เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 433 ตายก็ไม่เสียใจ
ถังเฉากับเฟิ่งหวงมองฉากนี้ด้วยความสงบ ไม่มีความแปลกใจเลยสักนิด
การที่ตระกูลเหยียนตกมาอยู่ถึงสถานะแบบนี้ล้วนเป็นความจริงที่พวกเขาคาดเดาไว้
เพียงแต่ตั้งแต่ออกมาจากสี่แดนใหญ่ก็มีการระเบิดโทสะครั้งนี้นี่ล่ะที่ทนรับความคุกคามไม่ได้ที่สุด
โดยเฉพาะเถี่ยเมี่ยนที่เคยติดค้างชีวิตกับถังเฉาไว้หนึ่งชีวิตเช่นนี้ยิ่งรู้จักหาวิธีตอบแทนบุญคุณ
ตระกูลเหยียนกลับให้เถี่ยเมี่ยนไปสังหารถังเฉา เขาจะยินดีได้อย่างไร?
“เจ้ามังกร ผมจัดการทั้งหมดนี้แทนคุณแล้ว เมืองหมิงจูไม่มีใครที่จะสามารถคุกคามคุณได้อีก”
รอบด้านไร้ผู้คน ในที่สุดเถี่ยเมี่ยนก็เรียกฐานะที่แท้จริงของถังเฉาออกมา
ถังเฉาพยักหน้า กำลังเตรียมจะออกไปจากบ้านใหญ่ตระกูลซ่ง กลับพบว่าเถี่ยเมี่ยนตามหลังเขามาติด ๆ
เขาหันกลับไปมองแวบหนึ่งแล้วเอ่ยถามว่า “ตอนนี้คุณเป็นอิสระแล้ว ทำไมยังไม่ไปอีก?”
เถี่ยเมี่ยนมีสีหน้าเอาจริงเอาจัง “หลายปีก่อนเจ้ามังกรไว้ชีวิตผมครั้งหนึ่ง นึกไม่ถึงว่าตอนนี้จะเสียมารยาทต่อเจ้ามังกรอีก ผมเป็นคนมีความผิด ถ้าหากไม่ทำอะไรสักหน่อยก็จะมีความรู้สึกละอายใจ!”
ถังเฉาเงียบไปพักหนึ่ง แล้วเอ่ยถามขึ้นกะทันหันว่า “คุณอยากจะติดตามผม?”
“ใช่ครับ!”
เถี่ยเมี่ยนคุกเข่าข้างเดียวอยู่บนพื้น สองมือลูบหน้าอก ทำตามมารยาทอันสูงสุดของแดนเหนืออย่างถูกต้อง
ถังเฉาสัมผัสได้ถึงความบริสุทธิ์ใจของเขา พยักหน้า
“ในเมื่อคุณคิดดีแล้ว เช่นนั้นก็ติดตามผมมาเถอะ”
“แต่ผมขอบอกคุณไว้ก่อนนะ ติดตามผมคุณจะต้องพบเจออันตรายอีกมาก”
เถี่ยเมี่ยนผ่อนลมหายใจอย่างยกภูเขาออกจากอก “ให้อันตรายกว่านี้ จะอันตรายได้เท่าแดนเหนือหรือครับ?”
ถังเฉายิ้มและไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก
แอ๊ด!
เขาผลักประตูใหญ่ของบ้านตระกูลซ่งออก เอ่ยเสียงดังว่า “หลินโป๋หลายอยู่ไหน?”
หญิงรับใช้ตระกูลซ่งมองสภาพน่าสยดสยองที่อยู่เต็มบ้าน ไหนเลยจะกล้าไม่บอกความจริงกับอีกฝ่าย
“อยู่ชั้นบนห้องแรกค่ะ!”
ถังเฉาครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง จากนั้นก็เอ่ยกับเฟิ่งหวง เถี่ยเมี่ยนและหงโฝว่า “พวกคุณไปหาหลินโป๋หลาย ถังหลินปล่อยไว้ก่อนได้ แต่ว่าหลินโป๋หลาย เขาจำเป็นต้องตาย!”
“ค่ะ รองหัวหน้า!”
ในดวงตาของเฟิ่งหวงมีประกายเย็นเยียบอยู่น้อย ๆ
รองหัวหน้าไว้ชีวิตเขามาหลายครั้ง เขากลับไม่รู้จักเห็นคุณค่า ลอบวางแผนชั่วหลายต่อหลายครั้ง!
สมควรตายไปนานแล้ว!
เธอกำลังเตรียมจะขึ้นไป กลับพบว่าถังเฉาไม่ได้ขึ้นไปด้วย กลับเดินไปหลังบ้าน
ที่นั่นคือห้องของซ่งหรูอี้
เฟิ่งหวงเข้าใจอะไรได้ในทันที ไม่เข้าไปก้าวก่ายอีก
มีบุญคุณความแค้น มีแต่ต้องรองหัวหน้าไปเพียงลำพังแล้ว
“ไปกันแถอะ พวกเราไปหาหลินโป๋หลายกัน”
เฟิ่งหวงนำเถี่ยเมี่ยนกับหงโฝมาถึงห้องห้องแรกด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก เตรียมจะเปิดประตู กลับพบว่าประตูห้องล็อกไว้แล้ว
เธอยิ้มอย่างเยาะหยัน “คิดว่าทำแบบนี้แล้วฉันจะเข้าไปไม่ได้หรือ?”
