เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 664 ตัวตนของถังเฉา (สอง)
ถังเหนียนหู่ก็ได้เปลี่ยนเรื่อง อยู่ๆ สายตาก็ได้ตกอยู่ตราประจำตัวสีทองส่องประกายบนมือของถังเฉา
ถังเฉากับหลินชิงเสว่ก็ได้มองตราด้วยความตกใจ ตอนนั้น ใจของหลินชิงเสว่ก็ได้เต้นแรงไม่หยุด
เพราะว่าอยู่ๆ ในหัวของเธอก็ได้มีความคิดที่ไร้สาระอย่างหนึ่งขึ้น
“มาจากราชวงศ์ต้าเซี่ย?”
ถังเฉาเองก็ตกใจเหมือนกัน
จากนั้น ในหัวของเขาก็ได้นึกถึงการกระทำของถังเหนียนหู่ก่อนหน้านี้ มันดูตื่นตระหนกเกินไปจริงๆ
เพื่อที่จะเอาตราในมือของเขากลับไป ไม่เพียงแค่ยอมที่จะออกเงินซื้อกลับคืนสามเท่า ยังยอมที่จะลงทุนกับบริษัทลี่จิงกรุ๊ป!
ถ้าเกิดเป็นแค่ตราประจำตัวของตระกูลถังธรรมดา ไม่มีทางที่จะทำถึงขนาดนี้แน่
แต่ว่าถ้าเกิดเป็นตราประจำตัวของราชวงศ์ต้าเซี่ย นั่นมันก็มีความจำเป็นเอามากๆ
“คุณรู้ได้ยังไง?”
สายตาของถังเฉาได้นิ่ง มองวิเคราะห์ถังเหนียนหู่ แล้วถาม
ถังเหนียนหู่ก็ได้เอาตราประจำของตัวเองออกมา “ตราประจำตัวของราชวงศ์ต้าเซี่ยตระกูลถัง กับตราประจำตัวของตระกูลถังแห่งตระกูลหลวงนั้นมีความแตกต่างอยู่”
ถังเฉาก็ได้มองอย่าละเอียด ตามคาดมีความแตกต่างจริงด้วย
ตราประจำของราชวงศ์ต้าเซี่ย จะดูเปล่งประกายกว่า
“เพราะงั้นคุณก็อยากที่จะเอากลับคืน”
ถังเฉาเอ่ยถาม
ถังเหนียนหู่พยักหน้า “ใช่ ตระกูลถังของพวกเราได้เปลี่ยนใจแล้ว ตอนนั้นไม่ควรที่จะขายตราประจำตัวอันนี้ออกไป วู่วามเกินไป”
ถังเฉาได้ยินก็อยากจะหัวเราะออกมา
ตอนนั้นที่อยู่ในงานประมูลของเมืองเจียงเฉิง เขาได้ใช้เงินหนึ่งพันห้าร้อยล้านในการประมูลตราประจำตัวของตระกูลถังมา ตอนนั้นคนมากมายต่างก็ได้หัวเราะเยาะเย้ยเขาว่าเป็นไอ่โง่ที่มีเงินเยอะ
ตอนนี้ถังเหนียนหู่ก็ได้มาเปิดเผยความลับของตราประจำตัวนี้ด้วยตัวเอง เขาว่ามันคุ้นมากจริงๆ!
“แต่ว่า นี่มันจะเกี่ยวข้องกับผมยังไง?”
ไม่นาน ถังเฉาก็ได้ถามคำถามออกไปอีกครั้ง
ถังเหนียนหู่ก็ได้ตกอยู่ในความเงียบ เหมือนว่าลังเลว่าจะพูดออกไปดีหรือเปล่า
แต่ว่ามองเห็นสายตาที่น่ากลัวของถังเฉา เขาก็ได้ตัดสินใจพูดออกมา
“นายเชื่อเรื่องโชคชะตาไหม?”
