เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย - ตอนที่ 3 แม่เลี้ยงกลายเป็นคนดีแล้วจริง ๆ หรือ?
- Home
- เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย
- ตอนที่ 3 แม่เลี้ยงกลายเป็นคนดีแล้วจริง ๆ หรือ?
ตอนที่ 3 แม่เลี้ยงกลายเป็นคนดีแล้วจริง ๆ หรือ?
“ท่านจะพูดมีลับลมคมนัยเช่นนั้นไปทำไมกัน ทั้ง ๆ ที่ก็ไม่รู้ว่าที่พูดมาเป็นเรื่องจริงหรือไม่!” อาอินถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ขณะเดียวกันก็เริ่มต่อว่าแม่เลี้ยงที่ทั้งร่างโชกไปด้วยเลือด
หลังจากต่อว่าเสร็จ อาอินก็เห็นว่าจี้จือฮวนกำลังหาของไปทั่วบ้าน สุดท้ายก็เจอไหดินเผาสกปรกใบหนึ่งอยู่ตรงมุมห้อง จากนั้นก็ไปหยิบกิ่งไม้ด้านนอกมา แล้วโยนปลิงที่ยังขยับอยู่เข้าไปทีละตัว
“ท่านจะทำอะไร หนอนพิษที่ดูดเลือดคนเช่นนี้ ท่านจะเก็บไว้ในไหดินเผาทำไมกัน?” อาอินร้องถามด้วยความประหลาดใจ
จี้จือฮวนอธิบายให้นางฟังอย่างใจเย็น “พิษในร่างกายของพ่อเจ้า พวกมันก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย วันหน้าหากจะถอนพิษไม่แน่อาจมีประโยชน์ก็ได้ ปลิงพวกนี้ต้องใช้เวลานานในการเลี้ยงดู ฆ่ามันตายตอนนี้ก็น่าเสียดายแย่ เลี้ยงมันเอาไว้ก่อนจะดีกว่า”
จี้จือฮวนเก็บปลิงบนพื้นจนหมดก็ปิดไหดินเผาเอาไว้ชั่วคราว แล้วหันมาปูเตียงต่อ
หลังจากปูที่นอนที่ทั้งนุ่มและสะอาดเรียบร้อยแล้ว ผ้านวมลายนกยวนยางเล่นน้ำสีแดงสดก็ถูกสะบัดออก
ในขณะเดียวกันอาชิงก็ตะโกนขึ้นมาว่า “น้ำร้อนได้แล้ว”
ร่างกายเล็ก ๆ ของเขาสามารถอุ้มเข้ามาได้เพียงแค่อ่างล้างหน้าใบหนึ่งเท่านั้น ไอน้ำร้อน ๆ ลอยขึ้นมา ในขณะที่อาชิงอุ้มอ่างน้ำเข้ามาก็เปลืองแรงไปไม่น้อย
จี้จือฮวนรีบรับมาวางไว้ด้านข้าง ก่อนจะไล่เด็กทั้งสองคนออกไป “ข้าจะเช็ดตัวให้พ่อพวกเจ้า พวกเจ้าไปต้มน้ำร้อนมาอีก แล้ววางเอาไว้หน้าประตูก็พอ”
อาอินยังคงตกใจกับเรื่องเมื่อครู่อยู่ ในใจก็คอยแต่จะนึกถึงปลิงพวกนั้น เด็กน้อยดึงผ้านวมและยกไหดินเผาออกไป นางตั้งใจหยิบไหปลิงนั้นออกไปด้วยตัวเอง ก่อนไปยังได้พูดจาข่มขู่อีกหนึ่งประโยค “ท่านอย่าทำอะไรท่านพ่อข้าเชียว ไม่อย่างนั้นข้าไม่ปล่อยท่านไปแน่”
จี้จือฮวนขี้เกียจจะสนใจนาง เพราะปัญหาใหญ่ที่สุดในตอนนี้คือชายที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้!
