เจี้ยนกู่ เซียนกระบี่สยบหล้า - ตอนที่ 294 ปีศาจน้อย (3)(2)
ตอนที่ 294 ปีศาจน้อย (3)(2)
โลกนี้มีเรื่องน่าเสียดายมากมาย
อย่างเช่นอายุคนสั้นมาก อายุปีศาจยาวมาก ข้าเคยเห็นการกำเนิดของคนมากมาย และก็ตายจากไป
แต่มีความตายของบางคนที่ข้าว่าน่าเสียดายมาก
อย่างเช่นชื่อที่ข้าฟังจนเอียน
เผยหมิน
อย่างเช่นนามที่เพิ่งดังขึ้น แต่ไม่นานก็ดับลง
สวีจั้ง
ยามว่าง ข้ามักจะรวบรวมข่าวต่างๆ
ใบหน้านี้ของข้างามมาก ดังนั้นข้าจึงมีของที่สำคัญที่สุดในใต้ฟ้าต้าสุย เงินที่ไร้ประโยชน์กับข้าพวกนั้นเหมือนจะเป็นของที่ใครหลายคนเฝ้าใฝ่ฝัน ของหลายอย่างก็เป็นเช่นนี้ ยิ่งเจ้าอยากได้มากเท่าไรก็ยิ่งไม่ได้มา หลังจากเจ้ามองด้วยเหตุผลหรือมองเป็นของไร้ประโยชน์ เจ้าจะได้มันมา เหมือนไม่ได้ยากเย็นอะไร
เงินเป็นของเช่นนี้
แต่หลายคนปล่อยวางไม่ลง ดังนั้นยิ่งพวกเขาอยากได้ก็จะยิ่งไม่ได้มา
น่าเสียดายที่พวกเขามีชีวิตสั้นมาก มองไม่ออก ไม่เหมือนข้า ดังนั้นจึงมีเงินไม่มากเท่าข้า
ข้าเก็บเงินได้เยอะมาก ซื้อข่าวกรองมากมาย
หลังจากสวีจั้งตาย ข้าก็ได้ยินชื่อใหม่
‘หนิงอี้’
ชื่อนี้เริ่มเผยแววในเมืองหลวง
ในยุครุ่งเรืองของต้าสุย เหมือนจะมีนามที่มีกำลังแฝงไร้ขีดจำกัดอยู่บ้าง…แต่ต่อให้เป็นเซียนจุติลั่วฉางเซิงที่ปุถุชนสรรเสริญ ก็ไม่ได้ให้ความรู้สึกอย่างสวีจั้งและเผยหมินกับข้า
ข้าเริ่มใช้เงินทองซื้อข่าวทุกอย่างเกี่ยวกับเขา…เพราะลางสังหรณ์บอกข้าว่านี่จะเป็นนามมนุษย์ที่สว่างไสวยิ่งคนที่สามต่อจากเผยหมินและสวีจั้งในกาลเวลาอันยาวนานของข้า
ข่าวบางอย่างใช้เงินซื้อได้
ข่าวบางข่าวใช้เงินซื้อจะถูกจับเข้าคุก
ข้ารออยู่เมืองอาทิตย์อุทัยสิบปี สิ่งที่สำคัญที่สุดคือหาข่าวที่ใช้เงินซื้อไม่ได้ด้วยตัวเอง
วันที่สิบห้าเดือนสามของทุกปี
ข้าตามหลังหน่วยกรมปราบปีศาจและรวบรวมข้อมูลทีละนิด สรุปเป็นข่าวกรอง
สังเกต รวบรวม
รอ แล้วก็รออีก
