เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย - บทที่ 450 กลับเมืองหลวงเพื่อฉลองปีใหม่
- Home
- เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย
- บทที่ 450 กลับเมืองหลวงเพื่อฉลองปีใหม่
บทที่ 450 กลับเมืองหลวงเพื่อฉลองปีใหม่
“รอพวกเราหลับก่อนสิขอรับ?” เสียงนุ่มนิ่มของอาชิงดังขึ้นข้าง ๆ ทำให้ทั้งสองคนตกใจจนรีบผละออกจากกัน แล้วลอบสบตากันอีกครั้งอย่างเงียบ ๆ พร้อมกับแอบจับมือกันใต้โต๊ะ
ไป๋จิ่นกับเยว่พั่วหลัวที่สู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่ใกล้ ๆ มองดูพวกเขาสองคนแอบจับมือกันเงียบ ๆ ก็ส่งเสียงชิชะออกมา “ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไป เมื่อใดถึงจะได้เห็นเจ้าตัวน้อยกันเล่า”
เผยเสี่ยวเตาซึ่งห้อยตัวลงมาจากคานดีดนิ้วหนึ่งที “ง่ายจะตายไป คืนนี้มาเล่นทายนิ้วกัน แบ่งฝ่ายชายหญิงอุ้มเด็กสองคนนี้ไปฝั่งละคน”
เยว่พั่วหลัวสนใจขึ้นมาทันที “อ๊ะ เช่นนั้นในฐานะที่ข้าเป็นผู้หญิงของราชาร้อยกู่ ข้าต้องทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่”
สายตาของไป๋จิ่นมองนางตั้งแต่หัวจรดเท้า “เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้อย่างนั้นหรือ ที่เจ้าจะอาศัยราชาร้อยกู่มาเพิ่มพลังให้ตัวเอง ชายหญิงไม่ควรแตะเนื้อต้องตัวกัน เพื่อความบริสุทธิ์ของอาชิง ให้อาจารย์อย่างข้าดูแลเอง สำนักพิษของเราวิชาแตกต่างจากสำนักกู่ของเจ้า”
“เลิกทะเลาะกันได้แล้ว!” เว่ยเจ๋อเซิงชูมือขึ้นเล็กน้อย “ข้าคิดว่าการแบ่งกันดูแลเด็ก ๆ ไม่ได้มีปัญหาอะไร และเรื่องที่ชายหญิงไม่ควรแตะเนื้อต้องตัวกัน ข้าคิดว่าก็ไม่มีปัญหาเช่นกัน”
“เชอะ ไม่พูดยังจะดีเสียกว่า”
“โอ๊ย พรุ่งนี้จะกลับเมืองหลวงแล้ว! ข้าต้องไปซื้อของท้องถิ่นก่อน!” เผยเสี่ยวเตาพลิกตัวลงมา อยู่บนเขามาตั้งหลายปี ดังนั้นสิ่งที่นางชอบมากที่สุดในตอนนี้ก็คือการเดินซื้อของ! ซื้อ ๆ ๆ!
“รอข้าด้วย ข้าไปด้วย!” เยว่พั่วหลัวก็ไม่สนใจไป๋จิ่นอีก ไปซื้อของสำคัญกว่า นางยังต้องไปเลือกชุดสำหรับปีใหม่ที่สวย ๆ และดูเรียบร้อยให้กับลูกจระเข้ที่นางคัดเลือกมาอย่างยากลำบากด้วย
ก่อนจากไป ยังได้อุ้มเด็กน้อยทั้งสองขึ้นมาแล้วพาไปด้วยกัน
อาชิงทำสีหน้างุนงง “ข้าไม่ได้อยากไปเดินตลาดนะขอรับ!”
“ฆ่าโจรสลัดได้ ตอนนี้ทั้งถนนต่างพากันลดราคาสินค้าเพื่อเป็นการฉลอง เจ้าไปเลือกเครื่องเขียนให้พี่ใหญ่เจ้าด้วยไม่ดีหรืออย่างไร?”
