เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 1081 พาคุณกลับบ้าน
ได้ยินดังนั้น ถังเฉาทั้งรู้สึกผิดทั้งดีใจ
ผู้หญิงตรงหน้าเข้าใจในการกระทำของตัวเองถึงเพียงนี้
หากเป็นผู้หญิงคนอื่นๆทั่วไปคงโกรธไปถึงไหนต่อไหนแล้ว
“จริงสิ ทำไมจู่ๆคุณถึงกลับมาล่ะคะ? คุณไปราชวงศ์ต้าเซี่ยมาไม่ใช่หรอคะ”
หลินชิงเสว่ถามถังเฉาด้วยสีหน้าสงสัย แน่นอนว่าถังเฉาไม่มีทางบอกว่าตัวเองกลับมาหาเย่หรูอี้
ไม่กลับมานานขนาดนี้ พอกลับมาปุ๊บก็มาหาแฟนเก่าของตัวเอง ถ้าหลินชิงเสว่ได้ยินแบบนี้ไม่เข้าใจผิดสิแปลก
“กลับมาครั้งนี้มีจุดประสงค์หลักคือธุระน่ะ แล้วก็จะพาคุณกับเสี่ยวลี้ไปที่ราชวงศ์ต้าเซี่ยด้วย”
ฐานะของถังเฉาในตอนนี้เป็นที่เปิดเผยในราชวงศ์ต้าเซี่ยแล้ว
และตอนนี้ได้รับการช่วยเหลือจากนายพลเฉิน ถังเฉาอยากจะพาครอบครัวตัวเองไปตั้งนานแล้ว
ก่อนหน้านี้สถานการณ์ไม่เอื้ออำนวยจริงๆ แต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว เป็นธรรมดาที่ถังเฉาอยากพาครอบครัวตัวเองไป
หลังจากได้ยินประโยคนี้ของถังเฉา หลินชิงเสว่ตาแดงเล็กน้อย เธอมองถังเฉาตรงหน้าและเอ่ยขึ้น
“ฉันจะได้เจอคุณย่าแล้วใช่มั้ย”
ถังเฉาเพียงแต่พยักหน้าช้าๆ
“ใช่ แต่ก่อนหน้านั้นผมมีอีกเรื่องต้องจัดการ หลังจากจัดการเรื่องนี้แล้วผมจะพาคุณไปด้วย”
หลินชิงเสว่ได้ยินดังนั้นก็ไม่จี้ถาม เพียงแต่พยักหน้าอย่างเด็ดขาด
“ไม่เป็นไร คุณไปทำธุระเถอะ หลังจากคุณทำเสร็จแล้วฉันค่อยตามคุณไป อีกอย่างต่อให้คุณมีธุระจริงๆ คุณไม่ต้องพาฉันไปหรอก ฉันไม่คิดมาก”
ท่าทางของหญิงสาวตรงหน้า เชื่อฟังจนปวดใจจริงๆ
ถังเฉาลูบหลังหัวของหลินชิงเสว่เบาๆ
“ยัยโง่ ผมอยากพาคุณไปนานแล้ว คุณพูดอะไรน่ะ? ถ้ามีโอกาสผมต้องกลับมาหาคุณทันทีแน่นอน หรือว่าไม่ใช่ล่ะ?”
ที่จริงพูดมาถึงตรงนี้ ถังเฉารู้สึกผิดเล็กน้อย ถึงยังไงตัวเองก็ไม่ได้กลับมาหาหลินชิงเสว่ในทันที
แต่พอได้ยินแบบนี้ หลินชิงเสว่ไม่สงสัยอะไรเลยสักนิด เธอพยักหน้าด้วยท่าทีเชื่อฟัง
คืนนั้น เนิ่นนานกว่าหลินชิงเสว่และถังเฉาจะได้เข้านอน หลังจากที่ทั้งคู่หมดเรี่ยวหมดแรงแล้วถึงผล็อยหลับไปในที่สุด
เช้าวันรุ่งขึ้น ถังเฉาก็ออกไปข้างนอก
“เป็นยังไง เย่หรูอี้อยู่ที่ไหน”
ถังเฉาหยิบมือถือขึ้นมาและถาม
ดูเหมือนปลายสายจะให้คำตอบมา และบอกพิกัดที่แน่ชัด
“ได้ ฉันรู้แล้ว นายคอยจับตาดูเธออยู่ที่นั่นนะ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”
พูดจบถังเฉาก็วางสาย และขึ้นรถสปอร์ตของตัวเอง
“ไม่ได้กลับมานานเลย ที่นี่ดีกว่าจริงๆ”
ในราชวงศ์ต้าเซี่ยแทบไม่มีรถสปอร์ต รถ SUV เลย มีแต่รถม้า ออกจะคล้ายๆกับสังคมสมัยโบราณอยู่หน่อยๆ ถึงไม่ได้ละทิ้งเรื่องเทคโนโลยี แต่ที่นู่นดูจะไม่ค่อยฝักใฝ่ของเหล่านี้เท่าไหร่
ถังเฉาไม่ได้ขับรถมานานมาก พริบตาที่ได้ขึ้นรถรู้สึกเบิกบานใจขึ้นมาเล็กน้อย
ขณะเดียวกัน เย่หรูอี้อีกด้านดูเหมือนจะรู้ข่าวที่ถังเฉากลับมาแล้ว ตอนนี้เธอกำลังนั่งอยู่ในบ้านของตัวเอง รอคอยการมาของถังเฉา