สืบข่าว รวบรวมข่าว นี่เหมือนจะเป็นเรื่องเล็ก แต่ข้าทำอย่างระมัดระวังมาก ดังนั้นถึงได้ช้ามาก
เวลาผ่านไปโดยไม่รู้ตัว จักรพรรดิผู้ฮึกเหิมเร่าร้อนในตอนนั้นเหมือนจะไม่ได้หนุ่มอีกแล้ว ข้าไม่ได้ยินข่าวเขาสู้กับพญาเผิงปีกทองที่ทางเหนืออีก
ในเมืองหลวง บุรุษคนนั้นกำลังผ่านอายุขัยหกร้อยปี ใต้หล้าต่างร่วมเฉลิมฉลอง
ราชวงศ์นี้แก่ชราตามจักรพรรดิ เหมือนจะไม่เฉียบคมเท่าตอนแรกอีก
การสืบข่าวในปีสุดท้าย
หลายปีมานี้ ข้าค่อยๆ พบเรื่องหนึ่ง…กรมปราบปีศาจหนุ่มในสามกรมเมืองหลวงเริ่มเกียจคร้าน พวกเขาไม่เปลี่ยนแผนอีก ไม่เปลี่ยนคนอีก ผู้คุ้มกันเลือดจิ้งจอกในทุกปีจะเป็นผู้ถือคำสั่งสองคนตลอด แล้วก็มือใหม่ที่เพิ่งเข้ากรมสี่คน
จนถึงตอนนี้
ข้ามั่นใจว่าข้ารู้ข้อมูลทั้งหมดของกรมปราบปีศาจ
รู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับทะเลทรายประตูหยก ข้าประทับมันไว้ในความคิดหมด…หมายความว่าในที่สุดก็จะได้เริ่มทุกอย่างแล้ว
ข้าไม่มีพลังบำเพ็ญที่จะทำนายและพยากรณ์เหมือนยอดผู้บำเพ็ญพวกนั้น จึงได้แต่เรียงความเป็นไปได้ทุกอย่างบนกระดาษ
ทุกอย่างมีทั้งดีและร้าย
แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน แผนการครั้งนี้ต้องสำเร็จเท่านั้น ห้ามพลาด
หากเรื่องชิงเลือดจิ้งจอกสวรรค์จากกรมปราบปีศาจรั่วไหลออกไป นั่นหมายความว่า…ความพยายามหลายสิบปีไปจนถึงร้อยปีของข้าจะต้องเสียเปล่าทั้งหมด
ข้าหันมาด้วยความสับสน ข้าทำทุกอย่างนี้ก็เพื่อช่วยเจียหลัวออกมา
แรงผลักดันที่ให้ข้าทำเรื่องนี้ดับลงไปทีละนิด กลายเป็นความเคยชิน
ข้าชินกับชีวิตแบบนี้แล้ว
เป้าหมายและทิศทางอันห่างไกลนั้น ตอนนี้เหมือนเป็นแสงไฟอันริบหรี่
ข้าพลันนึกถึงเสียงของเจียหลัว
หนึ่งวันก่อนออกจากเมืองอาทิตย์อุทัย ข้าขอพรต่อดาวบนฟ้า หวังว่าหลังจากคืนนี้ไป ข้ากับเจียหลัวจะได้พบกันอีกครั้ง ไม่ต้องทรมานและเฝ้ารอคอยนานขนาดนี้อีก
…..
