เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 768 ถอยไปอยู่เบื้องหลัง
พอได้ยินสิ่งที่หลินฉ่ายเวยบอกผ่านโทรศัพท์ ถังเฉาผงะ ก่อนจะเผยรอยยิ้ม
“ได้ พรุ่งนี้ฉันไปรับพวกเธอ”
พูดจบ แต่ไม่ได้วางสาย
บังเอิญตรงที่หลินฉ่ายเวยอีกด้านก็ไม่ได้วางสาย
ทั้งสองตกอยู่ในความเงียบ เงียบจนได้ยินเสียงหายใจของอีกฝ่าย
“ถังเฉา—–”
“ฉ่ายเวย—–”
ทั้งสองปริปากพร้อมกัน
เรียกเสร็จ ชะงักไปทั้งคู่ เห็นได้ชัดว่าไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเรียกชื่อตัวเองพร้อมกัน
“นายพูดก่อน—-”
“ฉันไม่รีบ—–”
“…..”
พูดขึ้นพร้อมกันอีกครั้ง
ถังเฉากุมหัว สีหน้าอ่อนใจ
เสียหายใจของหลินฉ่ายเวยที่ดังมาผ่านสายรัวเร็วกว่าเดิม—-ถังเฉานึกภาพออกเลยว่าเธอในตอนนี้จะหน้าแดงขนาดไหน
พูดถึงหลินฉ่ายเวย ถังเฉาก็อดเศร้าไม่ได้
เพื่อนสมัยเด็กในอดีต จนเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน แล้วค่อยให้อภัยกันและกันอย่างในตอนนี้
ถึงแม้ถังเฉาจะให้อภัยเธอไปนานแล้ว แต่ระหว่างทั้งสองก็ไม่สนิทใจกันแล้ว
เวลาเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้ แม้แต่คนสองคนที่ครั้งหนึ่งเคยสนิทแนบชิด ก็กลายเป็นคนแปลกหน้าได้
และครั้งนี้ หลินฉ่ายเวยไม่พูดอะไรอีก แต่รอให้ถังเฉาปริปาก
ถังเฉาสูดหายใจเข้าลึก และพูดเบาๆ
“ขอโทษนะ”
“……”
หลินฉ่ายเวยที่ปลายสายรออยู่ตั้งนาน ได้มาแค่สามคำนี้ เธอแกล้งทำเป็นพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ “จะขอโทษทำไมกัน? นายไม่ได้ทำอะไรที่ผิดต่อฉันสักหน่อย”
ถังเฉายิ้มเฝื่อนๆ “เป็นสิ่งที่ฉันต้องพูดกับเธอให้ได้ ครั้งนั้นที่สนามกีฬาแห่งเมืองเจียงเฉิง ถ้าไม่ได้เธอเสี่ยวลี้และชิงเสว่อาจจะ…..”
ถังเฉาไม่ได้พูดต่อ
หลินฉ่ายเวยชะงัก ก่อนจะนึกถึงเรื่องที่สนามกีฬาแห่งเมืองเจียงเฉิง
เพื่อที่จะบังคับให้ ‘เจ้ามังกร’ ปรากฏตัว ไวโอเล็ตใช้หลินชิงเสว่และถังเสี่ยวลี้เป็นเหยื่อล่อ หากใครจับพวกเธอสองแม่ลูกได้ ก็สามารถรอดจากความตายได้
หลินฉ่ายเวยปกป้องถังเสี่ยวลี้ด้วยชีวิต ถูกทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัสและถูกส่งเข้าโรงพยาบาล
ถังเฉาอยากจะขอบคุณต่อหน้ามาตลอด แต่ไม่ทันที่หลินฉายเวยจะฟื้นขึ้นมา พวกเขาก็ไปเยี่ยนจิงซะก่อน
หลินฉ่ายเวยฝืนยิ้มและพูดขึ้น “ไม่เป็นไรหรอก เสี่ยวลี้ก็เป็นหลานสาวของฉันเหมือนกัน การปกป้องหลานสาวเป็นหน้าที่ที่ควรทำของน้าเล็กอย่างฉัน”
เธอชะงักไปนิดหน่อยก่อนจะกล่าวขึ้นอีก “ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันวางก่อนนะ”
