เงินอุดหนุนหมื่นล้านเป็นของฉันคนเดียว - ตอนที่ 41 ต่อยนักเลงบ้ากาม
บทที่ 41 ต่อยนักเลงบ้ากาม
อาจเป็นเพราะรอยยิ้มที่มั่นใจของเฉินห้าวที่ได้ชักจงเซี่ยจิ้ง จู่ๆเธอก็รู้สึกว่าความคิดที่เหลือเชื่อนี้ก็ไม่เลวเหมือนกัน ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร เธอถึงได้เชื่อใจหนุ่มหล่อที่อยู่ตรงหน้าที่เพิ่งรู้จักนี้
“ได้ ฉันเชื่อนาย ไม่แจ้งความ!”เซี่ยจิ้งก็ได้เก็บมือถือลง
เฉินห้าวกับเซี่ยจิ้งคุยกันแบบไม่สนใจคนรอบข้าง มันทำให้เจิ้งตงผู้ที่ต้องการหาเรื่องตลอดนั้นรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก เหยื่อที่เขาต้องการจะเล่นด้วยกลับไม่รู้สึกวิตกกังวลเลย ทำให้เขาเสียความสุขสนุกไปไม่น้อย
หากเป็นอย่างที่ผ่านมา เขาพาลูกน้องมากั้นขวางคนไว้ คนพวกนั้นไม่ใช่แค่ก้มกราบขอร้องไว้ชีวิตก็ต้องตกใจจนฉี่ราด มาในวันนี้เฉินห้าวไม่ได้ใส่ใจพวกเขาเลยกลับเห็นพวกเขาเป็นแค่อากาศ มีความรู้สึกเหมือนโดนเหยียดหยาม เขาเจิ้งตงเคยถูกมองข้ามที่ไหนกัน?
“ทุกคนลุยเลย จัดการไอ้หมอนี่ซะเพื่อแก้แค้นให้พี่ตง!”ไอ้นักเลงพวกนั้นได้ถือไม้บุกขึ้นไป
“เดี๋ยวก่อน,”เจิ้งตงได้สั่งหยุดลูกน้อง เขาได้จ้องมองไปที่เซี่ยจิ้ง ทันใดนั้นได้แสดงสายตาที่เจ้าเล่ห์ออกมา
“สาวน้อยนี้ไม่เลวนี่ หุ่นก็สุดยอด กูชอบ!”
อยู่ๆนักเลงหัวจกเจิ้งตงนี้ก็ได้มีความคิดหนึ่งออกมา พูดทันทีว่า:“สาวสวย อยู่กับไอ้หน้าเด็กนี้มันมีดีอะไร เดี๋ยวไปกับพี่ พี่จะซื้อกระเป๋าLVให้ใบนึง จากนั้นก็ไปเปิดโรงแรมห้องสูท ไปเล่นกันซะหน่อย”
“ไสหัวไป!ไอ้นักเลงบ้ากาม!”เซี่ยจิ้งไม่ได้ไว้หน้าผู้ชายขี่เหร่เจิ้งตงนี้แม้แต่น้อย
เจิ้งตงโกรธมาก ด่าว่า:“แม่ง ให้หน้าไม่ไว้หน้า เดี๋ยวกูจะข่มขืนเธอแล้วข่มขืนอีก”
ลูกน้องถามอย่างสงสัยว่า:“พี่ตง ปกติข่มขืนก่อนแล้วฆ่าไม่ใช่หรอ?”