“ท่านอาจารย์ผมหยิก ที่ท่านพูดมาก็ดูเหมือนจะมีเหตุผลอยู่นะขอรับ”
เมื่อได้ยินเสียงพูดของพวกเขาไกลออกไปแล้ว เผยยวนก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาเล็กน้อย
เมื่อเห็นจี้จือฮวนกินเหนียนเกาทะเลหมดชามแล้ว ก็รีบอุ้มนางขึ้นมาทันที “กลับห้องกันดีกว่า”
“เป็นถึงเนี่ยเจิ้งอ๋องแล้วช่วยสุขุมหน่อยได้หรือไม่?”
“นั่นยังไม่พอ ข้ายังอยากเป็นพ่อแท้ ๆ ด้วย”
จี้จือฮวนถูกเขาอุ้มไปที่เตียง ขณะที่เผยยวนกำลังจะโน้มตัวลงมา นางก็ปิดปากของเขาเอาไว้ เผยยวนถูไถไปมาด้วยท่าทางน่าสงสาร จี้จือฮวนจึงพูดด้วยความไม่พอใจขึ้นมา “หน้าไหนเลือกเอาไว้หรือยัง?”
เผยยวนจึงล้วงเอาสมุดภาพเล่มเล็กออกมาจากหัวเตียง แล้วชี้ให้นางดูสองสามภาพ
จี้จือฮวนใช้นิ้วไล้ไปบนสมุด จากนั้นก็กัดไปที่ลำคอของเขาหนึ่งที “ยังจะรออะไรอีก”
ม่านข้างเตียงร่วงลง มือสองข้างกำแน่น อุณหภูมิภายในห้องค่อย ๆ เพิ่มสูงขึ้น
ในที่สุดฝ่ายตรวจสอบก็ยอมปล่อยข้าแล้ว
…
เมื่อขบวนของพวกเขากลับมาถึงเมืองหลวง บังเอิญเป็นวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่พอดี พอถึงช่วงบ่ายบนถนนก็ไม่มีผู้คนแล้ว ทุกครัวเรือนต่างก็มีควันลอยขึ้นมาจากปล่องเตาเผา ประตูใหญ่เปิดอยู่ ด้านบนมีรวงข้าวสาลีและโคมแดงแขวนเอาไว้ และมีบางคนก็กำลังติดกลอนคู่ที่หน้าประตูด้วย
ตอนที่รถม้าของพวกเผยยวนเข้ามาในเมือง อู๋ซิ่วกำลังผิงไฟในห้องเล็ก ๆ ด้านข้าง เมื่อได้ยินเสียงดังก็ได้ออกมาดู พอเห็นว่าเป็นรถม้าของตระกูลเผยจึงได้รีบกระโดดออกมา ไม่ได้สนใจเลยว่าตัวเองสวมเสื้อกันหนาวอยู่หรือไม่ “ท่านอ๋อง ท่านกลับมาแล้ว!”
เผยยวนเห็นว่าบนตัวเขายังมีกลิ่นมันเผาติดอยู่ก็เอ่ยขึ้นมา “ชีวิตของเจ้าช่างมีความสุขมากจริง ๆ”
อู๋ซิ่วรู้สึกอายขึ้นมา “ท่านอ๋องวางใจ ข้าไม่ได้ปล่อยให้ทหารทนหนาวอยู่ข้างนอกหรอกขอรับ วันนี้ข้าจะเป็นคนเฝ้าเอง อีกเดี๋ยวปิดประตูเมืองแล้วก็จะให้พวกเขาทั้งหมดกลับบ้านเพื่อไปกินเลี้ยงปีใหม่ขอรับ”
“ดี นับว่ายังได้เรื่องได้ราวอยู่” เผยยวนจึงไล่เขากลับไปเผามันต่อ
ภายในรถม้า จี้จือฮวนและลูก ๆ ทั้งสองคนห่มผ้าห่มขนนุ่ม และกำลังเล่านิทานให้พวกเขาฟังอยู่ เมื่อเห็นภาพนั้นแววตาของเขาก็อ่อนโยนลง เผยยวนคิดว่ารอยึดแปดเมืองของหลงซีคืนมาได้แล้ว ครอบครัวของพวกเขาก็จะได้อยู่ด้วยกันเช่นนี้ไปตลอดชีวิต เขาก็จะได้เป็นผู้ชายที่มีความสุขที่สุดในโลกแล้ว
เขาจึงสั่งการคนด้านนอกหนึ่งประโยค บอกให้ทหารเกราะเหล็กเหล่านั้นกลับบ้านไปได้ คนที่บ้านไม่ได้อยู่ที่นี่ก็ให้กลับไปที่ค่าย และฉลองปีใหม่ให้สนุก
จวนเนี่ยเจิ้งอ๋อง
“สิบสามเด็กกำพร้า*!”
