เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 603 เพื่อน‘กรรมกรชาวบ้าน’
“แกเข้าไปได้เหรอ?”
“ถังเฉาแกเสแสร้งต่อไปเถอะ สนามกีฬาเมืองเจียงเฉิงในวันนี้ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปจะเข้าไปได้ พวกที่เหมาตั๋วมาขายโก่งราคาของประชุมแดนเหนือ ก็มาขายแพงหูฉี่ แถมยังไม่มีตลาดให้ขายด้วย ภรรยาของแกยังได้มาแค่ใบเดียวเลย แล้วน้ำหน้าอย่างแกจะหามาได้เหรอ?”
เย่เซ่าเตี๋ยใบหน้ายิ้มอย่างเยาะเย้ย สายตาที่มองถังเฉา ก็เหมือนกับกำลังมองลิงในคณะละครสัตว์อยู่อย่างไรอย่างนั้น
หลินรั่วหวีก็ยิ่งมองเขาเย็นชาขึ้น ช่างน่าขายหน้าเกินไปแล้ว
เว่ยหมิงจวินพูดกับถังเฉาไปตรงๆ“แกจะอยู่ที่นี่ต่อก็ได้ พวกเราไม่สน แต่แกห้ามบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเด็ดขาด มันขายหน้าของพวกเรา!”
ถังเฉาขมวดคิ้ว ใครๆต่างก็รู้สึกโกรธโมโหได้ทั้งนั้น ไม่เว้นแม้แต่เขา
“ผมอยู่ที่นี่เพื่อรอคน จะมีคนพาผมเข้าไป แล้วยังไง? ในส่วนนี้ก็ต้องรายงานให้พวกคุณทราบด้วยเหรอ?”
ถังเฉาค่อยๆลุกขึ้นยืน ในม่านตาดำมืด แฝงไปด้วยแสงที่น่าดึงดูด
เย่เซ่าเตี๋ยตกใจขึ้นมา ผ่านไปสักพัก เธอก็รู้สึกว่าอุณหภูมิรอบๆตัวของเธอลดลงฮวบ
ทำให้นึกถึงตอนที่ถูกถังเฉาถีบลงจากบันไดเมื่อครั้งที่แล้ว ตาของเย่เซ่าเตี๋ยก็กระตุก ไม่กล้าประชันหน้ากับถังเฉา
“เอาเถอะ ฉันไม่สนแกแล้ว แกกินซาลาเปาอยู่ที่นี่ต่อไปเถอะ!”
เย่เซ่าเตี๋ยพูดคำพูดนี้ทิ้งท้ายเอาไว้ แล้วก็กลับขึ้นรถสปอร์ตคันนั้นไป
หลินรั่วหวีมองเขาอย่างนิ่งๆ จู่ๆก็เปิดปากพูดขึ้น“ในเมื่อแกบอกว่าจะเข้าไป ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะรอแก อย่าลืมข้อตกลงของพวกเราสองคนล่ะ”
พูดจบ หลินรั่วหวีก็ไม่สนใจอะไรอีก กลับขึ้นรถธุรกิจคันนั้นกับเว่ยหมิงจวินไปทันที
ถังเฉาหยุดอยู่ที่เดิมเป็นเวลานาน จู่ๆแววตาก็เปลี่ยนเป็นนิ่งลึก
เขาไม่ลืมข้อตกลงที่ได้ตกลงเอาไว้กับหลินรั่วหวีแน่นอนอยู่แล้ว
ครั้งที่แล้วตอนที่อยู่ที่วาเลียนท์ วิลล่า เขากับหลินรั่วหวีได้ตกลงว่าจะต่อสู้ใช้กำลังกัน
ปกติแล้วจะไม่สามารถลงมือได้ แต่ประชุมแดนเหนือ ก็จัดเตรียมสังเวียนให้กับพวกเขาเอาไว้อย่างดีแล้ว
จะเป็นหรือตาย ก็ล้วนเป็นชะตาของทุกคน
ถังเฉานั่งลงริมถนนอีกครั้ง รอเย่หรูอี้มาถึง
กริ๊งๆๆ!
ในตอนนี้เอง โทรศัพท์ของถังเฉาก็ดังขึ้น
หลินชิงเสว่โทรมา
“พ่อ”
เพิ่งจะรับสาย ในสายกลับเป็นเสียงออดอ้อนของถังเสี่ยวลี้ดังขึ้นมา
“ทำไมพ่อยังไม่มาอีก หนูกับแม่รอนานมากแล้ว”
ถังเฉาเผยให้เห็นรอยยิ้มทันที พูดขึ้น“พ่อจะไปเดี๋ยวนี้แหละ ลูกเล่นกับแม่ไปก่อนนะ”
“ฮาโหล!สรุปแล้วคุณเข้ามาได้ไหม? ฉันเห็นที่นั่งเกือบจะเต็มหมดแล้วนะ”
พอมีเสียงในสายดังขึ้น ก็เปลี่ยนไปเป็นเสียงของหลินชิงเสว่
ถังเฉายิ้มอมทุกข์ ตอบกลับไปแบบลวกๆครั้งแล้วครั้งเล่า จึงหลอกเธอไปได้
รปภ.ที่อยู่ข้างๆจับตาดูเขามาตลอด พอเห็นเขาลุกขึ้นยืน พวกเขาก็เหมือนกับกำลังเผชิญกับศัตรูที่ทรงพลัง
“นายจะทำอะไร? คิดจะพุ่งเข้าไปเหรอ?”