สกปรกมากจริง ๆ ภายในห้องก็มีสภาพย่ำแย่ แม้แต่ถังอาบน้ำก็ยังไม่มี จี้จือฮวนถอดเสื้อผ้าของเผยยวนออกจนหมด จากนั้นจึงหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนยาวมาเช็ดตัวให้เขาคงไม่ต้องพูดถึงเรื่องรูปร่างของเผยยวน เพราะเขาเข้าร่วมกองทัพตั้งแต่เด็ก กล้ามเนื้อทุกส่วนบนร่างกายของเขาจึงสมบูรณ์แบบ แต่น่าเสียดายที่เขานอนนานเกินไปและไม่ได้รับสารอาหารที่ดี กล้ามเนื้อเหล่านั้นจึงหายไปบางส่วน ทำให้ตอนนี้ดูเหมือนจะผอมเกินไปสักหน่อย
ปัญหาใหญ่ในตอนนี้คือจะเช็ดตัวเขาอย่างไรไม่ให้โดนบาดแผลที่เน่าเปื่อยเหล่านั้น
กว่าจะทำความสะอาดหน้าอก คอ และส่วนอื่น ๆ เสร็จ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เมื่อเห็นรอยมีดที่กรีดลึกจนเห็นกระดูกบนข้อมือของเขา ในใจของจี้จือฮวนก็รู้สึกโมโหและเศร้าใจอย่างประหลาด
ตอนที่นางอ่านนิยายเรื่องนี้ สิ่งที่นางรู้สึกเสียใจมากที่สุดก็คือชายหนุ่มตรงหน้าผู้นี้ดินแดนส่วนใหญ่ในราชวงศ์ต้าจิ้นล้วนเป็นเขาที่บุกยึดมาได้ จนกระทั่งนางเอกของเรื่องได้ขึ้นเป็นฮองเฮา เหล่าราษฏรตามชายแดนก็ยังไม่รู้ว่าฮ่องเต้มีพระนามว่าอะไร แต่พวกเขากลับรู้จักเทพแห่งสงครามเผยยวนเป็นอย่างดี
แต่น่าเสียดาย …ด้วยเหตุนี้เองเขาจึงเสียชีวิตตั้งแต่ยังหนุ่ม เพื่อหลีกทางให้ตัวเอกในเรื่อง
จี้จือฮวนคิดถึงเนื้อเรื่องเกี่ยวกับเผยยวนไปพลาง ขณะเปิดกล่องยาเพื่อหายามาใส่แผลให้เขา หลังจากตัดเนื้อที่เน่าออกแล้ว นางก็ใส่ไอโอดีนเพื่อฆ่าเชื้อที่บาดแผล จากนั้นก็ใช้เทปกาวพันผ้ากอซเอาไว้ก่อนจะเก็บของ
หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว จี้จือฮวนก็มองไปที่ชั้นสองของกล่องยา จากนั้นนางก็ตกอยู่ในภวังค์ …เพราะสิ่งเหล่านี้คุ้นตาเป็นอย่างมาก!
เห็นได้ชัดว่านี่คือกล่องยาในห้องทดลองที่อยู่ในบ้านของนาง ยาที่อยู่ในนั้นยังเป็นยาชนิดใหม่ของกองทัพอีกด้วย นั่นก็คือ — ยาถอนพิษ
แม้ว่าชื่อจะดูเรียบง่ายและน่ากลัวไปบ้าง แต่มันสามารถกำจัดสารพัดพิษและสร้างแอนติบอดีในร่างกายได้ ดังนั้นนี่จึงเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มาก
จี้จือฮวนเองก็ไม่รู้ว่ามันจะใช้ได้ผลกับเผยยวนหรือไม่ แต่ในเมื่อหมดหนทางและไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ก็ต้องลองดูกันสักตั้ง
ไม่ง่ายเลยที่จะง้างปากของเผยยวนให้อ้าออก จี้จือฮวนบีบกรามของเขาเอาไว้ บังคับให้เขาเปิดปากออก ก่อนจะยัดยาเข้าไป
นางรอจนเห็นว่าเผยยวนกลืนยาลงไปแล้ว จึงเอ่ยขึ้นช้า ๆ “สิ่งที่ข้าทำได้ก็มีเพียงเท่านี้ ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว”
จี้จือฮวนเอ่ยจบก็เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าเก่าซอมซ่อด้านข้าง แล้วหยิบเสื้อเก่า ๆ ตัวหนึ่งมาเปลี่ยนให้เขา
หลังจากห่มผ้าให้เขาเสร็จเรียบร้อยแล้ว จี้จือฮวนก็เกาหัวแกรก ๆ
นางกำลังคิดว่าจะจัดการกับกล่องยานี้อย่างไรดี แต่จู่ ๆ กล่องยาก็หายวับไปต่อหน้าต่อตา
เอ๊ะ! หรือว่านี่จะเป็นช่องว่างมิติในตำนาน?
