เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 97 ปากซีดขบฟัน
บทที่97 ปากซีดขบฟัน
ถังเฉาเหรอ?!
ในเวลานี้ โจวเหม่ยหยูน หลินฉ่ายเวย และโจวเหม่ยหลิง ในหัวคิดไปต่างๆนานาถึงชื่อร้อยแปดพัน ชื่อ สีหน้าตกใจระคนเหลือเชื่อ
หลินฉ่ายเวยบ่นพึมพำ“เป็นไปไม่ได้ นี่เป็นไปไม่ได้……เป็นเขาไปไม่ได้!”
“เป็นใครกัน?!”
โจวฉวนกั๋วหันพรวดไปทางหลินฉ่ายเวย ตะคอกเสียงดัง
หลินฉ่ายเวยกัดริมฝีปาก แววตาแค้นเคือง พูดขึ้น“เขาชื่อถังเฉา เป็นลูกบุญธรรมตระกูลหลิน เป็นเพราะเขา พวกเราตระกูลหลินถึงได้โดนตระกูลซ่งโจมตี”
เป็นเพราะสถานะลูกบุญธรรม พวกโจวเหม่ยหยูนเลยไม่เคยพาถังเฉามาที่บ้านสกุลโจวเลยสักครั้ง แต่ว่าโจวฉวนกั๋วก็ยังคงเคยได้ยินอยู่บ้าง
“แต่ว่าเมื่อห้าปีก่อน งานแต่งงานซ่งหรูอี้คุณหนูตระกูลซ่ง ถังเฉาคือคนที่ไปปรากฏตัวในงานใช่หรือไม่”
“ใช่”
ดังนั้น โจวฉวนกั๋วจึงจมดิ่งอยู่ในความคิด สีหน้าเขียวคล้ำ และดูหม่นหมอง
หลินฉ่ายเวยมองโจวฉวนกั๋วอย่างตกตะลึง พูดขึ้น“คุณปู่คงไม่ได้สงสัยสวะนั่นหรอกใช่มั้ยคะ”
ชะงักงัน หลินฉ่ายเวยพูดขึ้นอีก“เป็นเขาไปไม่ได้ เขาหายตัวไปห้าปีแล้วนี่ เพิ่งกลับมาเอง ทั้งไม่มีเงินและไม่มีอำนาจ จะมารู้จักผู้มีอิทธิพลได้ไง”
“แล้วแกว่า น่าจะเป็นใครล่ะ”
โจวฉวนกั๋วสีหน้าบิดเบี้ยว
“คือ……”
หลินฉ่ายเวยเองก็ตอบไม่ได้ จึงรีบหุบปาก
โจวฉวนกั๋วกวาดตาคมกริบไปรอบห้องผู้ป่วย พูดเสียงลุ่มลึก“ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ หาผู้มีอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ แล้วไปขอขมา แบบนี้ ตระกูลโจวถึงจะกู้ชีพได้!”
“ทุกคนไปคิดมา หมู่นี้ไปล่วงเกินใครไว้บ้าง!”
ในห้องผู้ป่วยไม่มีเสียงสักแอะ ทุกคนต่างระดมสมองคิดว่าไปล่วงเกินผู้หลักผู้ใหญ่ที่ไหนเอาไว้
แต่ว่า ก็ยังคิดไม่ออก
ตึกๆๆ—-
ในเวลานี้เอง ระเบียงด้านนอกประตู จู่ๆก็มีเสียงฝีเท้าเดินมา
จากนั้น เสียงเพล้งดังขึ้น ประตูห้องผู้ป่วยถูกผลักออกอย่างแรง ชายสวมเครื่องแบบหลายคนเดินเข้ามา
พวกเขาไม่พูดพร่ำทำเพลง จะพาโจวเหม่ยหยูน หลินฉ่ายเวย โจวเหม่ยหลิงไป
“พวกแกเป็นใครกัน มาจับพวกเราทำไม”
“พวกเราทำอะไรผิด ทำไมต้องมาจับพวกเรา!”