ถังเฉากวาดสายตามองพวกเขาหนึ่งที“เมื่อตะกี้ผมบอกแล้วว่า ผมกำลังรอคนอยู่ เดี๋ยวก็มาแล้ว”
รปภ.หัวเราะ“รอคน? อย่างนายจะรอคนแบบไหนกัน? จะต้องเป็นพวกระดับล่างๆเหมือนกันนั่นแหละ”
รปภ.อีกคนหยิบกระบองออกมาข่มขู่“ฉันจะบอกนายนะ ฉันไม่สนว่านายกำลังรอใครอยู่ ไม่ว่ายังไงวันนี้นายอย่าคิดจะได้เข้าไปในสนามกีฬาเจียงเฉิง นายกับพวกของนายจะต้องไสหัวไปให้หมด!”
ในขณะนี้เอง จู่ๆบนถนนก็มีเสียงแตรรถดังขึ้น
แต่เนื่องจากรถบนถนนมีมากเกินไป มีเสียงปี๊นดังขึ้นไปทั่วทุกหนทุกแห่ง รปภ.ก็ไม่ได้สนใจ ไม่ได้หันหน้าไปมอง
พวกเขาก็ไม่ได้เห็นรถสปอร์ตเปิดประทุนที่ค่อยๆจอดลงอย่างช้าๆ
ปัง!
หญิงสาวที่สวมชุดกี่เพ้าสีม่วงดูโบราณคลาสสิคสวยงามแปลกตาคนหนึ่งลงมาจากรถ เดินมาตรงนี้ด้วยสีหน้านิ่งๆไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ
พอเห็นภาพตรงหน้า ถังเฉาก็สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย พูดกับรปภ.ทั้งสองคน“ผมรู้สึกว่าพวกคุณสองคนอย่าพูดคำพูดพวกนี้จะดีกว่านะ”
รปภ.สองคนหัวเราะออกมายกใหญ่“ทำไมจะพูดไม่ได้ล่ะ? ถ้าพวกเราพูดแล้วจะทำไม?”
“เป็นคนประเภทไหนก็จะคบคนประเภทนั้นเป็นเพื่อน สภาพนายดูเหมือนกรรมกรชาวบ้านขนาดนี้ ตำแหน่งของเพื่อนนายจะสูงสักแค่ไหนกันเชียว?”
เย่หรูอี้ยืนอยู่ข้างหลังพวกเขา สีหน้าก็เคร่งขรึมเรียบร้อยแล้ว ความเยือกเย็นแฝงเข้ามาในแววตา
ส่วนรปภ.ทั้งสองคน ก็ยังคงไม่เห็นเย่หรูอี้ที่ยืนอยู่ข้างหลังพวกเขา
“ดูข้างหลังพวกคุณก่อนสิ”
ถังเฉาพูดเตือนขึ้นด้วยความหวังดี
“ข้างหลังอะไร?”
รปภ.ทั้งสองคนไม่สนใจ หันไปมองอย่างไม่ได้อะไร
ผลที่ได้ พวกเขาเห็นสองตาที่แสนเยือกเย็นหนึ่งคู่
ในส่วนลึกของดวงตา ยังแอบมีความโกรธแฝงเอาไว้
“อา!”
พอเห็นผู้หญิงสวมชุดกี่เพ้าที่ยืนอยู่ข้างหลังพวกเขาเหมือนกับเห็นผี รปภ.ทั้งสองคนก็ตกใจจนร้องออกมาเสียงดัง วิญญาณหลุดลอยไปแล้ว
เย่หรูอี้จ้องมองพวกเขาอย่างเย็นชา พร้อมกับพูดขึ้น“เมื่อตะกี้พวกนายกำลังพูดว่า ฉันเข้าไปในสนามกีฬานี้ไม่ได้? แถมจะไล่ฉันออกไปด้วยอย่างนั้นเหรอ?”
รปภ.ใจเต้นแรง พูดตะกุกตะกัก“คุณ……คุณเป็นใคร?”
“ฉันก็คือเพื่อน‘กรรมกรชาวบ้าน’ที่พวกคุณพูดถึงกันอยู่ยังไงล่ะ”
เย่หรูอี้น้ำเสียงเยือกเย็น รังสีที่แข็งแกร่งรุนแรงแผ่ซ่านไปทั่วทั้งตัว
รปภ.ทั้งสองคนตกตะลึงไป
ผู้หญิงที่สวยราวกับราชินี ดูหรูหราดูแพงแบบนี้ จะตำแหน่งต่ำต้อยได้ยังไง?
