เจี้ยนกู่ เซียนกระบี่สยบหล้า - ตอนที่ 270-2ถ้ำสิบสองปี (2)
ตอนที่ 270 ถ้ำสิบสองปี (2)
นางเดินหน้าต่อไป ก็ไม่เกินคาด โครงกระดูกที่เจอไม่ใช่แค่ร่างเดียว
ล้วนอยู่ในท่าทางเหมือนกัน นั่งพิงผนังหิน กอดกระบี่สิ้นใจ
เข้าไปใกล้อีก บนพื้นยังมีศพตายอนาถ แม้จะเป็นโครงกระดูก แต่ร่างกายมีร่องรอยถูกโจมตีทุกส่วน
พลันมีเสียงแหบดังมาจากในถ้ำ
“อยากรู้หรือไม่ว่า…พวกเขาตายอย่างไร”
เผยฝานเลิกคิ้วขึ้น มองไปทางต้นตอของเสียง
“คนพวกนี้ล้วนเป็นทาสกระบี่” เสียงแหบนั้นติดขำ เอ่ยขึ้นเนิบๆ “อาทิตย์อุทัยเป็นเพียงเมืองเล็กในดินแดนกลาง น้ำตกนี้มีคนน้อยมากที่จะเปิดม่านเข้ามา ต่อให้มีคนเข้ามา เมื่อเห็นยันต์นั้นก็จะออกไปด้วยความกลัว ส่วนคนที่เข้ามาโดยไม่สนใจอะไรนั้น…สุดท้ายจะกลายเป็นทาสกระบี่”
คนคนนั้นหัวเราะ “ทาสกระบี่จะถูกข้าสูบปราณกระบี่ไปทั้งหมด แม้แต่อาภรณ์ยังไม่เหลือ กลายเป็นสารอาหารของข้า สามกรมขังข้าไว้จนถึงตอนนี้ หลายปีมานี้ก็ขี้เกียจจะสนใจข้าแล้ว…ถึงอย่างไรข้าก็ออกจากน้ำตกนี่ไม่ได้”
แสงสว่างขยายออกไปทีละนิด
ส่องสว่างหน้าตาคนผู้นั้น
บุรุษผอมแห้งหน้าตามอมแมมสวมชุดผ้า ถูกกระบี่ต่างๆ ปักไว้ทั้งตัว กระดูกสะบักถูกทะลวงด้วยโซ่เหล็ก ตรึงไว้แน่นที่สุด อีกด้านตอกกับผนังหินน้ำตก
“เจ้ากรมผู้คุมกฎใหญ่เมืองหลวงตรึงโซ่นี่ด้วยตัวเอง” บุรุษผอมแห้งพูดด้วยรอยยิ้ม “พวกเขาอยากให้ข้ารู้สึกโดดเดี่ยวที่สุด หิวตายทั้งเป็น แต่คงไม่คิดว่า…ข้าจะมีชีวิตรอดมาได้ด้วยวิธีเช่นนี้ ข้ารออยู่ที่นี่มาสิบสองปี เป็นระยะเวลาไม่สั้นแต่ก็ไม่ยาว ข้ายังอยู่ได้อีกสิบสองปี”
แค่มองทีเดียวก็ทำให้คนเกิดลางสังหรณ์อย่างหนึ่ง
คนคนนี้อันตรายมาก
เผยฝานยื่นมือไปข้างหนึ่ง ชี้โครงกระดูกที่นั่งกอดกระบี่อยู่ไกลๆ พลางถาม “คนพวกนั้นเป็นทาสกระบี่รึ”
คนบนพื้นตายน่าอนาถ
คนที่พิงกำแพงหินนั่งอย่างสงบ
บุรุษผอมแห้งไม่ตอบ แต่พูดอย่างเฉยชา “พวกเขาถูกข้าสูบปราณกระบี่ไปทั้งหมด ย่อมถือว่าเป็นทาสกระบี่”
เผยฝานไม่เดินหน้าและไม่ถอยหลัง
นางรู้ว่าทาสกระบี่คืออะไร ในศาสตร์นักกระบี่นอกรีตหนึ่งมีความคล้ายกับวิชาหลอมคนเป็นศพของผู้บำเพ็ญภูตผีแดนทักษิณ โดยนักกระบี่จะใช้จิตควบคุมทาสกระบี่เหมือนคุมกระบี่บิน ปราณกระบี่จะรุกรานเข้าร่างกาย ทำลายจิตวิญญาณร่างเดิม หากจิตนักกระบี่ออกจากร่าง ร่างนี้ก็จะเสียเลือดเนื้อ เดิมทีก็มีเพียงปราณกระบี่กับกระดูก แต่หลังจากปราณกระบี่ออกไปก็จะเหลือเพียงกระดูก
กระดูกกองเต็มพื้นก็เพราะเหตุนี้
