เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 91 สภาวะกดดันของแม่ทัพ
บทที่91 สภาวะกดดันของแม่ทัพ
ถังเฉาพูดจบ จ้าวเชียนจูนตกตะลึง
จากนั้นราวกับว่าได้ฟังเรื่องตลก จึงหัวเราะพรืดออกมา“ว่าอะไรนะ นักโทษที่หนีไปพวกนั้นจะกลับมาอีก”
“ถูกต้อง”
ถังเฉาพยักหน้า พูดอย่างออกรส“ไม่เพียงแค่จะวิ่งกลับมา จะกลับมารับโทษพร้อมน้ำหูน้ำตาด้วย แล้วให้ตำรวจจับอย่างว่าง่าย”
“ฮ่าๆๆ!”
จ้าวเชียนจูนหัวเราะอย่างสุขใจขึ้นไปอีก หัวเราะจนน้ำตาเล็ด“นายรู้ได้ไงว่าคนเหล่านั้นจะโผล่มา นายคิดว่าคนอื่นโง่นั้นเหรอ รู้ทั้งรู้ว่าที่นี่มีตำรวจ ใครเขาจะเดินเข้ามาหาปืน แหมไม่ใช่หรอก ขำตายชัก……”
หวางเยี่ยนมองถังเฉาอย่างแปลกๆ“นั่นสิ นักโทษที่ไหนจะโง่ได้ขนาดนี้”
“เพราะว่า สำหรับพวกเขาแล้ว ถ้าเทียบกับจุดจบทั่วไป โดนตำรวจจับเสียยังดีกว่า”
ถังเฉาไม่โต้เถียง ได้แต่เม้มปากจิบกาแฟเบาๆ แล้วพูดในสิ่งที่คนอื่นไม่เข้าใจ
“อย่ามัวแต่พูดพล่ามทำเพลงอยู่เลย วันนี้ เรื่องที่แกทำร้ายสมาชิกของสมาคมการต่อสู้ของฉันยังไม่จบ!”
จ้าวเชียนจูนเดินไปหยุดตรงหน้าถังเฉา จึงก้มมองพูด“พวกเราไม่เอาเงินหรอก พวกแกซ้อมหม่าจงยังไง ฉันก็จะซ้อมแกแบบนั้นแหละ เกรงว่าวันนี้หน้าของแก ก็คงต้องลายแล้วล่ะ”
“จ้าวเชียนจูน แกจะให้ฉันเก็บแกวันนี้ให้ได้ใช่ไหม”
หวางเยี่ยนพูดเสียงเย็นชา“ฉันเป็นตำรวจ แกกล้ามาพูดเรื่องวิวาทส่วนตัวต่อหน้าฉันเหรอ”
“……”
จ้าวเชียนจูนสีหน้าเปลี่ยน รีบเปลี่ยนคำพูด“ฉันก็แค่พูดไปงั้นแหละ เพื่อนฉันจะโดนซ้อมฟรีก็ไม่ได้ แกดูหน้าเขา จะหมดสภาพคนอยู่แล้ว”
จากนั้น หวางเยี่ยนมือกุมปากมองหม่าจงอย่างตกตะลึง พูดขึ้น“ขอโทษที นั่นเป็นการป้องกันตัวธรรมดาน่ะ”
“อะไรนะ?!”
