เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 143 ลักพาตัวผิดคน
บทที่ 143 ลักพาตัวผิดคน
หลังจากผ่านไปสิบนาที รถแท็กซี่คันหนึ่งมาจอดที่หน้าประตูนิคมอุตสาหกรรม
ถังเฉาเดินลงจากรถด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ ความเย็นชาแผ่ซ่านออกมาจากตัวของเขา ชายหนุ่มเดินตรงเข้าไปข้างใน
จิตวิญญาณอันแข็งแกร่งทำให้เขารู้ทันทีว่ามีใครหลบอยู่ตรงไหนบ้าง เมื่อเหยียบเข้ามาในนิคมอุตสาหกรรม
ขอแค่ถังเฉาอยากทำ พวกที่ซุ่มอยู่จะกลายเป็นศพอันเยือกเย็นโดยทันที แต่เขาไม่อยากแหวกหญ้าให้งูตื่น จึงก้าวเข้าไปในโรงงาน
พวกที่แอบซุ่มอยู่รีบวิ่งไปหาฉางเว่ยและลูกน้อง จากนั้นจึงรายงานว่า “ลูกพี่ เฮียเฮยหนี มันมาแล้วครับ”
ฉางเว่ยกับเฮียเฮยหนีลุกขึ้นทันที ทั้งสองเดินมาที่หน้าต่างและมองลงไป ถังเฉากำลังเดินขึ้นบันไดมา ถึงสีหน้าของเขาจะดุดัน แต่ก็ไม่มีใครสนใจเขา
“ไอ้โง่นี่ บอกให้มาคนเดียวก็มาคนเดียวจริงๆ สงสัยไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วจริงๆ”
“ลูกพี่ อีกฝ่ายมาเพียงคนเดียว ทำไมต้องเรียกพวกเรามาทั้งหมด”
“ใช่ ขี่ช้างจับตั๊กแตน”
“.…..”
พวกลูกน้องพากันหัวเราะออกมา ราวกับว่าเดาช่วงเวลาตายของถังเฉาได้อย่างไรอย่างนั้น
ฉางเว่ยกลับส่ายหน้า เขาพูดอย่างจริงจังว่า “คุณซ่งบอกกับฉันว่า ไอ้ถังเฉาเคยเป็นทหาร มันมีความสามารถ พวกแกอย่าประมาท ไปดูสิว่ามีตำรวจตามมาหรือเปล่า!”
ลูกน้องคนหนึ่งเอากล้องส่องทางไกลส่องดู จากนั้นจึงพูดว่า “ไม่มีตำรวจตามมาครับ ไอ้หมอนี่มันมาคนเดียวจริงๆ”
เมื่อได้ยินดังนั้น ฉางเว่ยก็โล่งใจ มาคนเดียวจะได้จัดการง่ายๆ
ดังนั้น เขาจึงหันไปหาชายสี่คนที่ทำการลักพาตัว “พวกแก ไปเชิญคุณถังเข้ามาสิ”
“ไม่ต้อง ฉันมาแล้ว”
ขณะนั้นเอง น้ำเสียงที่น่ากลัวราวกับมีดปลิดชีพดังขึ้น อุณหภูมิในโรงงานเย็นยะเยือกขึ้นเรื่อยๆ
ทุกคนตกใจจนตัวสั่น ทุกคนยื่นคอออกไปมองที่มาของเสียงนั่น
เห็นจากไกลๆ ว่ามีเงาของใครบางคนกำลังเดินเข้ามา ซึ่งคนนั้นก็คือถังเฉา
แววตาของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เหมือนอสูรกระหายเลือดในสนามรบ ที่ทำให้คนกลัวจนตัวสั่น
“รนหาที่ตาย!”
