เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 155 คดีลึกลับเมื่อห้าปีก่อน
บทที่ 155 คดีลึกลับเมื่อห้าปีก่อน
ซ่งสวินพาคนของตระกูลซ่งวิ่งออกมาด้วยความเร็วสูงมาที่ลานประตูใหญ่ เมื่อจับจ้องไป ใบหน้าของเขาก็ซีดลง
เสียงดังก้อง—
เห็นแค่พื้นสั่นสะเทือนมากขึ้นเรื่อยๆ ผ่านแสงยามค่ำคืน ทุกคนมองเห็นที่ปลายขอบฟ้าว่ามีรถเกราะอีกคันตามมา
ก้อนหินบนพื้นสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง เหล็กที่แข็งนั้นค่อยๆใกล้เข้ามา
ซ่งสวินลืมตาทั้งสองข้างอย่างแรง ผลกระทบจากสัตว์ร้ายนี้บั่นทอนความแข็งแกร่งของเขาค่อยๆหมดไป คนของเขาเองก็เตลิดไปหมด
สีหน้าของซ่งหวินนั้นเปลี่ยนไปอย่างมาก ในยุคสันติแบบนี้ รถทหารแบบนี้แทบไม่มีให้เห็นมาก่อน นับประสาอะไรกับในเขตเมือง
“โอ้พระเจ้า…”
เมื่อหวางหมิ่นเหมินและจ้าวลิ่วเห็นเหตุการณ์นี้ เขาก็กลัวจนสติหลุดไป หัวใจเต้นรัวอย่างเร็ว ราวกับว่ามันจะพุ่งออกมาจากลำคอ
สำหรับหวางเยี่ยที่นั่งอยู่กับพื้น ก็ไร้เรี่ยวแรงที่จะลุกขึ้นมา
ซ่งหมิงเวยก็ขาสั่น เกิดมานานขนาดนี้ ไม่เคยเห็นสัตว์ร้ายเช่นนี้มาก่อน
ซ่งหรูอี้เป็นคนที่ใจเย็นและเข้าใจอะไรมากที่สุด หล่อนหันกลับมาแล้วมองไปที่ถังเฉา
ถังเฉาพยักหน้าให้ โดยที่ไม่ได้คำนึงถึงเรื่องราวที่ข้องใจในอดีต อย่างน้อยในคืนนี้ เป้าหมายที่เหมือนกันของพวกเขาก็คือกำจัดตระกูลซ่งซะ
“พวกเขาขับมานี่แล้ว—”
ผู้คนต่างอุทานออกมา จากนั้นหันไปมองความสยองที่อยู่ด้านหน้า
สิ่งขนาดใหญ่นี้อยู่ใกล้มากแล้ว แต่ก็ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่ได้ตัดสินใจที่จะเหยียบเบรกเลยสักนิด
ไฟรถสองดวงนั้นเหมือนกับดวงตาของสัตว์ร้ายที่ส่องผ่านเข้ามา
“วิ่งเร็ว—-”
ซ่งเต้าหลิงตะโกนออกมา จากนั้นก็อุ้มซ่งสวินไว้ที่หลัง และวิ่งไปที่มุมห้อง
คนอื่นๆในตระกูลซ่ง ต่างพากันก้มหัว
บูม—
ท้ายที่สุด ได้ยินแค่เสียงดังอึกทึก ประตูเหล็กที่แข็งแกร่งของตระกูลซ่งนี้นั้นราวกับกระดาษที่ถูกทุบทิ้งอย่างง่ายดาย
รถพุ่งตรงและกลิ้งเข้ามาเรื่อยๆ ชายคนหนึ่งที่มีปืนบรรจุกระสุนพร้อมใบหน้าคมคายได้กระโดดออกจากรถทันทีและจัดกลุ่มอย่างรวดเร็ว
ทุกคนสมใส่ชุดสีเขียวลายพราง มองไปรอบๆนั้นราวกับมองทะเลสีเขียว
พวกเขารีบเข้าไปและล้อมทุกคนในตระกูลซ่งอย่างรวดเร็ว
ปากกระบอกปืนเย็นเฉียบชี้ไปที่หัวของซ่งสวิน ซ่งเต้าหลิงและคนอื่น ๆ ทำให้พวกเขากลัวจับหัวและหมอบลงกับพื้นทันที
พนักงานรักษาความปลอดภัยของตระกูลซ่งเองก็มีปืนเช่นเดียวกัน แต่เมื่อเทียบกับคนเหล่านั้นแล้ว ก็ช่างต่างราวฟ้ากับเหว หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วินาที พวกเขาทั้งหมดก็ถูกปราบ
แก๊ก แก๊ก—
เสียงกระสุนถูกบรรจุอยู่ทุกหนทุกแห่ง มันยังค่อยๆอบอวลไปด้วยกลิ่นเหม็นฉุนของควันดินปืน
“วางปืนลงซะ ไม่งั้น…จะฆ่าอย่างไร้ความปราณี!”