จ้าวเชียนจูนสีหน้าเปลี่ยนทันที แววตาทึมลง“หมายความว่าไง”
หวางเยี่ยนพูดสีหน้าจริงจัง“ฉันเห็นเต็มตา เพื่อนคุณลงมือกับคุณถังก่อน คุณถังอดรนทนไม่ไหว ถึงได้สู้กลับ ถ้าจะชำระความจริงๆ ก็บอกได้แค่ว่าเป็น‘การป้องกันตัว”
แควก—-
พอพูดออกไป สีหน้าของจ้าวเชียนจูนแปรเปลี่ยนเป็นเจ้าเล่ห์ทันที เงื้อฝ่ามือขึ้น ตบลงไปบนหน้าหวางเยี่ยน“หวางเยี่ยน ฉันว่าแกตาบอด”
หวางเยี่ยนไม่มีวิทยายุทธ์ จะเป็นคู่ต่อสู้ของจ้าวเชียนจูนได้อย่างไร จึงตะคอกออกมา“แกจะทำอะไรน่ะ”
แควก—-
จากนั้น ฝ่ามือนั้นก็ตบไม่ลง จ้าวเชียนจูนราวกับต้องมนต์ แข็งทื่ออยู่ตรงนั้น
เขาตัวสั่นเทา หน้าผากของเขา มีหยดเหงื่อไหลท่วม
ถังเฉายังคงนั่งนิ่งอยู่ที่เดิมไม่ไหวติง แต่ว่ากาแฟในแก้วถูกกวนจนไม่เหลือรสชาติแล้ว
หวางเยี่ยนจ้องเขม็ง สีหน้าเปลี่ยนทันที
ผนังด้านหลังจ้าวเชียนจูน มีมีดสั้นปักอยู่พอดี
มีดสั้นปักลึกอยู่ตรงผนัง แรงปะทะที่น่าหวาดหวั่น ทำให้มีดสั้นที่ปักอยู่สั่นคลอน
ซึ่งก็หมายความว่า มีดสั้นเล่มนี้แล่นเฉียดหัวจ้าวเชียนจูนไป แล้วปักลงบนผนัง เพียงแค่ขยับเล็กน้อย หัวของจ้าวเชียนจูนก็จะถูกปักได้อย่างง่ายดาย……
น้ำเสียงเรียบของถังเฉาค่อยๆดังขึ้น“ถ้าแกกล้าขยับ ต่อไปก็คือลำคอแก”
ต๋อม—-
จ้าวเชียนจูนเข่าอ่อน ราวกับสูญเสียกำลังก็ไม่ปาน นั่งลงไปบนพื้น
ช่วงระหว่างขา เปียกชุ่มไปด้วยของเหลวสีเหลือง
เมื่อครู่ เขาตกใจจนฉี่ราด
หวางเยี่ยนเองก็หันศีรษะมา พูดกับถังเฉาว่า“ขอบคุณที่ช่วยเหลือ”
ถังเฉาไม่สบอารมณ์ มองดูนาฬิกาในมือ พูดพึมพำกับตัวเอง“ได้เวลาแล้วล่ะ”
“อะไรได้เวลา……”
หวางเยี่ยนสีหน้างุนงง เธอตื่นตัว และก็นับว่าอ่านใจคนออกไม่น้อย แต่ไม่มีคนไหนที่เดาใจยากอย่างถังเฉาเลย เธออ่านใจไม่ออก
ในขณะที่กำลังจะเข้าไปถาม ฉับพลัน มีเสียงอึกทึกครึกโครมเกิดขึ้น และมีเสียงกรีดร้อง
“เกิดอะไรขึ้น?!”
ตามสัญชาตญาณ หวางเยี่ยนพุ่งตัวออกจากร้านกาแฟ
แต่เมื่อเห็นภาพตรงหน้า หวางเยี่ยนก็ตกตะลึง
โครม—-
รถตู้คันหนึ่งขับฉวัดเฉวียนเป็นรูป’S’ พุ่งตรงมา ทำให้คนโดยรอบแตกกระจาย
เมื่อมองผ่านกระจก เห็นได้ชัดว่า คนขับในรถน่ากลัวถึงขีดสุด แม้แต่พวงมาลัยก็ยังบังคับได้ไม่นิ่ง
พวกเขาขับรถมาจอดตรงหน้าร้านกาแฟ ชายกลุ่มหนึ่งเปิดประตู เดินตะลีตะลานมาทางหวางเยี่ยน
เมื่อมองหน้าผู้คนเหล่าชัดแล้ว หวางเยี่ยนเบิ่งตาโพลงทันที คนพวกนั้นเป็นนักโทษต้องคดี!
“พวกเขา……กลับมาแล้วเหรอ?!”
หวางเยี่ยนตะลึงถึงขีดสุด เป็นตำรวจมาหลายปี เธอเพิ่งเคยเห็นนักโทษที่หนีไปแล้วกลับมา
“เป็นไปไม่ได้!พวกเขาจะกลับมาได้ไง!”
ในร้านกาแฟ จ้าวเชียนจูนสงบลงแล้ว แต่พอเห็นคนในสกุลจ้าวกลับมา จึงมองอย่างเหลือเชื่อ
เขาคิดจนหัวระเบิดก็ยังคิดไม่ออก คนที่หนีออกไปได้โดยความคุ้มครองของเขา กลับวิ่งกลับมาอีก!
เพราะอะไร?
