เจี้ยนกู่ เซียนกระบี่สยบหล้า - ตอนที่ 295 ทรายกระจายร้อยสาย เถ้าถ่านร้อยกอง (1)
ตอนที่ 295 ทรายกระจายร้อยสาย เถ้าถ่านร้อยกอง (1)
ทรายพัดกระจายเต็มฟ้า
อาภรณ์แดงโบกสะบัด สตรีคนหนึ่งยืนกลางพายุหมุน
เกิดเสียงดังมาก
อาชุนยืดคอขึ้น หลับตาลง
ตอนนี้ ในใจสงบนิ่ง ภาพที่วนเวียนในความคิดนาง…คือภูเขาแม่น้ำที่เคยผ่านและดอกไม้บานดอกไม้โรยราที่เคยเห็นตลอดร้อยปีมานี้
นางผ่านอุปสรรคมาเท่าไรกว่าจะมาถึงตรงนี้
เส้นทางเมืองหลวงไกลโพ้น นางรู้ว่าในกรมปราบปีศาจมีกลอุบายสื่อสารพันลี้ ในเมืองเล็กใหญ่ ผู้ถือคำสั่งทุกคนจะมีป้ายชีวิตอยู่ ผู้ถือคำสั่งสองคนที่ตนสังหารที่น้ำตกเล็กนอกเมืองอาทิตย์อุทัยและหน่วยเล็กประจำการประตูหยก…คงปิดข่าวได้อีกไม่นานแล้ว
ชุนเซี่ยชิวตงรวมถึงตน ต่างได้รับบาดเจ็บไม่น้อยในศึกที่น้ำตกเล็ก
อาชุนย่อตัวลง ร่างผอมแห้งนั้นเห็นใบหน้าแท้จริงไม่ชัด ชุดคลุมโบกสะบัด ตัวยืนนิ่ง เค้าโครงตรงขอบเติมเต็มจากทราย ไหลหลากเหมือนสายน้ำ นี่คือกลอุบายของขอบเขตราชันปีศาจ รวมร่างขึ้นจากจิต
เจียหลัวมองนางนิ่งๆ เช่นนี้
ยังเหลือก้าวสุดท้ายในการทำลายค่ายกล
อาชุนเงยหน้ามองทอดไกล
ทะเลทรายไกลลิบมีสามร่างคนเดินออกมาช้าๆ
แม่นางชุดครามถือกระบี่ตารางหนานั้นด้วยมือเดียว ‘ปราณกระบี่ท่องหล้า ใต้ฟ้าต้าสุย’ ถูกนางปาขึ้นด้านบนเบาๆ ระหว่างที่ลอยขึ้น ตัวกระบี่วาดวงกลมหลายวง ทำให้นางดูอ่อนช้อยและเอวบางขึ้นทีละนิดกลางพายุทราย
ในแดนผนึกที่เจียหลัวหลุดออกมาแห่งนี้ ปราณกระบี่แสงดาราของท่านเผยหมินก็ยังผ่านไปได้สบาย เส้นสายปราณกระบี่ออกจากตัวกระบี่ตารางหนา เหมือนปลาเวียนว่ายเข้าไปในระหว่างคิ้วเด็กสาว
เพราะเสียปราณกระบี่เสริมพลังไป กระบี่ตารางหนาจึงเบาขึ้นมาก
หลังเก็บปราณกระบี่กลับไปทั้งหมด แม่นางชุดครามเอามือกดระหว่างคิ้วเบาๆ พ่นลมหายใจยาว ถูกดาราชะตานั่นล่าสังหารมาหลายสิบลี้ เสียกำลังไปค่อนข้างมาก ใช้พลังของกระบี่ซ่อนไปไม่น้อย ตอนนี้เดินออกมาจากทะเลทราย อาภรณ์นางเปล่งแสงทองสว่างไสว ถึงขั้นแสดงพลังกดดันอย่างยิ่ง อานุภาพน่าเกรงขามมาก
หลังเก็บปราณกระบี่ กระบี่ตารางหนานั้นไหลลงดังชิ้ง เข้าไปในฝักกระบี่ เชือกเปล่งแสงอ่อนหลายเส้นสงบลงทีละนิด ก่อนจะดับแสงลง
เด็กสาวกลายเป็นเด็กสาวคนเดิมอีกครั้ง
ในสามคน เด็กหนุ่มชุดขาวหลิ่วสืออีอยู่ทางซ้าย แม่นางชุดครามเผยฝานอยู่ทางขวา ทั้งสองคนดูค่อนข้างเด่นตา ส่วนหนิงอี้ที่ยืนอยู่ตรงกลาง สวมชุดคลุมดำ ตรงแก้มมีทรายติดอยู่เล็กน้อย ดูธรรมดาไม่มีอะไรโดดเด่น
หนิงอี้มองแม่นาง ‘อาชุน’ คนนั้นด้วยสีหน้าซับซ้อน
เหยียนซิ่วชุนกวาดสายตามอง ‘ปราณนิรันดร์’ ของหลิ่วสืออี มองกระบี่ตารางหนาที่เข้าฝักของเด็กสาว สุดท้ายหยุดอยู่ที่ร่มกระดาษมันข้างเอวหนิงอี้
นางได้ยินนามของหนิงอี้มานานแล้ว
ไม่ใช่แค่ได้ยิน
นางยังจ่ายเงินไปจำนวนมากเพื่อเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดของคุณชายหนิงคนนี้ ทั้งต้าสุย ดูท่าคงไม่ได้มีแค่นางคนเดียวที่ทำเช่นนี้
สิ่งที่ดึงดูดนางไม่ใช่ชื่อเสียงของผู้สืบทอดสวีจั้งแห่งเขาสู่ซาน
