าถูกมันกระตุ้นให้โกรธบ้า”
เย่หรูอี้ดิ้นรนเล็กน้อย ในที่สุดก็สงบใจลง ทรุดนั่งลงบนเตียง สายตาที่คั่งแค้นทั้งคู่จ้องมองเย่จงซือ “พวกแกทั้งพ่อลูก จะต้องตกลงอยู่ในนรก”
หล่อนนั่งหอบฮึดฮัด คราบน้ำตาบนหน้ายังไม่แห้งหมด หว่างคิ้วกับนัยน์ตาคงความคับแค้น แต่คิดไม่ออกว่าจะทำอะไรกับเย่จงซือได้
นี่คือตัวจริงของหล่อน
ความชาเข้มเยือกเย็นที่ผ่านมา และพฤติการณ์ที่ใครเพียงได้ยินก็ยังเสียวสะท้านขวัญหาย นั้นมันเป็นเพียงแค่เปลือกหุ้ม—-ในธาตุแท้แล้ว หล่อนก็คงเพียงเพื่อเอาตัวอยู่รอด ทำทุกอย่างได้อย่างไม่เลือก
มันเป็นเพราะเย่จงซือพ่อลูก ที่ทำให้หล่อนต้องเป็นแบบนี้
ถังหลินที่มองดูอยู่ข้าง ๆ ยืนทื่ออยู่นาน เริ่มปรากฏเห็นสีหน้าของความดีใจ
เขารู้แล้วว่า คนที่จิตใจโหดเหี้ยม วางตัวเหยียบอยู่สูงเหนือคนอื่น เย่หรูอี้คนนั้นได้ตายไปแล้ว หล่อนคนปัจจุบัน เป็นเพียงผู้หญิงน่าสงสารที่ไม่มีที่ยืนพักพิงใด ๆ
“เมื่อตะกี้นี้ พวกแกกำลังคิดเตรียมแผนหนีงานแต่งงานใช่ไหม?”
จู่ ๆ เย่จงซือก็ถามขึ้นมา สายตาชาชืด
เย่เทียนหลงผวาขึ้นมาพลัน เย่หรูอี้ยังคงจ้องเขาอย่างเคียดแค้น
ตั้งแต่เย่จงซือเดินเข้ามาในพริบตานั้น หล่อนก็รู้แล้วว่าแผนทั้งหมดล่มสลาย
และที่สุด เขายังจับได้ในอุบายของตัวเอง แผนการที่วางไว้มาหลายปี ก็เพื่อกลับเข้าไปอยู่ในตระกูลเย่เพื่อทำการแก้แค้น แต่แล้วทุกอย่างกลายเป็นศูนย์
หล่อนเสียดาย หล่อนคับแค้น หล่อนอยากกรีดร้องตะโกนใส่ฟ้า
หล่อนรู้สึกผิดต่อคุณแม่ที่ตายไป
“หนูขอโทษ คุณแม่ เพราะลูกไม่ดีเอง…..ลูกแก้แค้นให้แม่ไม่ได้……”
เย่หรูอี้พึมพำเบา ๆ กับตัวเองตาแดงก่ำ น้ำตาร้อนผ่าวร่วงพรู
“หนีงานแต่ง?”
ใจถังหลินสะดุ้งวาบ มองหน้าเย่หรูอี้อย่างไม่อยากเชื่อ สีหน้าเปลี่ยนดูอึมครึม
มิน่าเล่า ในห้องถึงได้โผล่มีน้องชายของหล่อนเข้ามา ที่แท้พวกเขาไม่ได้มาคุยสันทนาการกัน แต่กำลังวางแผนหนีจากงานแต่ง
“นังแพศยา…….กล้าคิดทรยศข้า…….”
พลัน ถังหลินออกอาการโหดร้าย หันกลับไปที่เย่จงซือ “พี่เย่ โชคดีที่ท่านมา ไม่งั้นผมคงต้องกลายเป็นตัวตลกในเมืองซื่อจิ่วไปแล้ว”
“ไม่เป็นไร”
เย่จงซือพูดยิ้ม ๆ ว่า “แต่ไอ้ที่คนเป็นว่าที่เมียนี่ไม่ซื่อ มันคงต้องสั่งสอนให้ดี ๆ สักหน่อยไหม?”