มีเพียงถังเฉา ที่ใบหน้านิ่งสงบ ไม่ประหลาดใจกับเหตุการณ์นี้
“ไม่สิ พวกเขาดู……หวาดกลัว”
หวางเยี่ยนเองก็สมกับที่เป็นตำรวจ มองก็เห็นปัญหา
สีหน้าทุกคนขาวซีดราวกระดาษ ผมเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ ราวกับได้เห็นเหตุการณ์น่ากลัว แล้ววิ่งเข้าขอความช่วยเหลือตำรวจ
โครม……
โครม……
พวกเขาวิ่งมาตรงหน้าหวางเยี่ยน คุกเข่าลงพร้อมเพรียง ยื่นมือทั้งสองออก น้ำหูน้ำตาไหลพูดกับ หวางเยี่ยนว่า“คุณเป็นตำรวจสินะ รีบล๊อคข้อมือพวกเราเถอะ!”
“ยังมีผมด้วย จับผมไปด้วยคน”
“รีบพาพวกเราไปมอบตัวเถอะนะ ไม่งั้นพวกเราจะต้องตาย……”
หวางเยี่ยนไม่ขยับ และไม่ได้หยิบกุญแจมือออกมา
เธอยืนตะลึงอยู่กับที่ คำพูดของคนเหล่านี้ลอยวนอยู่ในหัว
สุดท้าย เธอนึกถึงคำพูดคำหนึ่งของถังเฉา
“สำหรับพวกเขาแล้ว ก็เป็นจุดจบในบางเรื่อง ยอมโดนตำรวจจับเสียดีกว่า”
ชั่วขณะ หวางเยี่ยนราวคิดอะไรได้ เธอรีบหมุนตัวกลับ หันไปทางถังเฉา
แววตาที่มองหวางเยี่ยนอย่างตะลึงงัน ถังเฉายิ้มบาง ดื่มกาแฟหมดแก้ว และออกมาข้างนอก หวางเยี่ยนกำลังจะถามเขาว่าเกิดอะไรขึ้น เสียงอึกทึกครึกโครม จู่ๆก็สนั่นหวั่นไหว
แรกเริ่มเดิมที การสั่นไหวเพียงเล็กน้อย ต่อมา การสั่นไหวเริ่มรุนแรงขึ้น แม้แต่พื้นหินด้านหน้า ก็สั่นสะเทือน
อากาศขมุกขมัว ไม่ถ่ายเทอีกต่อไป ทุกคนสัมผัสได้เป็นการสั่นสะเทือนจากกองทัพ เป็นการบุกของทหารกองกำลังกำลังจะบุกทำลายล้าง!
เมื่อได้ยินเสียงอึกทึกครึกโครม ชายกลุ่มนั้นตกใจราวนก พวกเขารับไม่ได้กับไอสังหารเยี่ยงนี้ กำหมัดแน่น ขดตัวลงบนพื้น ตัวสั่นอย่างแรง
หวางเยี่ยนกับจ้าวเชียนจูนเบิ่งตาโพลง เป็นความรู้สึกสะเทือนวิญญาณ ที่ผุดขึ้นมา
ต่อจากนั้น พวกเขาเห็นฉากที่ยากจะลืมเลือน
โครม—-
ที่ราบอันแสนไกลออกไป มีกองทัพที่ทะลักมาราวกับสายน้ำสีดำ ที่ค่อยๆทะลักเข้ามายังใจกลางเมืองทุกๆที่ที่ผ่าน ลานตาไปด้วยกองทัพม้าและทหาร ฝุ่นตลบ
รถยังคงขับผ่านไปมา คนเดินถนนต่างหยุดมอง ยังมีบางคน หยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายคลิป
รถห้าสิบคันที่เต็มไปด้วยอาวุธทหาร ราวกับกองทัพขนาดใหญ่ที่แล่นบนท้องถนน
รอบๆรถขนอาวุธเหล่านั้น มีทหารเต็มยศเฝ้าอยู่สิบนาย
“หนึ่งแท่ง……”
“กองทัพเหรอ?!”
หวางเยี่ยนใจระส่ำ จ้าวเชียนจูนสีหน้าซีดขาว
ภายใต้ไอกรุ่นของไอสังหาร พวกเขาเป็นแค่มดตัวเล็กๆ จึงอดรู้สึกที่อยากเข้าไปกราบกรานไม่ได้
คราวนี้ พวกเขารู้แล้วว่าทำไมพวกนักโทษถึงวิ่งกลับมาหาหวางเยี่ยน และอยากหนีกลับมา
เพราะว่า พวกเขาถูกกองทัพไล่กลับมา!