แต่เป็นลางสังหรณ์ของปีศาจ
ก็เหมือนที่นางออกหน้าช่วยหนิงอี้ ไล่ยอดนักกระบี่ดาราชะตาแห่งตำหนักทะเลสาบกระบี่คนนั้นไป
ในการท่องโลกมาหลายร้อยปี สภาพจิตใจนางไม่ใช่แค่ทดแทนคุณและมีแค้นต้องชำระง่ายๆ เช่นนั้นอีก หลักการพวกนั้นที่เจียหลัวบอกนาง อยู่นอกพายุทรายประตูหยกตั้งนานแล้ว ถูกกฎเกณฑ์ของโลกมนุษย์ทำลายไปแล้ว
อาชุนรู้ว่ากระบี่ยาวสูงเท่าคนที่เด็กหนุ่มชุดขาวกอดอยู่เป็นกระบี่ล้ำค่าหายาก หากสืบประวัติตามเจ้าของกระบี่ บางทีอาจจะไปถึงยอดผู้บำเพ็ญราชันดาราเมื่อหลายปีก่อนของต้าสุย หรืออาจจะเป็นคนที่ระดับสูงกว่านั้น
กระบี่ตารางหนาของแม่นางเผยคนนั้นก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน
แต่กระบี่สองเล่มนี้ไม่ใช่กระบี่ที่นางสนใจ
กระบี่ที่ทำให้นางรู้สึกสับสนไม่รู้ตื้นลึกหนาบาง ยำเกรงและเคารพ…คือร่มกระดาษมันที่หนิงอี้ห้อยไว้ตรงเอวง่ายๆ
พินิจเหมันต์
พวกเขาหนีตายมาที่นี่ เพียงเพราะสนใจแสงดาราแว้งกัดตอนเจียหลัวทำลายค่ายกล
อาชุนพลันเกิดความคิดประหลาดอย่างหนึ่ง
หากไม่มีแสงดาราเหนือกว่าสิบขอบเขต ยอดนักกระบี่ตำหนักทะเลสาบกระบี่คนนั้นตามเข้ามาที่นี่ เนื่องด้วยมองไม่เห็น กายจิตจะต้านกระบี่พินิจเหมันต์ที่มาอย่างกะทันหันได้หรือไม่
นางมองหนิงอี้ด้วยความงุนงงเช่นนี้
เด็กหนุ่มที่มีใบหน้าค่อนข้างหล่อเหลาคนนั้นปล่อยมือที่จับด้ามร่มกระดาษมัน
พลังบำเพ็ญหนิงอี้ต่ำมาก ต่างกับดาราชะตาราวกับฟ้าดิน
แต่อาชุนกลับเห็นพลังมหาศาลที่ไม่อาจกล่าวได้ในในร่มกระดาษมันนั้น นั่นคือความหนักแน่นที่เหนือกว่ากฎเกณฑ์และลำดับขั้นตอน
ร่างของยอดนักกระบี่ตำหนักทะเลสาบกระบี่คนนั้นต้านไม่ไหว
สตรีอาภรณ์แดงคลึงระหว่างคิ้ว
นางพูดเสียงเบา “บุญคุณที่คุณชายหนิงส่งข้ามาที่นี่ อาชุนทดแทนให้แล้ว”
หนิงอี้มองเจียหลัวที่รวมร่างขึ้น หลังไล่ซูชีแห่งตำหนักทะเลสาบกระบี่ไปก็ไม่พูดอีก ร่างนั้นดูเหมือนซ่อนพลังมหาศาลไว้ เพลิงจิ้งจอกวนเวียนเป็นดวงๆ แต่ยิ่งพายุทรายรุนแรงมากขึ้นเท่าไร ร่างนี้ก็ยิ่งลอยล่องไม่แน่นอน เหมือนใยหลิ่วที่จะถูกพัดลอยไปได้ทุกเมื่อ
เขาถอนหายใจเบา “แม่นางเหยียนทดแทนคุณจริงๆ รึ”
อาชุนมองแม่นางชุดครามข้างกายหนิงอี้ก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม “คนปีศาจอยู่ร่วมกันไม่ได้ ในเมื่อแม่นางเผยชำนาญวิถีแห่งยันต์ และยังมีสมบัติติดตัวมากมาย ดูท่าก็คงจะมียันต์ด้ายทองด้วยกระมัง”
เผยฝานยังไม่ทันตอบ คนคลั่งกระบี่ชุดขาวหลิ่วสืออีก็สะบัดแขนเสื้อเบาๆ ยันต์สีทองที่สั่นไหวในแขนเสื้อไม่หยุด เตือนว่าที่นี่มีไอปีศาจรุนแรงนั้นก็กลายเป็นแสงสีทองพุ่งลงดิน ทรายกระจายขึ้นมา
ไม่ใช่ยันต์ด้ายทอง แต่เป็นยันต์กระดิ่งทอง แต่ก็มีวิธีการใช้งานเหมือนกัน
อาชุนพูดนิ่งๆ ด้วยสีหน้าแววตาโอนอ่อน “ถ้าอย่างนั้น ตั้งแต่ที่เจอกันที่เมืองอาทิตย์อุทัย ทุกคนก็รู้อยู่แก่ใจแล้ว การเดินทางครั้งนี้มาจนถึงตอนนี้ ความจริงเป็นแค่การแลกเปลี่ยนกัน คุณชายหนิง ข้าไม่ติดค้างอะไรเจ้าแล้ว”
……………………….