ถังหลินมองหน้าเย่หรูอี้ด้วยความเสียดายหน้าสวย ๆ นั้น กลืนน้ำลายลงคอแล้วพูดว่า “จริงนะ จะได้ไหม?”
“แน่นอน”
เย่จงซือหัวร่อเหอ ๆ พูดว่า “หล่อนเป็นเมียคุณ ไม่ว่าคุณจะตีหล่อน จะด่าหล่อน หล่อนจะไม่กล้าขัดคุณแน่”
“ดีจัง……..”
สีหน้าถังหลินออกอาการดุร้ายขึ้นมาทันที เสียงดังคว้าบหนึ่ง ได้กระชากเอาเข็มขัดที่คาดอยู่ออกมา เตรียมฟาดใส่ลงไป
รู้จักกับเย่หรูอี้มาก็หลายปี ก็เพิ่งจะมีมาครั้งนี้ที่เขาได้ใจกล้าที่จะสั่งสอนเย่หรูอี้อย่างสาแก่ใจ
“แกกล้าหรือ!”
เย่เทียนหลงยืนขวางหน้าเย่หรูอี้ พูดเสียงเครียด
“มึงแม่งออกไปไกล ๆ กูเลย”
ถังหลินโกรธอย่างรุนแรง ฟาดฝ่ามือตบเข้าไป แต่กลับถูกมือที่มีอยู่ข้างเดียวของเย่เทียนหลงคว้าจับไว้
ติดตามด้วยเสียงแผดร้องด้วยความเจ็บปวดดังลั่นห้อง
“โอ๊ย….ปล่อย เจ็บ!เจ็บ!”
แววตาเย่จงซือวูบลง “ไอ้เศษเดนชั้นสอง กล้าลงมือด้วยเรอะ?”
ติดตามคำพูดที่ขาดลง ข้างหลังของเขาก็ปรากฏเงาคนร่างใหญ่สิบกว่าคน
นักบู๊ระดับหัวหน้าจากศูนย์กลางสมาคมการต่อสู้สิบกว่าคนปรากฏตัว
เพียงแค่มองไปเห็นเย่เทียนหลง สิบกว่านักบู๊ขมวดคิ้วย่นกันในทันที แววตาที่มองไม่ดีเลยใส่ที่เย่จงซือ “ทำเป็นเรื่องใหญ่โตเพียงแค่ให้พวกเรามาสั่งสอนไอ้เด็กวานซืนคนนี้เองหรือ?”
เย่เทียนหลงแม้จะมีฝีมือไม่ธรรมดา แต่ให้เทียบกับพวกเขา คงห่างกันอีกไกล
เย่จงซือหัวเราะเหอ ๆพูดว่า “ไม่ใช่แน่นอน ตัวหลักยังอยู่ข้างล่าง ตอนนี้ยังรอดูก่อนว่าเขาจะขึ้นมาติดเบ็ดนี้เองไหม ส่วนไอ้นี่…….”
เย่จงซือกวาดมองอย่างหยามเหยียดไปที่เย่เทียนหลง พูดเสียงเย็นชา “พวกคุณจะฆ่าทิ้งไป ก็ไม่มีปัญหาอะไร”
“……”
สิบกว่านักบู๊นั่นหมดอารมณ์ในทันที เรียกสั่งลูกน้องเข้ามา
“ให้พวกแกจัดการนะ”
เหล่าลูกน้องก็ดูไม่ค่อยมีอารมณ์สนุกเท่าไหร่ ขณะกำลังเข้าไปเตรียมจะลงมือ ทันใดนั้นมีเสียงเย็นชาของผู้หญิงดังเข้ามาจากข้างหลัง
“เย่จงซือ แกพอได้แล้ว”
“อื๋อ?”
เย่จงซือหันมองไปอย่างไม่สบอารมณ์ เย่เซ่าเตี๋ยในชุดเพื่อนเจ้าสาวเดินนำพรรคพวกเข้ามาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ หยุดยืนกอดอกอยู่ที่มุมกำแพง
เย่จงซือหัวเราะ “แม้แต่เธอก็จะมาร่วมสนุกด้วยเหรอ?ไม่ดูเป็นเรื่องใหญ่เกินไปเลยหรือ?”