ถังเหนียนหู่มองถังเฉา อยู่ๆ ก็ได้ถามคำถามที่ดูไร้สาระแบบนี้ออกไป
ขนาดหลินชิงเสว่ก็ได้อึ้งไปเลย
คิ้วของเธอกำลังขมวด เพิ่งจะพูด
ถังเฉากลับได้พูดออกไปอย่างเรียบๆ “ผมเชื่อ”
“โชคชะตากำหนดให้คนสองคน ต่อให้แยกจากกันไปนานเท่าไหร่ แต่ว่าสุดท้ายก็ต้องได้เจอกันอยู่ดี”
เวลานั้น สีหน้าของถังเฉาก็ได้จริงจังเอามากๆ
หลินชิงเสว่เปิดปาก แต่ก็ได้ปิดปากลง
เธอที่ได้รับการอบรมสั่งสอนมาอย่างดีนั้น ไม่มีทางพูดถึงเรื่องเทพพระเจ้า ยิ่งไม่มีทางเชื่อเรื่องโชคชะตาที่ดูไร้สาระแบบนี้
แต่ว่าเรื่องบางเรื่อง เธอนั้นก็เถียงไม่ได้
ห้าปีก่อน เธอนั้นเสียตัวให้กับถังเฉา ห้าปีให้หลัง เธอกลับกลายเป็นภรรยาของถังเฉา
โชคชะตาได้มัดพวกเขาสองคนไว้อย่างแน่นหนา แม้ว่าห่างกันไปห้าปี แต่ในที่สุดก็ต้องอยู่ด้วยกัน
เรื่องบางเรื่อง โชคชะตาก็ได้กำหนดมาตั้งแต่แรกแล้ว!
“ฉันก็เชื่อ”
ถังเหนียนหู่ก็ได้ถอนหายใจ พูดว่า “กับเรื่องของตราประจำตัว ฉันได้ตรวจสอบประวัติมาแล้ว ยี่สิบปีก่อน มันก็ได้อยู่ในตระกูลถังแห่งตระกูลหลวงของพวกเราแล้ว แต่ว่าตอนนั้น ฉันยังไม่ได้เป็นผู้นำของตระกูลถัง เป็นแค่เด็กธรรมดาๆ ในบรรดาคนของตระกูลถังคนหนึ่ง”
“ตอนนั้นได้เกิดเรื่องเรื่องหนึ่งขึ้น สาวพระของราชวงศ์ต้าเซี่ยได้มาที่ตระกูลถัง ได้ส่งมอบตราประจำตัวให้อันหนึ่ง วันนั้นเป็นฉันที่เปิดประตูให้กับสาวพระพอดี เธอก็ได้เอาตราประจำตัวให้ฉันบอกให้ไปส่งให้กับผู้นำตระกูลถัง แล้วก็ได้ส่งคำทำนายให้อันหนึ่ง”
“คำทำนาย?”
ถังเฉาตกใจ
ถังเหนียนหู่พยักหน้า “ใช่ สาวพระที่ออกมาจากราชวงศ์ต้าเซี่ยนั้นต่างต้องมีฝีมือในการทำนายอยู่พอตัว เธอให้ผู้นำในตอนนั้นรักษาตราประจำตัวอันนี้ไว้ดีๆ ถ้าเกิดโชคชะตาถูกละก็ วันหนึ่งในอนาคต ตราประจำตัวอันนี้ต้องกลับไปหาเจ้าของของมันอีกครั้งแน่นอน ตราอันนี้จะเป็นสักขีพยานว่าเจ้านายของเขากลายเจ้ามังกรพรีเมี่ยม ราชาเหนือโลก”
“แต่ว่าไม่มีใครเชื่อสักคน ตอนนั้นผู้ที่แข็งแกร่งของราชวงศ์ต้าเซี่ยก็ได้มาพอดี ฆ่าสาวพระคนนั้น ทุกคนต่างก็คิดว่าสาวพระคนนั้นพูดอะไรไร้สาระ ก็ไม่มีคนเก็บมาใส่ใจ ตอนนั้นผู้นำก็ได้เอาตราประจำตัวอันนั้นเก็บไว้ที่ห้องเก็บของไป นานวันเข้าก็ได้ลืมมันไป”
ได้ยินที่ถังเหนียนหู่พูดจบ ใจของถังเฉาก็ไม่สงบลงสักที ก็ได้ก้มมองตราประจำตัวอันนั้นอย่างไม่รู้ตัว
เขานั้นได้ถูกคำทำนายอันนั้นทำเอาตกใจ
ส่วนหลินชิงเสว่ ก็ได้จิตลอยไปนายแล้ว
“จากนั้นล่ะ?”