“ได้ ราตรีสวัสดิ์”
ตู๊ดตู๊ดตู๊ด—–
พอวางสายโทรศัพท์แล้ว ถังเฉาส่ายหัวและกลับไปยังซอยตงเฉิง
ตอนแรกที่ถังเฉาอยากรับพวกหลินฉ่ายเวยมาอยู่ด้วยกันเพราะหวังว่าจะกลับไปมีวิถีชีวิตเหมือนตอนอยู่หมิงจูอีกครั้ง
แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาและหลินฉ่ายเวยมีแนวโน้มสูงมากที่จะปฏิสัมพันธ์กันด้วยความกระอักกระอ่วน
หลังจากสงบอารมณ์ลง ถังเฉาเดินเข้าไปในบ้านเบาๆ
แสงอ่อนๆส่องสว่างอยู่ในห้องนั่งเล่นมืดมัว เป็นแสงจากโคมไฟเล็กๆที่กำลังให้แสงสว่าง
สายตาของถังเฉาอ่อนโยนลง เขาหยิบโคมไฟนี้ขึ้นมาแล้วขึ้นไปชั้นบน
ไม่รู้ว่านานแค่ไหนแล้วที่ถังเฉาเคยบอกหลินชิงเสว่เกี่ยวกับคำอธิษฐานเล็กๆของเขา เขาหวังว่าในทุกๆวันไม่ว่าจะกลับดึกแค่ไหน ก็จะมีไฟดวงเล็กเปิดทิ้งไว้ให้เขา
และตอนนี้ หลินชิงเสว่ทำได้แล้ว
เขาเปิดประตูออกเบาๆ ที่ถังเฉาประหลาดใจคือหลินชิงเสว่ยังไม่ได้นอน
เธอนั่งอยู่ตรงหัวเตียง อ่านหนังสือ”ธาตุแท้”เล่มหน้าโดยใช้แสงอ่อนๆจากไฟหัวเตียง
ถังเฉาประหลาดใจ “ทำไมคุณยังไม่นอนอีก?”
“ฉันรอคุณอยู่”
หลินชิงเสว่ปิดหนังสือและลุกขึ้นยืน ดวงตาคู่หวานมองถังเฉาขึ้นลงอย่างพิจารณา
หลังจากมั่นใจแล้วว่าบนตัวไม่มีบาดแผลถึงสบายใจขึ้น
ถังเฉาอ้าปากเล็กน้อย แต่มีคำพูดใดๆถูกเอื้อนเอ่ยออกมา
บางครั้งความรู้สึกนั้นไม่จำเป็นต้องพูดออกมา เพียงแค่ท่าทางหรือสายตาก็สามารถแสดงให้เห็นได้
ตอนนี้เขาและหลินชิงเสว่เริ่มเข้าสู่ช่วงเรียบๆ
ไม่ได้ใจเต้นเหมือนในตอนแรก
แต่ความเรียบแบบนี้แหละที่เป็นสิ่งมีค่าที่สุด
ถังเฉาหัวเราะ หยิบหนังสือ”ธาตุแท้”ขึ้นมาและลองเปิดอยู่สองสามหน้า และถามยิ้มๆ “ผมจำได้ว่าเมื่อก่อนคุณชอบอ่านหนังสือการเงินนี่ วันนี้เป็นอะไรไป?”
หลินชิงเสว่พูดด้วยสีหน้าสงบ “อ่านหนังสือด้านอื่นบ้างก็ดี เมื่อก่อนฉันอ่านหนังสือไม่มาก ตอนนี้อ่านชดเชยได้มากแค่ไหนก็แค่นั้น”
ถังเฉายิ้มบางๆกับเรื่องนี้
หลินชิงเสว่อ่านหนังสือไม่มากหรอ?
ถ้าอย่างเธอยังอ่านไม่มาก โลกนี้คงไม่มีคนอ่านหนังสือมากแล้ว
“เมื่อกี้ ฉันได้ตัดสินใจอะไรบางอย่าง”
หลินชิงสเว่นั่งอยู่บนเตียง เก็บผมเหน็บหูด้วยท่าทางมีเสน่ห์ เธอหันมองถังเสี่ยวลี้ที่นอนหลับสนิทและกล่าวขึ้น
“อะไรหรอ?”
ถังเฉานั่งลงข้างเธอ
“ฉันตั้งใจจะลาออกจากตำแหน่งประธานบริษัทของลี่จิงกรุ๊ป ถอยไปอยู่เบื้องหลัง”
“…..”
พอเธอพูดแบบนี้ ใบหน้าของถังเฉาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เขามองหลินชิงเสว่อย่างประหลาดใจ ถามออกไปตามสัญชาตญาณ “ทำไมล่ะ?”