โจวเหม่ยหยูนกับหลินฉ่ายเวยร้องอย่างตระหนก ดิ้นสุดกำลัง แต่ก็โดนผู้หญิงผมสั้นสองสามคนกด ไว้
“พวกแกมีสิทธิ์เงียบ”
ผู้ชายที่เป็นหัวหน้ากวาดสายตามองทุกคนมาอย่างมาดร้าย พร้อมควักเอกสารออกมาจากกระเป๋า พูดเสียงเย็น“พวกเราสงสัยว่าทุกคนมีส่วนเกี่ยวข้องกับเอกสารนี้ ในช่วงดำเนินคดี ต้องการความร่วมมือจากทุกคน”
คนอื่นๆในสกุลโจวต่างตกใจจนหายใจไม่ทั่วท้อง ได้แต่พยักหน้ารับ
มีเพียงโจวฉวนกั๋วที่สูดลมหายใจลึก เข้าใจในความสัมพันธ์อันลึกซึ้ง
เพราะแบบนี้ โจวเหม่ยหยูน หลินฉ่ายเวย โจวเหม่ยหลิงจึงถูกพาตัวไป
ในห้องผู้ป่วยเงียบจนวังเวง ทุกคนกำลังหวาดผวาเรื่องที่พวกโจวเหม่ยหยูนถูกพาตัวไป จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เกรงว่าจะเป็นการนำอัคคีมาสู่เรือน
โจวฉวนกั๋วราวกับเข้าใจอะไรบางอย่าง สูดลมหายใจเข้าลึก ชี้ไปที่โจวเฉินเหยาพูดขึ้น“ตีขามันให้หัก!”
“คุณปู่!”
โจวเฉินเหยาตัวสั่นเทา ล้มฟุบลงกับพื้น สีหน้าซีดเซียว“ตกลงผมทำอะไรผิด คุณปู่ถึงต้องตีขาผมหัก”
โจวเสว่หลินเองก็คุกเข่าลงตรงหน้าโจวฉวนกั๋ว ร้องไห้คร่ำครวญ“พ่อคะ ไม่ว่าโจวเฉินเหยาจะทำอะไรผิด แต่เขาก็เป็นหลานคุณพ่อนะคะ คุณพ่อจะลงไม้ลงมือได้ลงคอเชียวหรือคะ”
สีหน้าของโจวฉวนกั๋วเองก็ยากที่จะอดกลั้น แต่ก็ยังข่มไว้ซึ่งน้ำเสียง“เฉินเหยา เสว่หลิน พวกแกยังไม่เข้าใจ”
“เข้าใจ……อะไรครับ”ใจของโจวเฉินเหยาเต้นเร็วดุจจรวด
“ตระกูลโจวของเรา พินาศอยู่ในมือพวกแก”
โจวฉวนกั๋วพูดเสียงเยียบ“ทำไมพวกเขาไม่จับพวกเราล่ะ จับไปแต่เหม่ยหยูน ฉ่ายเวย และเหม่ยหลิงแสดงว่าพวกเขาพุ่งเป้าไปที่พวกเธอ ส่วนแก ไปทำลายบริษัทของเจิ้นสง ทำร้ายร่างกายเขา พวกเขาจะปล่อยแกไปเหรอ”
ฉับพลัน สีหน้าโจวเฉินเหยาซีดดั่งศพ
โจวฉวนกั๋วพูดต่อ“อสรพิษไม่กินลูกตัวเอง เฉินเหยา อย่าหาว่าปู่อำมหิตเลยนะ เกี่ยวเนื่องกับความเป็นความตายสกุลโจว แกต้องสละชีวิตตัวเอง”
พูดจบ พวกเขาจึงกระพริบตาอย่างร้ายกาจ มองไปทางชายฉกรรจ์ประจำบ้านตระกูลโจว“ลงมือ!”
“ครับ!”
พวกเขาซ้ายคนขวาคน ไม่นานก็กดโจวเฉินเหยาลงกับพื้น ไม่ให้ขยับ
อย่างรวดเร็ว ชายคนหนึ่งหยิบไม้พลองขนาดหนาออกมา เล็งไปที่ขาขวาของโจวเฉินเหยา
“คุณปู่ คุณปู่ ผมผิดไปแล้ว!ผมจะไม่ช่วยพวกน้าสองอีกต่อไปแล้ว ไว้ชีวิตผมเถอะ!ผมไม่กล้าแล้ว ไม่กล้าแล้วจริงๆ!”