นาทีต่อมา เธอยกขาขึ้น ถีบเข้าไปอย่างรุนแรงหนึ่งที
โครม!
ประตูห้องถูกถีบจนแตกเป็นสี่ห้าชิ้น
ส่งเสียงดังออกมา และก็ดึงดูดความสนใจของคนที่อยู่ในห้อง
“ใคร?”
ทั้งหลินโป๋หลายกับถังหลินล้วนแต่ตกใจ
หลังจากตอนที่เห็นเฟิ่งหวง เถี่ยเมี่ยน และหงโฝสามคน ใบหน้าของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความตื่นตระหนก
“พวกแก… ทำไมยังไม่ตาย?”
เฟิ่งหวงยิ้มเย็น “ทำไมพวกเราจะต้องตายล่ะ?”
“เพราะว่า…”
หลินโป๋หลายเพิ่งคิดจะพูดว่ามีนักฆ่าของแดนตะวันตกอยู่ พวกเขาจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย สายตาก็ตกอยู่บนร่างของเถี่ยเมี่ยนที่อยู่ด้านหลังเฟิ่งหวง
ทันใดนั้น ลูกตาก็เบิกกว้างจนแทบจะหลุดออกมานอกเบ้า
“นาย… นาย…”
สายตาของหลินโป๋หลายหวาดกลัว ชี้ไปที่เถี่ยเมี่ยน พูดไม่ออกแม้แต่ประโยคเดียว
“แปลกใจมากใช่ไหม?”
มุมปากของเฟิ่งหวงยกขึ้น เอ่ยหยอกเย้า “เป็นศัตรูแท้ ๆ ทำไมถึงกลายเป็นพวกของเราไปได้?”
สีหน้าของหลินโป๋หลายกับถังหลินมีเลือดคั่งจนกลายเป็นสีแดงคล้ำในพริบตา นอกจากจะตกตะลึงแล้ว ก็คือความหวาดกลัวอย่างล้ำลึก
พวกเขาเองก็อยากรู้ว่านี่มันเรื่องอะไรกันแน่
ในตอนนี้ถังหลินก็ลุกขึ้นยืนในทันที “พวกแกจะฆ่าฉันไม่ได้นะ ฉันไม่ใช่คนที่อยู่ในแผนการนี้โดยสิ้นเชิง!”
เฟิ่งหวงมองเขาแวบหนึ่งอย่างเยือกเย็น “คุณควรจะขอบใจที่รองหัวหน้าปล่อยคุณไป ยังไม่รีบไสหัวไปอีก!”
สีหน้าของถังหลินไม่น่ามอง แต่ว่าหวาดกลัวในพลังบนร่างของเฟิ่งหวง จึงจากบ้านใหญ่ตระกูลซ่งไปอย่างฝืนทน ไม่กล้าตอบโต้
และหลินโป๋หลายที่ดูฉากนี้อยู่ก็กัดฟันพูดว่า “แกกล้ามากนะ ฉันเป็นถึงลูกพี่ลูกน้องของหลินชิงเสว่ แม้แต่ไอ้สวะถังเฉานั่นก็ยังไม่กล้าลงมือ แกจะกล้าได้อย่างไร?”
เพี๊ยะ!
เพิ่งจะสิ้นเสียงก็ถูกเฟิ่งหวงตบไปหนึ่งทีอย่างโหดร้าย
“คุณรู้ด้วยเหรอว่าคุณเป็นลูกพี่ลูกน้องของคุณหลิน? รู้ไหมว่ารองหัวหน้าคิดจะฆ่าคุณแล้ว ฉันได้รับคำสั่งมาฆ่าคุณ!”
เถี่ยเมี่ยนมองหลินโป๋หลายแวบหนึ่ง “คุณเฟิ่งหวง มดแมลงพวกนี้ไม่จำเป็นต้องให้คุณลงมือเอง ผมลงมือเองก็พอแล้วครับ”
“ไม่ได้ ๆ ฉันเป็นผู้น้อยที่สุด พวกคุณจะต้องให้ฉันทำ”
หงโฝส่ายศีรษะ สอดปากมาหนึ่งประโยค
เห็นพวกเขาสามคนโต้เถียงกันว่าใครจะมาฆ่าตน หลินโป๋หลายก็หวาดกลัวจนถึงที่สุด
“ไม่ พวกแกจะฆ่าฉันไม่ได้ ฆ่าฉันแล้วตระกูลหลินไม่ปล่อยแกไปแน่!”
เขากัดฟันพูด
ปัง!
