เจ้าชายปีศาจไปสถานศึกษา - ตอนที่ 37
The Demon Prince goes to the Academy
ตอนที่ 37
ทำไมถึงคิดว่าเพื่อนคนแรกที่มีที่วิหารจะเป็นคนดีเสมอไป
นี่ตัวร้ายคนเก่ง
1. ดีกับลูกน้อง
2. สามารถคุ้มครองฉันได้
การเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเบอร์ทัสคงไม่เลวร้ายนัก แต่ฉันก็ยังกลัวอยู่ดี มันก็มีข้อดีนะ แต่ดูเหมือนฉันเป็นสายลับสองหน้าเลยไม่ใช่เหรอ? เขาจะปฏิบัติกับฉันเหมือนผู้ใต้บังคับบัญชาตั้งแต่แรกหรือไม่? คงยากที่จะรักษาตำแหน่งไว้ให้นาน
ถ้าเขาจะวางฉันไว้ใต้ปีกของเขา เขาจะไม่เป็นสมาชิกคนแรกและคนเดียวของราชวงศ์อิมพีเรียลที่เคยให้เจ้าชายปีศาจเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาเลยงั้นหรือ?
อย่างไรก็ตาม เบอร์ทัสดูเหมือนจะต้องการรักษาความสัมพันธ์กับฉันในวิหาร
แน่นอน ฉันรู้จักเบอร์ทัส
เขาเป็นคนที่มีพรสวรรค์ ไม่ว่าจะเป็นสามัญชน ขุนนาง หรือเชื้อพระวงศ์ หากมีความสามารถ เขาจะสนใจพวกเขาอย่างจริงจัง
ไม่สำคัญว่าพวกเขาจะเป็นคนแบบไหน ตราบใดที่พิสูจน์แล้วว่ามีประโยชน์ นั่นคือประเภทของคนที่เขาเป็น
คราวนี้เบอร์ทัสนั่งอยู่บนราวระเบียง มันอยู่ที่ชั้นหนึ่ง ดังนั้นใครจะออกไปข้างนอกก็ได้
เขาพูดหันหลังให้ฉัน
“นายรักจักรวรรดิมั้ย”
“แน่นอนอยู่แล้วสิ”
นั่นไม่ใช่เรื่องโกหก ฉันรักมันจริงๆ นี่เป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการอยู่อาศัยจากทั่วทั้งทวีป
“ทำไมนายถึงรักมัน”
เขาไม่ชอบคำตอบที่ไม่ชัดเจน
“เพราะเงิน”
“……อะไร? เงิน?”
เบอร์ทัสหันหน้ามามองฉัน แบบเรายังสามารถไปต่อได้หรือไม่ แต่ฉันต้องซื่อสัตย์กว่านี้อีกนิด
“ไม่มีเหตุผลใดที่จะไม่รักสถานที่ซึ่งปล่อยให้คนขอทานไร้หนทางอาศัยอยู่ในวังเช่นนี้เพียงเพราะมีบางสิ่งที่แปลกประหลาดในตัวเขา”
“.…ขอทาน?”
“ใช่”
มันไม่ได้อยู่ในระดับที่ไม่มีเบื้องหลังเลยด้วยซ้ำ ไอ้หนู
“ฉันมาจากข้างถนน”
ฉันเป็นขอทาน!
เบอร์ทัสอ้าปากเล็กน้อยราวกับว่าเขาไม่เคยคิดถึงเรื่องแบบนั้นมาก่อน นั่นทำให้ชัดเจนว่าผู้ชายคนนี้ไม่ได้ตรวจสอบประวัติกับฉัน เบอร์ทัสไม่ได้พูดอะไรอยู่ครู่หนึ่ง บางทีอาจจะงุนงงอยู่ เขาพยักหน้าเปล่าๆ ราวกับว่าเขาได้สติกลับคืนมา
“อา ใช่….ใช่…. ฉันรู้คุณหมายถึงอะไร”
ฉันเดินไปมาตามท้องถนน
“ถ้าคุณไม่ชอบที่ฉันเป็นขอทานมันก็ช่วยไม่ได้”
เขาเข้ากับคนธรรมดาได้ดี แต่ขอทานล่ะ? เราไม่ได้เป็นแค่เจ้าชายและคนยากไร้ แต่เราเป็นเจ้าชายกับขอทาน
“ไม่ล่ะ ฉันชอบแบบนี้มากกว่า”
อย่างไรก็ตาม เบอร์ทัสให้คำตอบที่คาดไม่ถึงกับฉัน ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย เขาชอบมัน?