ในขณะเดียวกัน พวกเขาคิดยังไงก็ไม่เข้าใจอยู่ดี ว่าคนที่ถังเฉารอ จะเป็นผู้หญิงที่ทั้งสวยทั้งรวยขนาดนี้
จู่ๆหนึ่งในรปภ.ก็มองจ้อง รู้สึกคุ้นตาเย่หรูอี้อย่างบอกไม่ถูก
ต่อมา เขาก็ร้องตะโกนออกมา“ฉันนึกออกแล้ว เธอก็คือคุณหนูหัวแก้วหัวแหวนของตระกูลเย่นั่นเอง!”
บูม!
พอคำพูดนี้ออกมา รปภ.อีกคนก็ตกตะลึงไปทันที ราวกับถูกฟ้าผ่า
ความเยือกเย็นในแววตาของเย่หรูอี้ยิ่งเพิ่มมากขึ้น ก่อตัวกลายเป็นแรงอาฆาต กดทับพวกเขาเอาไว้
“ไม่ผิดแน่นอน ฉันเคยเห็นรูปของเธอ เธอก็คือเย่หรูอี้แห่งตระกูลเย่ คุณหนูหัวแก้วหัวแหวนที่มีสถานะเทียบเท่ากับเย่เซ่าเตี๋ย!”
รปภ.คนนั้นร้องตะโกนออกมาด้วยสายตาตกใจ ส่วนอีกคนก็ตกใจจนพูดตะกุกตะกัก
เย่หรูอี้จ้องเขม็งพวกเขา ชี้ไปที่ถังเฉาพร้อมกับพูดขึ้น“พวกนายเรียกเขาว่ากรรมกรชาวบ้าน? ไหนจะเหมารวมเรียกฉันไปด้วยอีก?”
อุบ!
รปภ.สองคนคุกเข่าลงตรงหน้าของเย่หรูอี้ แทบจะเข้าไปเลียปลายรองเท้าของเย่หรูอี้อยู่แล้ว
“คุณ คุณเย่ พวกเราไม่รู้ว่าเขาเป็นเพื่อนของคุณครับ!”
“คุณเย่ พวกเรามีตาหามีแววไม่ ดันไปก้าวก่ายเพื่อนของคุณเข้า ได้โปรดยกโทษให้พวกเราด้วยเถอะครับ!”
พวกเขาตกใจจนฉี่แทบราด ตัวสั่นอย่างรุนแรง
เย่หรูอี้สีหน้ายังคงเย็นชา
จากจิตใจที่แข็งกระด้างของเธอแล้ว ไม่มีทางยกโทษให้รปภ.สองคนนี้อย่างแน่นอน
แต่ถังเฉาเข้ามาโบกมือ“พอแล้ว พวกเขาก็ไม่ได้ทำอะไรผม แค่ปฏิบัติตามหน้าที่ของตัวเองเท่านั้น”
พอเห็นถังเฉาช่วยพูดแทนพวกเขา รปภ.สองคนนั้นก็คุกเข่าขอบคุณ
“ขอบคุณมากครับ ขอบคุณมากครับคุณถัง!”
เย่หรูอี้กวาดสายตามองพวกเขาอย่างนิ่งๆ พร้อมกับพูดขึ้น“เอาล่ะ ในเมื่อถังเฉาพูดขนาดนี้แล้ว ครั้งนี้ฉันก็จะปล่อยพวกนายไป”
“ขอบคุณครับคุณเย่!ขอบคุณครับคุณถัง!”
รปภ.ทั้งสองคนรู้สึกโล่งใจ สายตาที่มองถังเฉาเต็มไปด้วยความรู้สึกขอบคุณ
เย่หรูอี้มาอยู่ข้างๆถังเฉา ชำเลืองตามอง“ดูท่าไม่ว่าคุณจะทำตัวแบบไหน ก็ยังถูกคนมองว่าคุณเป็นขยะไร้ค่าอยู่ดี”
ถังเฉายิ้มๆ“ชินแล้ว”
เย่หรูอี้ชี้ตัวเองพร้อมกับพูดขึ้น“คุณควรเรียนรู้ที่จะทำตัวให้ดูดีมีสไตล์บ้างนะ พวกคนชนชั้นสูงล้วนแต่ดูดีมีสไตล์จากภายในสู่ภายนอกกันทั้งนั้น”
ถังเฉาส่ายหัว“ยุ่งยากน่ารำคาญ มาตรฐานของผมคือการมีชีวิตอยู่มาเป็นอันดับแรก เรื่องอื่นผมค่อยคิดถึง”
อุป!
พอประโยคนี้ออกมา เย่หรูอี้ก็หัวเราะ ออกมาทันที
ยิ้มแย้มสดใส