วันที่สิบห้าเดือนสาม นอกเมืองอาทิตย์อุทัย น้ำตกเล็ก
ข้าพาเซี่ยชิวตงสามคนมาวางค่ายกลเอาไว้ก่อนแล้ว
จากนั้นรอหน่วยหกคนที่คุ้มกันเลือดจิ้งจอกสวรรค์ตั้งแต่เที่ยงคืน
เหมือนกับตอนที่รอคนที่นี่ครั้งแรก
เกิดฝนตกหนัก
ดังนั้นการมองเห็นจึงพร่าเลือน
ข้ามองไกลๆ เห็นเค้าโครงหกคนนั้นชัดเจน ข้าก็รู้ว่าทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว
ผู้ถือคำสั่งสองคนนั้นขี่ม้างามที่ข้าไม่เคยเห็นมาก่อนสองตัว หลายปีมานี้ ข้าจำรายละเอียดของหน่วยกรมปราบปีศาจที่เดินทางไปประตูหยกได้ทุกอย่าง ตั้งแต่คุณภาพของดาบและรูปแบบ ไปจนถึงขนแผงคอและความอดทนของม้าที่ขี่
ข้าสังเกตซ้ำไปมาสิบกว่าปีมานี้ก็เพื่อจัดเรียงความเป็นไปได้ทุกอย่าง
เหมือนกับกลุ่มก่อน ในหกคน เป็นผู้ถือคำสั่งสองคน คนใหม่เพิ่งเข้ากรมสี่คน
แต่ผู้ถือคำสั่งสองคนนั้นแข็งแกร่งจนถึงขั้นที่ว่า…มองครั้งแรกข้าก็เข้าใจ ตอนนี้คิดหนีก็เป็นเรื่องเพ้อฝันแล้ว
ผู้ถือคำสั่งที่ขี่ม้าสองคนนั้นคุมบังเหียนช้าๆ พวกเขาปล่อยยันต์สีทองที่ข้าไม่เคยเห็นมาก่อนมาจากในแขนเสื้อ ก่อนชูขึ้นช้าๆ มองข้าผ่านน้ำตกเล็กในระยะที่ไกลมาก
กรมปราบปีศาจมีวิธีการชี้แนะคนใหม่หลากหลายวิธี วิธีที่ดีที่สุดคือสอนพวกเขาสังหารปีศาจจริง
ฝนตกโหมกระหน่ำลงมา
เดิมทีข้าคิดว่าคืนนี้จะเป็นศึกหนัก
ปราณกระบี่ตัดม่านฝน ผู้ถือคำสั่งกรมปราบปีศาจขอบเขตที่เก้าสองคนร่วมมือกัน โซ่ล่ามปีศาจพุ่งมาจากในแขนเสื้อ มัดข้าไว้ ข้าดิ้นไม่หลุด ขยับตัวก็ไม่ได้
กลางฝนตกหนัก ข้าเห็นผู้ถือคำสั่งกรมปราบปีศาจคนหนึ่งกอดกล่องเหล็กนั้นไว้
นั่นคือเลือดจิ้งจอกสวรรค์ที่ข้าตามหามาไม่รู้กี่ปี
มีมันข้าก็จะทวนลายค่ายกล ทำลายคุกทะเลทรายประตูหยกได้
ตอนนี้มันห่างจากข้าแค่สามฉื่อ
สามฉื่อ ข้ายื่นมือก็เอื้อมถึงแล้ว
กระบี่นั้นกดกรามข้า ฝนตกกระทบบนคมกระบี่ดังเปาะแปะ ดีดออกมาเป็นเงาผู้ถือคำสั่งที่สวมชุดคลุมใหญ่สีดำยืนกลางพายุฝน
ผู้ถือคำสั่งอธิบายว่าจะสังหารปีศาจอย่างไร
เสียงเขาดังอยู่ข้างหูข้าและไกลออกไป สำหรับข้า เขาพูดอะไรไม่สำคัญแล้ว
ทุกอย่างจบแล้ว…
หลังพูดจบก็นิ่งไปเล็กน้อย จากนั้นข้าก็ได้ยินเสียงกระบี่ตัดพายุฝน
คมกระบี่เปลี่ยนจากนอนเป็นตั้ง ฟันหยดน้ำฝนที่ตกลงมาแตก
กดผ่านคอมาถึงหน้าอกข้า
ตรงนั้นคือหัวใจมนุษย์กับปีศาจ หนึ่งกระบี่ฟันออกไป ไม่ว่าใครก็ต้องตาย
ข้าเป็นปีศาจ เป็นต้นหลิ่วรวงสั้นที่มีชื่อเสียงเรื่องความอึดทน
แต่กระบี่นี้ฟันลง ข้าก็ยังต้องตาย
ปราณกระบี่พุ่งออกมา
ข้ามองเห็น
ถุงที่ห้อยไว้ตรงหน้าอกถูกปราณกระบี่ของกระบี่นี้ฟันแตก
ความคิดลอยล่อง ลอยไปนอกฟ้า
ข้าครุ่นคิดอย่างเหม่อลอย ออกจากด่านประตูหยก เดินทางร้อยปี ในถุงนั้นไม่มีอะไรแล้ว ทรายที่ใส่ไว้ตอนแยกกัน ถูกข้าโปรยไปทั่วสี่แดนต้าสุยนานแล้ว
เหตุใดกระบี่นี้ฟันถุงทรายแล้วยังมีทรายไหลออกมา
อีกทั้งยังมากขึ้นเรื่อยๆ ชั่วพริบตาเดียวก็เหมือนทะเลทราย
ข้าก้มหน้าลง กระบี่ของกรมปราบปีศาจผ่าหน้าอกข้า ด้ามกระบี่ยังห้อยไปมาตรงหน้าอก…ถุงทรายแตกว่างเปล่า สิ่งที่ปล่อยทรายออกมาไม่ใช่ถุง แต่เป็นหน้าอกของข้า
ความรู้สึกเจ็บปวดยังไม่ทันมาถึงก็ถูกหุ้มด้วยความอบอุ่นอันคุ้นเคย
ทะเลทรายกว้างใหญ่ เสียงจิ้งจอกร้องดังขึ้น!