“เพราะความภักดีของนายมีเหตุผลที่ชัดเจนยังไงล่ะ”
ไม่เพียงแต่ฉันได้มาอาศัยอยู่ในสถานที่นี้เพียงเพราะฉันมีความสามารถบางอย่างเท่านั้น แต่ยังเป็นไปได้ที่ฉันจะได้สนทนากับเจ้าชายเช่นนี้
ดูเหมือนเขาจะคิดว่าใคร ๆ ก็สามารถเอาความภักดีของฉันที่มีต่อจักรวรรดิมาเป็นประเด็นได้ ใช่ นั่นเป็นคำพูดที่น่าเชื่อถืออย่างแน่นอน ราวกับว่าเขาเห็นว่ามันตลกที่ฉันบอกว่าภักดีเพราะเงิน เบอร์ทัสหัวเราะเบา ๆ
“ฉันไม่รู้ว่าประโยชน์ที่อยู่กับขอทานแบบไหนที่นายจะได้ ต้นกำเนิดของฉันไม่ได้เป็นความลับหรืออะไรเลย”
ฉันบอกเบอร์ทัสถึงประเด็นอื่นที่ฉันคิดว่าอาจเป็นปัญหา แน่นอนมันจะไม่วาดภาพที่ดีและต้นกำเนิดของฉันจะแพร่กระจายในสักวันหนึ่ง
“มันไร้สาระ”
อย่างไรก็ตามเบอร์ทัสตัดคำพูดฉัน
“ไรน์ฮาร์ด นายรู้เรื่องมดมั้ย”
“อ่าพอรู้”
“นายรู้หรือไม่ว่าพวกมันมีลำดับชั้นในสังคมมด”
“เหมือนราชินีมด มดงาน และอื่นๆ ไหม”
“ใช่ นั้นแหละ”
เบอร์ทัสกำลังจ้องมองอยู่ข้างนอก ราวกับว่าเขากำลังมองผ่านความมืด ทำไมอยู่ๆเขาถึงพูดถึงมด?
“ราชินีมด มดงาน มดทหาร และอื่นๆ อาจมีระบบที่ซับซ้อนกว่านี้ หรือไม่มีเลย แต่ฉันไม่รู้เรื่องนั้น”
“แล้วไง”
นายภูมิใจที่ตัวเองไม่รู้รึไง?
“ฉันจำเป็นต้องรู้อะไรเกี่ยวกับชนชั้นในหมู่มดด้วยรึไง”
เบอร์ทัสพูดอย่างเย็นชา
“ขอทาน สามัญชน ขุนนาง เจ้าชาย ดยุค เคานต์ ทำไมฉันต้องสนใจเรื่องนั้นด้วย”
นั่นคือคนประเภทที่เบอร์ทัสเป็น
“พวกมันดูเหมือนกันไปหมดเลย ไรน์ฮาร์ด”
เบอร์ทัสหัวเราะอย่างน่ากลัว
“ดังนั้น ไม่ว่า ไฮน์ริช ฟอน ชวาร์ซ หรือว่านาย”
เขามีตรรกะที่ค่อนข้างง่าย
“มันก็มีค่าเหมือนกันทั้งหมดสำหรับฉัน”
ทุกคนเท่าเทียมกันภายใต้เขา
ไม่ว่าจะเป็นมดทหารหรือมดระดับล่างสุดที่พยายามจะปฏิบัติอย่างเท่าเทียมเขา เขาก็ไม่สนใจทั้งสองทาง เขาพูดออกมา แต่สุดท้ายก็แปลว่าเขาไม่สนใจเลยว่าฉันเป็นอะไร
เขาบอกฉันว่าอย่ากังวลเรื่องนั้น
“ฉันก็เห็นด้วยอยู่หรอก แต่วิธีที่นายใช้พูดนั้นค่อนข้างรุนแรงเลยล่ะ”
ดูไอ้คนบิดเบี้ยวนี่สิ
“นั่นแหละคืออำนาจ ไรน์ฮาร์ด”
เบอร์ทัสหัวเราะคิกคัก
“ผู้ที่มีมัน มีอิสระที่จะเป็นคนบ้า”
การเลือกใช้คำพูดของเขาค่อนข้างรุนแรง การได้รับการปฏิบัติอย่างสะดวกสบายนั้นไม่ดีหรือ?