ในใจของจี้จือฮวนรู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก นี่มันพรที่สวรรค์ประทานให้ชัด ๆ เปรียบเสมือนแสงสว่างท่ามกลางความยากลำบาก!
เด็กน้อยทั้งสองกำลังรออยู่ที่ประตูอย่างกระวนกระวายใจ ขณะที่กำลังคิดว่าจะแอบดูนั้น จี้จือฮวนก็เปิดประตูห้องออกมา ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงผ่อนคลายว่า “เข้ามาได้แล้ว”
เด็กทั้งสองไม่ได้สนใจจี้จือฮวนเลยสักนิด พลันถลาเข้าไปที่เตียงของเผยยวนทันที ทั้งสองมองใบหน้าหล่อเหลาที่สะอาดสะอ้านตรงหน้าแล้วก็รู้สึกดีใจ จนน้ำตาเกือบจะไหลออกมา
สภาพท่านพ่อที่สะอาดสะอ้านเช่นนี้ พวกเขาไม่ได้เห็นมานานมากแล้ว
“พี่หญิง แม่เลี้ยงกลายเป็นคนดีแล้วจริง ๆ หรือ?” อาชิงเข้าไปกระซิบที่ข้างหูของอาอิน
อาอินส่ายหน้า “ข้าก็ไม่รู้ รอท่านพี่กลับมาก่อนแล้วค่อยว่ากันเถอะ หากนางช่วยดูแลท่านพ่อจริง ต่อไป ข้า….ข้าจะไม่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับนางอีกก็ได้”
จี้จือฮวนอ่อนล้ามากจริง ๆ นางนั่งลงที่ประตูพร้อมกับเสียงท้องร้องจ๊อก ๆ ที่ดังขึ้นมา เห็นได้ชัดว่านางหิวมากทีเดียว
จะไปหาของกินที่ไหนดี?
จู่ ๆ ความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมก็โผล่ขึ้นมา แถวนี้มีแม่น้ำอยู่ใกล้ ๆ นี่นา ช่วงที่ยุ่ง ๆ อยู่กับการดูแลเผยยวน ท้องฟ้าก็กลับมาปลอดโปร่งพอดี
นางสามารถไปจับปลามากินได้!
นางหันไปมองเด็กน้อยสองคนที่กำลังกระซิบกระซาบกันอยู่ แล้วหมุนกายเข้าไปในห้องครัว นางจัดการหยิบเคียวสับฟืนออกมา ก่อนจะเดินไปทางแม่น้ำ
อาอินมองนางด้วยความหวาดระแวง “ท่านจะไปที่ใด คิดจะเอาเงินหนีไปใช่หรือไม่?”
จี้จือฮวนเป็นคนไม่ชอบอธิบายอะไรมากมายนัก เพราะเคยชินกับการอยู่คนเดียวมาก่อน แต่ความหวาดระแวงของเด็กน้อยคนนี้มีมากกว่าคนวัยเดียวกันอย่างเห็นได้ชัด
“ท้องข้าหิวแล้ว จะไปจับปลามากิน”
อาอินเอ่ยด้วยความโมโห “ในบ้านไม่มีข้าวสารแล้ว ถ้าท่านหิวก็ดื่มน้ำร้อนไปก็แล้วกัน จับปลาอะไรกัน ท่านจับเป็นด้วยหรือ?”