ข้าเหม่อมองข้างบน ทะเลทรายที่ไหลมาจากร่างกายผอมเล็กของข้าทำลายล้างทุกอย่าง ระเบิดศีรษะผู้บำเพ็ญขอบเขตที่เก้าจากกรมปราบปีศาจสองคน เกิดหมอกโลหิตสีแดงขึ้นกลางฝน สุดท้ายรวมเป็นศีรษะจิ้งจอกปีศาจยาวตรงหน้าข้าช้าๆ
เมื่อวานข้าขอพร
ว่าอยากพบกับเจียหลัวอีกครั้ง
กระบี่บินนั้นถูกไอปีศาจมหาศาลดันออกจากหน้าอกทีละนิด แต่กลับไม่มีเลือดไหลออกมาเลย…
ตอนที่เกือบถูกนักพรตเต๋าชุดหยาบสังหารที่แดนประจิม ข้ารู้สึกเจ็บจนไม่อยากมีชีวิต ตอนถูกเขาวิญญาณตัดตบะ ข้าแทบจะโดดออกจากร่างมนุษย์ ตอนที่ถูกนักกระบี่แดนกลางฟันไปครึ่งร่างปีศาจ ข้าเหลือเพียงร่างครึ่งบน หมดสติไปสิบวันสิบคืน
ความเจ็บปวดพวกนี้ เจ็บจนข้าไม่อยากเผชิญอีกเป็นครั้งที่สอง
มีเพียงครั้งนี้ที่ข้าอยากจะตายจริงๆ
แต่กลับไม่รู้สึกเจ็บปวด
ข้านึกไปถึงของขวัญที่เจียหลัวมอบให้ข้าที่คุณชายหยวนฉุนบอก
ไม่ใช่สติปัญญา
ของขวัญที่เขามอบให้ข้าเป็นชีวิตใหม่ เป็นการปกป้องข้าที่ใช้ร่างปีศาจอันต่ำต้อยท่องใต้ฟ้าต้าสุยอย่างยากลำบากเป็นครั้งสุดท้าย
หนึ่งชีวิต
ตอนที่ข้ากำลังจะตายจริงๆ ทรายพวกนั้นที่เอามาจากด่านประตูหยกก่อนแยกกับเจียหลัว จะกลายเป็นจิ้งจอกปีศาจที่ข้าคุ้นเคย มอบโอกาสให้ข้าอีกครั้ง…ไม่อยากเชื่อว่าโลกนี้จะมีวิชาที่สุดยอดเช่นนี้อยู่
จิ้งจอกปีศาจนั้นเอาแก้มมาถูหน้าข้าอย่างสนิทสนม
ข้าเห็นทรายตกลงมาเต็มฟ้า
ก่อนจะรับกล่องดำที่บรรจุเลือดจิ้งจอกสวรรค์ที่ตกลงมา
ข้าไม่เข้าใจ…ที่คุณชายหยวนฉุนบอกข้าหมายถึงอะไร นี่คือบทสรุปที่ดีที่สุด ยอดปีศาจใต้ดินประตูหยกไม่ได้เหมือนพวกมนุษย์ในโลกต้าสุย เขามอบของที่ล้ำค่าที่สุดให้กับข้า
เหตุใดข้าต้องเสียใจ เหตุใดต้องเจ็บปวด
ตอนนี้ข้ารู้สึกว่าตัวเองเหมือนคนโง่ที่ถูกกาลเวลาหลอกลวง
ข้าท่องไปในโลกนี้ เรียนหลักการของโลก มองดูสายลมเย็นแล้วอ่านตำรา ท่องไปในตัวหนังสือ คบค้ากับคน ตั้งใจฟังแต่ละคำที่คุณชายสอนหนังสือ