ผู้มีอำนาจมีเสรีภาพที่จะเป็นคนหัวสูง
“ถึงแม้นายไม่มีอำนาจแบบนั้น แต่นายก็เป็นในแบบที่นายเป็น”
สำหรับเบอร์ทัส ดูเหมือนเขาจะสนใจฉันเพราะฉันทำตัวบ้าบอ แม้ว่าฉันจะไม่มีอำนาจอะไรเลยก็ตาม ด้วยเหตุนี้บางคนจึงตัดสินว่าฉันเป็นคนลึกลับในที่สุด
“นายเป็นขอทานแต่ดูเหมือนนายจะค่อนข้างหัวดีอยู่ ความคมคายของนายมักไม่พบในคนที่เกิดมายากจน”
“มีคนทุกประเภทในโลกนี้”
เบอร์ทัสมองมาที่ฉัน ราวกับว่าเขาพยายามมองผ่านฉัน
“ก็ได้ เดี๋ยวมาดูกันว่านายซ่อนอะไรอยู่”
ดูเหมือนเขาจะมั่นใจว่าขอทานไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ เขาปฏิบัติต่อฉันเหมือนเป็นเพื่อน แต่เบอร์ทัสสงสัยในตัวฉันอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงต้นกำเนิดของฉันได้
เรื่องที่ว่าฉันไม่ได้พยายามทำตัวเหมือนขอทานโง่ๆทั่วไป
ฉันไม่ได้ผิดหวังทั้งหมดเพราะมันเป็นผลลัพธ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
ในท้ายที่สุด เบอร์ทัสก็ไม่เชื่อถือภูมิหลังของฉันอย่างเต็มที่หรือค่อนข้างไม่เชื่อในสิ่งนั้น
เขาไม่ได้บอกให้ฉันอยู่ภายใต้เขาและฉันไม่ได้บอกว่าฉันจะอยู่ภายใต้เขา
“แต่มันเป็นความจริงที่ว่าฉันไม่มีความสามารถอะไรเลย มีอะไรเกี่ยวกับฉันบ้างที่นายสนใจมากจนอยากเข้าใกล้ฉันมากขนาดนี้”
“พรสวรรค์เหล่านั้นยังน้อยนิดและไร้ประโยชน์ในตอนนี้ แต่เครื่องสแกนร่างกายไม่สามารถอธิบายทุกอย่างเกี่ยวกับมนุษย์ได้”
หลังจากที่เบอร์ทัสเปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงของเขาแล้ว เขาก็ไม่แสร้งทำใจดีต่อหน้าฉันอีกต่อไป ความสามารถเท่าหนูน้อย เบอร์ทัสวิจารณ์ว่านักเรียนรอยัลคลาสนั้นไร้ประโยชน์
ดูเหมือนเขาจะคิดว่ามันโง่ที่จะเชื่อในสิ่งที่เครื่องสแกนร่างกายแสดงเท่านั้น เขามุ่งเน้นไปที่ตัวบ่งชี้ที่สิ่งนั้นไม่สามารถแสดงได้
“ฉันต้องการคนที่สามารถใช้หัวได้ดี มากกว่าพรสวรรค์บางอย่างเป็นร้อยเท่า แน่นอนว่าคนที่ก่อเรื่องบ่อยๆนั้นค่อนข้างเป็นปัญหา แต่อย่างที่นายเคยใช้ชีวิตแบบนั้น ฉันก็พอเข้าใจพฤติกรรมของนายในระดับหนึ่ง”
เบอร์ทัสหัวเราะเบาๆ ดูเหมือนเขาจะมองว่าฉันเป็นคนฉลาดและมีวิจารณญาณที่ดี แต่ทันทีที่มีคนเริ่มเถียงฉัน ฉันจะใช้กำปั้นของฉันก่อน เนื่องจากฉันเป็นขอทาน เขาจึงคิดว่าฉันทำอย่างนั้น
ไม่ แต่….
ฉันไม่ใช่ขอทานจริงๆนะเฟ้ย….