ชายคนหนึ่งสีหน้าโกรธเป็นอย่างมาก มีท่อนเหล็กอยู่ในมือของมัน มันเดินมาข้างหลังของถังเฉาและเล็งไปที่ข้างหลังศีรษะของถังเฉา
ผัวะ
แต่ทว่า คนที่อยู่ในที่นี้ยังไม่ทันได้เห็นว่าถังเฉาทำอะไร ร่างกายของชายคนนั้นลอยกระเด็นออกไปเหมือนว่าวสายขาด
มันคอหักและสิ้นใจลง
ทุกคนพากันตกใจเมื่อเห็นภาพนั้น พวกเขามองถังเฉาอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเอง
ฉางเว่ยก็ตะลึงไปเช่นกัน แต่ไม่นานเขาก็ตั้งสติได้ เขาหรี่ตาลง “นายคือถังเฉาคนที่ทำให้พ่อฉันล้มละลายฉันไหม”
“เธออยู่ที่ไหน”
แต่ทว่า ถังเฉาไม่ตอบเขา พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบและมองฉางเว่ยด้วยแววตาดุดัน
“นี่ไม่ใช่ท่าทางของคนที่กำลังอ้อนวอนขอความช่วยเหลือนี่นา”
ฉางเว่ยไม่กลัวเมื่อต้องเผชิญหน้ากับความน่ากลัวของถังเฉา เขาคิดว่าก็แค่เสือที่กำลังคลั่งเท่านั้น
เมียถูกจับตัวมาแถมยังใกล้จะโดนข่มขืนอีก ผู้ชายคนไหนก็ต้องโมโหและคลั่งอยู่แล้วนิ
เมื่อฉางเว่ยโมโห เขาก็จะยิ่งสุขุมขึ้น ชายหนุ่มยิ้มแล้วพูดว่า “ฉันจะบอกนายก็ได้ แต่นายต้องยกมือวางไว้บนหัวและคุกเข่าลงบนพื้น อย่างน้อยก็ให้ฉันได้เห็นความซื่อสัตย์ของแก”
ถังเช่าหรี่ตาลง “นายขู่ฉันเหรอ”
ฉางเว่ยหัวเราะออกมาเสียงดัง ขณะที่เขากำลังจะพูดอะไรออกมา ก็พบว่าถังเฉาหายวับไปจากตรงหน้า
ฟิ้ววว
เห็นเพียงเงาอะไรบางอย่างเคลื่อนตัวมาตรงหน้าฉางเว่ย มีมือบีบอยู่ที่คอของเขาอย่างแรง จากนั้นก็ยกตัวเขาจนลอยขึ้นจากพื้น
“ตอบมา จ้าวหยูนอยู่ไหน” แววตาของถังเฉาฉายแววอาฆาตออกมา
“ปล่อยลูกพี่นะ”
คนอื่นๆ ตั้งสติได้และถืออาวุธพุ่งเข้ามาหาถังเฉา
ผัวะ
ถังเฉาสายตาเย็นชา เขาโยนฉางเว่ยไปบนกำแพง ทันใดนั้นเขารู้สึกเจ็บในลำคอ เลือดพุ่งออกมาจากปากของเขา
หลังจากนั้นก็เหมือนกับเสือที่เขามาอยู่ในฝูงแกะ ความกระหายเลือดแผ่ซ่านออกมา
ฉางเว่ยยังไม่ทันได้หายใจสะดวก จู่ๆ เสียงรอบๆ ก็เงียบลง
เขาเงยหน้าขึ้นมาก็พบว่าลูกน้องของตัวเองนอนอยู่บนพื้นเต็มไปหมด ไม่มีใครมีลมหายใจเลยสักคน
แต่ทว่าถังเฉายืนนิ่งอยู่ท่ามกลางศพราวกับรูปปั้นแกะสลัก
กลิ่นของความตายลอยคละคลุ้งเต็มไปหมด มันมาจากตัวของถังเฉา
เมื่อรู้ว่าเป้าหมายของอีกฝ่ายคือหลินชิงเสว่ และลักพาตัวผิดเป็นหลินจ้าวหยูน ความอาฆาตในใจของถังเฉาก็ไม่สามารถยับยั้งได้อีกแล้ว เจ้ามังกรพิโรธ สั่นสะเทือนไปทั่วฟ้า
“ฉันจะถามอีกรอบเดียว หลินจ้าวหยูนอยู่ที่ไหน” เสียงของเขาแหบพร่า และเต็มไปด้วยกลิ่นของความตาย
ฉางเว่ยตกใจเป็นอย่างมาก เขาไม่สนใจภาพลักษณ์อันงดงามของตัวเองอีกแล้ว ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว นี่เป็นครั้งแรกที่เขาสงสัยเรื่องการแก้แค้นของซ่งเทียนซาน
ใครบอกว่าถังเฉาเป็นเพียงหนุ่มน้อยที่หลินชิงเสว่เลี้ยงไว้ ตอนแรกเขามั่นใจเต็มร้อย แต่คิดไม่ถึงว่าคนที่โดนฆ่าจะกลับกลายเป็นพวกเขา!