* สิบสามเด็กกำพร้า (十三幺) หมายถึง รูปแบบการรวมไพ่นกกระจอกประเภทหนึ่ง
“ไอ้หยา นี่เจ้าทำปนกันไปหมดแล้ว” องค์หญิงใหญ่ตบโต๊ะไปหนึ่งที ก่อนแบมือให้กับถังกั๋วกง “รีบควักเงินออกมาได้แล้ว”
ถังกั๋วกงก็ส่งให้อย่างมีความสุข แต่ก็ยังลุกขึ้นมาแล้วพูดว่า “องค์หญิงใหญ่พ่ะย่ะค่ะ ขืนเล่นต่อไปเอวกระหม่อมจะไม่ไหวแล้วนะพ่ะย่ะค่ะ อีกอย่างพวกลูกหลานยังรอกระหม่อมกลับไปเซ่นไหว้บรรพบุรุษอยู่นะพ่ะย่ะค่ะ”
“ไปเถอะ ๆ”
ทางด้านครอบครัวใหญ่ของจวนกั๋วกงก็รอเขามานานมากแล้ว
เมื่อเห็นถังกั๋วกงกลับไปแล้ว องค์หญิงใหญ่กับไท่ซ่างหวงก็สบตากัน “คิดถึงฮวนฮวนกับเผยจื่อ และคิดถึงพวกเด็ก ๆ ด้วย”
“หากไป๋จิ่นกับนางหนูตระกูลเยว่อยู่ด้วย ในจวนก็คงยังคึกคักอยู่บ้าง”
“ช่างเถอะ พวกเขาส่งจดหมายมาบอกว่าอยู่ระหว่างทางกลับมาแล้ว ขอแค่คนปลอดภัยก็พอ”
แม้จะพูดเช่นนั้น แต่เมื่อพวกเขาเห็นอาฉือยืนรออยู่ใต้ชายคาทางเดินอย่างใจจดใจจ่อ ดวงตาก็เผยความสงสารออกมา
“อาฉือ เข้ามาผิงไฟเถอะ เดี๋ยวจะเป็นหวัดเอา”
เผยจี้ฉือเก็บซ่อนความผิดหวังในดวงตา “ขอรับ”
ทันทีที่เขาหันหลังกลับ ก็มีคนปาหิมะก้อนหนึ่งใส่หลังเขา
แต่ยอดฝีมือที่กำลังเฝ้าตามมุมต่าง ๆ กลับไม่ได้ออกมา!
เมื่อครู่เผยจี้ฉือคิดว่าต้องเป็นมือสังหารที่ไม่กลัวตายเป็นแน่ แต่คิดไม่ถึงว่าจะเห็นก้นเล็ก ๆ ของอาชิงโผล่ออกมาจากใต้ซุ้มตรงนั้น
เผยจี้ฉือเผยรอยยิ้มออกมาทันที “ยังจะแอบอยู่ตรงนั้นอีก! รีบมาเร็วเข้า!”
ใบหน้าเล็กกลมป้อมของอาชิงชะโงกออกมาดู ก่อนจะกางแขนทั้งสองข้างแล้ววิ่งเข้าไปหาอาฉือ “พี่ใหญ่!!”
