เคลียร์นะเฮีย! เป็น'เมีย'ผมนะ - ตอนที่ 66
เมฆาได้โทรบอกคนขับรถให้ขับมารับพวกเขาที่ด้านหลังของคลับ ซึ่งเป็นที่ที่ไม่มีใครอยู่
“ เอามันไปอยู่หลังรถ “ กุนสั่งเสียนิ่ง เมื่อเห็นว่าเมฆาเปิดประตูรถมา โดยมีระกาที่โดนล็อกอยู่ทางด้านหลัง
“ ครับ “ เมฆาพยักหน้ารับรู้และหันไปบอกลูกน้องที่จับระกาอยู่
เมื่อโยนระกาไปไว้ทางด้านหลังแล้วทั้งหมดก็เข้ามานั่งประจำที่
“ สวัสดีค่ะนาย “ นิชาเอ่ยทักทายขึ้นเสียงเบา
กุนมองไปที่นิชานิ่งๆ ดวงตาคมมองไปยังใบหน้าและตามตัวของนิชา
“ ไปถึงที่นั่นเราค่อยคุยกัน “ กุนพูดเสียงเรียบแล้วหันไปมองทางด้านหน้าต่อโดยไม่มองนิชาที่นั่งอยู่ข้างๆเลยแม้แต่น้อย
“ นายคะคือ.. “ นิชาทำท่าจะอธิบาย แต่กุนยกมือห้ามเอาไว้ก่อน
“ ไปถึงค่อยคุย “ กุนบอกเสียงเรียบ
นิชานิ่งเงียบไปทันที เพราะรู้ว่าตอนนี้กุนกำลังโมโห
“ ออกรถ “ กุนสั่ง
อีกทางด้านนึง
“ มันจะไม่ไม่ง้อไอกุนจริงๆหรอวะ “ ฟิวหันไปถามนุด้วยสีหน้าที่เครียดไม่น้อย ตอนนี้พวกเขาอยู่กันที่ห้องประชุมในโดมของมหาลัย แต่ปีขาลไม่ได้อยู่ในห้องนี้ด้วยเพราะต้องไปคุยกับอาจายร์เรื่องงานกิจกรรม โดยมีพอสและป้องไปด้วย
“ มันอาจจะยังไม่ว่างรึเปล่า “ นุบอก
“ ไม่ว่างมันก็ควรจะมาง้อมั้ย นี่เมียมันนะเว้ย มันจะไม่แคร์เลยก็ไม่ได้ปะ “ ฟิวบอกด้วยความโมโห
“ กูไม่รู้ “ นุบอก เมื่อเห็นว่าฟิวเริ่มที่จะโมโหใส่เขา
“ มึงนี่แม่งไม่ได้เรื่องเลย ถามอะไรก็บอกไม่รู้ๆ “ ฟิวมองขวางนุ
นุกระพริบตาปริบๆด้วยความไม่เข้าใจ
“ กูทำไรผิดเนี้ย “ นุเกาหัวตัวเองนิดๆ
แอดดด
ประตูที่ถูกเปิดออกทำให้ฟิวและนุหันไปมองทันที
“ พวกมึงตกใจไรกันวะ “ ป้องเลิกคิ้วด้วยความสงสัย
“ เปล่า “ นุปฎิเสธ
ปีขาลเดินเข้ามาข้างในด้วยท่าทีนิ่งๆโดยไม่ได้พูดอะไรกับใครเลยสักคำ ป้องเข้าไปนั่งข้างๆนุแล้วดึงแขนนุมาใกล้ๆ
“ เมื่อกี้นี้ตอนที่ไปคุยกับอาจารย์อ่ะ กูแม่งโคตรกลัวไอขาลเลย “ ป้องลอบมองใบหน้าของปีขาลนิดๆ
“ ทำไมวะ “ ฟิวโผล่หน้าไปตรงหน้าระหว่างนุและป้อง
“ ไอเชี้ยฟิว! ถ้าจะโผล่หน้ามาแบบนี้นะไอเวร “ ป้องร้องออกมาอย่างตกใจ ปีขาลและพอสหันไปมองทั้งสามคนนิดๆ ทำให้ฟิวและป้องหันมายิ้มแหยๆให้กับเพื่อนสนิททั้งสอง
“ เอาหน่าๆ ตกลงมีไรวะ “ ฟิวหันไปมองป้องด้วยความสงสัย
“ มานั่งนี่ อย่ายื่นค้ำหัวกู “ นุดุไม่จริงจังนักพร้อมกับตบไปที่ตักของตัวเองเบาๆ
“ เดี๋ยวกูหาเก้าอี้นั่งข้างมึงก็ได้ “ ฟิวหันซ้ายหันขวาเพื่อหาเก้าอี้ที่ยังว่างอยู่
“ หึ แน่ใจหรอ เก้าอี้ไม่นิ่มเท่าตักกูหรอกนะ “ นุเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม ฟิวเริ่มลังเลเล็กน้อย
“ เฮ้ออออเออๆนั่งก็ได้ “ ฟิวบอกพร้อมกับเดินมานั่งลงที่ตักแกร่งของนุ
มือของนุเองก็โอบลอบเอวบางของฟิวอัตโนมัติ
“ พวกมึงนี่นับวันยิ่งเหมือนผัวเมียเข้าไปทุกวันนะ “ ป้องเอ่ยแซวยิ้มๆ