ตั้งสติได้ ถังเฉาก็ได้ถามไป
“จากนั้น เพราะว่าคนใช้คนนั้นได้หาตราประจำนั้นเจอ แล้วก็ทุกคนก็ได้ลืมเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อยี่สิบปีก่อนไปหมด เอาตราประจำอันนั้นประมูลออกไป”
“ทุกคนต่างก็คิดว่าสามตระกูลยักษ์ของเมืองเจียงเฉิงจะประมูลไป แต่สุดท้าย เป็นนายที่ประมูลไป”
พูดถึงตรงนี้ สายตาที่ถังเหนียนหู่มองถังเฉาก็ได้เปลี่ยน “ตอนนี้ นายก็รู้สึกถึงความไม่ปกติของเรื่องนี้แล้ว ใช่ไหม?”
ถังเฉาไม่ได้พูดอะไร แต่แค่มองตราประจำตัวอย่างไม่อยากที่จะเชื่อ
เรื่องนี้เมื่อเทียบกับเรื่องคำทำนายเมื่อยี่สิบปีก่อน มันทำให้คนนั้นรู้สึกหวาดกลัวมากๆ
“ความหมายของคุณคือ ผมเป็นเจ้าของตราประจำตัวนี้?”
ถังเฉาพูด
ถังเหนียนหู่ส่ายหน้า “ฉันก็ไม่มั่นใจ แต่ว่ามีเรื่องหนึ่งที่ยืนยันได้แล้วว่า ตราประจำตัวอันนี้ไม่เหมือนของทั่วไป ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไร ก็ต้องเอาตราอันนี้กลับไป”
หรือได้เปลี่ยนคำพูด ถ้าเกิดทั้งหมดเหมือนที่ถังเฉาพูด งั้นตราประจำตัวอันนี้ สามารถที่จะไขความลับของตัวตนถังเฉาได้
ถังเหนียนหู่นิ่งไป สีหน้าก็ได้มีความจริงใจในที่สุด “ถังเฉา พวกเราตระกูลถังไม่ได้อย่างเป็นศัตรูกับนาย ถึงขั้นที่ว่าเรื่องที่หลานชายฉันได้มีเรื่องกับนายไป ฉันก็สามารถที่จะขอโทษได้ แต่ว่าตราประจำตัวอันนี้ ไม่ว่ายังไงก็ต้องขายมันให้ฉัน!”
“เพราะว่าต้นตอการมาของตราอันนี้ยิ่งใหญ่เกินไป มันไม่เป็นของนาย แต่เป็นของราชวงศ์ต้าเซี่ย มันต้องการเจ้าของที่แท้จริงของมัน”
ถังเฉาก็ได้เงียบไปนาน ถามว่า “สาวพระที่ส่งตราอันนี้ให้คนนั้น ยังได้พูดอะไรอีกไหม อย่างเช่นจุดเด่นของเจ้าของตราประจำตัวอันนี้?”
เพราะว่าจากที่หลินเจิ้นสงพูด ตอนที่รับเลี้ยงเขาตอนเด็กนั้น มือซ้ายขวาของเขาได้มีตัวหนังสือที่สวยเขียนอยู่
ถังกับเฉา
ก็เพราะแบบนั้น หลินเจิ้นสงถึงได้ตั้งชื่อให้เขาว่า ‘ถังเฉา’
จากตรงนี้ก็เดาได้ไม่ยาก คนที่เขียนสองคำนี้ต้องเป็นแม่ของเขาแน่นอน
เธอต้องมีอะไรที่พูดออกมาไม่ได้……
แต่แล้ว ถังเหนียนหู่ส่ายหน้า “เรื่องนี้ได้ผ่านไปยี่สิบกว่าปีแล้ว ไม่มีคนที่จำมันได้แล้ว ฉันก็นึกออกแค่เรื่องพวกนี้เท่านั้น นี่มันก็จริงใจมากพอแล้ว รีบขายตราประจำตัวให้ฉัน!”