ในไม่ช้า ชายร่างสูงผิวสีเข้มก็เดินเข้ามาและกล่าวอย่างเย็นชา
“แก..พวกแกเป็นใคร?”
ซ่งสวินที่นอนกุมศีรษะอยู่ที่พื้น ดวงตาที่หวาดกลัวมองไปที่ชายผิวสีคนนั้นและถาม
ชายร่างใหญ่อ้าปากพร้อมกับยิ้มออกมา “พวกเราสงสัยว่าพวกคนคุ้มกันของพวกคุณที่ถือปืนนี้กำลังทรยศอยู่หรือเปล่า!”
“อะไรนะ?!”
เมื่อได้ฟังคำพูดของชายร่างใหญ่นี้ ไม่เพียงแต่ซ่งสวินที่ใบหน้าซีดแล้ว คนอื่นๆในตระกูลซ่งเองก็ตกใจจนสองว่างเปล่ากันเลยทีเดียว
คนเหล่านี้เป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยของตระกูลซ่ง จะไปเป็นการคุ้มกันส่วนตัวได้อย่างไรกัน?
ยิ่งไปกว่านั้น ทรยศสองคำนี้ ก็ทำให้พวกเขางงงวยไปหมด
นี่คือความผิดอันใหญ่หลวง!
ขณะนั้นเอง รุ่นน้องของตระกูลซ่งที่มีจิตใจอ่อนแอ ก็เป็นลมไป กางเกงเปียกชุ่มไปด้วยสีเหลืองๆ
“ปรัปรำ พวกเราปรักปรำ—”
ดวงตาของซ่งสวินเบิกโพลงอย่างรุนแรงและเขาก็ตะโกนอย่างดัง
“มีพยานทั้งนั้น ท่านปู่ซ่ง ยังต้องการที่จะเล่นลิ้นอะไรอีก?”
ในขณะนี้ มีเสียงหัวเราะติดตลกดังมา
เมื่องมองกลับไป เห็นถังเฉากับเฟิ่งหวงได้เดินออกไปอย่างสบายๆแล้ว อีกทั้งยังมีรอยยิ้มอันสดใสบนใบหน้าอีก “ที่นี่มีคนถือปืนเป็นจำนวนมากได้ถูกจับแล้ว อีกอย่างเมื่อกี้เพิ่งจะมีคนชี้ปืนมาทางฉัน และพยายามฆ่าอีกด้วย!”
“ที่มาของปืนนี้นั้นไม่แน่ชัด บางทีคุณอาจจะซื้อมันมาอย่างผิดกฎหมายก็ได้ ทำผิดสามอย่าง ก็ถือว่าเพียงพอแล้วกับพวกคุณทุกคน!”
“ใช่ไหมล่ะ พี่ใหญ่?”
