เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 306 ส่งเสด็จเจ้ามังกร
ถังเฉาซื้อตั๋วเครื่องบินไปเยี่ยนจิงในเที่ยวเก้าโมงเช้า ผู้โดยสารบนเที่ยวบินนั้นก็ได้รับการเปลี่ยนแปลงด้วย
“ถังเฉาจะเข้าไปที่เยี่ยนจิง!”
เหล่าตระกูลชั้นสูงในเมืองหมิงจูรู้ข่าวนี้ต่างก็พากันตกตะลึง
ที่บ้านตระกูลต่งในเมืองหมิงจู
เมื่อต่งวี่ซู่รู้ข่าวนี้เขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันที
ขณะนั้นก็ได้ยินรายงานจากเลขา
“คุณชาย ต่อไปเป็นรายงานของวันนี้ แปดโมงเช้า…”
แต่ทว่าเลขาไม่ทันได้รายงานอะไรสักอย่างก็โดนต่งวี่ซู่พูดตัดบท
“ยกเลิกให้หมด!”
“เตรียมรถ สั่งให้คนในตระกูลต่งทั้งหมดมารวมตัวกัน และไปที่สนามบินเมืองหมิงจู!”
พูดจบเขาก็แต่งตัวให้เรียบร้อยแล้วเดินออกไปอย่างสง่าผ่าเผย
ขณะเดียวกันที่บ้านตระกูลซุน
ซุนยู่เฟิงก็พาคนในตระกูลและญาติทั้งหมดออกจากบ้าน
“คนดีเข้าเมืองเยี่ยนจิง ก่อนที่คุณถังเฉาจะไปเยี่ยนจิง ตระกูลซุนจะไม่แสดงท่าทีได้อย่างไร”
“ทุกคนไปที่สนามบินเมืองหมิงจู เพื่อส่งคุณถังเฉา!”
ภาพนี้ก็เกิดขึ้นที่บ้านตระกูลจ้าวเช่นกัน
จ้าวเย็นหรานไม่ได้ใส่กระโปรงสีแดงที่ใส่ประจำ แต่เธอกลับสวมชุดทำงานสีมุก มันสวยและดูเป็นการเป็นงาน
เธอรีบพาลูกน้องออกไป
จ้าวเหล่าลิ่วตะโกนไล่หลังว่า “ถ้าแกกล้าออกไป ฉันจะไม่เห็นว่าแกเป็นลูกอีก!”
จ้าวเย็นหรานชะงักไป จากนั้นจึงหันกลับมามอง จ้าวเหล่าลิ่วด้วยสายตาเย็นชา “ฉันก็อยากให้ทำแบบนั้นเหมือนกัน!”
พูดจบเธอจึงออกไปโดยไม่หันกลับมาอีก
จู่ๆ ก็มีเสียงทำลายข้าวของดังขึ้นในบ้าน
บนถนนแต่ละเส้นในเมืองหมิงจูเต็มไปด้วยรถหรูที่กำลังมุ่งหน้าไปที่เดียวกันคือสนามบินเมืองหมิงจู
แน่นอนว่านอกจากจะมีคนไปส่งถังเฉาแล้ว ก็มีคนที่ใช้โอกาสจากที่ถังเฉาไปเยี่ยนจิงทำอะไรบางอย่าง
คลื่นใต้น้ำกำลังก่อตัว ความอาฆาตกำลังคืบคลานเข้ามา
บริษัทตระกูลซ่ง
ซ่งหมิงเวยกำลังจะออกจากบ้าน แต่กลับโดนน้ำเสียงเฉยชารั้งไว้
“นายจะไปไหน”
ซ่งหมิงเวยชะงักไป เขาหันมาเห็นผู้หญิงเฉยชายืนอยู่ข้างหลัง “คุณถังเฉากำลังจะไปเยี่ยนจิง ผมเป็นตัวแทนตระกูลซ่งไปส่งเขา…”
แววตาของซ่งหรูอี้เย็นชา เธอพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ไม่ต้องไป เขาไปตายที่เยี่ยนจิง เกี่ยวอะไรกับตระกูลซ่งเหรอ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ซ่งหมิงเวยถึงกับสั่นไปทั้งตัว เขาเบิกตาโพลง
ช่วงนี้เขาเห็นถึงความผิดปกติของพี่สาวนอกไส้ ตั้งแต่คืนที่คุยกับถังเฉา ซ่งหรูอี้ก็เปลี่ยนไปมาก ถึงขนาดที่เย็นชากับถังเฉาเป็นอย่างมาก
เขารู้สึกถึงอะไรบางอย่าง ไม่ง่ายเลยกว่าที่ตระกูลซ่งจะฟื้นฟูความสัมพันธ์กับถังเฉา มันจะต้องพังลงอีกครั้งเพราะการกระทำของซ่งหรูอี้!