พูดจบ ใบหน้าของถังเหนียนหู่ก็ได้มีความโมโหเล็กน้อย
เขาพูดมามากขนาดนี้ ถึงขั้นได้พูดความลับของตระกูลถังแห่งตระกูลหลวงออกไป ถ้าเกิดถังเฉายังไม่ขายตราประจำตัวให้เขา งั้นเขาต้องโมโหจนเป็นบ้าแน่ๆ
ถังเฉาก็ได้เงียบอยู่นาน แล้วก็ได้เอาตราประจำตัวเก็บเข้ากระเป๋า
“ขอโทษด้วยครับ ไหนๆ คุณก็บอกแล้ว ตราอันนี้สามารถที่จะไขความลับตัวตนของผมได้ งั้นก็เป็นสมบัติที่ประเมินราคาไม่ได้ ผมขายให้คุณไม่ได้”
“นาย……”
ถังเหนียนหู่โมโหไปเลย เวลาเดียวกันก็ได้โมโหจนอยากตบหน้าตัวเอง อยู่ดีๆตัวเองพูดเรื่องพวกนี้ทำไม?
ถังเฉาก็ได้หิ้วเขาขึ้น แล้วก็ได้โยนให้บอดี้การ์ดของตระกูลถังพวกนั้น สีหน้าเย็นชาว่า “เห็นแก่ว่าคุณได้พูดความเป็นมาของตราประจำตัวอันนี้ ผมไม่ทำร้ายคุณ กลับไปเถอะครับ”
สีหน้าของถังเหนียนหู่ก็ได้เสีย การที่พูดดีๆ ไม่เอาต้องใช้กำลังของถังเฉาแบบนี้ ทำให้เขาโมโหแล้วจริงๆ
แต่ว่า พวกบอดี้การ์ดก็ได้พาเขาออกไป
ในตัวของถังเฉาก็เหมือนมีสัตว์ร้ายที่หลับใหล อาศัยตอนที่เขายังไม่โมโห ต้องรีบออกไป
พอถังเหนียนหู่จากไป ตลอดทั้งบ่าย ถังเฉาก็ได้เงียบไม่พูดอะไรเลย
แม้ว่าถังเสี่ยวลี้เลิกเรียนกลับมาแล้ว วิ่งมาเล่นกับถังเฉา ถังเฉาก็ได้เล่นไปตามน้ำเท่านั้น
เวลาส่วนมาก ถังเฉาก็ได้ยืนที่ระเบียงคนเดียว เงยหน้ามองดวงดาว
แสงดวงจันทร์อ่อนๆ ได้สาดมา ใบหน้าของถังเฉาไม่มีสีหน้าอะไร แต่ว่าในสายตาที่เข้ม กลับได้มีความเศร้าใจเล็กน้อยอยู่
อยู่ๆ ข้างหลังก็ได้มีร่างบางที่อ่อนนุ่ม กอดเขาจากทางด้านหลังเบาๆ
ถังเฉาหันกลับไปมอง หลินชิงเสว่ก็ได้เปลี่ยนเสื้อที่ใส่ในบ้านแล้ว แล้วก็กำลังกอดเขาเบาๆ
“ยังคิดเรื่องพ่อแม่ของคุณเหรอ?”