เจิ้งตงว่า:“สาวน้อยที่มีหุ่นดีขนาดนี้ จะฆ่าทำไมล่ะ กูจะเอาเป็นของเล่นไปตลอด”
“พี่ตงนี่เป็นคนหัวสูงจริง รู้จักนำมารีไซเคิลใช้ต่อ รักษาสิ่งแวดล้อมเศรษฐกิจ!”การยกย่องอันไร้สมองของลูกน้อง
“หึหึหึ มันแน่นอนอยู่แล้ว กูเนี่ยมีความอ่อนโยนต่อผู้หญิงอยู่แล้ว แม่สาวน้อย ไปกับพี่เถอะ”
เจิ้งตงยิ้มอย่างมีเลศนัยพร้อมก้าวไปข้างหน้า สุดท้ายเซี่ยจิ้งได้เอากระเป๋าเธอตีไปที่หน้าผากของเจิ้งตงอย่างแรง จนแผลที่หน้าผากเขานั้นได้ฉีกออก เลือดสดๆได้ไหลลงมา
“แปะแปะแปะ!”
เฉินห้าวได้ปรบมือดังขึ้น เซี่ยจิ้งช่างเป็นหญิงสาวที่แข็งแกร่งจริง เวลาเกิดเรื่องก็ไม่อ่อนแอเลย
“ยัยบ้า กล้าตีกู พวกนายลุย กระทืบทั้งสองคนเลย!”เจิ้งตงโมโหหนักมาก ได้ตะโกนสียงดังสั่งลูกน้อง
นักเลงสองคนยกไม้ขึ้นฟาด เซี่ยจิ้งที่เผชิญกับไม้ตอนนี้ถึงรู้สึกว่ากลัว จึงไปหลบหลังของเฉินห้าว และในตอนนี้ก็ทำให้เฉินห้าตกอยู่ในสถานการณ์ที่คับขัน
เฉินห้าวก็ไม่ได้ห่วย จู่ๆเขาได้ยื่นมือออกไปทั้งคู่ ไปจับไม้ที่นักเลงฟาดลอยมากลางอากาศ ไม้ที่ไอ้นักเลงฟาดลอยมานั้นได้หยุดนิ่ง ทันใดนั้นนักเลงไ ด้รู้สึกว่าไม้ถูกเชื่อมอยู่ในกลางอากาศ ไม่สามารถขยับได้เลย
วิชาที่แย่งไม่ด้วยมือเปล่านี้ ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาสามารถทำได้ ต้องมีไหวพริบทางสายตา และกำลังแขนที่แข็งแกร่งเป็นหลักประการ ไม่งั้นหากไม่มีแรงพอที่จะรับน้ำหนักจากการโจมตีของไม้ อย่างนั้นก็ต้องถูกฟาดกระดูกหักอย่างเดียวเลย ดีที่เฉินห้าวเคยผ่านการฝึกฝนเสริมสร้างความแข็งแรงให้เส้นเอ็น กำลังแรงมากกว่าคนทั่วไป ถึงได้แสดงท่าแปลกใหม่นี้ออกมา
ดูไอ้นักเลงที่ใช้แรงสุดความสามารถก็ยังแย่งไม้กลับไปไม่ได้ เฉินห้าวกระตุกมุมปากเล็กน้อย ใช้แรงดึงกลับกะทันหัน ไอ้นักเลงสองคนนั้นก็เดินเซไปมามุ่งมาทางนี้
เฉินห้าวได้ปล่อยมือลง แล้วกำมือเปลี่ยนเป็นหมัด ที่ดูแข็งแรงทั้งสองข้าง“ชกไปที่หน้าของไอ้นักเลงสองคน ฟันที่มีอยู่ในปากของนักเลงทั้งนั้นได้หลุดออกจากเหงือกทั้งหมด กลอกตาทั้งสองข้างเป็นสีขาวล้มอยู่บนพื้น
แรงหมัดของเฉินห้าวหนักเกินไป ชกต่อยพวกนั้นจนสลบไปเลย และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ใช้เวลาเพียงไม่ถึง10วิเท่านั้น ณ เวลานั้นคนทุกคนยืนมึนอยู่จุดเดิมอยู่เลย