หลังจากที่ซ่งหมิงเวยออกไป มือถือของซ่งหรูอี้ก็ดังขึ้น มีเสียงทุ้มของผู้ชายดังออกมา
“หรูอี้ ไอ้หมอนั่นมาเยี่ยนจิงแล้ว โอกาสแบบนี้หาได้ยาก เธอต้องรีบคว้าโอกาสนี้เอาไว้”
เมื่อซ่งหรูอี้ฟังจบ เธอก็ตัดสายและแสยะยิ้มออกมา “น่ารำคาญ!”
ขณะเดียวกัน ห้องของโจวเหม่ยหยูนที่ชั้นสองของบ้านตระกูลหลิน
เธอนั่งอยู่บนเตียงด้วยสีหน้ากระวนกระวายเหมือนกำลังรออะไรอยู่
จู่ๆ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
“ฮัลโหล!”
เธอรีบรับสายและพูดด้วยความร้อนใจ
เสียงที่ดังออกมาจากปลายสายยังคงเป็นเสียงที่ได้รับการดัดแปลงเสียง
“พวกมันไปเยี่ยนจิงแล้ว นี่คือโอกาสที่ดีที่สุด รีบลงมือซะ!”
ถังเฉาคิดไม่ถึงว่าการที่ตัวเองไปเยี่ยนจิง จะมีคลื่นใต้น้ำเกิดขึ้นมากมาย
ตอนนี้เขากำลังอุ้มถังเสี่ยวลี้ ต่อแถวเช็กอินกับหลินชิงเสว่และหลินจ้าวหยูน
บรื้นนน
ขณะนั้นมีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นที่สนามบินเมืองหมิงจู
พอดีกับที่ที่ถังเฉาอยู่สามารถมองเห็นสนามบินเมืองหมิงจูได้ทั้งหมด
เขาเห็นรถยนต์หรูสีดำจำนวนมากอยู่ข้างนอกสนามบิน มันล้อมอยู่ข้างนอกสนามบินจนแน่นขนัด
จู่ๆ ก็มีคนกรูเข้ามา
หลินจ้าวหยูนร้องออกมาอย่างตกใจ “รถหรูเยอะขนาดนี้ จะมารับคนใหญ่คนที่ไหนกัน”
ถังเฉาสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาพูดพึมพำกับตัวเองว่า “พวกนั้นมาทำอะไรกัน”
การมองเห็นของเขาดีกว่าคนอื่นมาก มองแวบเดียวก็รู้ว่าคนที่เดินนำหน้ามาคือซุนยู่เฟิง ต่งวี่ซู่และคนอื่นๆ
ถ้าแค่ตระกูลซุนกับตระกูลต่งคงมีคนไม่มากเท่าไร แต่บริษัทภายใต้ชื่อของพวกเขามีจำนวนมาก เหล่าผู้บริหารของบริษัทต่างก็ตามมาด้วย ข้างกายของเหล่าผู้บริหารก็มีพวกรองประธานห้าหกคนตามมาอีก รวมๆ กันแล้วก็น่าจะประมาณร้อยกว่าคน
การที่มีคนมาส่งเป็นร้อย ถึงจะเป็นพวกคนใหญ่คนโตก็ไม่สามารถทำได้
พวกผู้โดยสารรอบๆ ต่างพากันตกใจและเดาว่าพวกเขามาเพราะใคร
ขณะนั้นก็มีเสียงประกาศในสนามบิน
“ขอเชิญผู้โดยสารโบอิ้ง 747 เช็กอินค่ะ”
หลินชิงเสว่พูดขึ้นว่า “ไม่ต้องไปสนใจแล้ว จะขึ้นเครื่องแล้ว”
หลินจ้าวหยูนจึงละสายตาออกมา ถังเฉาก็เข้าไปเช็กอิน
ขณะที่คนที่อยู่ข้างหน้าเริ่มน้อยลง ถังเฉาและคนอื่นๆ กำลังจะเข้าไปในห้องผู้โดยสาร
ขณะนั้นซุนยู่เฟิง ต่งวี่ซู่และคนอื่นๆ รีบเดินเข้ามา