บุรุษผอมแห้งถูกขังอยู่ในถ้ำนี้ ถ้าอยากมีชีวิตรอดก็ได้แต่ใช้วิธีนี้…ตอนปราณกระบี่ออกมาจะลากเลือดเนื้อออกมาด้วย ถือว่าเป็นสารอาหารที่ไม่มาก พลังบำเพ็ญเช่นนี้ไม่อาจคาดเดาได้ ต้องเป็นยอดผู้บำเพ็ญที่จุดดาราชะตาแน่นอน ทำให้เจ้ากรมผู้คุมกฎใหญ่ลงมือพันธนาการด้วยตัวเองได้ มีโอกาสสูงมากที่จะเป็นราชันดาราที่มีชื่อเสียงสักท่าน
เพียงแต่กลอุบายทาสกระบี่นี้ชั่วร้ายจริงๆ จิตกระบี่ของนักกระบี่ปกติจะใจกว้าง เปิดเผยตรงไปตรงมา ฝึกวิชาทาสกระบี่ก็เท่ากับจิตกระบี่อมฝุ่น ต่อให้มีวันพิสูจน์มหามรรคก็ไม่อาจเลี่ยงหายนะสายฟ้าได้
เผยฝานพ่นลมหายใจเบา
นางถามคำถามหนึ่ง
“เจ้าชื่ออะไร”
บุรุษผอมแห้งอึ้งงัน ก่อนจะหัวเราะ
เขาหัวเราะได้ช้ามาก เห็นๆ ว่าไม่ใช่การหัวเราะแบบบ้าคลั่ง แต่กลับมีกลิ่นอายความบ้าคลั่งอยู่เล็กน้อย…ถูกขังในถ้ำนี้มาสิบสองปี ไม่มีแสงดาราและความเป็นเทพ ไม่มีแสงสว่าง เขาหมดแรงไปตั้งนานแล้ว
ดังนั้นเขาจึงหัวเราะได้ดูเหนื่อยมาก
เห็นเด็กสาวกอดต้นครามมา บนบ่ายังมีแสงไฟสว่าง อยู่ตรงหน้าตนแต่กลับไม่ตื่นตระหนกเลย
นี่เป็นเรื่องที่เหลวไหลมากจริงๆ
“เจ้าอยากรู้ชาติกำเนิดข้ารึ” บุรุษผอมแห้งยิ้ม “แค่ผู้บำเพ็ญขอบเขตหลังตัวเล็กๆ รอข้ากินเจ้าลงท้องแล้วก็จะรู้เอง”
เมื่อเอ่ยจบ
บุรุษผอมแห้งที่ถูกแทงกระดูกสะบักและเสียพลังบำเพ็ญไปทั้งหมดพลันหน้าอกเว้าลง ก่อนอ้าปากกว้างในทันใด
สายลมเย็นในถ้ำรุนแรงขึ้น!
นี่ก็คือสาเหตุที่มีลมหนาวข้างนอกถ้ำเมื่อครู่!
หายใจเข้าออกทีเดียว ปราณกระบี่ก็เต็ม
ชุดครามของเผยฝานพลันพองขึ้น ต้นครามนั้นโบกไปมา
กลางฟ้าดินมืดครึ้ม
แสงกระบี่สายหนึ่งฟันออกไป!
บุรุษผอมแห้งหรี่ตาลง สายลมเย็นถูกแสงกระบี่ฟันขาด
กระบี่นี้ พายุสายฟ้าส่งเสียงดังสนั่น ความเป็นเทพอัดแน่นมาพร้อมกับพลังหมื่นชั่ง ฟันใส่หัวไหล่ บุรุษผอมแห้งที่จะพุ่งไปข้างหน้าพลันถูกขวางไว้ พริบตาเดียวก็ถูกอัดลอยไปฝังกลางผนังหิน
ในถ้ำ ข้างกายเด็กสาวมีร่างเงาชุดคลุมดำโผล่มา
เสียงลมหายใจของหนิงอี้ยังมีความร้อนใจอยู่สามส่วน เขาจ้องเงาอันตรายนั้นเขม็ง ก่อนพูดอย่างตึงเครียด “ไม่เป็นไรนะ”
เผยฝานมองหนิงอี้พลางรู้สึกอบอุ่นในใจ แต่น้ำเสียงกลับกลืนไม่เข้าคายไม่ออก “เจ้าตามมาทำไมกัน”
หนิงอี้ยังคงมองเงาผอมแห้งที่ฝังกลางผนังหินนั้น เขาออกหนึ่งกระบี่ดูมีอานุภาพสูงไป แต่เขารู้แก่ใจดีว่าแม้กระบี่นี้จะมีความเป็นเทพ แต่ก็ไม่มีทางสังหารอีกฝ่ายลงได้
นี่เป็นตัวอันตรายอย่างยิ่ง
หนิงอี้พุ่งเข้ามาในถ้ำ เห็นกองกระดูกเต็มไปหมดก็เดาได้แล้ว พอเห็นเงาผอมแห้งนั้นกับตาก็เข้าใจทุกอย่าง