เฉินห้าวได้เก็บไม้ท่อนหนึ่งจากพื้น และได้มองเห็นเซี่ยจิ้งที่ยังตกใจอยู่นั้น เลยตะโกนว่า “เฮ้ แม่นางสาวสวยเซี่ยจิ้ง ช่วยออกไปเตรียมการข้างนอกดีไหม”
“อ่อ”
เซี่ยจิ้งเพิ่งรู้สึกขึ้นมา รีบวิ่งออกไปนอกวง ไอ้นักเลงสองคนนั้นถูกต่อยจนสลบ จึงทำให้วงที่ล้อมไว้มีช่องว่าง
ในตัวเฉินห้าวนั้นได้เปิดเผยความแข็งแกร่งที่มั่นใจออกมา จู่ๆเธอก็รู้สึกว่า เฉินห้าวสามารถต่อยได้สิบกว่าคน จากนั้นสายตาเธอได้มีฉายแสงสว่างออกมา ปรับมือถือให้เป็นกล้องถ่ายวิดีโอ เพื่อถ่ายสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นหลังจากนี้
ตอนนี้เฉินห้าวก็ไม่มีไรน่าเป็นห่วง หันตัวมาเผชิญกับไอ้พวกนักเลงของเจิ้งตง
“เวร นายแน่มากเลยนะ วันนี้กูจะกำจัดนายให้สิ้นซากเลย”
เจิ้งตงทนไม่ไหวกับสายตาที่กระตุ้นของเฉินห้าว ตะโกนเสียงดังลั่นพาพวกลูกน้องพุ่งออกไป
พวกเขาล้อมรอบในทุกทิศทุกทางให้เข้าด้วยกัน หากเฉินห้าวนั้นไม่มีความสามารถมากพอก็ถูกรุมตีต่อย แต่เฉินห้าวมีความฉลาดแห่งการต่อสู้ จู่ๆก็กระโดดข้ามไปในรถอีกคันที่อยู่ในลานจอดรถ วงล้อมของพวกเขาเลยถูกรถยนต์กั้นไว้ กลายเป็นพื้นที่แตกร้าวขึ้นมา และก็ทำให้นักเลงหลายสิบคนถูกแยกออกจากกัน ทำให้เฉินห้าวมีโอกาสได้ทำลายทุกช่วง
เฉินห้าวได้เข้าไปใกล้นักเลงที่ใกล้เขาที่สุด ได้ลอยไม้โจมตีออกไป นักเลงฝั่งตรงข้ามก็ทักทายกันด้วยไม้ นี่ต้องร่วมมือต่อสู้กันอย่างหนักแล้ว
ด้วยกำลังแขนของเฉินห้าวนั้น นับว่าเป็นผู้ที่ทำลายมาตรวัดความแรงด้วยหมัดเดียว ไอ้นักเลงที่ต่อไม้กับเขานั้นเป็นผู้ที่ไม่ดูสังขารตัวเองเลย
ในที่สุด เสียงครึกโครมได้ผ่านไป ไม้ที่อยู่ในมือไอ้นักเลงสองคนนั้นได้ลอยออกห่างจากมือไปมาก และนักเลงพวกนั้นถูกแรงที่แข็งแกร่งของเฉินห้าวสั่นสะเทือนจนชาไปหมด มือทั้งมือได้ขาดความรู้สึกไป ไม่รู้สึกถึงอาการปวดเลย
ในระหว่างที่เขากำลังมึนอยู่นั้น เฉินห้าวได้ย่องเข้าไปเพิ่มให้อีกสองหมัด ไอ้นักเลงสองคนนี้สลบลงไปอย่างช้าๆ ล้มอยู่กับพื้นจนลุกไม่ขึ้น
ที่ไม่ใช้ไม้ฟาดนั้น ก็เพราะว่าเฉินห้าวรู้น้ำหนักมือตัวเองในตอนนี้ หากใช้ไม้ต้องมีคนตายแน่ ที่เขาไม่ใช้ไม้ เป็นเพราะสงสาร และเห็นใจไอ้พวกนักเลงที่ถูกซ้อมเหมือนกระสอบทรายเหล่านี้
เฉินห้าวได้จัดการไปอีกสองคน ทีนี้ฝั่งของเจิ้งตงเหลือ10คนแล้ว