แววตาโจวเฉินเหยาหดลง ตะโกนเสียงแหลม น้ำเสียงหวาดผวาขีดสุด
หากแต่ โจวฉวนกั๋วยังคงไม่สะทำสะท้าน สีหน้าเฉยชา
“อ๊ากกกกกกกก—-”
ในโรงพยาบาล เกิดเสียงโหยหวยทรมานขึ้นฉับพลัน
คนในตระกูลโจวคนอื่นๆ ต่างเบนหน้าออก ไม่สามารถมองดูภาพอันน่าหวาดผวานี้
โจวเฉินเหยาลากขาที่หัก คลานอยู่บนพื้น ดวงตาเบิ่งโพลง มือหนึ่งตะเกียกตะกาย ราวกับจะคว้าอะ ไร
แต่ว่า วินาทีถัดมา เสียงเขาหล่นตุ๊บ เป็นลมล้มพับไป
โจวฉวนกั๋วมองภาพนี้ด้วยแววตาเย็นชา พูดเสียงเรียบ“พรุ่งนี้พาเจ้าหนูนี่ไปกับข้า ไปขอขมาตระกูลหลิน”
“ค่ะ คุณพ่อ”
โจวเสว่หลินคุกเข่าลงบนพื้น ไม่กล้าขัดขืน
ในขณะเดียวกัน
จ้าวลิ่วเดินออกมาด้วยสีหน้าอึมครึม ด้านหลังเขา มีวัยรุ่นตามมาคนหนึ่ง คือ จ้าวเชียนจูน
เมื่อเห็นสีหน้าเขียวคล้ำของผู้เป็นบิดา จ้าวเชียนจูนเองก็รู้ว่าตัวเองทำเสียการแล้ว อดไม่ได้พูดขึ้น“คุณพ่อครับ เรื่องนี้โทษผมไม่ได้……”
ผัวะ—-
จ้าวเชีนยจูนพูดยังไม่ทันจบ จ้าวลิ่วก็ตบฉาดลงบนใบหน้าจ้าวเชียนจูนอย่างแรง น้ำหนักของแรง ทำให้หน้าหันไปไกล
จ้าวเชียนจูนคลานบนพื้นทุลักทุเล ไม่แสดงความโกรธแม้แต่น้อย สำหรับบิดา ตัวเขากลัวจับใจ
“ดูสิว่าแกทำอะไรลงไป”
จ้าวลิ่วมองจ้าวเชียนจูนราวกินเลือดกินเนื้อ พูดด้วยสีหน้าดุดัน“แนะนำแกให้หวางเยี่ยนตระกูลหวาง เพราะอยากให้แกไปจับตาดูเธอ ดูว่าเธอจะทำอะไรที่คุกคามสกุลจ้าวมั้ย แต่แกสิ ภารกิจยังไม่เสร็จสิ้น ทำให้ลูกน้องฉันโดนจับเป็นพรวน แกคิดว่าแกเป็นลูกฉัน แล้วฉันจะไม่กล้าเอาแกตายหรือไง”
“ไม่ ไม่ใช่ครับ……”จ้าวเชียนจูนรีบส่ายหน้า
“จำไว้ แกเป็นแค่ลูกแอบของฉัน”
จ้าวลิ่วกวาดตามองจ้าวเชียนจูนจากบนลงล่าง พูด“ฉันใช้เงินสนุนแก จนทำให้แกมีวันนี้ได้ เพราะอยากให้แกช่วยคืนความยุติธรรมให้กับฉัน ไม่ใช่ให้แกมาช่วยทำให้พัง ถ้ามีครั้งหน้า ฉันจะไม่ไว้ชีวิตแก”
“ครับ คุณพ่อ……”
จ้าวเชียนจูนตัวสั่นงันงก แววตาหวาดกลัวถึงขีดสุด กัดฟันกรอดๆ ชื่อของคนทั้งสอง ประทับแน่นอยู่ ในใจเขา
“ถังเฉา และยังมีหวางเยี่ยนผู้หญิงสารเลว……ฉันไม่เอาพวกแกไว้แน่”