เย่หรูอี้ในตอนนี้ไม่มีกิจการใดๆในมือ หมกตัวอยู่ในคฤหาสน์ทุกวัน ไม่มีใครรู้ว่ารายได้เธอมาจากทางไหน
“ไม่รู้ว่าหลังจากยัยเด็กนั่นกลับไปแล้วได้สอนกังฟูที่เราสอนให้กับคนของราชวงศ์ต้าเซี่ยหรือไม่”
หลังจากพูดประโยคนี้เสร็จ หญิงข้างกายเย่หรูอี้ไม่สามารถกลั้นหัวเราะได้อีกต่อไป
“ไม่ต้องห่วงหรอก เธอเป็นไร้เดียงสามาก กลับไปแล้วต้องรีบอวดศิลปะการต่อสู้ของตัวเองแน่ๆ”
“ถ้าไม่ถูกพบว่าศิลปะการต่อสู้ของเธอมีปัญหา เธอต้องไปสอนคนอื่นอย่างแน่นอน”
คนที่นั่งอยู่ด้านข้างก็คือหงเหลียนนั่นเอง
ไม่มีใครรู้ว่าหงเหลียนและเย่หรูอี้มาสมคบกันได้ยังไง แต่ดูจากท่าทีของทั้งสองคนแล้วดูเหมือนจะรู้จักกันมานาน
“เป็นแบบนั้นก็ดีที่สุด ถ้าไม่ถูกจับได้ ด้วยอิทธิพลของเด็กสาวคนนั้น ทำลายตระกูลได้อย่างน้อยครึ่งหนึ่งเลยล่ะ”
พูดไป เย่หรูอี้ก็อดหัวเราะไม่ได้ ราวกับแผนร้ายกำลังจะสำเร็จแล้ว
ทว่าจู่ๆหงเหลียนข้างๆก็พูดขึ้นมา
“แต่อย่าให้ไอ้หนุ่มนั่นจับได้เชียวนะ ไอหนุ่มนั่นไม่ธรรมดา”
คนที่หงเหลียนกล่าวถึงก็คือถังเฉานั่นเอง พลังของถังเฉานั้น หงเหลียนทราบดี
ถ้าเขาเห็นวิชาของเย่โฮ่เอ๋อ เขาต้องรู้ได้ในทันทีว่านี่เป็นวิชาของหว่างเหลียง
แต่ตอนที่หงเหลียนพูดถึงถังเฉา สายตาเย่หรูอี้ดูเหมือนจะเกิดการเปลี่ยนแปลง
“เป็นอะไรไปคุณเย่ หรือนี่ไม่ใช่ผลลัพธ์ที่คุณต้องการหรอ? ถ้าทั้งราชวงศ์ต้าเซี่ยถูกทำลาย ไอ้หนุ่มถังเฉาก็ต้องตายอย่างแน่นอน”
หงเหลียนมองตาของเย่หรูอี้และถาม
หลี่เล่อและไวโอเล็ตกลับมาได้พักใหญ่แล้ว และกลับไปยังฐานทัพใหญ่แล้วด้วย ทั้งยังรายงานสถานการณ์กับเบื้องบนไปเรียบร้อย
ยังไงซะถ้าต้องการรักษาชีวิตของตัวเองจำเป็นที่จะต้องเปิดเผยข้อมูลที่มีมูลค่าบ้าง เพียงแต่ไม่เป็นภัยต่อถังเฉา
หลังจากเย่หรูอี้ทราบข่าวถังเฉาจากหงเหลียนแล้ว ไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือเสียใจดี
“ไม่เป็นไร ในเมื่อยังไงก็ต้องกำจัดเขาก็กำจัดซะ ถึงยังไงตอนนั้นเขาหมดเยื่อใยซะขนาดนั้น ฉันไม่จำเป็นต้องทำอะไรที่ไร้ความหมายหรอก”
เย่หรูอี้พูดทั้งที่หัวใจบีบแน่น แต่ในความเป็นจริงคำเหล่านี้ไม่ได้เป็นเจตนาที่แท้จริงของเธอ เธอเพียงแต่ปากแข็งไปอย่างนั้น
ทันใดนั้น หงเหลียนก็สัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่าง คิ้วขมวดเป็นปมและหันไปดูที่หน้าต่างข้างๆ
“เกิดอะไรขึ้นคุณหงเหลียน หรือว่ามีใครมาอย่างนั้นหรอ?”
ถึงแม้เย่หรูอี้จะไม่ได้มีวิชาการต่อสู้แต่อย่างใด ทว่าเธอมีความรู้สึกที่เฉียบแหลม เห็นสีหน้าของหงเหลียนแล้วก็รู้ว่าจะต้องมีอันตรายอยู่รอบๆนี้แน่
“ไม่รู้สิ แต่ต้องมีคนจับตาดูเราอย่างแน่นอน จะพูดจะจาก็ระวังหน่อย อย่าให้ใครจับผิดเอาได้”
หลังจากที่ได้ยินประโยคนี้ เย่หรูอี้อีกด้านก็มีสายตาที่เคร่งเครียดลง
“ช่วงนี้ไม่ได้มีอะไรแล้ว ทำไมถึงเป็นวันนี้ที่มีคนมาแอบดูเรากันนะ?”
พูดมาถึงตรงนี้ หงเหลียนยิ้มบางๆและหันมองเย่หรูอี้ที่อยู่ข้างๆพลางเอ่ย
“เรื่องนี้พูดยากจริงๆ อาจจะเป็นนักฆ่า หรืออาจจะชายหนุ่มคลุ้มคลั่งที่สะกดรอยตามเรามา”