เย่เซ่าเตี๋ยยิ้มจืด ๆ “คนตระกูลถังก็มากันแล้วที่ชั้นล่าง ถ้าไปลงมือทำอะไรกับเจ้าสาวเราตอนนี้ ให้เขาเห็นแกวกันแล้วจะทำยังไง?”
“……”
เย่จงซือตกอยู่ในภวังค์ขรึมทันที ครุ่นคิดกลับไปมา ได้แต่ถอนใจ “เรื่องจะไปสั่งสอนหล่อนนั้น รอไว้เสร็จพิธีแต่งงานให้เป็นเมียของเธอก่อน ค่อยไปจัดการเถอะ จะได้สมเหตุสมผลหน่อย”
ถังหลินก็ได้แต่ผงกหัวรับไม่ปฏิเสธ
“ลงไปกันให้หมดเถอะ คืนนี้ รบกวนหัวหน้าทุกท่านช่วยคอยดูแลความสงบเรียบร้อยในงานให้ด้วยแล้วกัน”
เย่จงซือประกบมือแสดงการคารวะพูดกับสิบกว่าหัวหน้านักบู๊
“ฮึ!”
นักบู๊ระดับหัวหน้าทั้งสิบกว่าคนส่งเสียงฮึดฮัดไม่พอใจเดินออกไป
สำหรับพวกเขาแล้ว ‘เจ้ามังกร’ที่เย่จงซือพูดถึง จึงจะเป็นเป้าหมายของพวกเขา
ทีหน้าประตู คงเหลือแต่เย่เซ่าเตี๋ยคนเดียว
สายตาของหล่อนมองไปที่เย่หรูอี้ที่ขวัญไม่ได้อยู่กับเนื้อกับตัว
“มีอยู่สองข่าว เรื่องที่หนึ่ง แขกเหรื่อมากันครบหมดแล้ว อีกหนึ่งชั่วโมง งานพิธีก็จะเริ่มขึ้น”
“เรื่องที่สอง………”
เย่เซ่าเตี๋ยทำท่าจะพูดแต่หยุดไป หน้าตาเต็มไปด้วยความหนักใจ มองแววตาของเย่หรูอี้ ยิ่งให้รู้สึกสงสาร
เย่หรูอี้เงยหน้ามองหล่อน พูดเสียงไม่มีน้ำ “ข่าวร้ายเรื่องที่สองคืออะไร?”
เรื่องเป็นมาขนาดนี้แล้ว หล่อนหมดอาลัยตายอยากแล้ว
นิ่งขรึมอยู่นาน เย่เซ่าตี๋ยล้วงเอาซองอั่งเปาดูหนาออกมา บนซองเขียนอักษรตัวโต “หลิน”
“หลินชิงเสว่ก็มาด้วย หล่อนฝากให้ฉันบอกเธอ ขอให้มีความสุขกับการมีครอบครัวใหม่”
“……”
เย่หรูอี้มองซองของกำนัลที่ดูหนักหน่วงนั้น สีหน้าหวาดผวาออกให้เห็น และแล้วพูดเสียงอ่อยว่า
“ช่างเป็นข่าวร้ายจริง ๆ ทุกคนที่มุ่งหวังให้ฉันตาย ต่างก็มากันครบหมด”
มาอวยพรหรือ?
แน่นอนว่าไม่ใช่
หนึ่งอาทิตย์ที่แล้ว เธอสร้างเรื่องกำกับเองเป็นฉากละครว่าหล่อนต้องเสียสาวในห้องที่ทำงาน เป็นข่าวครึกโครม สุดท้ายทำให้ถังเฉาถูกจับ จนเป็นข่าวว่าถูกโยนขังในห้องเย็นจนหนาวตายทั้งเป็น
ถังเฉาเป็นสามีของหลินชิงเสว่ สามีเขาตายไป ก็ต้องมาติดตามหาข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ว่าเป็นจริงหรือไม่?
เหตุการณ์เกิดขึ้นจากตัวหล่อน ก็ต้องมาจบที่ตัวหล่อนแน่นอน
หล่อนมาก็เพื่อแก้แค้น