“ เสือก “ ฟิวลอยหน้าลอยตาตอบป้องกลับไป นุเองก็ยกยิ้มมุมปากนิดๆโดยไม่ได้โต้ตอบอะไรเพื่อนสนิทกลับไป
“ มึงเลิกแซวกูแล้วเล่าให้กูฟังได้ละ กูอยากเสือกเต็มที่ละเนี้ย “ ฟิวบอกอย่างเซ็งๆที่เพื่อนของเขาเอาแต่ลีลาไม่ยอมบอกอะไรสักที
“ อะๆๆกูบอกก็ได้ “ ป้องพูดขึ้น พร้อมกับเอียงหน้าไปดูปีขาลนิดๆว่ากำลังมองมาที่พวกเขารึเปล่า ปรากฎว่าปีขาลเองกำลังนั่งเหม่อไปทางด้านหน้าต่างที่ปิดอยู่ มันเลยทำให้ป้องสะดวกในการเล่ามากขึ้น
“ คือตอนที่แม่งไปคุยกับอาจารย์อ่ะแม่งนิ่งฉิบหาย แล้วเวลาแม่งยื่นข้อเสนออะไรให้อาจารย์ฟังนะ แล้วพออาจารย์แกไม่เห็นด้วยใช่ปะ ถ้าเป็นแต่ก่อนไอขาลมันจะอ้อนหรอืไม่ก็พยายามจะอธิบายเหตุผลให้อาจารย์แกฟัง แต่นี่แม่งตึงใส่อาจารย์เลยมึง แถมแม่งยังจะบวกกับอาจารย์ด้วยนะเว้ยตอนที่อาจารย์แกล้งกวนตีนมันอ่ะ กูนี่ห้ามแม่งแทบไม่ทัน ส่วนไอเชี้ยพอสก็ไม่ช่วยห่าอะไรกูเล้ยยย แม่งนั่งกอดอกมองไอขาลนิ่ง ปล่อยให้กูห้ามแม่งคนเดียวเลยเนี้ย “ ป้องบ่นออกมาอย่างเซ็งๆ ฟิวได้แต่ขมวดคิ้วด้วยความเครียด
“ แม่งเป็นขนาดนี้เลยหรอวะ “
“ ปกติไอขาลมันเป็นคนใจเย็นที่สุดในกลุ่มเราแล้วนะมึง มันถึงได้เป็นตัวแทนของกลุ่มเพื่อไปคุยกับอาจารย์ไง แต่ทำไมวันนี้แม่งใจร้อนจังวะ “ ฟิวถอนหายใจออกมาเพื่อระบายความเครียดที่มีอยู่ข้างใน
“ คงเป็นเพราะเรื่องที่มึงเล่าให้กูฟังก่อนไปละมั้ง “ ป้องบอก เพราะเขาเองก็พึ่งได้ยินเรื่องราวของปีขาลทั้งหมดก็ตอนที่จะไปหาอาจารย์
“ เฮ้อออกูสงสารมันว่ะ “ ฟิวบอกพร้อมกับหันไปมองปีขาลที่นั่งห่างจากเขาไปไม่มากนัก นุที่เห็นว่าร่างบางกำลังเศร้าก็เอื้อมมือไปลูบหัวเล็กเบาๆอย่างปลอบโยน
“ สงสารเพื่อนก่อนมั้ยสัส แล้วค่อยมาหวานกันทีหลัง “ ป้องกรอกตามองบนอย่างเซ็งๆที่เห็นเพื่อนทั้งสองเอาแต่โชว์ความหวานกัน
ฟิวมองขวางป้องนิดๆแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
“ กูว่าคงต้องให้เวลามันแหละ “ นุพูดขึ้น
“ กูก็คิดแบบนั้นแหละ นี่ถ้าอีกสองสามวันไอเด็กนั่นมันยังไม่มาง้อไอขาลนะ กูว่ามันคงตัดใจจากไอเด็กนั่นจริงๆแน่ “ ป้องถอนหายใจออกมานิดๆเมื่อพูดจบ
——————
“ เอามันลงมา “ กุนสั่งลูกน้องเสียงนิ่ง เมื่อมาถึงที่หมายแล้ว
สถานที่ที่กุนพาระกามานั่นก็คือ ที่พักตรงเกาะร้างของแม่เขาที่ซื้อทิ้งเอาไว้เมื่อนานมาแล้ว แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาเพราะชื่อของเกาะนี้ มันคือชื่อของเขา คนที่นี่ก็คือลูกน้องของเขา
“ นายจะให้พวกผมจับมันไว้ในโกดังทางด้านหลังของบ้านเลยมั้ยครับ “ ริวถาม ในขณะที่จับระกาเอาไว้
“ เอามันไปมัดที่โรงถ่านที่เกาะกลางทะเล “ กุนสั่งเสียงเข้มพร้อมกับมองไปที่ระกาด้วยสายตาว่างเปล่า
ลูกน้องหลายคนหันมองหน้ากันทันที เพราะใครๆก็รู้ว่าที่ตรงนั้นมันอันตรายมากแค่ไหน เพราะถ้าเลือกได้คงไม่มีใครอยากจะเข้าไปที่นั่น..