“ไม่อยากเชื่อว่าเจ้าจะฝึกวิชาทาสกระบี่…” หนิงอี้กดนิ้วที่ตัวกระบี่เบาๆ ก่อนลากออกมาเป็นสายฟ้ารุนแรงแล้วพูดอย่างเฉยชา “ดูท่าคงจะเป็นพวกผู้บำเพ็ญภูตผี”
ปลายนิ้วมีความเป็นเทพไหลออกไป
“ช้าก่อน”
เผยฝานยื่นมือมาขวางหน้าหนิงอี้ไว้
หนิงอี้ขมวดคิ้ว นัยน์ตาฉายแววไม่เข้าใจ
นางโยนป้ายคำสั่งเก่าแก่ที่เก็บมาจากโครงกระดูกซึ่งกอดกระบี่ออกไป
ป้ายคำสั่งเก่าแก่นั้น ด้านบนแกะสลักอักษรโบราณเป็นลายพร้อย
ส่วนที่เหลือมองเห็นไม่ชัด เหลือแค่คำว่า ‘อุดร’…
แต่หากให้เขียนคำทั้งหมด
ความจริงคือ
‘ผู้ใต้บัญชาแม่ทัพใหญ่แดนอุดร’
ป้ายคำสั่งนั้นลากเป็นเส้นโค้งกลางอากาศ ไปตกลงตรงหน้าบุรุษผอมแห้ง ป้ายคำสั่งโบราณตกพื้น ฝุ่นกระจายขึ้น
เด็กสาวพูดเสียงเบา “ผู้ใต้บัญชาแม่ทัพใหญ่แดนอุดร”
บุรุษที่ฝังในผนังหินไม่ส่งเสียง เพียงแค่ขมวดคิ้วอยู่กลางฝุ่นดิน
กระบี่ของหนิงอี้ฟันเข้าที่หัวไหล่ ช่างเหนือความคาดหมายจริงๆ
เขาใช้สมาธิทั้งหมดอยู่กับเผยฝาน ไม่คิดเลยว่าจะยังมีบุคคลที่สามอีก
ความจริงก็โทษบุรุษผอมไม่ได้ ดวงจิตของเคียงกระบี่คืนชีพ เห็นความแปลกของที่นี่ จึงใช้จิตลบร่องรอยของหนิงอี้ไว้ตามใจ ต่อให้บุรุษผอมแห้งเบนความสนใจออกมาส่วนหนึ่งจริงๆ ก็อาจจะไม่พบกระบี่นี้
เขามองป้ายคำสั่งโบราณที่ตกพื้นก่อนพูดอย่างเย็นชา “เจ้าจะพูดอะไรกันแน่”
เผยฝานมีสีหน้าโอนอ่อน นางนำยันต์ที่ตนเก็บมาอย่างระมัดระวังออกมาจากกระเป๋าเอว
“คนนอกห้ามย่างกราย” นางเอ่ยเสียงเบา “เจ้ากรมผู้คุมกฎใหญ่ขังเจ้าไว้ที่นี่ ยันต์แผ่นนี้กลับไม่ใช่เขาเขียน แต่เป็นเจ้าเขียน…”
แววตาเด็กสาวมีความซับซ้อนส่วนหนึ่ง นางมองโครงกระดูกที่พิงผนังหินพลางพูดขึ้น “คนที่ถูกขังอยู่ที่นี่ไม่ใช่แค่เจ้า แต่ยังมีทหารของจวนแม่ทัพแดนอุดร…เจ้าเขียนยันต์เตือนแผ่นนี้ ก็เพื่อให้ทหารพวกนั้นอยู่ข้างนอกถ้ำ ป้องกันไม่ให้คนนอกเข้ามาที่นี่”
กระดูกสะบักเป็นแผลเหวอะ บนโซ่มีเสียงสายฟ้าดังไม่ขาดสาย อักขระเล็กของยันต์ลอยขึ้นมาเต็มไปหมด
การเคลื่อนไหวของบุรุษผอมแห้งถูกโซ่ของเจ้ากรมใหญ่ม่อโส่วควบคุมไว้ หากคิดขยับ ยันต์จะทำงาน
ในแววตาเขามีการดิ้นรนอย่างเจ็บปวด เงยหน้าขึ้นก่อนพูดเสียงแหบ “เจ้า…เจ้าเป็นใครกัน”
เผยฝานเอามือข้างหนึ่งกดระหว่างคิ้ว
พลังกระบี่ซ่อนไม่ถูกปิดบังอีกต่อไป
ทั้งถ้ำสว่างขึ้น
ภูลำธารหมื่นลี้ ปราณกระบี่ไหลหลากเข้ามาเหมือนธารน้ำใหญ่ ไหลเข้าไปในระหว่างคิ้วบุรุษผอมแห้ง
ความรู้สึกคุ้นเคยนี้ เขาจะลืมได้อย่างไร
บุรุษผอมแห้งลืมความเจ็บปวดที่ถูกโซ่ทะลวงกระดูกไปแล้ว เขายืนเหม่อ น้ำตาไหลนองหน้า
เด็กสาวพูดช้าๆ ทีละคำ “บิดา แม่ทัพใหญ่แดนอุดร เผยหมิน”
……………………………