เหอะ! เจ้าก็แค่จะเอาเงินไปให้ผู้อื่นก็เท่านั้น
จี้จือฮวนขี้เกียจจะสนใจนาง จึงเดินไปออกไปทันที เด็กทั้งสองคนมองหน้ากัน และแอบตามนางไปอย่างเงียบ ๆ
“ทำไม กลัวว่าข้าจะหนีหรืออย่างไร?” จี้จือฮวนเลิกคิ้วพลางเอ่ยถาม
อาอินคิดเช่นนั้นจริง ๆ แต่เมื่อถูกนางจับได้ก็ทำทีเสมองไปทางอื่นอย่างประดักประเดิด จี้จือฮวนเองก็ไม่คิดที่จะทำให้สาวน้อยอับอาย “อยากตามก็ตามมา ระวังทางเป็นดินโคลนจะลื่นด้วยล่ะ ปิดประตูให้เรียบร้อยด้วย”
เอ่ยจบ นางก็ถือเคียวสับฟืนเดินนำหน้าไป หลังจากอาชิงปิดประตูเรียบร้อยแล้ว ก็เดินตามหลังนางไปต้อย ๆ พร้อมกับอาอิน
เมื่อจี้จือฮวนมาถึงริมแม่น้ำก็ใช้เคียวตัดกิ่งไม้ที่ริมฝั่ง เลือกกิ่งที่ตัวเองพอใจที่สุด จากนั้นก็เริ่มเหลากิ่งไม้ให้แหลม
อาอินมองดูอยู่ข้าง ๆ มาตลอด ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความสงสัย “ท่านคงไม่ได้จะทำเบ็ดตกปลาใช่หรือไม่?”
“ทำเช่นนั้นช้าเกินไป เมื่อไหร่ข้าจะได้กินกันเล่า” นางเอ่ยจบก็ส่งเคียวให้อาอิน “ถือไว้”
อาอินไม่อยากเป็นลูกน้องนาง ใครจะรู้ว่านางมีแผนการชั่วร้ายอะไรอยู่หรือไม่
จี้จือฮวนเห็นนางไม่ยอมรับไปก็ไม่ได้สนใจ ก่อนนำไปวางไว้ข้าง ๆ เสียเอง จากนั้นก็พับขากางเกงขึ้นมาจนถึงหัวเข่า แล้วก้มมองลงไปในแม่น้ำ
เพียงไม่นานนัก จี้จือฮวนก็ลงมืออย่างไม่ลังเล นางสามารถแทงปลาตัวหนึ่งในน้ำได้ จากนั้นก็จับมันโยนขึ้นไปบนฝั่ง “ถักเชือกฟางและร้อยมันซะ อีกเดี๋ยวจะได้หิ้วกลับบ้าน!”
อาชิงจ้องมองไปที่ปลาบนพื้นเขม็ง ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ “พี่หญิง นางจับปลาเป็นด้วย วันนี้พวกเราจะมีปลากินแล้ว!”
อาอินเองก็ประหลาดใจมากเช่นกัน แต่นางกลับโมโหมากกว่า สตรีผู้นี้ในเมื่อจับปลาเป็น เหตุใดตอนแรกถึงไม่สนใจนางกับอาชิงเลย อีกทั้งยังบอกพวกเขาว่าถ้าหิวก็ไปแทะเปลือกไม้กินเอา จากนั้นก็ขโมยเงินหนีไป แล้วตอนนี้จะมาทำตัวเป็นคนดีเพื่ออะไร!
ขณะที่อาอินกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น สายตาก็เหลือบไปเห็นอันธพาลหมู่บ้าน หลี่ต้าจ้วงกับพวกกำลังเดินมาทางนี้ จู่ ๆ นางก็มีแผนการผุดขึ้นมาในใจ ก่อนจะเดินไปทางด้านนั้น…