ถังเฉาพูดพร้อมกับมองไปที่ชายผิวสีด้วยรอยยิ้ม
“ใช่ ใช่แล้ว…”
หลี่เถ่เช็ดเหงื่อออกจากศีรษะ คำว่าผู้นำสองคำนี้ เกือบจะทำให้เขาเป็นลมไปเพราะตกใจเสียแล้ว
“แกไอ้คนไร้ประโยชน์ เพราะแก—”
ถังเฉาดูพูดจาสนิทชิดเชื้อกับชายคนนี้ ถึงแม้ว่าจะโง่ แต่ก็พอจะเดาได้ว่าจะเกิดอะไรต่อไป
ทั้งมดนั้น ใบหน้าของเขาก็ดูเหมือนแก่ขึ้น สายตาที่มองไปที่ถังเฉานั้นเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
เขาไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าเมื่อห้าปีก่อนนี้ ถังเฉายังเป็นคนที่ใครๆก็สามารถทำร้ายได้ แต่ทำไมห้าปีหลังจากนั้น เขาถึงได้เปลี่ยนไปแข็งแกร่งมากมายขนาดนี้กัน?
“พ่อ พวกเราจะทำยังไงดี?”
ศีรษะของซ่งเต้าหลิงนั้นโดนปืนสามสี่กระบอกจ่ออยู่ กลัวเกินว่าที่จะขยับร่างกาย
ซุนสวินยังคงตกตะลึงจากสิ่งที่เกิดจากตัวถังเฉา หลังจากนั้นไม่นานสิตสัมปชัญญะของเขาก็กลับมา จ้องไปที่ถังเฉาและพูดว่า “คนเหล่านี้ นายเรียกมาใช่ไหม”
“จะเป็นไปได้ยังไงกัน?”
หัวเราะอย่างโง่เขลา มองไปที่หลี่เถ่และกล่าวว่า “พวกเขาอาจจะเป็นทหารของหมิงจู แม้ว่าจะมีมือมีตาเห็นทุกอย่าง ก็ไม่สามารถเรียกคนมากมายขนาดนี้มาได้หรอก”
ซ่งสวินขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเช่นนี้
มันจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญงั้นเหรอ?
จากนั้น ไม่ทันที่ซ่งสวินจะได้คิดอะไรเยอะ หลี่เถ่มองมาที่พวกเขา จากนั้นก็โบกมือ “พาออกไปให้หมด รอสอบสวน!”
ทหารมาและไปอย่างรวดเร็ว คนของตระกูลซ่งทั้งหมดถูกพาตัวไป
หลังจากคืนนี้เป็นต้นไป จะไม่มีตระกูลซ่งอีกแล้ว!
ในขณะเดียวกันถังเฉาทำราวกับว่ามันเป็นเรื่องที่เล็กน้อย ดูบรรยายกาศนี้แบบเงียบๆ จากนั้นสายตาก็มอไปที่หวางหมิ่นเหมินและจ้าวลิ่ว
พรึ่บ!
หวางหมิ่นเหมินและจ้าวลิ่วมาคุกเข่าต่อหน้าของถังเฉา ร่างกายสั่นเทา ก้มหัวให้ถังเฉาอย่างลึกมาก
“นายถัง ไว้ชีวิตเราด้วยเถอะ!”
“ฉันตระกูลจ้าว จากนี้เป็นต้นไป จะติดตามแต่นายท่านถังเพียงผู้เดียว จะไม่แบ่งให้ใครอีก!”
ถังเฉาหันไปมองทั้งสองด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย “ตระกูลหวางและตระกูลจ้าว ครั้งนี้ฉันจะไว้ชีวิตพวกนาย หากพบอีกครั้งหนึ่ง ครอบครัวของพวกนายทุกคนจะต้องเจอหนักกว่าตระกูลซ่งแน่!”
“ขอบคุณครับ นายท่านถัง!”
หวางหมิ่นเหมินและจ้าวลิ่วนั้นเหมือนกับได้รับการอภัยโทษ รู้สึกขอบคุณเป็นอย่างมาก ต่างพาลูกชายของตนออกไปจากตระกูลซ่ง
จากนั้นตระกูลซ่งที่ยิ่งใหญ่ก็เหลือ ถังเฉา เฟิ่งหวง ซ่งหรูอี้และซ่งหมิงเวยสี่คน
ซ่งหรูอี้เหลือบมองซ่งหมิงเวยก่อนจะพูดว่า “กลับไปก่อนเถอะ”
ซ่งหมิงเวยที่วิตกกังวลก็รีบโค้งคำนับและจากไปอย่างรวกเร็ว
ถังเฉายังพูดอีกว่า “เฟิ่งหวง เธอกลับไปรอที่รถก่อน”
“ค่ะ!”