“เอาล่ะ สิ่งที่ฉันอยากจะพูดก็ยังคงเหมือนเดิมในท้ายที่สุด พยายามระงับอารมณ์ของนายหน่อยนะ”
เรากลับไปที่จุดเริ่มต้นและเขาก็พูดในเรื่องเดิม
“ฉันจะลอง ถ้าคนไอเวรพวกนั้นพูดจารู้เรื่องน่ะนะ”
“สำหรับตอนนี้ เรื่องที่จะคุยก็มีแค่นี้แหละ”
เบอร์ทัสลงมาจากราวระเบียงและยืนอยู่ตรงหน้าฉัน
“เมื่อฉันแน่ใจว่านายเป็นคนของฉันแล้ว เราค่อยมาพูดเรื่องที่สำคัญกว่านี้กันเถอะ”
เวลาที่เบอร์ทัสจะเชื่อใจฉัน
เวลาที่ฉันเชื่อใจเบอร์ทัส
เวลานั้นยังมาไม่ถึง
แต่เบอร์ทัสเห็นคุณค่าของฉัน ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงโยนเหยื่อออกไปก่อน เช่น “อย่าลืมว่าใครเห็นคุณค่าของนายก่อน”
ฉันรู้โดยไม่ต้องคิดด้วยซ้ำว่าใครมาก่อน
* * *
ฉันเป็นเพื่อนกับเบอร์ทัส ไม่ เรายังไม่ได้เป็นเพื่อนกัน อย่างไรก็ตาม แม้ว่าฉันจะยังไม่ได้รับความโปรดปรานจากเจ้าชายอิมพีเรียลมากนัก แต่ดูเหมือนว่าเขาจะมองฉันในแง่ดี ฉันดูเหมือนจะถูกตัดสินว่าเป็นคนมีประโยชน์
ไม่มีผลที่มองเห็นได้จากสิ่งนั้น เขาไม่ได้ทำตัวเป็นมิตรเกินไป แน่นอนว่าเราจะคุยกันแบบสบายๆ โดยไม่คำนึงว่าคนอื่นจะเห็นเราหรือไม่ ตอนนี้อาจมีข่าวลือลอยๆ มาบ้างว่าเจ้าชายอิมพีเรียลใจดีแม้กระทั่งกับไอ้บ้าบางคน
ชั้นเรียนในวันศุกร์ ได้แก่ พลังศักดิ์สิทธิ์ การเล่นแร่แปรธาตุ และการสังเคราะห์
การศึกษาเกี่ยวกับพลังศักดิ์สิทธิ์มีไว้สำหรับผู้ที่ได้รับพรสวรรค์ด้วยพลังจากสวรรค์ ดังนั้นคนที่เข้าเรียนในชั้นเรียนนี้คืออีริชและอาเชอร์จากคลาส B เท่านั้น ส่วนที่เหลือเป็นนักเรียนในคลาสปกติทั้งหมดที่ต้องการเป็นนักบวชหรือพาลาดิน
แน่นอน ฉันเข้าใจสิ่งที่พวกเขาพยายามสอน แต่ฉันไม่รู้สึกถึงพลังแห่งสวรรค์เลย การใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ในฐานะปีศาจ ดูน่าตลกดีใช่มั้ย?
ทุกคนที่เรียนวิชาเวทมนตร์จะต้องเรียนวิชาเล่นแร่แปรธาตุเช่นกัน การเล่นแร่แปรธาตุดูเหมือนจะทำได้ค่อนข้างแตกต่างจากชั้นเรียนเวทมนตร์ เป็นคลาสที่สนุกเพราะเป็นคลาสที่ใช้ได้จริง
ศิลปะการต่อสู้ทั่วไป
ฉันเกือบจะตามไม่ทันในขณะที่พยายามจะเข้าใจมัน
ในที่สุดนี่ก็ใกล้จะถึง พละครั้งที่2 แล้ว
ไม่มีใครกล้าแม้แต่จะสบตากับฉันเลย ยกเว้นลุดวิก ดูเหมือนว่าจะมีข่าวลือว่าฉันก่อเรื่องบ้าๆบอๆไปทั่วจากทั้งคลาส A และ B
เมื่ออีริชเห็นฉันในวันนี้ในคาบพลังศักดิ์สิทธิ์ ดูเหมือนเขาจะหลีกเลี่ยงฉัน และชายคนนั้นชื่อ อาเชอร์ซึ่งเรียนวิชาเอก พลังศักดิ์สิทธิ์จากคลาส B ก็หันศีรษะของเขาอย่างรวดเร็วราวกับมีอะไรขึ้นหลังจากที่เขาสบตากับฉันเพียงครั้งเดียว
ฉันไม่ได้เป็นคนพาล เป็นแค่คนโรคจิตที่พวกเขาต้องการหลีกเลี่ยง
และความจริงเบื้องหลังข่าวลือที่ว่าฉันมีภูมิหลังลึกลับบางอย่างก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะแพร่กระจายออกไป
เบอร์ทัสต้องการให้ความเข้าใจผิดได้รับการแก้ไขด้วยตัวเองงั้นเหรอ?