ข้ามีชีวิตมาร้อยกว่าปี เรียนรู้เรื่องเล็กน้อยในโลกนี้แล้ว
รู้ว่าควรเป็นคนอย่างไร
สุดท้ายข้ารู้จักการหลอกลวง เฉยชาและสงสัย
ข้าลืมความแค้น ลืมรสชาติของความชอบ
และลืมความเสียใจ เพราะข้าไม่มีความสุขมานานมากแล้ว
ตอนที่กระบี่ฟันถึงหน้าอกข้า ข้าถึงนึกออกว่าข้าลืมไปว่าตนเองเป็นปีศาจ
ปีศาจมีอายุขัยยาวมาก แต่ก็ตายได้
และชีวิตนี้ของข้าเป็นเจียหลัวที่มอบให้
ข้าเป็นเพียงต้นหลิ่วรวงสั้น
ภาพทั้งหมดฉายในความคิด ตั้งแต่ลอยล่องจนเปิดจิตวิญญาณ จนถึงตอนอยู่ใต้ดิน
ข้านึกถึงคำมั่นที่เคยให้ไว้ตอนที่กอบทรายนั้นขึ้นมา
นึกถึงเงาตรงสุดทะเลทรายที่ห่างไปไกลขึ้นเรื่อยๆ
นึกถึงเพลงโบราณนั้น
ไกลพันลี้
ราตรีอันยาวนาน
ทะเลทรายกว้างใหญ่ มีจิ้งจอกหัวเราะเบาๆ
ผงทาแก้มสีแดงชาด เพลงกล่อมทางใต้แม่น้ำ
ภูเขามีสิ้นสุด ทะเลไม่เหือดแห้ง
ผ่านปีไปเช่นนี้ แสงตะเกียงไหวไปมา
เพียงแต่ไม่รู้
ยามที่พบกันอีกครั้ง ราชันจะจำได้หรือไม่
…..
ออกเดินทางมาร้อยปีแล้ว ข้าคิดมาตลอดว่าความจำข้าดีมาก ข้าจำเรื่องสำคัญไว้แล้ว
จนถึงตอนนี้ข้าเพิ่งจะรู้ตัว
ข้าพลาดแล้ว
ข้าจำแต่ว่าข้าต้องปลดผนึกที่ประตูหยก
แต่ลืมไปว่าเพื่ออะไร
……
ข้าเป็นปีศาจน้อยตนหนึ่ง
ต้นหลิ่วรวงสั้น
ข้าเคยเห็นมหาสมุทรดาราสุดทางเหนือที่เจียหลัวบอก
ที่นั่นคือบ้านเกิดของปีศาจทั้งหมด
แต่ไม่ใช่บ้านเกิดของข้า
ท่องโลกมาร้อยปี ข้าลืมเรื่องไปหลายเรื่อง ตอนนี้อยู่กลางฝนอาทิตย์อุทัย ข้านึกออกแล้ว
ข้าไปปลดผนึกประตูหยกก็เพราะข้าอยากกลับไปอยู่ข้างกายเจียหลัว
เพื่อเจอกันอีกครั้งและไม่แยกจากกันอีก
เจียหลัวสอนให้ข้าลืมความแค้นและเสียใจ ข้าคิดว่าข้าทำได้
ความจริงข้าแค่ลืมความชอบและก็ความสุขเท่านั้น
อยู่กับเขา ข้ามีความสุขมาก
ความรู้สึกนี้เรียกว่าความชอบ
ข้า จำได้แล้ว
………………………..