เฟิ่งหวงเองก็ออกไปอย่ารู้ทัน ตอนนี้เหลือเพียงแต่ถังเฉาและซ่งหรูอี้ ที่เป็นศัตรูเมื่อห้าปีก่อน บรรยากาศเปลี่ยนไปเป็นอึดอัดจนไม่สามารถบรรยายได้
ดวงตาของซ่งหรูอี้นั้นสุกสกาว เงยหน้าขึ้นมองเขา ราวกับว่ารู้จักถังเฉาเป็นครั้งแรก
ถังเฉาก็ไม่ได้สนใจ ปล่อยให้ซ่งหรูอี้มองต่อไป
หลังจากนั้นไม่นาน หล่อนถอนสายตาพร้อมกับถอนหายใจเบาๆ “นายนี่ไม่เหมือนแต่ก่อนจริงๆ”
“คนเราเปลี่ยนแปลงได้เสมอ”
ถังเฉายิ้มและพูดว่า “เธอเองก็เปลี่ยนไปเยอะเหมือนกัน ไม่ใช่หรอ?”
ซ่งหรูอี้เงียบและยอบรับ แต่ในไม่ช้า หล่อนก็มองไปที่ถังเฉาและยิ้มอย่างเย็นชา “ขอบคุณที่ช่วยฉันในครั้งนี้ แต่ว่าฉันไม่ขอบคุณนายหรอกนะ”
ถังเฉามองดูหล่อนด้วยความประหลาดใจ “คุณพูดอะไร?นี่ฉันจัดการเรื่องฉันอยู่ต่างหาก ตระกูลซ่งดันมายุ่งกับคนรอบข้างฉันซะนี่ สมควรตายจริงๆ”
“แล้วฉันล่ะ?”
ทันใดนั้น ซ่งหรูอี้ก็ปรากฏรอยยิ้มจางๆออกมา มองถังเฉาพร้อมกับเชิดคางขึ้นอย่างน่าภูมิใจ
ระหว่างที่มึนงงอยู่นั้น ซ่งหรูอี้เมื่อห้าปีก่อนก็กลับมา
“ตอนนี้ตระกูลซ่งมีชีวิตอยู่แค่ในนามท่านั้น เหลือเพียงแค่ฉันกับน้องชาย เมื่อห้าปีก่อน ฉันหลอกใช้และก็ทรมานนาย นายต้องเกลียดฉันอยู่ลึกๆแน่เลยใช่ไหม?”
ถังเฉาพยักหน้า “ไม่ผิด ฉันเกลียดเธอจริงๆ”
“งั้นนายรออะไรอยู่ล่ะ นี่ฉันตัวคนเดียว ถ้านายจะฆ่าฉัน มันง่ายมากๆเลย”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น สายตาของถังเฉาก็เปลี่ยนไป “เธออยากให้ฉันฆ่าเธอ?”
“ทุกๆเรื่อง ย่อมมีผลลัพธ์เสมอ”
ดวงตาของซ่งหรูอี้นั้นสงบพร้อมกับพูดว่า “ฉันทำเรื่องบางอย่างที่ต้องขอโทษนายเมื่อห้าปีก่อน ห้าปีต่อมา นายสามารถหาฉันเจอเพื่อนแก้แค้นได้—เหมือนเกมแมวจับหนู ใครก็เป็นแมว และใครก็เป็นหนูได้ทั้งนั้น”
ถังเฉายิ้มออกมา เขาชอบการเปรียบเปรยนี้
“โอเค นี่คือสิ่งที่เธอพูดเองนะ”
ถังเฉาค่อยๆยกมือขึ้นมา และคว้าตัวซ่งหรูอี้ไว้
ซ่งหรูอี้นั้้นหลับตาลง วิธีการที่ถังเฉาทำแต่ก่อนนั้น หล่อนจำมันได้ดี หากถังเฉาต้องการจะฆ่าหล่อนจริงๆ หล่อนไม่มีทางรอดได้แน่
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นตามร่างกายก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดแต่อย่างใด
ซ่งหรูอี้ลืมตาอีกครั้ง และพบว่าถังเฉานั้นยืนอยู่ที่ด้านหน้าของตน
นิ้วหยุดอยู่ตรงที่สายตาของหล่อน และตวัดนิ้วไปที่หน้าผากของหล่อนเบาๆ
ป๊อก
ซงหรูอี้นั้นรู้สึกเจ็บ รีบเอามือปิดหน้าผากที่เนียนเรียบของตนทันที
“นายทำอะไร?”