หลินชิงเสว่เงยหน้า ถาม
ถังเฉาหัวเราะเบาๆ ไม่ได้พูดอะไร
“ฉันให้เสี่ยวลี้ไปนอนแล้วค่ะ”
หลินชิงเสว่พูดจบ ก็ได้ค่อยๆ เอาหัวไปพิงแผ่นหลังที่หนาของถังเฉา
“คนเราไม่ว่าเหี้ยมโหดแค่ไหนก็ไม่ทำร้ายลูกของตนเอง ฉันเชื่อว่าพ่อแม่ของคุณไม่มีทางเป็นคนที่ทอดทิ้งคุณแน่นอน”
พอหลินชิงเสว่พูดแบบนี้ อารมณ์ของถังเฉาก็ได้ดีขึ้นเล็กน้อย หัวเราะเบาๆ
ก็ได้เป็นการเผยความในใจออกมา เขาก็ได้ไปหาที่นั่ง มองดวงจันทร์บนท้องฟ้า “ที่จริง บางครั้งผมอิจฉาจ้าวหยูนมากๆ ไม่ว่าพ่อแม่บาดหมางกันขนาดไหน แต่สุดท้ายก็แคร์เธออยู่ ผมไม่รู้แม้กระทั่งชื่อพ่อกับแม่ หน้าตาเป็นยังไงก็ไม่รู้”
“แต่ว่าผมไม่ได้เกลียดพวกเขา เพราะว่าพวกเขาได้มอบชีวิตให้ผม ให้ผมได้มาบนโลกใบนี้ ผมก็แค่อยากที่จะถามพวกเขาว่าทำไมต้องทอดทิ้งผม แค่นั้นเท่านั้น”
น้ำเสียงของถังเฉาเรียบมาก แต่ว่าหลินชิงเสว่กลับได้ยินความเศร้าใจอ่อนๆ ของเขา
หลินชิงเสว่ไม่ได้ให้ถังเฉาพูดต่อ ส่ายหน้าพูดว่า “ที่รักค่ะ คุณอยากที่จะทำอะไร ฉันก็สนับสนุนคุณทั้งหมด”
เธอเข้าใจดี พ่อแม่มีความหมายอย่างไรกับผู้ชายคนนี้
เขาพึ่งเกิดออกมา ก็ได้มีชีวิตที่ไม่เหมือนกับคนอื่น
เขาไม่มีพ่อ และก็ไม่มีแม่ ในการใช้ชีวิตกับคนอื่นทำให้เขานั้นระวังตัว ถึงขนาดที่ว่าดื่มน้ำ ทานข้าว ก็ต้องค่อยระแวงเข้าไว้
แม่ของหลินฉ่ายเวยโจวเหม่ยหยูนไม่ชอบเขา ด่าเขาบอกๆ ว่าเป็น ‘ดาวซวย’ ‘ตัวเกาะกิน’ เขาก็ทำได้แค่อดทนเงียบๆ
แต่ว่า เขายังคงรู้สึกขอบคุณ เพื่อที่จะทำให้ตระกูลนั้นมีการก้าวหน้าที่ดี ก็ได้เลือกที่จะเป็นเขยแต่งเข้าตระกูลซ่ง
เขาไม่มีที่พึ่งพาที่แข็งแกร่ง ทำได้แค่พึ่งตัวเอง
ได้สุขสบาย แต่ก็ได้ทุกข์ทรมาน
ครั้งแรกที่ได้เป็นพ่อคน ก็แทบที่จะเอาดวงดาวบนฟ้ามาให้
สายตาของถังเฉาก็ได้จริงจัง “ที่เธอพูดก็ถูก ไหนๆ พ่อแม่ไม่ได้มาหาลูก งั้นก็มีแต่ลูกที่ไปหาพ่อแม่ ความจริง ต้องมีความกระจ่างแน่นอน”
มีแค้นล้างแค้น มีทุกข์ร้องทุกข์ มีบุญคุณก็ตอบแทนบุญคุณ นี่เป็นกฎที่ถังเฉาทำมาตลอด
หลินชิงเสว่ก็ได้พูดเบาๆ “พวกเราได้มีเป้าหมายเดียวกัน นั่นก็คือเยี่ยนจิง คุณทำเพื่อที่จะตามหาพ่อแม่ของคุณ ฉันก็ทำเพื่อที่จะสร้างอำนาจของฉัน”
“ไม่ว่าจะเป็นตายหรือมีชีวิต ฉันจะอยู่ด้วยกับคุณ—-เรื่องทุกเรื่อง ฉันเผชิญหน้าพร้อมกับคุณ”
“ฉันไปเจอพ่อแม่ของคุณเป็นเพื่อนคุณ ถ้าเขาไม่มีความรู้สึก คุณจะอกตัญญูไม่ได้ เพราะว่าพวกเขาให้ชีวิตแก่คุณ คุณก็ไม่ต้องเสียใจไป เพราะว่าคุณยังมีพวกเรา”
คำพูดของหลินชิงเสว่ ทำให้ถังเฉามองกระจ่างทันที
เขาได้คว้ามือของหลินชิงเสว่ พยักหน้าเบาๆ “ครับ”
ระหว่างที่พูดเจียงไป๋เสว่ก็ได้ส่งข้อความมา
“ท่านเจ้ามังกรเชิญพวกเราไปเป็นแขกที่เยี่ยนจิงตระกูลหลงในอีกสามวันให้หลัง”