จริงอยู่ว่าฉันเป็นคนอารมณ์ร้าย แต่ฉันก็ไร้ความสามารถเช่นกัน ดังนั้นถ้ามีผู้ชายที่แข็งแกร่งเข้ามา ฉันมั่นใจว่าคนๆ นั้นที่ทุบตีฉันจะทำให้เรื่องต่างๆ ดีขึ้น แต่ดูเหมือนว่าคนประเภทนั้นกำลังหลบหน้าฉันเพราะความเข้าใจผิด
ภูมิหลังที่ซ่อนอยู่?
เด็กๆกับจินตนาการของพวกเขา….
* * *
ตามกฎแล้วนักเรียนรอยัลคลาสจะต้องอาศัยอยู่ในหอพัก แน่นอน เนื่องจากนักเรียนส่วนใหญ่ของวิหารมาจากประเทศที่ห่างไกล พวกเขาส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในวิหาร แต่ก็มีนักเรียนของวิหารบางส่วนที่อาศัยอยู่ในการ์เดียม ดังนั้นจึงมีบางกรณีของนักเรียนที่เดินทางไปโรงเรียน
แน่นอนว่าวิหารนั้นใหญ่โตมาก ดังนั้นต้องตื่นแต่เช้าเพื่อออกจากโรงเรียนและออกไปข้างนอก
ในบรรดาสมาชิกของรอยัลคลาส ผู้ที่มีคฤหาสน์ในการ์เดียม มักจะกลับบ้านในวันหยุดสุดสัปดาห์ ไม่มีกิจกรรมบังคับในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ทุกคนมีอิสระที่จะเรียน เล่น หรือทำอะไรก็ได้ตามต้องการ
ฉันสามารถอยู่หอพักได้ แต่ฉันก็ต้องอยู่คนเดียวอยู่ดี ฉันไม่รู้ว่าจะปลุกความสามารถของฉันได้อย่างไร
ฉันควรบอกให้พวกเขารู้ว่าสัปดาห์แรกของฉันเป็นอย่างไร
* * *
ฉันจะไปที่ไหนดี
แน่นอนสำหรับแก๊งโรตารี บริเวณท่อน้ำทิ้งใต้สะพานบรอนซ์เกต
“……ฝ่าบาททำร้ายเด็กๆ หมายความว่ายังไง”
“…จะว่าไปแล้ว เอ่อ มันก็เป็นอย่างนั้นแหละ”
เมื่อฉันบอกโลยาร์ เกี่ยวกับชีวิตในวิหารของฉัน เธอมองมาที่ฉัน เธอดูเหมือนจะคิดว่าฉันยังไม่ได้กำจัดนิสัยเก่า ๆ หรืออะไรบางอย่าง ท้ายที่สุดแล้ว การแสดงของฉันก็เหมือนกับเจ้าชายคนเดิม ใช่มั้ยล่ะ?
“พวกเขาเป็นผู้เลือกการต่อสู้เองนะ ฉันจะไปตบหัวคนที่เอาแต่สนใจเรื่องของตัวเองได้ที่ไหนล่ะ”
“อา ก็ใช่”
ตามคำแก้ตัวของฉันโลยาร์มองมาที่ฉันราวกับว่ามันช่วยไม่ได้
เป็นอะไรกันคนคนนี้?
“ขอมือหน่อย”
– แปะ
“อย่า อย่าทำแบบนี้ องค์ชาย….”
“ถ้ายังมองฉันอยู่อย่างนั้น ฉันจะบอกให้หงายท้องของเธอด้วย”
“ฉัน ฉันไม่ได้ตั้งใจทำอย่างนั้นจริงๆ ฝ่าบาท….”
เธอเป็นคนตรงไปตรงมามากกว่าใคร ๆ ที่ฉันรู้จักเลยล่ะ