ถึงฉางเว่ยจะฉลาด แต่เมื่อเผชิญหน้ากับถังเฉา สติของเขาก็กระเจิดกระเจิงไปหมด
แต่เมื่อได้ยินคำพูดของถังเฉา ฉางเว่ยก็กลับมามั่นใจอีกครั้ง ถึงคนของเขาจะตายไปในพริบตาเดียว แต่เขาก็ยังไม่กลัวอะไร
เขามองถังเฉาอย่างมีเลศนัย “ฉันคิดไม่ถึงว่าพละกำลังของนายจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ แต่เมียของนายยังอยู่ในกำมือฉัน ถ้าไม่อยากให้เมียกลายเป็นศพ ก็ยอมฉันซะดีๆ!”
เขาหวังจะได้เห็นความหวาดกลัวและความตกใจบนใบหน้าของถังเฉา แต่ทว่าสีหน้าของถังเฉายังคงราบเรียบ “นายลักพาตัวผิดคนแล้ว นั่นไม่ใช่ชิงเสว่”
ฉางเว่ยอึ้งไป จากนั้นก็หัวเราะออกมาเสียงดัง “ถังเฉา มาถึงขนาดนี้แล้ว ยังกล้ามีอุบายกับฉันอีกเหรอ คิดว่าลูกน้องของฉันจำหน้าคนไม่ได้หรือไง”
“ไม่เชื่อเหรอ เดี๋ยวนายก็รู้”
ถังเฉามองฉางเว่ย และพูดเนิบๆ ว่า “ก่อนที่ฉันจะฆ่าคน นายบอกฉันมาดีกว่าว่าเธออยู่ที่ไหน”
เมื่อเห็นว่าถังเฉาเด็ดเดี่ยว ใจของฉางเว่ยตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม อีกอย่าง เขารู้เพียงว่าลูกน้องของเขาลักพาตัวคนมาได้ แต่ไม่ได้ตรวจสอบว่าคนที่ลักพาตัวมาคือใคร
มีรูปภาพอ้างอิง ก็ไม่น่าจะจับผิดคนหรอก
เมื่อคิดเช่นนั้น ฉางเว่ยก็มั่นใจขึ้นมาไม่น้อย เขามองถังเฉาด้วยสายตาเย็นชา “ฉันจะบอกให้นะ เมียของนายไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่ถูกซ่อนตัวเอาไว้ในที่ลึกลับ ถ้านายฆ่าฉัน แกก็จะไม่ได้เจอเมียของแกไปตลอดชีวิต! ฮ่าๆๆๆ”
ขณะที่ฉางเว่ยกำลังหัวเราะ เสียงมือถือก็ดังขึ้นมา
เมื่อเห็นหน้าจอมือถือ ฉางเว่ยก็ยิ้มออกมาอย่างประหลาด “ดูเหมือนว่าตัวของเมียแก คงจะไม่ปลอดภัยแล้ว”
ความอาฆาตในแววตาของถังเฉาเพิ่มขึ้นไปอีก “ถ้าจ้าวหยูนต้องแปดเปื้อน พวกนายทั้งหมดต้องตาย!”
ฉางเว่ยรับโทรศัพท์ เขาจงใจหัวเราะเยาะถังเฉา “เป็นไงครับ รสชาติของประธานสาวอันดับหนึ่งในเมืองหมิงจู ไม่เลวใช่ไหมล่ะครับ”
“ไม่เลวกะผีน่ะสิ!”
แต่ทว่า เสียงปลายสายกลับเต็มไปด้วยความโมโห “นายจัดการยังไงกัน ฉันสั่งให้จับตัวหลินชิงเสว่มา แต่นายกลับจับตัวมาผิดคน…”
ทันใดนั้นรอยยิ้มของฉางเว่ยก็ชะงักลง สีหน้าของเขานิ่งไป