การตัดสินใจครั้งนี้กะทันหันเกินไป จนถังเฉายอมรับไม่ได้
หลินชิงเสว่กลับมีท่าทีสงบและยิ้มบางๆ “เพราะหลายวันมานี้ฉันคิดมานานมาก ในที่สุดฉันก็เข้าใจแล้วว่าความต้องการในหัวใจของฉันจริงๆคืออะไร”
“คนเราในช่วงอายุที่แตกต่างกันก็จะปรารถนาในสิ่งที่แตกต่างกัน เมื่อก่อนตอนฉันเรียนหนังสือที่ต่างประเทศ ฉันปรารถนาถึงความอบอุ่นของครอบครัว และอยากพิสูจน์ว่าต่อให้ฉันไม่มีตระกูลหลินก็มีชีวิตที่ดีได้ ดังนั้นจึงมีบริษัทลี่จิงกรุ๊ปเกิดขึ้นมา—-สำหรับฉันแล้ว บริษัทลี่จิงกรุ๊ปก็เหมือนกับลูกของฉัน”
ถังเฉาไม่พูดอะไร ถ้าเป็นเช่นนั้นก็สมควรจะทำต่อไปสิ
หลินชิงเสว่กล่าวต่อ “แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน ฉันมีคุณ”
มีรอยยิ้มอ่อนโยนมีเสน่ห์ปรากฏบนใบหน้าของเธอ เธอมองถังเฉาแล้วเอ่ย “ฉันได้รับความรัก และได้รู้ตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง ไม่มีอะไรที่ปรารถนาอีกต่อไปแล้ว—–ฉันพอใจกับชีวิตในตอนนี้มาก”
“ฉันรู้สึกว่าได้เวลาดื่มด่ำกับชีวิตเกษียณอยู่บ้านได้แล้ว มองความรักของแม่ให้เสี่ยวลี้มากขึ้น และ….บำรุงครรภ์ รอให้ลูกคนที่สองของเราลืมตาดูโลก”
หลินชิงเสว่ลูบท้องตัวเองเบาๆ สายตาคาดหวัง
ถังเฉาอ้าปากเล็กน้อย ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี
เขาจะพูดอะไรได้ล่ะ?
ด้วยกำลังทรัพย์ของเขา เขาเลี้ยงหลินชิงเสว่ได้ แต่ เขารู้สึกว่าถ้าหลินชิงเสว่ไม่เป็นประธานบริษัทแล้วเหมือนขาดอะไรไป
“ถ้าคุณเกษียณ แล้วใครจะมารับตำแหน่งคุณต่อล่ะ?”
ถังเฉาถาม “หรือพูดให้ถูก ใครกันที่จะมีสิทธิ์นั่งตำแหน่งประธานบริษัทของคุณ?”
นี่เป็นคำถามที่จริงจังมาก นอกจากจะมีความสามารถแล้ว ต้องรู้จักคนเยอะ และต้องเป็นที่ยอมรับ
การจะบริหารบริษัทใหญ่สักบริษัทไม่ง่ายนัก พอจำนวนคนมาก ก็จะเกิดเหตุการณ์ไม่เป็นที่ยอมรับขึ้นมา
หลินชิงเสว่ยิ้มบางๆ “เรื่องนั้นฉันคิดไว้แล้วค่ะ”
“สำนักงานใหญ่ที่หมิงจูมีหลี่ถาว สำนักงานย่อยที่เมืองเจียงเฉิงมีฟางหย่า สำนักงานย่อยที่เยี่ยนจิง—-ไม่สิ ประธานของทั้งบริษัทลี่จิงกรุ๊ป ต้องเป็นคุณที่รับตำแหน่งแทน”
“ผม?”
ถังเฉาตะลึง
หลินชิงเสว่พยักหน้าอย่างจริงจัง “ไม่มีใครที่เหมาะสมไปกว่าคุณแล้ว ถ้าคุณจะถามถึงเหตุผลจริงๆ นี่ถือเป็นสินสอดของฉัน”
“สินสอด?”
“ค่ะ”
หลินชิงเสว่มองแหวน Tears of Venus ที่เปล่งประกายอยู่บนนิ้วและเอ่ยขึ้น “คุณจัดงานแต่งงานระดับตำนานของโลกให้ฉัน ฉันยังไม่ได้มอบสินสอดให้คุณเลย บริษัทลี่จิงกรุ๊ปเป็นสินสอดที่ฉันจะมอบให้คุณ”