หล่อนกัดฟันและมองไปที่ถังเฉาด้วยความโกรธ
“แก้แค้นไง ที่ทำเมื่อกี้ก็คือการแก้แค้น”
ถังเฉาพูดต่อว่า “ตอนนี้ ความคับข้องใจของฉันและเธอ ถือว่าจบแล้วนะ”
ในที่สุด ซ่งหรูอี้ก็ตอบสนอง ใบหน้าของหล่อนไร้ความรู้สึกขอบคุณใดๆ ในทางตรงกันข้ามกับดูเย็นชามากขึ้น “นี่นายสงสารฉันงั้นเหรอ?”
ถังเฉาส่ายหัว “ไม่ใช่อย่างแน่นอน สิ่งที่เธอทำกับฉันเมื่อห้าปีก่อนก็เพื่อปกป้องตัวเอง–เธอเองก็ตกเป็นเหยื่อของตระกูลซ่งเหมือนกัน ตอนนี้ตระกูลซ่งก็ได้ตายไปแล้ว ฉันไม่ได้เกลียดเธอหรอก”
ใบหน้าของซ่งหรูอี้นั้นทั้งแดงและขาว หล่อนรู้สึกโดนดูถูก จึงมองเขาอย่างโกรธๆ “นี่มันอะไรกัน?ห้าปีก่อน ฉันทำกับนายขนาดนั้น นายไม่เกลียดฉันสักนิดเลยเหรอ?”
“ก็เคยเกลียด ในห้าปีนี้ อย่างน้อยครึ่งหนึ่งก็เกลียดเธอ ฉันยังเขียนชื่อเธอใส่ป้ายและเอามายิงหลายๆเพราะความเกลียดชังอยู่เลย”
“แต่ว่า นี่ไม่ใช่สิ่งที่นายต้องการตั้งแต่แรกใช่ไหมล่ะ?”
ถังเฉาจ้องไปที่ดวงตาของซ่งหรูอี้และพูดอย่างจริงจังว่า “ไม่มีใครเกิดมาแล้วชั่วร้ายเลยหรอกนะ เคยเมตตา เคยบาดเจ็บ เพียงเท่านี้ก็จะทำให้ชีวิตฉลาดขึ้นแล้ว”
ความโกรธบนใบหน้าของซ่งหรูอี้นั้นค่อยๆหายไป แต่ก็ยังคงกัดฟันกรอดๆอยู่ เพราะหล่อนไม่สามารถข้ามผ่านอุปสรรคในใจของตัวเองได้
รอยยิ้มอยู่บนใบหน้าของถังเฉาอีกครั้ง “อย่างไรก็ตาม หากต้องบอกว่าเกลียด ก็คงต้องเป็นตอนนี้ที่เธอมัดฉันที่หมิงจู และต้องการโยนลงทะเล นั่นแหละเป็นตอนที่ฉันเกลียดเธอมากที่สุด”
ซ่งหรูอี้ถึงกับผงะ พร้อมกับพูดว่า “ฉันไม่เคยส่งใครไปจับตัวนายเลยนะ คืนแต่งงานเมื่อห้าปีที่แล้ว หลังจากที่ฉันกลับไปที่ห้องจัดแต่งงาน นายก็หายตัวไปแล้ว”
“……….”
ทันทีที่พูดสิ่งนี้ออกมา รอยยิ้มบนใบหน้าของถังเฉาก็ค้างทันที
หากไม่ใช่ซ่งหรูอี้ งั้นคนที่มาจับตัวเป็นใครกันล่ะ?