เขามองเครื่องบินลำที่ถังเฉานั่ง และตะโกนออกมาว่า
“ส่งเสด็จคุณถังเฉา…”
“ส่งเสด็จคุณถังเฉา…”
“ส่งเสด็จคุณถังเฉา…”
เมื่อซุนยู่เฟิง ต่งวี่ซู่ตะโกนออกมา เหล่าคนในตระกูลต่างๆ รวมถึงเหล่าผู้บริหารบริษัทในนามของพวกเขาก็ตะโกนออกมาด้วย เสียงของพวกเขากลบเสียงประกาศของสนามบินจนหมด
เสียงยังคงดังกึกก้องไม่หยุด
เหล่าผู้โดยสารที่อยู่ตรงนั้นมีสีหน้าแปลกใจ และมองไปรอบๆ เพื่อหาคุณถังเฉา
คุณถังเฉาเป็นใครกันแน่ ถึงมีคนมาส่งมากมายขนาดนี้ แถมยังสามารถทำให้ผู้นำตระกูลมาส่งด้วยตัวเองอีกด้วย
แต่ทว่าทุกคนต่างมองหาอยู่นาน แต่ก็ไม่เจอคนคุณถังเฉาที่พวกเขาสงสัย
แน่นอนอยู่แล้ว
เพราะตอนนี้ถังเฉาเช็กอินเข้ามานั่งตรงเก้าอี้ริมหน้าต่าง และมองเหล่าคนที่มาส่งเขา
แววตาของเขาอ่อนโยนและดูขบขัน
คนพวกนี้เป็นคนที่ยอมจำนนให้เขา ถึงก่อนหน้านี้จะมีเรื่องบาดหมางกัน แต่ตอนนี้พวกเขายอมจำนนด้วยความจริงใจ
ภาพนี้เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี
เมื่อเขาจบอาชีพในกองทัพที่ทำมาห้าปี และเกษียณออกมาอย่างมีเกียรติ เหล่าทหารก็ตะโกนออกมาว่าส่งเสด็จเจ้ามังกรเหมือนกัน
คนที่อยู่ข้างหลังอย่างหลินจ้าวหยูนก็มองไปข้างล่างด้วยสายตาที่คาดไม่ถึง จู่ๆ เธอก็มองถังเฉาและเอามือปิดปากตัวเองด้วยความตกใจ
“พี่เขย พวกเขามาส่งพี่เหรอ…”
หลินชิงเสว่มองแวบหนึ่ง ถึงเธอจะไม่พูดอะไร แต่แววตาของเธอก็บ่งบอกชัดเจน
ถังเฉาละสายตาออกมา เขายิ้มบางๆ แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา
แววตาของหลินชิงเสว่กับหลินจ้าวหยูนยิ่งตกใจเข้าไปใหญ่
นี่คือพวกที่มีอำนาจกว่าครึ่งของเมืองหมิงจู พวกเขามาส่งถังเฉา!
ขณะนั้นเครื่องบินก็ขึ้นบินไปยังเยี่ยนจิง
เมื่อมองชั้นเมฆบนท้องฟ้า แววตาของถังเฉาก็ลุ่มลึกขึ้นมา
เพราะที่ที่เขาจะไปคือเยี่ยนจิงศูนย์กลางของ เซี่ยกั๋ว
ที่นั่นมีตำนานเล่าขานเป็นพันปี ก่อตั้งตระกูลอันแข็งแกร่ง เมื่อประวัติศาสตร์อันน่ายกย่องหายไปตามกาลเวลา ก็มีตระกูลที่ยืนเป็นใหญ่ในประเทศ
ตระกูลหลวงในเยี่ยนตู!
ราวกับสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง หลินชิงเสว่กอดเสี่ยวลี้ที่กำลังหลับอยู่ในอ้อมอกเอาไว้แน่น มืออันเย็นเฉียบของเธอก็จับข้อมือของถังเฉาเอาไว้
ถังเฉาส่งสายตาให้เธอรู้สึกปลอดภัย “มีผมอยู่เสมอ!”