เฟิ่งหวงถีบเขาลงพื้นครั้งหนึ่ง จากนั้นก็เหยียบอกของเขาไว้ มองเขาจากมุมบน
“จนถึงตอนนี้แล้วคุณยังจะยกภูมิหลังของคุณมาอีก? ขอพูดอย่างไม่เกรงใจเลยนะ ต่อให้ผู้มีฝีมือสูงของตระกูลหลินของพวกคุณมาที่นี่ วันนี้ก็ช่วยชีวิตคุณไว้ไม่ได้!”
ในที่สุดหลินโป๋หลายก็รู้จักกลัวแล้ว ในดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“แกกลับไปบอกถังเฉาว่าต่อไปฉันไม่กล้าจะไปทำอะไรเขาแล้ว ไม่กล้าแล้วจริง ๆ ถ้าหากเขาไม่เชื่อฉันยอมเป็นสุนัขของเขาก็ได้”
“โฮ่ง! โฮ่ง! โฮ่ง!”
ว่าแล้วยังร้องเลียนแบบสุนัขขึ้นมาอีก
แต่ทว่าเฟิ่งหวงกลับไม่เคลื่อนไหวใดใด “คุณคิดว่ามีสุนัขแบบคุณไปจะมีประโยชน์อะไร?”
นาทีต่อมา สายตาก็เย็นเยียบ
“ฆ่าล่ะนะ!”
ด้านหลัง ตะขอในมือของเถี่ยเมี่ยนก็เกี่ยวศีรษะของหลินโป๋หลายเอาไว้
“ไม่ อย่านะ!”
ในดวงตาของหลินโป๋หลายเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ตกใจจนหลับตาปี๋
ครืน!
แต่ว่านาทีถัดมา สายฟ้าแลบที่สว่างวูบวาบสายหนึ่งฉีกท้องฟ้าออก ส่องแสงมาที่พื้นจนสว่างไสว
แวบ!
เงาร่างของคนที่ไม่ชัดเจนเงาหนึ่งแวบมาจากข้างหน้าต่างราวกับเงาผี
“ใครกันน่ะ?”
ทันใดนั้นเฟิ่งหวง เถี่ยเมี่ยน กับหงโฝล้วนสัมผัสได้ถึงความกดดันมหึมาชนิดหนึ่ง
ผ้าม่านโปร่งบางที่ขอบหน้าต่างกระพือขึ้น เหนือหน้าต่างมีเงาร่างหนึ่งกำลังยืนกลับหัวอยู่
ศีรษะชี้พื้น สองเท้ากลับเกาะติดอยู่ข้างบนอย่างมั่นคงราวกับทากาวเอาไว้
เหมือนกับค้างคาวตัวหนึ่ง
ความกดดันของเฟิ่งหวงเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก จากนั้นก็ตะโกนขึ้น “รีบฆ่าเขา!”
เถี่ยเมี่ยนไม่ลังเลอีก ตะขอเสียบเข้าไปทางหลินโป๋หลายทันที
ทว่าพอเฟิ่งหวงหันกลับมา ผู้ชายที่กลับหัวอยู่กลับหายไปแล้ว
นาทีต่อมา เขาก็ปรากฏตัวอยู่ข้างกายของเถี่ยเมี่ยนอย่างแปลกประหลาด หนึ่งหมัดสะท้านจนเขาถอยไป จากนั้นก็พาตัวหลินโป๋หลายหนีไปทางหน้าต่าง
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
สีหน้าของเฟิ่งหวงเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก ไล่ตามไป
ความเร็วของเธอเพิ่มขึ้นถึงขีดสุด แต่อีกฝ่ายก็ยังหายไปอย่างไร้ร่องรอย
……
อีกด้านหนึ่ง ถังเฉาเองก็เดินเข้าไปในบ้านใหญ่ตระกูลซ่ง
ซ่งหรูอี้เองก็เพิ่งจะแต่งตัวเสร็จ มองเห็นถังเฉาแล้วก็ยิ้มออกมา “ฉันรู้ว่านายจะต้องมาที่นี่”
พลั่ก!
ทว่าพริบตาต่อมาถังเฉากลับคว้าคอของซ่งหรูอี้เอาไว้ ยกเธอขึ้นไปในอากาศทั้งตัวด้วยมือข้างเดียว
สีหน้าของซ่งหรูอี้เปลี่ยนเป็นเจ็บปวดทรมานในชั่วพริบตา แม้แต่หายใจก็ยังเปลี่ยนเป็นถี่กระชั้นขึ้นมา
“ผมจำได้ว่าเคยบอกคุณแล้ว คุณกล้าลงมือกับเธอ จุดจบมีแค่ตายทางเดียว”
ถังเฉาเอ่ยอย่างเย็นชา
ซ่งหรูอี้สีหน้าซีดเผือด แต่ดวงตาทั้งคู่กลับมองถังเฉาอย่างแน่วแน่ตั้งแต่ต้นจนจบ
“ถ้าอย่างนั้นก็ลงมือสิ”
“ตายด้วยน้ำมือของนาย…ฉันตายก็ไม่เสียใจ…”