เผยจี้ฉือก็หาได้สนใจหิมะที่กำลังตกอีก พลางวิ่งตรงเข้าไปอุ้มเจ้าอ้วนน้อยขึ้นมาทันที “ระหว่างทางเจ้ากินไปเยอะเท่าใดกัน หนักจริง ๆ! ข้าแทบจะอุ้มเจ้าไม่ไหวแล้ว”
อาอินเองก็กอดอาฉือเอาไว้ เผยจี้ฉือมองคนนี้ที มองคนนั้นที พื้นที่ว่างในใจในที่สุดก็ถูกเติมเต็ม
เมื่อเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง จี้จือฮวนกับเผยยวนก็กำลังยืนมองเขาพร้อมรอยยิ้มอยู่ไกล ๆ
“ท่านพ่อ! ท่านแม่!”
“พี่ใหญ่ ข้ามีของจะให้ท่านด้วย! ข้าเอาของขวัญมาฝากเยอะแยะเลยเจ้าค่ะ”
อาอินพยักหน้าให้ พลางลากกระสอบป่านใบใหญ่ใบหนึ่งออกมาจากด้านหลัง
องค์หญิงใหญ่และไท่ซ่างหวงก็คิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะกลับมาทันในวันนี้ เกรงว่าคงเร่งเดินทางกันทั้งวันทั้งคืนเป็นแน่
ในจวนที่เงียบเหงานี้ ต้องมีเสียงคึกคักถึงจะดี!
อาชิงน้อยล้วงนู่นล้วงนี่ออกมาจากในกระสอบป่าน ก่อนจะลากจระเข้ที่สวมเสื้อกันหนาวลายดอกไม้ และมีดอกไม้สีแดงขนาดใหญ่บนหัวออกมาด้วย “นี่เป็นของท้องถิ่นที่พวกเรานำกลับมาจากเกาะโจรสลัด! มันมีชื่อว่า ปากา**”
** ปากา (八嘎) เป็นคำที่เลียนเสียงมาจากคำว่า บะกะ ในภาษาญี่ปุ่น แปลว่า โง่ งี่เง่า ซื่อบื้อ
เมี้ยวเมี้ยวที่กำลังเตรียมจะเข้ามาอ้อนจี้จือฮวนก็พองขนขึ้นมาทันที และกำลังจะคำรามออกมา เพื่อบ่งบอกถึงฐานะของตัวเองในครอบครัวนี้
มันก็เห็นอาชิงล้วงปลาหางยาวตัวหนึ่งออกมาจากในกระสอบอีก “นี่เป็นของท้องถิ่นของโจวซานเลยนะขอรับ!
ส่วนนี่คือปลาหมึกน้อยของที่นั่น!
ให้ข้าหาอีกหน่อย”
จี้จือฮวนกับเผยยวนจนปัญญากับเขาแล้วจริง ๆ เยว่พั่วหลัวทันทีที่เข้ามาก็ตรงเข้าไปตัดแต่งพู่โคมไฟทันที
“ก๊าบ ๆ ๆ~” เป็ดองครักษ์แถวหนึ่งกำลังเดินเล่นอยู่ในสวน จากนั้นก็มีเสียงดังที่ประตูจวน ก่อนจะเห็นว่าท่านป้าหยางพาพวกเฉินฉือเอาซาลาเปาที่ทำในหมู่บ้านมาให้
“โอ๊ะ ฮวนฮวน พวกเจ้ากลับมาแล้วหรือ!! พวกเรายังคิดอยู่ว่าวันนี้จะมาเล่นไพ่นกกระจอกเป็นเพื่อนองค์หญิงใหญ่ และพูดคุยกับไท่ซ่างหวงอยู่พอดี! ในหมู่บ้านเงียบเหงาอย่างกับอะไรดี”
จี้จือฮวนเองก็รู้สึกประหลาดใจ “พวกเรายังคิดว่าพรุ่งนี้วันปีใหม่จะกลับหมู่บ้านอยู่เลยเจ้าค่ะ”
“แม่วัวที่บ้านของพวกเจ้าตั้งท้องแล้วนะ ที่หมู่บ้านทุกอย่างเรียบร้อยดี แต่พวกเจ้ากลับมาก็ดีแล้ว”
องค์หญิงใหญ่ดีใจเป็นอย่างมาก “ยังจะมัวยืนตรงนั้นกันอยู่ทำไม รีบเข้ามาเถอะ คืนนี้จะได้กินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากัน”
.
.